จากริมฝีปากสีชมพูระเรื่อพลางหันมามองหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหล
ดวงตาคู่อ่อนโยนชวนฝันของนัฐธวีร์สะกดให้
นรีกุลนอนนิ่งอยู่กับที่หญิงสาวสบสายตาอันลุ่มลึกของ
นัฐธวีร์ราวกับหล่อนต้องอยู่ในมนต์สะกดของชายหนุ่มก็ไม่ปาน
“วีร์คะ” เสียงหวานของนรีกุลเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา เรียวปากบางของหญิงสาวไร้ซึ่งการแต่งแต้มสีแดงสดขยับขึ้น
“ครับ”นัฐธวีร์เอ่ยรับคำของหญิงสาวด้วยเสียงทุ้มสุภาพ
อ่อนโยน
“ผมรักนุ่นนะ” นัฐธวีร์กล่าวกับหญิงสาวอย่างหวงแหน
พลางใช้นิ้วสากของตนเองไล้ใบหน้าอันไร้การเติมแต่งประทินโฉม
แต่อย่างใดของนรีกุล
“นุ่นก็รักคุณค่ะ” นรีกุลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงและแววตาอ่อน
ละมุน พลางผุดลุกขึ้นนั่งแล้วใช้มือเรียวของหล่อนสวยเสยผมขึ้น
อย่างลวก ๆ
นัฐธวีร์อดรู้สึกไม่ได้ว่า เวลานี้นรีกุลเป็นหญิงสาวที่สวยกว่า
สตรีคนไหนในโลกใบนี้ที่เขาเคยเห็นมาหลายต่อหลายคน
“วีร์คะ” นรีกุลเอ่ยเรียกชายหนุ่มเพื่อดึงชายคนรักขึ้นจาก
ภวังค์ด้วยเสียงหวานอันสดใสของเธอ
ยังไม่ทันที่นัฐธวีร์จะตอบ นรีกุลกระโดดผลุงลงจากเตียง พลางเดินไปดูเครื่องซักผ้าที่เพิ่งส่งสัญญาณเตือนเธอเป็นครั้งที่สอง
แม้ว่านัฐธวีร์เป็นรักครั้งที่สองของหญิงสาว
หากแต่นรีกุลก็รักเขามากเหลือเกินเธอรักเขามากและวาดฝันไว้ว่า
วันหนึ่งเขาและเธอคงจะได้อยู่ร่วมเรียงเคียงหมอนกันไปจนแก่เฒ่า
ในความรักครั้งแรกของหญิงสาวตาสวยนั้น นรีกุลเลือกคบ
กับหนุ่มลูกเสี้ยวอิตาลีแต่แล้วก็ไปกันไม่รอด นั่นก็เพราะ
นิสัยการใช้เงินมือเติบของแฟนหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกเช่นเขา
ทำให้ความรักของทั้งคู่ต้องอับปางลงอย่างหมดหนทาง
ทว่าครั้งนี้นรีกุลกลับตกหลุมรักนัฐธวีร์ตั้งแต่แรกเห็นอย่าง
จัง หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่านัฐธวีร์มีออร่าเปล่งประกาย
กว่าชายหนุ่มคนอื่นในที่ทำงานเดียวกันเสียอีก
นัฐธวีร์เป็นอาร์ตไดเร็คเตอร์ที่มีความสามารถพิเศษ
ในการครีเอทงานอาร์ตเวิร์คเจ๋งๆ สวยๆได้อย่างไม่มีที่ติและนรีกุล หญิงสาวก็ได้ เข้ามาเป็นนักออกแบบประจำบริษัท
ส่งออกเกมชื่อดังในแถบอาเซียน
เพียงครั้งแรกที่หญิงสาวพบเขาเข้านรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าเธอค้นพบชายหนุ่มที่หล่อนได้ค้นหามาตลอดทั้งชีวิต นักออกแบบสาวจึงวาดฝันมาตลอดที่จะได้แต่งงานกับชายหนุ่มตรงหน้าเธอคนนี้
เสียงสัญญาณของเครื่องจักรดังขึ้นอีกครั้งราวกับว่าจะบ่ง
บอกหญิงสาวให้ละทิ้งชายหนุ่มตรงหน้าแล้วหันมาสนใจเครื่องจักรกลอย่างมัน
นรีกุลผละออกจากนัฐธวีร์พลางเดินไปทางเครื่องจักรกลที่เพิ่งทำงานเสร็จหมาด ๆ และมันได้ส่งสัญญาณเตือนแยกเธออกจากนัฐธวีร์
นัฐธวีร์กระโดดลงจากเตียงนอนขนาดใหญ่ตามหญิงคนรักไปติด ๆ
ร่างสูงสมส่วนก้าวขาเข้าไปยืนขวางทางนรีกุลจนเกือบทำให้หญิงสาวต้องเซไปอีกทาง
นัฐธวีร์ย่อกายลงในท่าคุกเข่าขากำยำของเขา ชายหนุ่มชันขาขึ้นข้างหนึ่ง ขณะที่มือข้างขวาของนัฐธวีร์ล้วงหยิบแหวน
เงินเกลี้ยงเกลาออกมาจากกระเป๋ากางเกงของเขา
นรีกุลอดรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจของเธอแทบระเบิดออกมา นอกอกไม่ได้ ทันทีที่หญิงสาวที่ได้เห็นท่าทีของชายหนุ่มคุกเข่า
ในท่าที่เธอฝันใฝ่มานานแสนนาน
“แต่งงานกันนะ” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าแดงก่ำจนลามไปถึงติ่งหูของเขา
ดวงตาคู่เรียวรีสีสนิมของนัฐธวีร์มองสบสายตากับ
ดวงตากลมแป๋วราวกับเมล็ดอัลมอนด์ของนรีกุล
ยังไม่ทันที่นรีกุลจะได้กล่าวอะไรต่อนั้นมือหนาของ
ชายหนุ่มพลันเอื้อมมาจับมือเรียวขาวละเอียดของหญิงสาวไว้ อย่างอ่อนโยน
นรีกุลสะดุ้งเล็กน้อย หัวใจของหล่อนยามนี้เต้นแรงมากราวกับเธอได้ฟังเพลงแดนซ์สายย่อในเวลานี้
ดวงตาของนัฐธวีร์เปล่งประกายวาววับยามเมื่อเวลานี้เขาได้
เอ่ยปากขอหญิงสาวที่ตนเองคบมาหกปีแต่งงาน โดยที่สาวเจ้าไม่ทันได้รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อนว่านัฐธวีร์จะแอบซื้อแหวนแต่งงานให้เธออย่างลับ ๆ
“วีร์อย่าล้อนุ่นเล่นซิคะ”นรีกุลเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกลั้นขำ ในสีหน้าของชายหนุ่มพลางหันหน้ามามองเขาด้วยใบหน้าขึ้นสี
จัดราวลูกมะเขือเทศ
ดวงตะวันยอแสงอาบท้องเวหาให้กลายเป็นสีแดงฉานเจือ
สีส้มระเรื่อแสงจากหน้าต่างเล็ดลอดเข้ามาสะท้อนกับเรือนไหมของหญิงสาวที่เวลานี้กำลังหน้าแดงระเรื่อจัดราวลูกตำลึงสุกก่ำ ๆ
“ตกลงค่ะ” เสียงหวานใสของนรีกุลเอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกัก
ความตื้นตันใจฉายชัดผ่านดวงตากลมโตสดใสของสาวเจ้า
นัฐธวีร์อดรู้สึกดีใจขึ้นมาไม่ได้ว่านรีกุล หญิงสาวคนรักของเขาดีใจแม้หล่อนเห็นเพียงแหวนเงินเกลี้ยงเกลาธรรมดาสามัญที่เขาตั้งใจเพียรเก็บหอมรอบริบมาทั้งเดือน
นัฐธวีร์คาดไว้ว่านรีกุลคงจะไม่เหมือนจารีย์ผู้หญิงที่เขาคบ
คนก่อนหน้าที่ปรารถนาแต่ทรัพย์สมบัติของเขาและแหวนเพชร ราคาแพงเหยียบล้าน
หากนัฐธวีร์คาดคะเนไม่ผิดจากความเป็นจริงมากนัก นรีกุลจะต้องเป็นผู้หญิงที่มีแต่รักแท้ให้เขาเป็นแน่ ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่ในใจ
หยาดน้ำใสไหลคลอหน่วยตาของเธอด้วยความปรีดา นรีกุลที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันนี้มาแสนนานอดรู้สึกปลาบปลื้มใจชื้นขึ้นมาไม่ได้
สองหนุ่มสาวโผเข้าหากอดกันด้วยความรัก
มือข้างซ้ายของนัฐธวีร์ช้อนเรือนร่างอรชรของคนตัวเล็กขึ้นมา
แล้วจับเอวของเธอหมุนไปรอบ ๆ ห้องนอนโอ่งโถงอย่างมีความสุข
นรีกุลสัมผัสได้ถึงความรักอันเต็มเปี่ยมของนัฐธวีร์ ความสุขของทั้งสองคนได้ขยับขึ้นแล้วในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าในเวลานี้เธอคงจะเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขที่สุดในโลก เพราะเธอจะมีนัฐธวีร์เคียงข้างไปในทุกช่วงเวลาตลอดไป
ดวงหน้าหวานของนรีกุลฉีกยิ้มกว้างจนเห็นฟันได้รูปสวย
เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบนั้นบอกชายหนุ่มได้ชัดเจนว่าหญิงคนรักกำลังมีความสุขล้นเพียงใด
นัฐธวีร์จึงหยุดหมุนเรือนร่างของคนตัวเล็กทันที ดวงหน้าคมคายของชายหนุ่มเคลื่อนเข้าใกล้ใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาว
ชายหนุ่มจรดจมูกโด่งรั้นของเขาชิดจมูกของนรีกุล นัฐธวีร์สัมผัสได้ถึงผิวนวลละเอียดของหญิงสาวที่เปล่งปลั่งของหญิงสาวตรงหน้าเขา
ดวงหน้าคมคายโน้มเข้าใกล้ใบหน้าหวานแฉล้มมากกว่า
เดิม ลมหายใจของนัฐธวีร์รินรดใกล้บริเวณเรียวปาก
ของสาวเจ้าที่หลับตาพริ้มอย่างสุขใจ
ลมหายใจของชายหนุ่มและหญิงคนรักรินรดกันจนแทบจะผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน
ราวกับโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะวินาที นัฐธวีร์สบสายตา
ของนรีกุลอย่างไม่ได้ตั้งใจและเช่นเดียวกันหญิงสาวเองก็ไม่ทันได้ตั้งตัว
หัวใจของหญิงสาวเต้นรัวเร็วจนแทบจะระเบิดออกมานอก
อก นรีกุลหน้าร้อนผะผ่าวราวกับถูกแสงอาทิตย์แรงจัดแผดเผา
ใบหน้าสวยให้ขึ้นสีชมพูระเรื่อก็ไม่ปาน
“กริ๊ง” เสียงโทรศัพท์ของชายหนุ่มดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทว่านัฐธวีร์ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดความรู้สึกและความปรารถนา
ส่วนลึกของตนเองลงได้เลย
“รับโทรศัพท์ก่อนก็ได้ค่ะวีร์”นรีกุลเอ่ยขณะเปิดเปลือกตา
มองขึ้น พลางบอกชายหนุ่ม คนรัก
ดวงตาคู่สีดำสนิทของชายหนุ่มสบสายตากับนัยน์ตาชวนฝันของนรีกุลอย่างลังเล…หญิงสาวมองเห็นนัยน์ตาคู่นั้นของนัฐธวีร์เด่นชัดถึงความวิตกกังวลใจของเขา
“ครับ” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นกับหญิงสาวอย่างยอมจำนนในชะตาชีวิตของตนเอง
มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนขึ้นมา
มาสไลด์เปิดออกอย่างเชื่องช้า
ดวงตาคู่คมของนัฐธวีร์จดจ้องทอดสายตามายังเบอร์
โทรปลายสายเมื่อเห็นเบอร์คุ้นเคยที่เขาไม่เคยอยากจะสนทนาด้วยโทรเข้ามายังเบอร์ของชายหนุ่ม
เสียงโทรศัพท์ยังคงร้องขึ้นอย่างต่อเนื่องจนนรีกุลนิ่วหน้า
มองเขาอย่างจับสังเกตในอากัปกิริยาของชายคนรัก
ดวงตาคู่กลมโตของเขาลอบมองอาการของหญิงคนรัก นัฐธวีร์รับรู้ได้ทันทีว่าเวลานี้นรีกุลกำลังมองมาทางเขาอย่างไม่สบายใจ
นัฐธวีร์ตัดสินใจรับโทรศัพท์ในที่สุดเวลานี้ปลายสาย
ของชายหนุ่มคือบิดาแท้ ๆ ของเขาที่ไม่ได้พบเจอกันมานานเป็นแรมปี
“รับโทรศัพท์ได้แล้วเหรอไอ้ตูดหมา”เสียงปลายสายกระแทกประโยคแรกเข้าสู่โสตประสาทหูสองข้างของนัฐธวีร์เต็มเปา
“สวัสดีครับ” นัฐธวีร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวไม่น้อย ดวงหน้าคมคายของเขาเบือนหน้าออกไปอย่างไม่ต้องการให้หญิงคนรักรับรู้
นัฐธวีร์สืบเท้าขวาก้าวเดินออกไปจากห้องนอนทิ้งให้นรีกุลตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับตัวเขา
“หายหัวไปไหนมาเป็นปี ๆ แกอย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้
ว่าแกแอบไปนอนกกผู้หญิงเจ๊กมา”ปลายสายของนัฐธวีร์เอ่ยขึ้นพลางต่อว่าเขาอย่างเกรี้ยวกราด
“พ่อ…นุ่นเขาเป็นคนจีนอย่าไปเรียกเขาว่าเจ๊กแล้วเขารวย
กว่าเราอีกพ่อ”นัฐธวีร์เดือดดาลโต้เถียงกลับไปยัง
ปลายสายด้วยแรงโทสะอารมณ์ที่คุกรุ่นราวกับใครเข้ามาแหย่รังแตน
“นี่แกคิดว่าฉันจะยอมรับสะใภ้เจ๊กอย่างนั้นเหรอ…ไอ้ลูกเวร” กรพจน์ บิดาของนัฐธวีร์ตอบโต้ชายหนุ่มอย่างไม่ลดละ
คำว่าเจ็กยังคงอยู่ติดอยู่ในปลายสายของบิดานัฐธวีร์ มือหนาของเขาต้องกดลดระดับเสียงของสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่นรีกุลเพิ่งถอยมาให้เขามาหมาด ๆ
นัฐธวีร์หวังแต่เพียงว่านรีกุลคงจะไม่อยากได้ยินคำว่าเจ็กคำ ๆ นี้จากปากของผู้เป็นบุพการีที่มีพระคุณของเขาเป็นแน่
+++