นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า
ดินแดนอันอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ โดยเฉพาะต้นกระบองเพชรฮิปปาเรีย เมืองแห่งนี้ส่งออกพรรณไม้ไปต่างแคว้นเป็นจำนวนสูงถึงร้อยละห้าสิบ
ต้นกระบองเพชรของฮิปปาเรียแตกต่างจากต้นไม้เพาะแถบทะเลทรายราเดีย เพราะสีสันของพันธุ์ฮิปปาเรียจะเป็นสีม่วงเข้มเจือม่วงอ่อนให้ความรู้สึกผ่อนคลายยามเมื่อได้สูดดมกลิ่น
แผ่นดินฮิปปาเรียตั้งอยู่ทางทิศเหนือของราเดีย อาณาจักรที่มั่งคั่งด้วยทรัพย์สินและเงินตรา ผืนดินอันเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรม
‘ฮิปปาเรีย’ ทอดยาวไปจรดคาบสมุทรแอนติโกรสธ์ ทะเลอุโมงค์ที่สามารถลอดผ่านได้ด้วยเรือพายลำเล็กเท่านั้น ถัดไปยังมีรัฐเชโกลิล่าที่ปกครองโดยขุนนางทิศตะวันออก
ฮีฟชาลเป็นผู้ปกครองเมืองนี้ ข้างพระพาหาของกษัตริย์รูปงาม ทรงมีชาโกวิล่าสราเนียจากรัฐเชโกลิล่าครองคู่เป็นสราเนียข้างพระองค์ พระนางได้ให้กำเนิดเจ้าชายเอเมนราสกับเจ้าหญิงเฮเนนเจีย
พระราชวังฟรานซิราฟ
พระราชวังมโหฬารโอ่อ่าประดับประดาไปด้วยเพชรนิลจินดา แวววับจับตา แร่รัตนชาติจัดเรียงตัวได้รูปสวยอย่างเป็นระเบียบ หากเมื่อได้สะท้อนกับแสงสุริยาดูวาววับ น่าสัมผัสยิ่งนัก ใน พระราชวังฟรานซิราฟมีเขตพระราชฐานไม่ต่ำกว่า สิบเขตด้วยกัน
ใครต่อใครต่างเล่าลือกันว่า ‘ฟรานซิราฟ’ แห่งนี้เป็นอาณาบริเวณที่เข้า-ออกยาก และหามีผู้ใดอยากเข้าไปไม่
เขตพระราชฐาน สราเนีย [1]
ชาโกวิล่าสราเนีย ราชินีผู้ยิ่งใหญ่ประทับนิ่งบนพระเก้าอี้ลายไม้ขลิบทองคำแท้อร่ามตา ตัวพระเก้าอี้ทำจากไม้เนื้อดีต้นโอกิล [2] ไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้ในเขตพระราชฐานเท่านั้น ‘โอกิล’ มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศราเดีย ดินแดนที่ชาวฮิปปาเรียนต่างถวิลหา
สราเนียทอดพระเนตรออกไปนอกพระบัญชร ในขณะที่นางข้าหลวงคนสนิทคลานเข่าเข้ามาเพื่อนำความบางอย่างกราบบังคมทูลพระราชินีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ทูลองค์ชาโกวิล่า สราเนีย ยามนี้เจ้าชายเอเมนราสทรงสิบสองชันษาแล้วนะเพคะ หม่อมฉันเห็นควรกับเหล่าขุนนางที่จะ…” เสียงหวานของนางข้าหลวงคู่พระทัยเอ่ยทูลพลางลอบมองพระพักตร์งามตาของสราเนีย
ชาโกวิล่าสราเนียทรงมีพักตราหวานราวหยาดมธุรส ดวงเนตรสีท้องคคนานต์คมกริบดั่งนัยน์ตาพญาเยี่ยว สายพระเนตรอันเฉี่ยวคมแต่กลับอ่อนละมุนในคราเดียวกัน เป็นดวงพระเนตรที่สยบราชสีห์ผยองแห่งฮิปปาเรีย ฮีฟชาล กษัตริย์รูปงามไว้ได้
เรือนเกศาของพระนางเป็นสีขาวพิสุทธิ์ถูกม้วนเป็นช่อกลม ๆสามช่อ แซมด้วยดอกไม้หอมสีชมพูหวาน
เพลานี้สราเนียที่หัวหน้านางข้าหลวงยามีนเคารพบูชา ทรงพัสตราภรณ์สีฟ้ากระจ่างตา พระนางช่างงดงามดั่งเทพีแห่งไอซิสแห่งลุ่มน้ำไนล์ สง่างามสมดั่งคำร่ำลือ
“ควรแล้วที่ต้องมีสราเนียองค์ต่อไป” สุรเสียงหวานแต่ทรงพลังของชาโกวิล่าสราเนีย ตรัสขึ้น องค์ราชินีเบือนพักตร์หันมาทางยามีน นางกำนัลผู้ภักดี
“หม่อมฉันได้ยินมาว่ายามนี้ในนครฮิปปาเรียมีอิสตรีสวยสง่าอาศัยอยู่ เห็นจะมาจากอาณาจักรราเดีย หม่อมฉันทราบมาว่านางนั้นเป็นรัชทายาทแห่งราเดีย พระนามว่าชาเรียอาร์เน่”
“องค์หญิงรัชทายาทอาณาจักรราเดียเช่นนั้นรึ…หากเป็นดังที่เจ้าว่า เช่นนี้งานอภิเษกคงจัดขึ้นเร็วนี้เป็นแน่” ชาโกวิล่า สราเนีย สรวลเบา ๆ พลางแย้มพระโอษฐ์สีชาดอย่างพอพระทัย
ณ โรงแรมฟลอควอนเรส
ฟลอควอนเรสเป็นตึกสูงชะลูดเสียดฟ้าถูกทาด้วยสีครีมอ่อน ด้านบนปิดด้วยกระเบื้องสีฟ้าเรียงตัวซ้อนกันอย่างเป็นระเบียบ
โรงแรมฟลอควอนเรสมีบ่อว่ายน้ำใหญ่ที่สุดติดอันดับแรก ๆ ของฮิปปาเรีย ห้องพักหนึ่งพันห้องรองรับแขกไม่ต่ำกว่าห้าร้อยคน นับเป็นความภาคภูมิใจของฟลอซควอน นักธุรกิจผู้โด่งดังของดินแดน
พจน์ศรัช โคฟาวเดอร์ หนุ่มที่ได้โคจรมาพบกับธาสิกา คู่หมั้นคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เรื่องราวชุลมุนยิ่งขึ้นเมื่อคู่หมั้นคนก่อนเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนาในสถานอโคจรที่เขาต้องมีเอี่ยวไปด้วย งานนี้ธาสิกาจึงต้องลงมือสืบสาวเรื่องราวด้วยตัวเอง งานแต่งยังคงดำเนินต่อไป และใครกันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาของยศรินทรา แฝดพี่ของธาสิกา ไม่รู้ว่าจะเรียกพรหมลิขิตเขียนไว้หรือจะเป็นบาปเวรแต่ชาติปางไหน...เมื่อหัวใจรักของเขาทั้งคู่เริ่มก่อตัวขึ้นโดยที่ทั้งสองไม่รู้ตัว
“เพ่ยอินเหยาข้านี่แหละยอดขุนพลสตรี เล่ม 1” นิยายรักจีนโบราณสายบู๊และบุ๋น ‘อินตูตู’ ขุนพลสตรีผู้มีศักดิ์เป็นแม่ทัพคุมค่ายพลทหารชาวฉินเพื่อออกรบในสมรภูมิทีเดิมพันด้วยชีวิตอย่างแคว้นฉี หากการมาแคว้นฉีไม่ได้มีเพียงแค่สงครามระหว่างแคว้นเท่านั้น ทว่าการมาครั้งนี้ของนางมาเพื่อแก้ปมปริศนาสตรีที่หายไปในแคว้นฉินด้วยต่างหาก สงครามระหว่างแคว้นฉินและฉีจะจบลงเช่นไร แล้วใครกันเป็นผู้บงการเกมที่ต้องเดิมพันด้วยชีวิต
ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!
"วันดับนางริษยา" นิยายแนวสยองขวัญกระตุกประสาทที่จะมาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ มาร่วมค้นหาบทสรุปในนิยายเล่มนี้กันค่ะ
"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า
กรี๊ด” พราวนภาหวีดร้องสุดเสียงยามเมื่อเรือนร่างอรชรกำลังเสียหลัก พราวนภาหลับตาลงด้วยความหวาดกลัว “คุณครับ...เป็นอะไรไหมครับ” เสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เวลานี้พราวนภากำลังอยู่ในอ้อมแขนของเขา ธนพรั้งเอวอรชรมาใกล้ตัว พราวนภาลืมตาโพลง แม่ม่ายสาวใหญ่สังเกตเห็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายระยับ คิ้วเข้มจนเน้นให้ใบหน้าหล่อดูคมคาย ดวงหน้าคมคายอยู่ใกล้ใบหน้านวลผ่องแค่คืบ พราวนภาสัมผัสได้ถึงหัวใจของตนเองที่เต้นระรัว “ฉันไม่เป็นไรค่ะ” พราวนภาเอ่ยขึ้นขณะยืนตัวตรง ม่ายสาวจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยกว่าเดิม “ขอบคุณนะคะที่ช่วยฉันไว้” พราวนภาเอ่ยขณะสบสายตาชวนหวามใจของชายหนุ่มตรงหน้า “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้นขณะลอบมองใบหน้าของสตรีตรงหน้าที่เว้นระยะห่างออกมา “ฉันสายแล้วยังไงก็ขอบคุณคุณมากค่ะ” พราวนภาเอ่ยขณะก้มเหลือบมองดูนาฬิกาที่ข้อมือของตนเอง “ไม่เป็นไรครับ” ธนพเอ่ยขึ้น ชายหนุ่มส่งยิ้มให้หญิงสาวอย่างสุภาพ หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว หากแต่ธนพยังยืนอยู่ที่เดิม เหตุการณ์เมื่อครู่อดทำให้ใจของเขาสั่นระรัวไม่ได้ ดวงหน้านวลผ่องหมดจดไร้ไฝฝ้าทำให้เขาคาดคะเนไม่ถูกว่า สตรีคนนั้นมีอายุเท่าใดกันแน่ ++++ พราวนภาร้องครางเสียงหลงยามเมื่อมือหนาของธนูเอื้อมมาใกล้กับกระโปรงของเธอ ธนูถลกกระโปรงของพราวนภาขึ้นแล้วบรรจงใช้นิ้วเรียวสอดไปในช่องทางสวรรค์ นิ้วมือเรียวของธนูดั้นเข้าไปอย่างซุกซน พราวนภาสัมผัสได้ราวกับตนกำลังโผผินบินได้ดั่งใจหมาย พราวนภาครวญกระชั้นยามเมื่อธนูขยับเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แววตาคู่นั้นเบิกกว้างกว่าเดิม ยามเมื่อริมฝีปากบางบดขยี้จูบอย่างรุนแรง หญิงสาวรู้สึกราวกับนกผกผินได้ เมื่ออารมณ์ของเธอเตลิดจนกู่ไม่กลับ
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"