แทนที่จะใบ้หวยเหมือนผีต้นกล้วย ดันขอให้ช่วยซะได้ ตื๊อผมทุกที่แม้แต่ในส้วม เกินไปหน่อยไหม พอไล่ เจ้าก้อนนิ่มก็จะโดดดึ๋งๆอยู่กับที่่ บอก ใจร้ายๆ ทั้งวัน
“ราม”
“อาหารไม่อร่อยหรือคะ”
ข้าวหน้าปาท่องโก๋ทอดอาจจะดูเป็นเมนูแปลกๆ แต่เลิศรสสำหรับผม ตอนนี้มีร่องรอยพร่องไปเพียงแค่หน่อยเดียว แน่นอนว่าปกติผมต้องกินหมดไม่เหลือ ‘เฟิร์น’ เพื่อนสาวคนเดียวในกลุ่มมองผมสลับกับข้าวในจานไปมาอย่างสงสัย หล่อนวางช้อนบนจานตรงหน้า จานที่เคยมีข้าวผัดกะเพราหมูกรอบไข่ดาวประทับอยู่ได้ไม่ถึงห้านาทีด้วยซ้ำ ตอนนี้พวกเราอยู่ที่โรงอาหารคณะนิเทศศาสตร์ของมหาลัยชื่อดังย่านชานเมือง เพื่อใช้เวลากับมื้อเที่ยงก่อนจะเข้าเรียนวิชาถ่ายรูปช่วงบ่าย
“เฮ้อ...น่าเบื่อ”ผมทำท่าเคี้ยวอากาศไปหนึ่งที “ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
“ที่รัก ไม่ต้องไปยุ่งกับเจ้ารูปปั้นนี่หรอก มาสนคนหล่อๆแบบมาริโอ้ดีกว่า” ปกติผู้หญิงสวยๆต้องคู่กับผู้ชายหล่อๆ ไม่ก็เก่งๆ แต่สงสัยของเฟิร์นคงเป็นข้อยกเว้น ‘เดลต้า’ เพื่อนชายที่รู้จักกับผมมาตั้งแต่มัธยม ควบตำแหน่งแฟนของเฟิร์น เขากำลังเอามือเสยผมด้วยความมั่นอกมั่นใจในความหล่อ เฉพาะเที่ยงนี้ผมเห็นเดลต้าเสยผมประมาณแปดรอบแล้วมั้ง จริงๆแล้วผมไม่ได้เบื่ออาหารอะไรหรอก ก็แค่...
“นี่ๆ ราม ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้า เจ้าช่วยข้าเถอะนะ นะๆๆๆๆๆ”ก้อนวิญญาณสีฟ้าอ่อน ทรงกลมขนาดเท่าลูกบอลเด้งดึ๋งๆอยู่กับที่ข้างๆขา ไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณหรือจิงโจ้โดดเก่งเหลือเกิน แถม...ตื๊อเก่งด้วย ถ้าผมปิดเสียงน่ารักๆของไอก้อนกลมๆนี่ได้ ผมจะทำทันที ‘พีท’ วิญญาณเร่ร่อนที่ตามผมไปทุกที่มาสี่ห้าวันแล้ว ทุกที่แม้แต่ส้วม เป็นตัววุ่นวายแถมยังชอบมาโวยวายใส่กันอีก
“ราม รามเป็นอะไรเหรอคะ ให้เฟิร์นป้อนไหม”
“ไม่เอานะที่ร้ากกก โอ๊ย เจ็บไปทั้งหัวใจ ทำไมยังทน ฮือๆ”
เพี้ยะ! ฝ่ามือเมียสุดที่รักของเพื่อนฟาดกลางกระหม่อมเพื่อนรักวัยมัธยมดังสนั่น
“ที่ร้ากกก เค้าเจ็บนะ แต่ที่ใจเจ็บที่สุด”
“ราม!” เสียงเจ้าก้อนกลมคำรามสุดเสียง “อย่าเมินข้านะ”
เจ้าก้อนสีฟ้างอแงโดดดึ๋งๆไปทั่วโรงอาหารเพื่อให้ผมสนใจ ที่คิดว่าเหมือนจิงโจ้ คงไม่เกินจริง พอถูกเมินทีไรก็เด้งดึ๋งๆไร้ทิศทางแบบนี้ตลอด ถ้าคนอื่นมองเห็นเจ้าก้อนนี่ ต้องจับมันไปแสดงโชว์งานวัดเก็บเงินซื้อกล้วยแขกแน่ๆ
เฮ้อ น่าเบื่อ
“ราม อย่าเมินข้านะ”
ปึง
เสียงปิดประตูดังเป็นสัญญาณระฆังว่าให้นักมวยเริ่มชกได้ ผมเตรียมเอามืออุดหู
“รามๆๆๆๆๆ ราม!”
ไอตัวก้อนๆที่เด้งไปกำแพงด้านขวาทีด้านซ้ายที ชนโคมไฟบ้าง ชนแก้วน้ำบ้าง จริงๆมันก็ดูน่ารักดีนะ ถ้าไม่นับเรื่องที่ชอบโวยวายกับติดดื้อไปหน่อย แต่เจอแบบนี้ซ้ำๆทุกวันบางทีก็ไม่ไหว น่าเบื่อ โชคดีที่เขาเป็นผีโวยวายแค่ไหนก็ไม่มีใครได้ยิน(ยกเว้นผม) เรื่องที่ว่าถ้าวิญญาณมีห่วงจะไปเกิดไม่ได้ผมก็พอจะเคยได้ยิน แต่วิญญาณที่เป็นก้อนกลมๆเหมือนเยลลี่ก็เพิ่งเห็นนี่แหละ ยังไงก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องของผม
เมื่อสี่ห้าวันก่อน ผมไปถ่ายรูปที่โกดังเก็บของพวกชมรมเกษตรด้านหลังมหาลัยแล้วเจอเจ้าก้อนกลมๆนี่ดุ๊กดิ๊กๆอยู่ข้างถุงปุ๋ยเหมือนหมาชิสุโดนทิ้ง เห็นแปลกๆนิ่มๆก็เลยเอานิ้วไปจิ้มๆดู ไม่คิดเลยว่าอามรมณ์ชั่ววูบ ไม่สิ ชั่วเสี้ยววินาทีในตอนนั้น จะนำพาเจ้าจิงโจ้มาสู่ห้องนอนในวันนี้
เรื่องที่มีวิญญาณตามมาอยู่ด้วย ผมไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ ถึงผมจะไม่ค่อยถูกกับสิ่งที่มองไม่เห็นสักเท่าไหร่ก็เถอะ แต่เรื่องที่คอยตามตื๊อทั้งที่คอนโด ในห้องเรียน ที่โรงอาหาร ในรถยนต์หรือแม้แต่ในส้วม ดูท่าจะน่าเบื่อเกินไปหน่อย ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยไล่หรอกนะ แต่พอผลักไสเมื่อไหร่ เจ้าก้อนนิ่มก็จะโดดดึ๋งๆอยู่กับที่ประท้วงแล้วก็บอกว่าผมใจร้ายๆทั้งวันทั้งคืน ก็แอบน่าสงสารเหมือนกัน ทั้งที่พีทเป็นวิญญาณอิสระแท้ๆ แต่แทนที่จะมาใบ้หวยเหมือนผีต้นกล้วย ดันมาขอให้ช่วยซะได้ นี่ถ้ามาเป็นแบบให้ผมช่วยถ่ายรูปให้ก็ว่าไปอย่าง
ผมนั่งเช็ดเลนส์กล้องบนโซฟาในห้องรับแขกไปพลางคิดเรื่องวุ่นๆในหัวไปด้วย อย่างเช่น การตายของพีทอาจจะดูน่าสงสัยหรือมีเงื่อนงำมาก ไม่งั้นพีทคงสืบเองและไปเกิดแล้ว ยังไงก็แล้วแต่ มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผมอยู่ดี ผมเอาเวลาไปนั่งเช็ดเลนส์กล้อง แล้วเตรียมออกไปถ่ายรูปสวยๆฝึกฝีมือดีกว่า การตายของพีทผมรู้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้ผมสร้างชื่อเหมือนพ่อได้ อีกอย่าง ต่อให้ผมไม่ช่วยสืบเรื่องนี้เดี๋ยวพีทก็คงไปหาคนอื่นให้ช่วยได้อยู่ดี
“ราม! ถ้ารามไม่ช่วยข้า ข้าจะ... ข้าจะเล่นงานเจ้า”
หึ เล่นงาน? อยากจะเด้งไปชนอะไรก็ตามใจ น่าเบื่อ...
วันต่อมา
แสงอาทิตย์อ่อนๆยามเช้าส่องลอดบานกระจกเข้ามากระทบผิวหน้า ผมที่ไม่เคยตั้งนาฬิกาปลุกสักวันก็ยังตื่นเช้าทันไปเรียนเช่นเดิม แม้ตอนนี้ผมรู้ว่าทันทีที่ผมลืมตาขึ้นมองไปรอบๆห้อง จะต้องเห็นพีทเด้งดึ๋งๆดึ๊บๆอยู่ตรงไหนสักที่ ผมก็คงไม่ตกใจแล้ว การตายของพีท พีทบอกว่าตัวเองจำอะไรไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าตายตอนไหนด้วยซ้ำ เลยมาขอให้ผมช่วย แต่ผมไม่ช่วยแน่นอนอยู่แล้ว ดังนั้นวันนี้ต้องไล่พีทออกไปให้ได้ ถ้าไม่สงสารอีกอะนะ
ผมกวาดตามองไปรอบเตียงและแน่นอนว่า ผมเห็น.....
“อ๊ากกกกก คุณเป็นใคร”
ผมขยี้ตาตัวเองสองสามทีจนมั่นใจว่าสายตาผมยังไม่ได้ฟั่นเฟือน ผู้ชายเตี้ยๆอ้วนๆเหมือนโก๊ะตี๋ ในชุดเสื้อลายดอกนี่มันเป็นใครกัน ตกใจนะเนี่ย จู่ๆตื่นมาก็มีไออ้วนที่ไหนไม่รู้มายืนจ้องหน้าอยู่ปลายเตียง นี่ผมต้องแจ้งความหรือแจ้งยามก่อนดี
“ท่านยมๆ นี่แหละคนที่ข้าเล่าให้ฟัง ชื่อราม” เจ้าก้อนสีฟ้าเด้งดึ๋งๆมาจากข้างซอกโต๊ะแคบๆหลังผ้าม่าน พีทโดดขึ้นมาบนเตียงแนะนำผมให้กับแขกไม่ได้รับเชิญ ผมไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่ใช้สายตาพิฆาตส่งไปหาเจ้าก้อนเยลลี่เป็นเชิงถามและดุในที
“แหะๆ อรุณสวัสดิ์ราม เจ้าอย่าโกรธข้าเลยนะ ข้าแค่พาคนรู้จักมานิดหน่อย”ผมส่งสายตาดุซ้ำ “นี่คือ ท่านยม ยมทูตในอานาเขตแถวนี้”
อืม...ยมทูต
ห้ะ
ไวน์ นักศึกษาปี 2 เดือนคณะผู้ปฏิญาณตนว่าจะโสดตลอดไป เจ้าของใบหน้าหล่อออกหวานนิดๆแบบเกาหลี คนที่วันๆอยู่กับการวิ่งไปแย่งคอมตัวแรงเพื่อดูหุ้นไม่ก็จมหัวอยู่ที่ร้านหมูกะทะ เรื่องโน่นนี่ไม่สนก็จริง แต่ใครอย่ามาปากหมาใส่แล้วกัน แปลงร่างเป็นพิตบูทันที เบียร์ เอกอินเตอร์บริหาร คุณชายตระกูลดังขี้รำคาญ ใบหน้าหล่อคมที่ใครๆก็บอกว่าควรขึ้นตำแหน่งเดือนมหาลัย คุณชายที่ขับรถหรู ใช้ของแบรนด์เนมทั้งตัว แต่ติดที่ปากเสีย ขี้เหวี่ยง ไม่คบค้าสมาคมกับใคร ขู่ได้แม้กระทั่งอธิการบดี ꧁{★… ★}꧂ ไอ้ผู้ชายปากหมานั่นใครวะ หยิ่งฉิบหาย พอแหย่เขาแล้วเขาไม่เล่นด้วย ไวน์เลยตามตอแยทุกวิถีทาง แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้คิดอะไรนะ ด่าเขาปาวๆ บอกแค่จะเอาของมาคืน! เบียร์เห็นก็เลยแก้เผ็ด วุ่นวายดีนัก ตีหัวรวบเข้าบ้านเลยแล้วกัน “อย่าดื้อ หมอสั่ง” “หรือวะ หมอสั่งให้กูอยู่กับมึงนานขนาดนี้เลย?” ฟอด!!! คุณตำรวจ มีคนลวนลาม! “ไอ้เห้เบียร์!!” ꧁{★… ★}꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ
เหมยลี่ อายุ 25 ปี คุณหนูผู้ร่ำรวย สาวตากลมตัวเล็กผิวขาวมาดซีอีโอนุ่มนิ่ม เธอใช้เงินบัลดาลทุกอย่างตามใจ ไม่แคร์โลก ใครจะรู้ว่าภายใต้หน้ากากของซีอีโอสาวสุดเพอร์เฟค จะเต็มไปด้วยเรื่องราวของนิยายในหัว แถมมีอยู่เรื่องเดียวซะด้วย งานนี้งานการไม่ทำมันแล้ว มู่จิน พระเอกนิยายติงต๊อง ที่ฆ่าเมียตัวเองตายในคืนเข้าหอ ชายหนุ่มร่างใหญ่เจ้าของเรือนผมดำยาวและสันกรามทรงเสน่ห์ เขามีประวัติความเป็นมาหรือเรื่องราวของเขาเป็นมาอย่างไร ไม่มีผู้ใดรู้ได้ เขาเบื่อหน่ายโลกใบนี้เต็มทน ชีวิตคนสำหรับเขาก็เป็นเพียงเศษหญ้าเท่านั้น ꧁⊱ ⊰꧂ เพราะถูกรถชนตายตอนที่เพิ่งอ่านนิยายจบรอบที่ 99 ยังไม่ครบร้อย พอลืมตามาก็อยู่ในร่างตัวประกอบ ไม่ใช่นางเอกไม่พอยังต้องแต่งงานกับคนบ้า 'เหมยลี่' คนนี้เลยต้องพยายามฆ่าเจ้าบ่าวในห้องหอ ก่อนที่เธอจะถูกเขาฆ่าตามบทในนิยายอีกครั้ง แต่แล้ว ความพยายามของเธอก็ไร้ค่า เธอตายอีกครั้งแล้วไม่ได้กลับโลกเดิม แต่ย้อนกลับมาที่คืนเข้าหอ ทว่าทำไมรอบนี้คุณพระเอกเจ้าบ่าวมองเธอตาเยิ้มขนาดนั้นล่ะเนี่ย ꧁⊱ ⊰꧂ Trigger Warning ***สำหรับนักอ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*** นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ นิยายเรื่องนี้มีเนื้อหาติดเรท 18+ คำหยาบคาย และฉากไม่เหมาะสม. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน. *พฤติกรรมบางอย่างไม่ควรลอกเลียนแบบ*
เตียวเฉิน ก่อนตายเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ในโลกใหม่ เขาเป็นพระรองมาดแมนแม้ตัวจะไม่มีกล้ามแซงหน้าพระเอก ในเมื่อเกิดมาหล่อ รวย หน้าตาการศึกษาดี แต่ข้างในวิญญาณไม่มีความรู้สักกะติ๊ด เขาจึงพยายามใช้สมองอันน้อยนิดหาหนทางรอด ด้วยการ มุดโพลงหมาลอดออกไปเป็นขอทานเสียเลย มู่จิน พระเอกของโลกใบนี้ นักธุรกิจและผู้มีอำนาจที่สุดในเมือง ชายหุ่นกล้ามที่ชอบใส่สูทผูกไทป์ แล้วหมกตัวอยู่แต่ในบ้าน สีหน้าของเขาเยือกเย็นตลอดเวลา อะไรๆในโลกก็น่ารำคาญไปหมด ยกเว้นวันที่เห็นตัวอะไรปีนเข้าบ้าน ꧁{★… ★}꧂ เกิดใหม่ก็ต้องดิ้นรนหนีออกจากบ้าน พอนึกไปแล้ว เข้าร่างพระรองมาได้ไม่กี่เดือน แต่เดี๋ยก็ถึงเวลาที่พระเอกนายเอกเขาก็จะเจอกันแล้ว ผมก็ชิงหนีออกไปเป็นขอทานก่อนน่ะสิ เรื่องอะไรจะอยู่รอแบดเอ็น เอ๊ะ ผู้ชายที่เปลื่อยกายนั่นหน้าคุ้นๆ ทำไมบ้านที่ผมปีนกำแพงเข้าไปมันดันเป็นบ้านพระเอกล่ะ ซวยแล้ว งั้นตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ก่อนแล้วกัน ทั้งที่ตั้งใจจะอยู่ที่นี่อีกนิดเดียวแท้ๆ พวกคนใช้เองก็บูลลี่กันอยู่ได้ ผมมั่นใจว่าพระเอกต้องโยนผมออกไปในไม่ช้า เขาน่ะระแวงผมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่... แปลกๆ นะ ขอทานแล้วได้เสื้อผ้า อาหาร เพชรพลอย ที่แปลกกว่าคือ พอผมอาละวาทพังบ้าน เกิดอะไรขึ้นรู้ไหม เจ้าของบ้านซื้อเฟอร์ใหม่มาให้พังเพิ่มน่ะสิ วันๆหัวจะปวด เขาจับผมมัดตั้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในห้องทำงาน แล้วก็เอาแต่นั่งครุ่นคิดว่าพรุ่งนี้จะเอาอะไรมาให้ตอนผมขอทานดี ผมนี่ขมวดคิ้วเลย ꧁{★… ★}꧂
เมื่อคู่แห่งโชคชะตา4ขวบ อัลฟ่าพัมธุ์แท้คนสุดท้าย ผู้เพรียบพร้อมด้วยเงินและอำนาจ วันหนึ่งลูกน้องก็พังประตูเข้ามาบอกว่า เจอคู่โชคชะตาเขาแล้ว ทว่า จะป้ำลูกยังไง ก็เนื้อคู่เขาใส่ชุดอนุบาลหมีน้อยกอดตุ๊กตา
อาหลีพยายามหาหลัวในฝันผ่านตู้ปลากัด ใครที่เดินผ่านปลากัดแล้วจ้องตาเขาตอน9โมงตรงคนนั้นคือ เนื้อคู่ ...เจ้าของร้านเอือมจนขี้เกียจไล่ มาบ่อยแค่ไหนถามใจเธอดู แต่โชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อเนื้อคู่ไม่ชอบป้าบ!
“เจ้าชายผู้สง่างาม ซ่อนความเร่าร้อนไว้ใต้รอยยิ้ม” “มาเฟียผู้โหดเหี้ยม กลับอ่อนโยนเพียงกับเจ้าชายในคราบเจ้าสาว” “รักต้องห้ามที่ผลิบาน ท่ามกลางไฟสงครามและเงาดำของอำนาจ” “เมื่อรัชทายาทผู้เลอโฉม ต้องสลับตัวกับเจ้าสาวมาเฟีย ชะตากรรมของทั้งคู่จึงพลิกผัน” “หนึ่งคือเจ้าชายผู้เรียบร้อย อีกหนึ่งคือมาเฟียผู้โหดเหี้ยม รักครั้งนี้จะเป็นไปได้หรือไม่?” “ติดตามเรื่องราวความรักสุดอลหม่าน ชวนให้ลุ้นระทึก ไปพร้อมกับความฟินจิกหมอน ใน ‘ดอกไม้สีเขียวของมาเฟีย’”
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...