ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ
เสียงหอบหายใจที่ไม่คิดจะอำพรางเสียงให้เบาลงเลยแม้แต่น้อยทำให้กอหญ้าที่มึนเมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ถึงกับพยายามลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความยากลำบากเพื่อมองหาที่มาของเสียงครางกระเส่าและลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่าราดรินรดอยู่ข้างแก้มเนียนของเธอ
ภายใต้ความมืดที่มีเพียงแสงสว่างจากดวงจันทร์กลมโตที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบร่างของใครบางคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนร่างกายของเธอทำให้กอหญ้าขมวดคิ้วน้อยๆด้วยความแปลกใจก่อนที่เธอจะหลงเคลิ้มคิดไปว่านี่คือความฝันที่ชวนให้รู้สึกหวาบหวามจนแทบไม่อยากลืมตาตื่นขึ้นมาเลยสักนิด
ดวงหน้าสวยเฉี่ยวที่สะกดตาสะกดใจสิงห์หนุ่มเสือร้ายทั้งหลายพลันเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสที่บางเบาราวกับขนนกแต่กลับทำให้เธอเสียวสะท้านจนกลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่ไหว นี่คือความฝันกอหญ้าเพียรพยายามตอกย้ำตนเองด้วยรอยยิ้มละมุนละไมที่ฉายอยู่บนใบหน้าสองมือนุ่มนิ่มพลันลูบไล้แผ่นหลังที่ชื้นไปด้วยเหงื่ออย่างสะเปะสะปะราวกับกำลังตอบสนองต่อสัมผัสที่ชวนให้โหยหาและความปรารถนาที่ซ่อนเอาไว้ลึกสุดของก้นบึ้งหัวใจ
“อ๊า เธอกำลังจะทำให้ฉันคลั่งนะคนสวย”
ภีมวัจน์ครางเสียงกระเส่าด้วยความรู้สึกเสียวซ่านเมื่อมือเล็กนุ่มนิ่มของสาวน้อยใต้ร่างกำลังลูบไล้แผ่นหลังที่ชื้นเหงื่อของเขาไปมาเบาๆคล้ายเชื้อเพลิงที่เติมลงบนกองไฟให้ร้อนแรงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาพลันยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปใช้ฟันที่เรียงตัวกันอย่างสวยงามดึงรั้งสายเสื้อของเธอให้หล่นลงมากองอยู่บนหน้าท้องแบนราบเผยเต้าอวบกลมกลึงขนาดใหญ่ที่ปลุกอารมณ์ร้อนดั่งไฟของภีมวัจน์ให้ลุกฮือด้วยความร้อนแรง
ภีมวัจน์ไม่รอช้าเขารีบทิ้งใบหน้าซุกซบลงบนหน้าอกอวบที่เด้งตอบรับสัมผัสก่อนที่ลิ้นเรียวของเขาจะทำหน้าที่ดูดกลืนเม็ดบัวใหญ่เบาๆทำให้ลมหายใจที่นิ่งสงบของกอหญ้าพลันถี่กระชั้นริมฝีปากอวบอิ่มพลันเปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างสุดกลั้น
โอ้ พระเจ้าทำไมความฝันของเธอถึงได้เสียวซ่านเช่นนี้นะนี่เธอกำลังฝันทะลึ่งอยู่ใช่ไหมกอหญ้า?
กอหญ้าเอ่ยถามตัวเองในใจด้วยสติที่เลือนรางเพราะความมึนเมาจากแอลกอฮอล์ที่เธอเผลอดื่มเข้าไปเพราะถูกท้าทายจากคู่อริแก้วแล้วแก้วเล่าจนทำให้สติที่มีอยู่เต็มร้อยในทีแรกหลงเหลือเพียงน้อยนิดจนแทบไม่รู้สึกตัวเองว่าตอนนี้เธอกำลังทำสิ่งใดอยู่
ยามที่ลิ้นเรียวตวัดรัดเกี่ยวเม็ดบัวสีชมพูกอหญ้าพลันแอ่นหน้าอกตามแรงรัดด้วยความรู้สึกที่เสียดเสียวเธอพยายามลืมตาขึ้นมองภาพเคลื่อนไหวตรงหน้าแต่ไม่ว่าเธอจะพยายามอย่างไรก็ไร้ผลเมื่อสัมผัสของใครบางคนทำให้สติของเธอกระเจิดกระเจิงจนยากจะกู้กลับคืนมาสุดท้ายกอหญ้าจึงตัดสินใจโยนสติสัมปชัญญะที่เหลืออยู่น้อยนิดทิ้งไปอย่างไม่ไยดีพร้อมโอบกอดร่างกายแข็งแกร่งของคนตรงหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใดพลางตอบสนองต่อสัมผัสของเขาอย่างเร่าร้อน
“อ๊า สะ เสียว เสียว อื้อ ยะ อย่า อื้อ”
เสียงครางพลันถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อภีมวัจน์เลื่อนริมฝีปากขึ้นมาบดขยี้กลีบปากอวบอิ่มปิดเสียงหวานเย้ายวนของกอหญ้าเอาไว้พร้อมมือใหญ่ที่บีบขย้ำหน้าอกอวบอย่างไร้ความปรานี เมื่อจิตสำนึกของภีมวัจน์บอกว่าเธอไม่ใช่สาวน้อยวัยแรกแย้มที่ไม่เคยต้องมือชายหากแต่เธอคือแม่เสือสาวกร้านโลกที่เขาซื้อมาในราคาสูงลิ่วเพื่อมาบำเรอความสุขทางกายให้แก่เขาในค่ำคืนนี้ต่างหากทำให้น้ำหนักยามที่บีบเคล้นอกอิ่มจึงลงแรงหนักเสียจนผิวเนื้อสีขาวราวหยวกกล้วยค่อยๆขึ้นสีแดงเป็นจ้ำไปทั่วบริเวณที่มือใหญ่วาดผ่าน
เอวบางคอดกิ่วของหญิงสาวใต้ร่างเลื้อยส่ายไปมาชวนให้ชายหนุ่มที่กำลังกระหายในรสสัมผัสลูบไล้ผิวเนื้อบริเวณนั้นอย่างเพลิดเพลินก่อนที่เรียวนิ้วของเขาจะค่อยๆไต่ระดับลงมาจนถึงเนินเนื้ออวบอิ่มที่มีขนสีอ่อนขึ้นเพียงเบา ภีมวัจน์ค่อยๆแยกเรียวขาสวยเนียนออกจากกันพร้อมลูบไล้กลีบกุหลาบงามไปมาเบาๆทำให้กอหญ้าที่กำลังมึนงงเพราะจูบสูบวิญญาณของภีมวัจน์ได้แต่ร้องครางอู้อี้อยู่ในลำคอ
“ทำไมถึงได้น่ากินไปทั้งตัวแบบนี้หืม”
ภีมวัจน์พึมพำเสียงกระเส่าชิดกลีบปากอวบอิ่มที่แดงช้ำเพราะแรงดูดดึงจากเรียวลิ้นของเขาในขณะที่กอหญ้ายังคงหลับตาพริ้มไร้วี่แววจะลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ว่าสิ่งที่เธอกำลังคิดว่าคือความฝันในยามราตรีที่มืดมิดแท้ที่จริงแล้วมันคือความจริงต่างหาก
จมูกโด่งที่แสนซุกซนของภีมวัจน์ค่อยๆสูดความหอมจากซอกคอขาวเนียนพร้อมขบเม้มทิ้งรอยแดงไว้จนแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างเขาสูดดมความหอมละมุนที่ไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้จากที่ไหนมาก่อนด้วยความเพลิดเพลินไล่เรื่อยลงมาหยอกล้อกับผิวเนื้ออวบอิ่มอีกครั้งก่อนที่เขาจะผละจากมาด้วยความเสียดาย
ใบหน้าหล่อเหลาของภีมวัจน์ยังคงเล้าโลมกอหญ้าอย่างช้าๆอย่างที่ไม่เคยทำกับหญิงสาวคนไหนมาก่อนแต่กับผู้หญิงคนนี้ที่คงดื่มเหล้าย้อมใจมาจนเมามายไม่ได้สติกลิ่นหอมของเธอช่างเย้ายวนชวนให้เขาสูดดมหลงใหลไม่รู้เบื่อขั้นตอนการโอ้โลมจึงนานกว่าที่เคยเป็นมา
มือที่วางบนผิวเนื้ออ่อนนุ่มยังคงลูบไล้ไปมาเบาๆก่อนที่ภีมวัจน์จะตัดสินใจเลื่อนใบหน้าลงมาหากลีบผกาสีสวยที่ล่อตาล่อใจให้เขานึกอยากสัมผัสถึงแม้ว่าภายในห้องจะมืดจนแทบมองไม่เห็นแต่แสงจันทร์ที่สาดส่องเข้ามากระทบลงบนเตียงทำให้เขามองเห็นกุหลาบดอกสวยได้เต็มสองตา
“อ๊า ตะ ตรงนั้น ยะ อย่า อื้อ อ๊า”
หลังจากที่ต่อสู้กับตัวเองในใจอยู่นานภีมวัจน์ก็ตัดสินใจแหกกฎของตัวเองเป็นครั้งแรกด้วยการใช้เรียวลิ้นแตะลงบนปุ่มกระสันของสาวสวยใต้ร่างที่บิดกายไปมาด้วยความเสียวซ่านพร้อมเปล่งเสียงครางหวานหูออกมาเคล้าเสียงดูดเลียราวกับท่วงทำนองดนตรีที่ร้อนแรงชวนให้คนที่แหกกฎตัวเองเป็นครั้งแรกถึงกับรู้สึกฮึกเหิมอย่างบอกไม่ถูก
“พะ พอแล้ว ไม่ไหว ละ แล้ว อื้อ อย่า อ๊า”
ดวงตากลมโตถึงแม้จะปิดอยู่ด้วยความมึนเมาแต่สัมผัสที่ชวนให้เสียวสะท้านกลับทำให้กอหญ้ากลั้นเสียงครางเอาไว้ไม่อยู่ร่างเล็กส่ายไหวไปมาราวกับดอกไม้ต้องลมจนกระทั่งความเสียวซ่านที่ได้รับทำให้เธอเกร็งกระตุกและปลดปล่อยน้ำหวานออกมาให้ภีมวัจน์ดูดเลียอย่างไม่นึกรังเกียจ
“หึ หนีไปมีความสุขก่อนเลยนะคนสวย ต่อไปก็ตาฉันบ้างล่ะฉันจะกระแทกให้เธอร้องครางเสียงหวานๆไม่หยุดเลยคอยดู”
ภีมวัจน์จับส่วนที่ร้อนรุ่มแข็งกล้าที่สุดในกายของเขาจ่อไปที่ร่องรักสีชมพูที่มีน้ำหวานฉ่ำเยิ้มคอยเป็นตัวเบิกทางก่อนที่เขาจะกระแทกความแข็งแกร่งผ่านเยื่อบางๆที่เขารับรู้ได้ในเสี้ยววินาทีแต่เขาไม่สามารถหยุดยั้งแรงกระแทกให้ผ่อนแรงลงได้เลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้กอหญ้าที่กำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นเผลอส่งเสียงกรีดร้องออกมาสุดเสียงพร้อมยกมือขึ้นจิกเล็บลงบนท่อนแขนแกร่งด้วยความตกใจระคนเจ็บปวดถึงขีดสุด
“กรี๊ด อุ๊ป”
ริมฝีปากอวบอิ่มที่เปล่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดพลันถูกปิดผนึกด้วยริมฝีปากของภีมวัจน์ที่ฉกวูบลงมาด้วยความรวดเร็วดวงตาสีน้ำตาเข้มของเขาเผยแววฉงนสงสัยเล็กน้อยเมื่อรับรู้ได้ถึงเยื่อบางๆที่ฉีกขาดลงจากแรงกระแทกที่รุนแรงของเขา
ไหนลูกน้องของเขาบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นงานแถมลีลาเด็ดอย่าบอกใครอย่างไรล่ะ แล้วเยื่อพรหมจันทร์นี่มันอะไรกันเขามึนงงไปหมดแล้ว
“อื้อ เอ้บ เอ้บ”
ใบหน้าของกอหญ้าพลันส่ายหนีจูบร้อนแรงที่เอาแต่ใจพร้อมร้องครางว่าเจ็บอู้อี้อยู่ในลำคอแต่ภีมวัจน์กลับยกมือขึ้นมาประคองใบหน้าของเธอพร้อมบังคับให้รับจูบของเขาทำให้กอหญ้าหมดสิ้นหนทางที่จะพลิกใบหน้าหนีเธอจึงได้แต่ตอบสนองจูบที่เร่าร้อนของเขาอย่างจำยอม
ปึก ปึก ปึก
ความอ่อนนุ่มที่กำลังโอบรัดความแข็งแกร่งกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณห้องนอนใหญ่ทำให้อารมณ์สับสนที่กำลังตีกันให้วุ่นภายในหัวพลันลดลงกลายมาเป็นอารมณ์กระหายในความใคร่ที่กำลังพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุดเมื่อได้รับรู้ว่าเขาคือคนแรกของเธอภีมวัจน์ก็ยิ่งกระแทกความร้อนแรงเข้าหากอหญ้าจนเธอถึงกับน้ำตาไหลด้วยความเจ็บปวด
ความเสียวซ่านก่อนหน้านี้พลันหายไปจนหมดสิ้นมีเพียงความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่จนยากที่เธอจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้แต่ความอ่อนไหวจนหลั่งน้ำตาของสาวสวยใต้ร่างไม่ได้ทำให้อารมณ์ร้อนแรงของภีมวัจน์ลดลงเลยแม้แต่น้อย
“อ๊า แน่นมากคนสวย”
ภีมวัจน์กระซิบชิดแก้มเนียนที่เปรอะไปด้วยหยาดน้ำตาพร้อมจับเอวของกอหญ้าเอาไว้แน่นก่อนที่เขาจะรัวกระแทกความใหญ่โตเข้าหาความอ่อนนุ่มพร้อมจงใจบดขยี้จุดกระสันจนทำให้ความเจ็บปวดที่ได้รับในคราแรกค่อยๆจางหายไปกลายเป็นความเสียวซ่านที่เผลอซู้ดปากราวกับกำลังกินของเผ็ดร้อนอยู่
“อ๊า เสียว เสียวเหลือเกิน อื้อ แรงๆ แรงกว่านี้ อ๊า”
เสียงหวานที่ร้องขอให้เขากระแทกแรงขึ้นกว่านี้ทำให้ภีมวัจน์ได้แต่ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจเขาไม่รอช้าที่จะทำตามคำขอของสาวสวยทันที สองมือของเขารวบมือบางที่กำลังปัดป่ายอยู่ที่แผ่นหลังของเขาอย่างสะเปะสะปะด้วยมือเดียวพร้อมตะโบมจูบดูดเลียอกอิ่มที่แข็งเป็นไตตอบรับสัมผัสของเขาอย่างลืมตัว
“จัดให้ตามคำขอเลยคนสวยเช้ามาตรงนั้นระบมอย่ามาโทษกันนะ”
ภีมวัจน์ก้มหน้าลงไปกระซิบเสียงแหบพร่าที่ข้างใบหูหอมกรุ่นพร้อมสูดดมความหอมอย่างหลงใหลก่อนที่ใบหน้าหล่อเหลาของเขาจะเชิดขึ้นเปล่งเสียงกระเส่าแข่งกับกอหญ้าที่หลงใหลไปกับรสสัมผัสแปลกใหม่ที่เพิ่งเคยรู้จักเป็นครั้งแรกทำให้เธอพลันกระตือรือร้นตอบสนองต่อสัมผัสหวาบหวามของร่างสูงอย่างถึงพริกถึงขิงโดยที่เธอยังคงคิดว่านี่คือความฝันดีอย่างหนึ่งที่เธอจะจดจำเอาไว้ไม่มีวันลืมเลย
ปึก ปึก ปึก
เสียงกระแทกที่หยาบโลนยังคงดังเคล้าคลอกับเสียงครางหวานๆที่ยังคงเปล่งออกมาตลอดทั้งคืนหลายครั้งที่ภีมวัจน์พาสาวสวยที่เขาไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อโลดแล่นไปกับท่วงท่าต่างๆที่นานๆครั้งเขาจะจัดเต็มเล่นเพลินซะหลายท่า จนกระทั่งเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขสองความเคลื่อนไหวภายในห้องจึงสงบลงแต่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายสิเน่หาที่ชวนให้หนุ่มหล่อและสาวสวยยิ้มออกมาด้วยใจที่เปี่ยมสุขก่อนที่ทั้งคู่จะโอบกอดกันและกันนอนหลับไปท่ามกลางรัตติกาลที่มืดมิด
Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย กรรฐ์ กวีวัธน์ พิสิฐกุลวัตรดิลก มาเฟียในคราบชุดกาวน์ที่ยอมสลัดคราบผู้ชายเย็นชากระโจนเข้าสู่หลุมพรางของเธอ เธอชอบเขา...เขารู้ แล้วที่เขาชอบเธอ...เธอนั้นรู้หรือยัง ? มีน มินตรา อดิพัทธ์เรืองรัตนกุล ดารานางแบบสาวสวยชื่อดังที่คนชอบมองว่าหยิ่งแท้จริงแล้วนิสัยดี จริงใจ รักเพื่อนฝูง กล้าได้กล้าเสีย โบราณบอกเอาไว้ว่ามารยาหญิงมีร้อยเล่มเกวียนถ้าอย่างนั้นเธอก็จะของัดมาสักเล่มเพื่อยั่วเขาให้ตกหลุมพรางของเธอก็แล้วกัน เขาชอบเธอ...เธอไม่เคยรู้ แล้วที่เธอชอบเขา...เขารู้หรือยัง ?
มิ้นท์ รามิล "พี่มิ้นท์ของขนมพาย" ใจที่แข็งดั่งหินผาสุดท้ายก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับความน่ารักไร้เดียงสาของเธอ "ขนมพาย" "รักฉันเท่าที่เธออยากจะรัก" ขนมพาย พิมพ์ชนก "ขนมพายของพี่มิ้นท์" เพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาทำให้เธอเดินหลงเข้าไปติดกับดักรักของเขาโดยไม่รู้ตัว "รักเธอไปหมดแล้วทั้งใจ"
ท่ามกลางรัตติกาลที่มืดมิดสองหนุ่มสาวต่างหลงทางอยู่ในนิทราที่แสนหวาน และเมื่อรุ่งอรุณมาเยือนหนุ่มสาวตื่นจากการหลับไหลนิทราที่แสนหวาน กลับกลายเป็นเธอกับเขาและความรักของเราที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้่น
ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ของเธอไปเพียงชั่วข้ามคืนด้วยความเข้าใจผิด ทำให้เธอกับเขาต้องผูกติดกันไปตลอดชีวิตด้วยคำว่ารัก ❤️❤️❤️ หมอไทม์ ธามไธ ศัลยแพทย์โรงพยาบาล N ภายนอกดูเหมือนเป็นคนเย็นชาที่ไม่ค่อยสนใจใคร แต่ใครเลยจะรู้ว่าข้างในหัวใจกลับซ่อนความหวั่นไหวและอบอุ่นเอาไว้อย่างมิดชิด ครั้งหนึ่งเขาเคยตั้งปฎิญาณเอาไว้ว่าจะไม่รักใครแต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกให้เขาต้องมาตกหลุมรักผู้หญิง ที่เขาหวังเพียงแค่ค้างคืนแต่กลับคือรักจริงและรักเดียวของเขาตลอดไป ไออุ่น อัยย์วรินทร์ เด็กสาวที่มองโลกในแง่ดีน่ารักและบริสุทธิ์สดใส รอยยิ้มของเธอทำให้ใครต่อใครตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัว รวมถึงเขาหมอไทม์ ธามไธ ความอบอุ่นของเธอหลอมละลายหัวใจที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งของเขา ให้กลายมาเป็นความรักที่ลึกซึ้ง
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
กาย กันต์ธีร์ พิสิฐกุลวัตรดิลก ฉายาราชาแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มหล่อแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์เอกคอมพิวเตอร์ ปี 4 เขาหล่อ เขาเฟียร์ส เขาเฟี้ยว เขาซ่าส์ แต่โคตรทะลึ่ง และสุดแสนจะทะเล้น จีบหญิงไม่เก่ง แต่ผมเยเก่งนะครับที่สำคัญผมโสดสนิท!!แต่อยู่ดีๆดันมาเสียหัวใจให้กับยัยตัวร้ายแบบเธอ!!!อลิส อังสุมาลิน "รักนะไอ้ต้าวลิส" อลิส อังสุมาลิน ฐิศานันตกุล นิเทศศาสตร์ ปี 2 เธอสวย เธอเซ็กซี่ เจ้าแม่แห่ง Sex appeal ปากไม่แดงไม่มีแรงเดิน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอตบ!!หลงรักกายหนุ่มหล่อแสนเจ้าเล่ห์ที่อยู่ๆก็มาจูบปากเธอ แถมเล่นเกินเบอร์เรียกเธอว่าเมีย!! น่ารักเบอร์นี้อลิสยินดีตกหลุมรักจ้ะพี่จ๋า ชาตินี้ไม่ได้พี่กายเป็นผัว อลิสจะโสดคอยดู!!ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก🥰มารยาหญิงร้อยเก้าเล่มเกวียนงัดมาให้หมด ☺️☺️ "รักนะน้อนพี่กาย"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"