ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / Sign on love เดิมพันรัก มาเฟียร้าย
Sign on love   เดิมพันรัก มาเฟียร้าย

Sign on love เดิมพันรัก มาเฟียร้าย

5.0
98 บท
6.9K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย กรรฐ์ กวีวัธน์ พิสิฐกุลวัตรดิลก มาเฟียในคราบชุดกาวน์ที่ยอมสลัดคราบผู้ชายเย็นชากระโจนเข้าสู่หลุมพรางของเธอ เธอชอบเขา...เขารู้ แล้วที่เขาชอบเธอ...เธอนั้นรู้หรือยัง ? มีน มินตรา อดิพัทธ์เรืองรัตนกุล ดารานางแบบสาวสวยชื่อดังที่คนชอบมองว่าหยิ่งแท้จริงแล้วนิสัยดี จริงใจ รักเพื่อนฝูง กล้าได้กล้าเสีย โบราณบอกเอาไว้ว่ามารยาหญิงมีร้อยเล่มเกวียนถ้าอย่างนั้นเธอก็จะของัดมาสักเล่มเพื่อยั่วเขาให้ตกหลุมพรางของเธอก็แล้วกัน เขาชอบเธอ...เธอไม่เคยรู้ แล้วที่เธอชอบเขา...เขารู้หรือยัง ?

บทที่ 1 Sign on love ❤️ เดิมพันรัก มาเฟียร้าย INTRO

คลับ

ค็อกเทลบาร์

“Old Fashioned ที่คุณสั่งได้แล้วครับ”

กรรฐ์ดึงสายตาที่กำลังจ้องมองบรรยากาศเรื่อยเปื่อยโดยรอบกลับคืนมาด้วยท่าทีเกียจคร้านเมื่อได้ยินว่าค็อกเทลที่เขาสั่งเอาไว้เสร็จเรียบร้อยแล้วกรรฐ์สูดกลิ่นหอมของเปลือกส้มตากแห้งที่แต่งหน้าวางอยู่บนน้ำแข็งด้วยความสดชื่นก่อนที่นิ้วเรียวยาวขาวเนียนดุจหยกจะยื่นไปหยิบแก้วค็อกเทลที่อยู่ตรงหน้าขึ้นจิบช้าๆในใจพลันรู้สึกว่า...

‘รสชาติดีแต่ไม่ใช่ดีที่สุด…’

“อืม รสชาติพอใช้”

รอยยิ้มได้ใจบนใบหน้าของไวนพลันแข็งค้างเมื่อคำชมที่เขาหวังจะได้ยินกลายเป็นคำพูดที่ไม่น่าฟังเลยสักนิดที่ผ่านมาเขาพยายามฝึกปรือฝีมือการชงค็อกเทลเพื่อให้ได้รับการยอมรับและคำชมจากเหล่านักท่องราตรีมาโดยตลอดซึ่งเขาก็ทำสำเร็จแต่ดูเหมือนว่าสำหรับคนตรงหน้าแล้วฝีมือของเขานั้นคงจะยังไม่ถูกใจอีกฝ่ายสักเท่าไหร่คำชมที่ได้รับจึงอยู่ในระดับแค่ ‘รสชาติพอใช้’ เท่านั้น

ถึงแม้ว่าในใจของไวน์จะรู้สึกขุ่นเคืองใจกับคำพูดของอีกฝ่ายมากแค่ไหนเขาก็ทำได้เพียงก้มหน้ายอมรับคำติชมที่ไม่เต็มใจยอมรับนี้เอาไว้พร้อมกล้ำกลืนความไม่พอใจเอาไว้เต็มท้องเท่านั้นเขาก็แค่ลูกจ้างคนหนึ่งจะไปมีสิทธิ์มีเสียงต่อว่าลูกค้าที่คือพระเจ้าได้อย่างไรเมื่อคิดมาถึงความจริงข้อนี้สีหน้าของไวน์ก็พลันหม่นหมองลงอย่างเห็นได้

“อยากชงค็อกเทลให้อร่อยกว่านี้ไหม ?”

คิ้วหนาเข้มที่ขมวดแน่นกับสายตาขุ่นเคืองคู่หนึ่งพลันคืบคลานเข้ามาใกล้เกือบจะเรียกได้ว่าชนจมูกเมื่อได้ยินคำถามจากหนุ่มหล่อตรงหน้าที่ยังคงนั่งจิบค็อกเทลด้วยท่าทีที่แฝงไปด้วยความเกียจคร้านเช่นเคย

“ถามแบบนี้พี่จะสอนผมหรือไง ? หรือว่าจะส่งผมไปเรียนเพิ่มแล้วมาชงให้พี่ชมว่ารสชาติดีมาก”

มุมปากของกรรฐ์พลันกดลึกปรากฏเป็นรอยยิ้มที่มองแล้วแฝงไปด้วยความเสเพลอยู่หลายส่วนเมื่อได้ยินคำพูดยียวนคล้ายต้องการหาเรื่องเขาของอีกฝ่ายก่อนที่ดวงตาดอกท้อที่เจือรอยยิ้มบางเบาจะสบเข้ากับสายตาที่แฝงไปด้วยความน้อยใจราวกับได้รับความไม่เป็นธรรมของเด็กหนุ่มนิ้วเรียวยาวขาวราวหยกงามเคาะลงบนเคาน์เตอร์บาร์เบาๆราวกับกำลังใช้ความคิด

“อืม ฉันจะสอนนายเองรับรองว่ารสชาติดีกว่าแก้วนี้ที่นายชงแน่นอน”

ความยินดีพลันฉายชัดอยู่ในดวงตาของเด็กหนุ่มก่อนที่มันจะจางหายไปอย่างรวดเร็วดวงตาของไวน์หรี่ลงเล็กน้อยพร้อมจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้าอย่างคลางแคลงใจนี่เขาพูดจริงจากใจหรือว่าพูดเล่นเอาฮากันแน่อย่างเขาเนี่ยนะจะชงค็อกเทลเป็น ?

“ทำหน้าแบบนี้ไม่เชื่ออะดิ หึ นายคิดว่าคนอย่างฉันมีดีแค่หน้าตาหรือไงลองนายได้รู้จักฉันจริงๆนิ้วมือสิบนิ้วยังไม่พอให้นับถึงความสามารถที่มีของฉันเลย”

คำพูดโอ้อวดของพี่ชายรูปหล่อทำให้ไวน์เผลอเบะปากท่าทางของเด็กหนุ่มในตอนนี้คล้ายกำลังบอกให้กรรฐ์เลิกพูดเรื่องไร้สาระสักทีเถอะเขาทนฟังต่อไปไม่ไหวอีกแล้วกรรฐ์ที่เห็นว่าเด็กหนุ่มไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูดก็ไม่อยากเสียเวลาพูดมากอีกต่อไปเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินอ้อมไปยังด้านหลังเคาน์เตอร์แล้วยกนิ้วชี้บอกให้ไวน์หลบไปซึ่งไวน์ก็ยอมถอยหลบไปยืนอยู่ด้านหลังเขาแต่โดยดี

ดวงตาคู่คมไล่มองส่วนผสมที่อยู่ตรงหน้าพร้อมยื่นมือที่ขาวราวกับหยกชั้นดีหยิบแก้วจากที่วางมาใบหนึ่งก่อนที่กรรฐ์จะเริ่มผสมเหล้าตามสูตรด้วยความรวดเร็วโดยที่ไม่มีการวัดตวงใดๆทั้งสิ้นเขาอาศัยการคาดคะเนจากสายตาที่ผ่านการชงค็อกเทลมานับครั้งไม่ถ้วนและเทส่วนผสมของค็อกเทลที่มีชื่อเรียกว่า Singapore Sling ลงไปในแก้วด้วยความรวดเร็วกรรฐ์ใช้เวลาเพียงห้านาทีก็ผลักแก้วเหล้าที่เสร็จเรียบร้อยมาตรงหน้าของไวน์ที่กำลังยืนอึ้งด้วยความตกใจ

นะ นี่จะเป็นไปได้อย่างไรกันเครื่องดื่มแต่ละแก้วตัวเขาเองยังใช้เวลาสิบถึงสิบห้านาทีขนาดพี่ตะวันที่สอนเขายังใช้เวลาตั้งสิบนาทีแต่ผู้ชายคนนี้กลับใช้เวลาเพียงห้านาทีแถมสายตาของเขายังดีมากอีกด้วยเทส่วนผสมลงไปโดยที่ไม่มีการวัดตวงที่สำคัญไม่มีการหยิบผิดหรือหยิบสลับเลยแม้แต่น้อยการชงเครื่องดื่มที่รวดเร็วและชำนาญขนาดนี้มีแต่คนที่ผ่านการชงมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นแหละที่สามารถทำได้

“อ้าว มัวแต่ยืนอึ้งอยู่ทำไม ? ลองชิมดูสิ”

ใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์ยกยิ้มจนตาหยีทำเอาไวน์ถึงกับตาพร่าไปชั่วขณะที่ผ่านมาเขาพบเจอกับผู้คนมามากหน้าหลายตาไม่ว่าจะเป็นนักแสดงหรือนักร้องแถวหน้าชื่อดังของวงการแต่ไม่มีใครที่ทำให้ไวน์รู้สึกว่าหน้าตาของเขานั้นหล่อเหลาสะกดตาคนมองได้เท่ากับผู้ชายที่กำลังส่งยิ้มให้เขาคนนี้เลยในใจของเด็กหนุ่มพลันบังเกิดความรู้สึกอิจฉาอยู่เล็กน้อยจนทำให้เขาถึงกับเหม่อไปชั่วขณะ

ป๊อก

“อูย เจ็บ”

นิ้วเรียวที่เคาะลงบนหน้าผากของไวน์ทำให้ความคิดที่กำลังอิจฉาคนตรงหน้าถูกดึงกลับมาไวน์ยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ถูกกรรฐ์ดีดด้วยความเจ็บ

“จ้องหน้าฉันตาไม่กระพริบแบบนี้แอบชอบกันอยู่หรือไง หืม ?”

คำพูดชวนขนหัวลุกของกรรฐ์ทำให้ไวน์ถอยออกห่างจากเขาเล็กน้อยปากก็เอ่ยแก้ตัวด้วยความร้อนรน

“ผมไม่ได้แอบชอบพี่สักหน่อยถึงพี่จะหน้าตาดีกว่าผู้ชายทุกคนที่ผมเคยเจอแต่ผมผู้ชายทั้งแท่งนะครับ”

“อ้อ ไอ้เราก็นึกว่าจะแอบชอบกันแล้วซะอีก”

กรรฐ์เอ่ยสัพยอกเด็กหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดวงตาดอกท้อคู่งามเจือไปด้วยรอยยิ้มที่ชวนให้คนหลงใหลก่อนที่เขาจะดันแก้วเหล้ามาตรงหน้าของไวน์ที่รีบยื่นมือไปหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบทันทีที่ลิ้นของเขาสัมผัสกับรสชาติของเหล้าที่หอมหวานดวงตาของไวน์พลันเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง

‘เหล้าแก้วนี้รสชาติดีเกินไปแล้ว’

“อืม รสชาติดีมาก”

ไวน์เอ่ยขึ้นอย่างไม่ตระหนี่ถี่เหนียวคำชมในขณะที่คนถูกชมก็พยักหน้ารับอย่างไม่เกรงใจเช่นกัน

“เหล้ารสชาติจะดีหรือไม่ดีก็ต้องดูด้วยว่าใครเป็นคนชง”

กรรฐ์เอ่ยชื่นชมตัวเองอย่างไม่นึกกระดากปากเลยแม้แต่น้อยในขณะที่ไวน์เองก็ต้องยอมรับว่าฝีมือการชงเหล้าของพี่ชายรูปหล่อคนนี้นั้นดีมากจริงๆ

“ผมขอฝากเนื้อฝากตัว...”

“Dry Martini แก้วหนึ่งค่ะ”

ในขณะที่ไวน์กำลังจะเอ่ยขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของกรรฐ์เสียงหวานใสก็ดังขึ้นแทรกเข้ามาก่อนทำเอาเด็กหนุ่มถึงกับชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันไปมองยังมาผู้มาใหม่ที่ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ด้วยท่าทางเกียจคร้านแต่กลับชวนให้คนมองไม่อาจละสายตาจากไปได้ มินตราฟุบใบหน้าลงบนเคาน์เตอร์บาร์อย่างไม่คิดที่จะรักษาภาพลักษณ์ให้ดูดีต่อให้มีคนแอบถ่ายรูปของเธอไปนั่งเทียนเขียนข่าวในทางที่ไม่ดีเธอก็ไม่คิดจะสนใจคนอย่างเธอเคยสนใจพวกข่าวไร้สาระแบบนั้นที่ไหนกัน

ดวงตาดอกท้อคู่งามของกรรฐ์พลันยกยิ้มจนตาหยีโค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยวเมื่อเห็นว่าลูกค้าที่เข้ามาใหม่คือใครก่อนที่รอยยิ้มแห่งความพึงพอใจจะหุบลงทันทีเมื่อเห็นว่าไวน์กำลังหรี่ตาจ้องมาที่เขาด้วยสายตาจับผิดในที่สุดคนที่เขารอคอยก็มาถึงสักทีกรรฐ์ยื่นมือไปผลักไวน์ให้หลบพ้นทางก่อนที่เขาจะลงมือชง Dry Martini ให้มินตราด้วยตัวเอง

“Dry Martini ได้แล้วครับ”

น้ำเสียงที่ฟังดูคุ้นหูทำให้มินตราที่จิตใจกำลังห่อเหี่ยวค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาดวงตาคู่สวยที่ดูไม่สบอารมณ์พลันเปลี่ยนเป็นความความตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นว่าใครที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ

“ไหนคุณบอกว่าไม่ว่างไงแล้วใครกันน้าที่ยืนอยู่ตรงหน้ามีนตอนนี้ ?”

มินตราเท้าคางจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์ด้วยแววตากรุ้มกริ่มนิ้วมือพลันยื่นไปจิ้มหน้าอกของเขาอย่างต้องการหยอกล้อในขณะที่ไวน์เลิกคิ้วจ้องหน้ามินตราและกรรฐ์สลับกันไปมาด้วยแววตาสนใจใคร่รู้หน้าตาท่าทางที่ดูผิดปกติของทั้งคู่ทำให้ไวน์แอบคาดเดาอยู่ในใจว่าทั้งคู่ต้องมีซัมติงกันอย่างแน่นอนไวน์ฟันธง!

“ตอนนั้นผมไม่ว่างจริงๆนี่นาแต่ว่าตอนนี้ว่างแล้วครับแถมยังว่างทั้งคืนไปจนถึงเช้า”

คำตอบที่แฝงไปด้วยความนัยของกรรฐ์ทำให้หัวใจของมินตราเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอกในใจพลันคาดหวังถึงบางสิ่งบางอย่างด้วยความรู้สึกตื่นเต้นดีใจจนแทบอยากจะเผยรอยยิ้มกว้างออกมาด้วยความยินดีแต่สุดท้ายก็จำต้องเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้แล้วแสร้งทำเป็นแง่งอนอย่างน่ารักน่าเอ็นดูชวนให้หัวใจของกรรฐ์รู้สึกคันยุบยิบราวกับมีมดนับพันกำลังไต่ไปมา

“เหอะ คนโกหกเป็นห่วงมีนก็บอกมาเถอะไม่ต้องทำมาเป็นปากแข็ง”

มินตราย่นจมูกใส่คนหน้าตายด้วยความหมั่นไส้ก่อนที่เธอจะยกแก้วเหล้ากระดกรวดเดียวหมดแก้วโดยที่หน้าไม่เปลี่ยนสีทั้ง ๆ ที่ความขมปร่าแสบคอกำลังไหลลงสู่กระเพาะชวนให้ร่างกายรู้สึกร้อนวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก

“อืม ผมโกหกคุณจริงๆนั้นแหละความจริงแล้วผมเป็นห่วงคุณมาก”

เมื่อได้ยินกรรฐ์ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาอารมณ์ของมินตราก็พลันดีขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัดบรรยากาศรอบตัวคล้ายกับมีดอกไม้ผลิบานส่งกลิ่นหอมฟุ้งเต็มไปหมด

“ในที่สุดคุณก็ยอมรับแล้วเป็นห่วงมีน”

มินตราแย้มยิ้มด้วยความเบิกบานใจอย่างถึงที่สุดก่อนที่เธอจะกลับมานั่งเท้าคางจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์ด้วยแววตาหลงใหลในขณะที่กรรฐ์เองก็ไม่ได้หลบเลี่ยงสายตาที่ร้อนแรงของเธอแต่อย่างใด

“เฮ้อ หล่อเกินไปจนใจเจ็บมีนหลงคุณจนโงหัวไม่ขึ้นแล้วรู้ไหมคะ ?”

มินตราสารภาพความในใจออกมาอย่างไร้ซึ่งความเขินอายก่อนที่เธอจะยกนิ้วชี้โบกไปมาทำให้ไวน์ที่ลอบสังเกตท่าทีของหนุ่มสาวทั้งสองคนอยู่ห่างๆพลันเข้าใจความหมายที่มินตราต้องการจะสื่อในทันที

“เพิ่งดื่มไปแก้วเดียวก็เพ้อนี่คุณกำลังเมาเหล้าหรือเมารักกันแน่ ?”

คำพูดของหยอกล้อมินตราของกรรฐ์ทำให้มือของไวน์ที่กำลังชงค็อกเทลถึงกับชะงักนี่เขากำลังได้ยินเรื่องอะไรกันคำพูดนี้ของลูกพี่กรรฐ์หมายความว่าคุณมินตรากำลังตำหลุมรักลูกพี่ของเขาใช่ไหม ?

"แน่นอนว่าต้องเมารักอยู่แล้วแถมยังเมาหนักมากด้วยคุณว่ามีนต้องทำยังไงดีถึงจะสร่างจากอาการเมารักในครั้งนี้ได้ ?"

วาจาที่ฟังดูคล้ายสาวน้อยที่กำลังเพ้อเพราะตกอยู่ในห้วงแห่งความรักของมินตราทำให้ความรู้สึกลำคอแห้งผากของกรรฐ์กลับมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะยื่นมือไปหยิบค็อกเทลที่วางอยู่ข้างกายขึ้นมาดื่มเพื่อดับความรู้สึกร้อนรุ่มที่เต็มไปด้วยความกระหายอยากในบางสิ่งบางอย่าง

"เมาเหล้านอนตื่นเดียวก็หายแต่ถ้าเมารักก็คงต้องนอนกับผมแล้วล่ะคุณถึงจะหายเมา"

ดวงตาของมินตราพลันเบิกกว้างเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำตอบของกรรฐ์ดังขึ้นอยู่ข้างใบหูอย่างชัดเจนลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่ค่อยๆผละจากไปทำให้มินตรารู้สึกอาวรณ์อย่างไม่บอกไม่ถูกทันใดนั้นมินตราก็ยื่นมือไปหยิบแก้วเหล้าที่วางอยู่ตรงหน้าขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมดแก้วก่อนที่เธอจะเงยหน้าเรียวเล็กขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของกรรฐ์พร้อมเอ่ยถามถึงสิ่งที่เธอเพิ่งตัดสินใจไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย

“คุณ..อึก นอนด้วยกันไหม ? “

กรรฐ์รู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินคำถามของมินตราเขาไม่คิดเลยว่าคำพูดล้อเล่นของตัวเองจะทำให้เธอคิดจริงจังถึงขั้นตัดสินใจเอ่ยชวนเขาด้วยแววตาที่ทั้งดื่มด่ำและลุ่มหลงในตัวเขาเช่นนี้

“อืม เอาสิ สดหรือใส่ถุงดีล่ะ? “

ดวงตาคู่สวยที่ติดตรึงอยู่บนใบหน้าของกรรฐ์พลันเบิกกว้างเมื่อได้ยินคำตอบของเขาริมฝีปากอวบอิ่มของเธอเผยอเล็กน้อยด้วยความตกใจกว่าจะรู้ตัวว่าหลุดปากพูดอะไรออกไปอ้อมแขนที่แข็งแกร่งของเขาก็พันธนาการเธอเอาไว้ในอ้อมกอดเสียแล้ว

“ชวนผมขึ้นเตียงแล้วห้ามกลับคำคนอย่างผมพูดแล้วต้องทำต่อให้คุณรู้สึกเสียใจทีหลังก็ช่วยไม่ได้”

กรรฐ์ไม่ให้เวลามินตราได้คิดทบทวนคำพูดของเธอเลยสักนิดเขาหยิบการ์ดสีดำใบหนึ่งวางลงตรงหน้าเด็กหนุ่มที่เพิ่งกลับเข้ามาพร้อมโอบเอวมินตราที่ยังคงอยู่ในอาการสับสนและมึนงงเดินจากไปส่วนไวน์ที่เพิ่งมาถึงได้แต่ยกมือขึ้นเกาศีรษะพร้อมมองแผ่นหลังของทั้งคู่ที่เดินจากไปด้วยความงุนงง

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY