จะทำยังไงเมื่อชาติก่อนก็มีชีวิตครอบครัวที่บัดซบถูกสามีนอกใจ มาภพนี้กลับมาอยู่ร่างของผู้หญิงที่หนีไปชู้อีก ทั้งที่เธอมีลูกที่แสนน่ารักและสามีที่แสนน่ากิน!!
จะทำยังไงเมื่อชาติก่อนก็มีชีวิตครอบครัวที่บัดซบถูกสามีนอกใจ มาภพนี้กลับมาอยู่ร่างของผู้หญิงที่หนีไปชู้อีก ทั้งที่เธอมีลูกที่แสนน่ารักและสามีที่แสนน่ากิน!!
ท่ามกลางผู้คนมากมายในโรงพยาบาลทั้งคนไข้ ญาติผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างเดินไปเดินมาแทบจะชนกัน มีผู้หญิงคนหนึ่งร่างกายผอมบางพึ่งออกมาจากออกตรวจใบหน้าเศร้าสร้อย แววตาเหม่อลอย ค่อย ๆ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างไม่คิดอายใคร น้ำตาค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาจากขอบตาอย่างไม่อดกลั้นเอาไว้ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นไหลออกมาอย่างพรั่งพรู สะอื้นเสียงดังอย่างไม่แคร์สายตาคนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมา พลางนึกตัดพ้อชีวิตที่แสนจะบัดซบของตัวเอง…. “ทำไมชีวิตแกถึงซวยขนาดนี้เจ้าซูเยี่ย ฮึก….ฮือ”
ซูเยี่ย ผู้หญิงที่จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของความโชคร้ายมาเกือบทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเธอพึ่งจะทำใจเรื่องแท้งลูกเมื่อปีที่แล้วได้ไม่นาน ตอนนั้นเธอเกือบจะเป็นโรคซึมเศร้าแต่ก็รอดมาได้ แต่วันนี้เธอกลับมาได้รับข่าวร้ายจากหมออีกครั้งว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ซึ่งความหวังมีเพียง 5% เท่านั้นที่จะรักษาหายขาดได้ ซึ่งสาเหตุที่ซูเยี่ยเป็นโรคนี้นั้นเพราะเธอมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจมาตั้งแต่เกิด แต่เธอก็รักษาตัวเองเป็นอย่างดีมาตลอดจนกระทั่งเธอแต่งงานมีครอบครัว เธอก็แทบไม่มีเวลาที่จะได้ดูแลตัวเองอีกเลย
เนื่องจากซูเยี่ยต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูสามีที่ไม่ยอมทำงาน นั่งกินนอนกินไปวัน ๆ แถมยังชอบนอกใจเธออยู่บ่อย ๆ โดยการชอบพาผู้หญิงมานอนที่บ้านในตอนที่เธอออกไปทำงาน ถึงแม้ว่าซูเยี่ยจะยังไม่เคยจับได้แบบคาหนังคาเขาเลยสักครั้ง แต่ชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงก็คอยสอดส่องให้อยู่แทบจะทุกวันทุกเวลา พอซูเยี่ยกลับมาจากทำงานต่างก็พลัดกันมาเล่าให้ฟังไม่เว้นวัน แต่พอซูเยี่ยไปถามเอาความจริงจากสามี มีเหรอที่สามีตัวร้ายจะยอมรับง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังตอกหน้าเธอกลับมาจนเธอต้องยอมแพ้ ไม่เช่นกันก็จะทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีก
“ฮึก….ทำไมชีวิตของฉันมันถึงได้ซวยขนาดนี้ แค่ก ๆ” ด้วยความที่ร้องไห้หนักเกินไปทำให้ซูเยี่ยที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดอยู่แล้วสำลักน้ำหูน้ำตาของตัวเองจนไอออกมาจึงเอามือป้องปากตอนไอ แต่สิ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้นตอนที่เธอเอามือออกมีน้ำสีแดงสดกระจายอยู่เต็มหน้ามือ….ซูเยี่ยเธอไอออกมาเป็นเลือด
ซูเยี่ยทั้งตกใจและรับไม่ได้กับสิ่งที่เห็นจึงรีบดันตัวเองลุกขึ้นแล้วหอบสังขารของตัวเองกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องน้ำ
หลังจากที่ซูเยี่ยล้างไม้ล้างมือที่เปื้อนเลือดเรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้เอาน้ำมาลูบหน้าของตัวเองด้วย ก่อนจะมองตัวเองในกระจกอย่างพิจารณา ใบหน้าของเธอที่ซีดเซียวไร้เครื่องสำอางค์แต่งเติม โหนกแก้มขึ้นเป็นสัน ที่หน้าอกก็เห็นซี่โครงขึ้นครบทุกซี่จนดูน่ากลัว ผมเผ้าถูกจัดอยู่ในทรงผมม้วนขึ้นแบบง่าย ๆ เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็เป็นเพียงเสื้อยืด กางเกงยีนส์ธรรมดา
นี่ฉันปล่อยตัวให้โทรมขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย….ซูเยี่ยคิดในใจ แต่จะมาคิดได้ในตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว การที่ซูเยี่ยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายนั้นก็แปลว่าเธอจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นานถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตของซูเยี่ยเหมือนอยู่ไปแบบไร้จุดหมายจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่อาจรู้ได้
พอคิดไปคิดมาน้ำตาก็พลันจะเอ่อล้นไหลออกมาอีกครั้ง แต่พอมีคนมาเข้าในห้องน้ำ ซูเยี่ยก็รีบปาดน้ำตาแล้วออกจากห้องน้ำไปทันที
….ซูเยี่ยกลับมาที่บ้านไวกว่าปกติ เนื่องจากวันนี้เธอไปทำงานแล้วเป็นลมหมดสติจึงถูกหามส่งโรงพยาบาลและก็เจอว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายนั่น
ซูเยี่ยค่อย ๆ เลื่อนเปิดประตูรั้วอย่างหมดแรง คอตกตั้งแต่ออกจากห้องตรวจตอนนี้ก็ยังตกอยู่อย่างนั้น เหมือนกับว่าชีวิตของเธอมันมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าอีกแล้ว
ซูเยี่ยเดินมาถึงประตูหน้าบ้านแต่สายตาไปสะดุดที่รองเท้าคู่หนึ่งถูกถอดวางไว้เหมือนเร่งรีบที่จะเข้าไปในบ้าน ซึ่งรองเท้าคู่นี้มันไม่ใช่รองเท้าของเธอ เธอจำรองเท้าของเธอได้เพราะเธอมีรองเท้าเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น เนื่องจากกำลังทรัพย์ที่ไม่ได้มีมากล้น
พอเห็นแบบนี้ซูเยี่ยก็มีกำลังขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เธอเปิดประตูเข้าไปในบ้านและค่อย ๆ เดินย่องเข้าไปอย่างเงียบ ๆ พอบรรยากาศในบ้านมันเงียบสงัด ซูเยี่ยก็ได้ยินเสียงหญิงชายกำลังคุยกันหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกดังมาจากห้องนอนของเธอกับสามี
พอได้ยินแบบนี้หัวใจของซูเยี่ยก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีเหมือนมีดพร้านับสิบมาทิ่มแทงลงกลางหัวใจ ในหัวมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม ทำไมชีวิตของเธอต้องมาเจอเรื่องที่เลวร้ายขนาดนี้ด้วย ความฝันที่จะมีชีวิตครอบครัวที่สวยงามมันพังทลายลงไปกับตา
ซูเยี่ยทำใจแข็งค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูห้องเปิดออก พอประตูห้องถูกเปิดเท่านั้นชายหญิงในห้องที่กำลังนั่งกอดพลอดรักกันอย่างไม่ละอายแก่ใจก็หันขวับมามองที่เธอเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่เบิกโพลงก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนพร้อมกันโดยอัตโนมัติ
“ซะ ซะ ซูเยี่ย”
“นี่คุณพาผู้หญิงมานอนในห้องนอนของเราเลยเหรอ!”
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
เพราะข้าอ้วนท่านอ๋องเลยไม่อยากแต่งกับข้าใช่ไหม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด