จะทำยังไงเมื่อชาติก่อนก็มีชีวิตครอบครัวที่บัดซบถูกสามีนอกใจ มาภพนี้กลับมาอยู่ร่างของผู้หญิงที่หนีไปชู้อีก ทั้งที่เธอมีลูกที่แสนน่ารักและสามีที่แสนน่ากิน!!
จะทำยังไงเมื่อชาติก่อนก็มีชีวิตครอบครัวที่บัดซบถูกสามีนอกใจ มาภพนี้กลับมาอยู่ร่างของผู้หญิงที่หนีไปชู้อีก ทั้งที่เธอมีลูกที่แสนน่ารักและสามีที่แสนน่ากิน!!
ท่ามกลางผู้คนมากมายในโรงพยาบาลทั้งคนไข้ ญาติผู้ป่วย และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลต่างเดินไปเดินมาแทบจะชนกัน มีผู้หญิงคนหนึ่งร่างกายผอมบางพึ่งออกมาจากออกตรวจใบหน้าเศร้าสร้อย แววตาเหม่อลอย ค่อย ๆ ทรุดตัวนั่งลงกับพื้นอย่างไม่คิดอายใคร น้ำตาค่อย ๆ เอ่อล้นออกมาจากขอบตาอย่างไม่อดกลั้นเอาไว้ ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นไหลออกมาอย่างพรั่งพรู สะอื้นเสียงดังอย่างไม่แคร์สายตาคนที่กำลังเดินผ่านไปผ่านมา พลางนึกตัดพ้อชีวิตที่แสนจะบัดซบของตัวเอง…. “ทำไมชีวิตแกถึงซวยขนาดนี้เจ้าซูเยี่ย ฮึก….ฮือ”
ซูเยี่ย ผู้หญิงที่จัดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของความโชคร้ายมาเกือบทั้งชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเธอพึ่งจะทำใจเรื่องแท้งลูกเมื่อปีที่แล้วได้ไม่นาน ตอนนั้นเธอเกือบจะเป็นโรคซึมเศร้าแต่ก็รอดมาได้ แต่วันนี้เธอกลับมาได้รับข่าวร้ายจากหมออีกครั้งว่าเธอป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ซึ่งความหวังมีเพียง 5% เท่านั้นที่จะรักษาหายขาดได้ ซึ่งสาเหตุที่ซูเยี่ยเป็นโรคนี้นั้นเพราะเธอมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจมาตั้งแต่เกิด แต่เธอก็รักษาตัวเองเป็นอย่างดีมาตลอดจนกระทั่งเธอแต่งงานมีครอบครัว เธอก็แทบไม่มีเวลาที่จะได้ดูแลตัวเองอีกเลย
เนื่องจากซูเยี่ยต้องทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูสามีที่ไม่ยอมทำงาน นั่งกินนอนกินไปวัน ๆ แถมยังชอบนอกใจเธออยู่บ่อย ๆ โดยการชอบพาผู้หญิงมานอนที่บ้านในตอนที่เธอออกไปทำงาน ถึงแม้ว่าซูเยี่ยจะยังไม่เคยจับได้แบบคาหนังคาเขาเลยสักครั้ง แต่ชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงก็คอยสอดส่องให้อยู่แทบจะทุกวันทุกเวลา พอซูเยี่ยกลับมาจากทำงานต่างก็พลัดกันมาเล่าให้ฟังไม่เว้นวัน แต่พอซูเยี่ยไปถามเอาความจริงจากสามี มีเหรอที่สามีตัวร้ายจะยอมรับง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังตอกหน้าเธอกลับมาจนเธอต้องยอมแพ้ ไม่เช่นกันก็จะทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โตอีก
“ฮึก….ทำไมชีวิตของฉันมันถึงได้ซวยขนาดนี้ แค่ก ๆ” ด้วยความที่ร้องไห้หนักเกินไปทำให้ซูเยี่ยที่มีปัญหาเกี่ยวกับปอดอยู่แล้วสำลักน้ำหูน้ำตาของตัวเองจนไอออกมาจึงเอามือป้องปากตอนไอ แต่สิ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้นตอนที่เธอเอามือออกมีน้ำสีแดงสดกระจายอยู่เต็มหน้ามือ….ซูเยี่ยเธอไอออกมาเป็นเลือด
ซูเยี่ยทั้งตกใจและรับไม่ได้กับสิ่งที่เห็นจึงรีบดันตัวเองลุกขึ้นแล้วหอบสังขารของตัวเองกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องน้ำ
หลังจากที่ซูเยี่ยล้างไม้ล้างมือที่เปื้อนเลือดเรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้เอาน้ำมาลูบหน้าของตัวเองด้วย ก่อนจะมองตัวเองในกระจกอย่างพิจารณา ใบหน้าของเธอที่ซีดเซียวไร้เครื่องสำอางค์แต่งเติม โหนกแก้มขึ้นเป็นสัน ที่หน้าอกก็เห็นซี่โครงขึ้นครบทุกซี่จนดูน่ากลัว ผมเผ้าถูกจัดอยู่ในทรงผมม้วนขึ้นแบบง่าย ๆ เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ก็เป็นเพียงเสื้อยืด กางเกงยีนส์ธรรมดา
นี่ฉันปล่อยตัวให้โทรมขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย….ซูเยี่ยคิดในใจ แต่จะมาคิดได้ในตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้ว การที่ซูเยี่ยเป็นโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายนั้นก็แปลว่าเธอจะมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้อีกไม่นานถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ ชีวิตของซูเยี่ยเหมือนอยู่ไปแบบไร้จุดหมายจะตายวันตายพรุ่งก็ไม่อาจรู้ได้
พอคิดไปคิดมาน้ำตาก็พลันจะเอ่อล้นไหลออกมาอีกครั้ง แต่พอมีคนมาเข้าในห้องน้ำ ซูเยี่ยก็รีบปาดน้ำตาแล้วออกจากห้องน้ำไปทันที
….ซูเยี่ยกลับมาที่บ้านไวกว่าปกติ เนื่องจากวันนี้เธอไปทำงานแล้วเป็นลมหมดสติจึงถูกหามส่งโรงพยาบาลและก็เจอว่าตัวเองเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายนั่น
ซูเยี่ยค่อย ๆ เลื่อนเปิดประตูรั้วอย่างหมดแรง คอตกตั้งแต่ออกจากห้องตรวจตอนนี้ก็ยังตกอยู่อย่างนั้น เหมือนกับว่าชีวิตของเธอมันมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าอีกแล้ว
ซูเยี่ยเดินมาถึงประตูหน้าบ้านแต่สายตาไปสะดุดที่รองเท้าคู่หนึ่งถูกถอดวางไว้เหมือนเร่งรีบที่จะเข้าไปในบ้าน ซึ่งรองเท้าคู่นี้มันไม่ใช่รองเท้าของเธอ เธอจำรองเท้าของเธอได้เพราะเธอมีรองเท้าเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น เนื่องจากกำลังทรัพย์ที่ไม่ได้มีมากล้น
พอเห็นแบบนี้ซูเยี่ยก็มีกำลังขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เธอเปิดประตูเข้าไปในบ้านและค่อย ๆ เดินย่องเข้าไปอย่างเงียบ ๆ พอบรรยากาศในบ้านมันเงียบสงัด ซูเยี่ยก็ได้ยินเสียงหญิงชายกำลังคุยกันหยอกล้อหัวร่อต่อกระซิกดังมาจากห้องนอนของเธอกับสามี
พอได้ยินแบบนี้หัวใจของซูเยี่ยก็รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาทันทีเหมือนมีดพร้านับสิบมาทิ่มแทงลงกลางหัวใจ ในหัวมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม ทำไมชีวิตของเธอต้องมาเจอเรื่องที่เลวร้ายขนาดนี้ด้วย ความฝันที่จะมีชีวิตครอบครัวที่สวยงามมันพังทลายลงไปกับตา
ซูเยี่ยทำใจแข็งค่อย ๆ บิดลูกบิดประตูห้องเปิดออก พอประตูห้องถูกเปิดเท่านั้นชายหญิงในห้องที่กำลังนั่งกอดพลอดรักกันอย่างไม่ละอายแก่ใจก็หันขวับมามองที่เธอเป็นตาเดียวด้วยสายตาที่เบิกโพลงก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนพร้อมกันโดยอัตโนมัติ
“ซะ ซะ ซูเยี่ย”
“นี่คุณพาผู้หญิงมานอนในห้องนอนของเราเลยเหรอ!”
จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”
นางถูกขับไล่ออกจากสกุลสามี คนพวกนั้นให้เหตุผลว่านางเป็นตัวซวยทำให้สามีสอบไม่ผ่าน หากแต่ออกมาได้สามวัน เขากลับแขวนโคมไฟสีแดง รับเกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวน!!
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
มีข่าวลือว่า ลูกเลี้ยงของตระกูลเสิ่นทำทุกอย่างเพื่อเข้าวงการแต่งงานกับตระกูลหลิน หลังจากถูกหลินอี้ฟานทิ้ง เธอก็เล็งไปที่หลินเหยียนเซิง แต่ไม่มีใครรู้ว่า ก่อนแต่งงาน เบ่ยหลินถูกหลินเหยียนเซิงวางแผนอย่างไร้ปรานี เมื่อเป็นคุณนายหลินในขณะตั้งครรภ์ เบ่ยหลินเพียงหวังว่าจะได้คลอดลูกอย่างปลอดภัย แม้วันแต่งงานวันแรกหลังจากนั้น จะมีข่าวลือกับรักเก่าของเขาเป็นที่พูดถึงกันทั่วเมือง เธอก็ยังคงเฉยเมย และยังส่งข้อความไปเตือนให้เขาระวังเรื่องปิดม่านครั้งหน้า แต่คืนนั้น เบ่ยหลินก็ถูกเขาดักไว้ที่มุมกำแพง “ภรรยาที่รัก ผมผิดไปแล้ว...” หลังแต่งงาน หลินเหยียนเซิงถึงได้รู้ว่า ที่แท้เมียของเขานั้นยากที่จะเอาอกเอาใจขนาดไหน
© 2018-now MeghaBook
บนสุด