“เฮ้อ... ฉันจะต้องบอกให้ทางฝ่ายบุคคลให้รีบหาเลขาฯ ให้กับเขา เร็วที่สุดแล้วล่ะ ไม่น่าไปรับปากตอนที่ทางนั้นมาขอให้เธอทำงานให้เลย” คุณขวัญทิพย์บ่น
“ยังไม่ต้องก็ได้ค่ะ มีนยังทำได้อยู่ อีกอย่างช่วงนี้ เศรษฐกิจไม่ค่อยดี มีนคิดว่า ช่วยกันได้ก็ช่วยกันไปค่ะ” พูดออกไปแบบมีน้ำใจ
“ย่ะ แม่น้ำใจงาม แต่อย่าทำให้งานที่ฉันสั่งเธอเสียก็แล้วกัน” ทำหน้าเง้างอดออกมา
“ไม่มีแน่นอนค่ะ งานของคุณขวัญที่สั่งมีนทั้งเมื่อวานและก็วันนี้ มีนได้นำไปวางเอาไว้ที่บนโต๊ะแล้วนะคะ” พูดเอาอกเอาใจเจ้านาย
“ที่ฉันพูดน่ะ ก็เพราะว่า ฉันเป็นห่วงเธอหรอกน่า เอ้า... แล้วนี่ สรุปจะไม่ไปกินข้าวเที่ยงจริง ๆ หรือ” คุณขวัญทิพย์ก็ยังถอนหายใจออกมาอีก และถามด้วยความเป็นห่วงเธออีกครั้ง
มณียาจึงยกเอานมและน้ำผลไม้ และซาลาเปาที่พลวัตซื้อมาฝากชูให้คุณขวัญทิพย์เห็น
“อ้อ... ยังดีนะ ที่เขายังมีน้ำใจ ซื้อนั่นนี่มาฝาก”
“แค่นี้ก็อิ่มแล้วค่ะ ซาลาเปาตั้งสองลูก”
“เอาไงก็เอา กินก่อนทำงานให้เขาก็แล้วกัน ฉันไปก่อนนะ”
“ค่ะคุณขวัญ”
เมื่อคุณขวัญทิพย์พ้นไปแล้ว มณียาก็หยิบมือถือของตัวเองออกมาจากลิ้นชัก แล้ววางเอาไว้ที่ตั้งมือถือเปิดกล้องเตรียมพร้อมที่จะถ่ายรูปหรือว่าอัดวิดีโอ ก่อนจะแกะหลอดดูดเสียบลงไปที่นม หยิบซาลาเปาขึ้นมาหนึ่งลูก จัดการกดถ่ายวิดีโอในมือถือ กินซาลาเปาคำ แล้วดื่มนมไปอีกอึกหนึ่ง แล้วโพสต์ในติ๊กต๊อกพร้อมกับลงแคปชัน
(แฟนซื้อมาให้อะ บอกได้คำเดียวว่าอร่อย #น้องมีมโนแรงค่ะ)
‘ทุกคนจะต้องอิจฉาฉันแน่ ๆ เลย’ หญิงสาวยิ้มสวย ๆ ให้กับตัวเอง ในหัวใจพองโต
ทุกครั้งที่พลวัตเข้ามาหาเธอ เขามักมีอะไรติดมือมาฝากเสมอ ชายหนุ่มชอบเข้ามาใกล้ ๆ แล้วก็คลอเคลีย บางทีก็เบียดชิดหัวไหล่กระแซะกับมณียาจนทำให้เธอต้องเอาเขากลับไปนอนฝันแทบทุกคืน
ในจังหวะนั้น เสียงเตือนว่ามีข้อความเข้าก็ดังขึ้น
(ใครซื้ออะไรมาให้แก นางมีน) กวิตาหรือ ตาหวาน เพื่อนสาวคนสนิทตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกันส่งข้อความเข้ามาในทันทีที่เห็นเพื่อนรักลงแคปชันและรูปนั้น
(ไม่บอก) ยิ้มปากจะฉีกถึงหู
(คนนั้นอีกล่ะสิ ใช่ไหม) เพื่อนดักทางแบบรู้ทัน
(แก วันนี้เขาเปลี่ยนน้ำหอมกลิ่นใหม่ด้วยแหละ พอได้กลิ่นนะ ต่อมกระสันฉันมันสั่นระริก ๆ)
(อุบาทว์จริง ๆ นะแก 555++) กวิตาด่าให้
(ต่อหน้าเขาแกกล้าพูดอะไรอย่างนี้หรือเปล่าหึ... ยายมีน)
(ใครจะกล้ายะ)
(ก็นั่นนะสิ) พร้อมสติกเกอร์แบะปากมองบน
(แกระวังเอาไว้น่า ผู้ชายหล่อ หน้าตาดีน่ะ ส่วนใหญ่ไม่ว่าง)
(ฉันไปเช็กมาหมดแล้ว เขายังไม่มีใคร)
(เชื่อได้หรือ)
ตอนที่กำลังจะพิมพ์ข้อความตอบไปให้กับกวิตา พลวัตก็ส่งข้อความเข้ามาในมือถือของเธอด้วย
(คุณมีนครับ งานที่ผมรบกวนให้คุณมีนทำเสร็จหรือยังครับ ผมต้องไปพรีเซนต์ให้ลูกค้าดูตอนบ่ายสอง) แล้วมีสติกเกอร์ผู้ชายลูบหัวตัวเอง ทำสีหน้าเกรงใจส่งมาให้ด้วย
(เรียบร้อยแล้วค่ะ มีนจะพิมพ์ออกมาจากเครื่องให้เลยนะคะ คุณวัตมารับได้เลยค่ะ)
(โอเคครับ) แต่พลวัตยังไม่หยุดแค่นั้น
(คุณมีนช่างน่ารัก และดีกับผมจริง ๆ ไม่เคยมีใครทำเพื่อผม และดีกับผมเหมือนคุณมาก่อน)
(ผมชอบคุณนะครับ ผมต้องการคุณ)
‘กรี๊ด...’ มณียากรีดร้องอยู่ในใจ ก่อนจะแคปหน้าจอประโยคที่ได้พูดคุยกับเขาส่งไปให้กวิตาดู
(นางตาหวาน แกดูนี่ เขารักฉัน) และสติกเกอร์ตัวการ์ตูนกระโดดเหยง ๆ ไปให้กวิตาด้วย
เพื่อนสาวรีบเปิดอ่าน
(ตรงไหนที่เขาบอกว่ารักแก ฉันยังไม่เห็นเลย)
มณียารีบใช้โปรแกรมแต่งภาพ ทำวงกลมตรงคำว่า ‘ผมชอบคุณนะครับ ผมต้องการคุณ’ ส่งไปให้เพื่อนทันที
(แกตาบอดหรือไง ถึงไม่เห็นตรงนี้)
(เฮ้อ...) สติกเกอร์ถอนหายใจถูกส่งให้มณียาถึงสองที
(ทำใจไว้มั่งนะเว้ย เคยเห็นไหม อีคนที่ถูกหลอกใช้ ผู้ชายประเภทคารมดี ๆ แต่ใจทรามน่ะ)
(มองโลกในแง่ร้าย ฉันรู้หรอกน่าว่า ใครรักใครเกลียด เขาต้องชอบฉันแน่ ๆ เพราะฉันสวย)
(สวยแต่โก๊ะกัง)
(ยายตาหวาน สรุปแกเป็นเพื่อนฉันไหมนี่)
(เพราะว่าฉันเป็นเพื่อนแกนะสิ ฉันถึงเตือนแกไง แกน่ะนะ มีดวงจะถูกผู้ชายหลอก จำไม่ได้เหรอ ตอนที่เราเรียนอยู่ปีสาม แกก็ถูกพี่ชนะหลอก ดีนะ แกไม่เสียตัวให้พี่ชนะ)
ยังไม่ทันที่มณียาจะโต้กลับเพื่อน พลวัตก็เปิดประตูเข้ามาพอดี
“รบกวนคุณมีนจริง ๆ ผมเกรงใจมากครับ เมื่อเช้าในที่ประชุม ผมก็เตือนเรื่องให้เขาหาเลขาฯ ให้ผมได้แล้ว แต่คุณรมณีย์ก็ยังตอบว่า คนที่มาสมัครเยอะอยู่ แต่ไม่มีคุณสมบัติอย่างที่ต้องการ เฮ้อ...” พูดด้วยอาการเหนื่อยหน่าย
“ไม่เป็นไรค่ะ มีนเต็มใจทำให้คุณวัตค่ะ ไม่ได้เหนื่อยอะไรเลยค่ะ” มณียาหันไปหยิบเอกสารที่เธอพิมพ์ออกมาแล้วใส่เข้าไปในแฟ้มที่พลวัตเตรียมมาให้