.....อามูเนส... .. ราชินีที่รักแห่งข้าขอเทพธิดาไอซิส มอบชีวิต อมตะให้ข้าและนาง ...รอ เจ้าอยู่ที่นี่ ตราบ ดวงอาทิตย์อับแสง ..รอเจ้าอยู่ร่วมเดินทางสู่ฟากฟ้า พร้อมกัน” คำขอครั้งสุดท้ายของ..โฮรัส.. ผู้เลื่องชื่อเทพแห่งสงคราม กับเจ้าหญิงผู้ซึ่งตกเป็นเชลย ด้วยจุดเปลี่ยนที่บิดาของอามูเนส ผู้เลอโฉมเลื่องลือไปไกล พ่ายแพ้ให้แก้ฟาโรห์โฮรัสเทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่ เป็นจุดเริ่มต้นของ คำขอต่อเทพแห่งความเป็นอมตะไอซิส คำขอครั้งสุดท้ายจะเป็นจริงไหมและเอวาสาวสวยนักโบราณคดีที่ขุดค้นพบ คำขอนั้นของฟาโรห์โฮรัสจะ สามารถค้นพบความจริงต่างๆได้อย่างไร ล่องลอยไปกับดินแดน ไอยคุปต์ด้วยกันใน...มนตราฟาโรห์...
ความมืดมน ครอบคลุมไปทุกพื้นที่แสงสว่างจากไฟฉาย ส่องสว่างไปเห็นเป็นเพียงวงกลมเล็กๆนำทาง แต่ทว่าก็ทำให้อุ่นใจไม่ใช่น้อย อย่างน้อยก็พอให้ได้พึงพา
“สิ้นสุด ทางเดินเราอาจจะมองเห็นห้องเก็บพระศพของฟาโรห์ กลัวไหมเอวา”
เสียงทุ้มคล้ายจะปลอบโยน ยามที่ต้องเผชิญกับอะไรที่คาดไม่ถึง ใจของเอวาเต้นไม่เป็นจังหวะ ด้วยความตื่นเต้นกลับสิ่งที่จะปรากฏตรงหน้าของเธอและเดม่อนในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แต่กิริยาตรงกันข้ามเธอส่ายหัวไปมาช้าๆ
การก้าวเดินต้องมีความระมัดระวังทุกฝีก้าว กับดักและประตูกลมากมาย ที่ผู้สร้างพีระมิดแห่งนี้ทำไว้เพื่อพวกนักล่าสมบัติและเพื่อปกป้องฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่ที่รอการ ฟื้นคืนชีพ
“ข้างหน้า มีหินปิดทางเข้าไว้” เดม่อนเดินเข้าไปจนใกล้
แสงไฟจากไฟฉายส่องกระทบหินก้อนสีเหลืองอมขาวปิดช่องทางสี่เหลี่ยมไว้มิดชิดไม่มี ทางเล็ดลอดเอวาก้มลงมองที่พื้นรอยต่อระหว่างหินกับพื้นมีการใช้ปูนขาว ฉาบปิดไว้เธอใช้เกียงในมือแซะออกอย่าระมัดระวัง
“ข้างใน มีห้องอย่างแน่นอนไม่ได้ ปิดไว้เพื่อหลอกลวงหากแต่ปิดไว้ด้วยความจงใจ”
เอวา ออกความเห็น เดม่อนออกแรงผลักหินด้วยความเคยชินไม่สะดุ้งสะเทือน
“มีกลไก”
"ตามที่เคยศึกษามาบุตรชายของฟาโรห์หรือผู้ที่จะดำรงตำแหน่งฟาโรห์ คนต่อไปและนักบวชจะเป็นผู้ดึงกลไกปิดผนึก ช่องทางเข้าไว้เราต้องหาทางจัดการกับ กลไกเหล่านั้น"
เดม่อน พยายามอธิบายสิ่งที่ เขาและเธอต่างรู้ดี
“เราคงต้องสำรวจทางสาขาทางอื่น หรือต้องหากลไกให้พบ”
เอวาไม่พูดว่าอย่างไรเพียงแต่พยักหน้าช้าๆ ขนตางอนยาวหลุบตำ เพียงไม่กี่อึดใจ
เธอจะได้พบสิ่งที่ค้นหามานานแต่กลับทำไม่สำเร็จ เดม่อนเดินเข้าไปใกล้จนเกือบประชิดก่อนจะยกไฟฉายส่องไปทั่วแผ่นหิน ไม่มีร่องรอยของการบุกรุก แสดงว่าทั้งคู่คือผู้ค้นพบอย่างแท้จริง เอวาก้าวเข้าไปข้างหน้าบ้างเมื่อดวงตาสีฟ้าใสสบเข้ากับแสงสะท้อน คล้ายประกายของเพชร ตรงมุมซ้ายของก้อนหินไฟฉายในมือ ส่องกระทบแสงสะท้อนนั้นก่อน เอื้อมมือเข้าไปปัดฝุ่นผงที่หนาทึบออกสิ่งที่ปรากฏแก่สายตาทั้งสองคนทำเอาเดม่อนอ้าปากค้าง
สลักประตูที่ทำจากเพชร ส่องประกายเมื่อฝุ่นผงหายไป
เอวากดลงบนสลักมันกลับเด้งขึ้น มาเหมือนกลไก
“มันคือกลไก”เดม่อนพยักหน้าขึ้นลง
เอวาออกแรงหมุนเบาๆ เสียงดังกริ้กก่อนที่เสียงกำปะนาทกึกก้องจะดังสนั่น เดม่อนกอดประคองเอวาไว้ กำแพงหินข้างหน้าร่วงลงไปข้างล่างแบบไม่ทันตั้งตัว เอวา เกือบหล่นลงไปข้างล่างด้วยทว่าเดม่อนคว้าร่างบางไว้ทัน
” ระวังเอวา”
ช่องว่างระหว่างหินกับขอบประตูทางเข้าดำมืด ด้วยความลึกที่หินร่วงลงไปเสียงสะท้อนดัง เนิ่นนานทั้งคู่มองฝ่าความมืดไปเดม่อนใช้ไฟฉายส่องลงไปแต่ก็พบเพียงความมืดที่ลึกสุดลึก ถ้าหากร่วงลงไปร่างกายคงแหลกเหลวไม่มีชิ้นดี
เดม่อนกลืนน้ำลายลงคอ ข้างหน้า มีฝุ่นผง กระจายสายตาจับจ้องไปข้างหน้า
เอวา ใช้ไฟในมือส่องเข้าไปยัง ตำแหน่งที่ต้องการเพื่อความปลอดภัยเพราะไม่ทราบว่าข้างหน้ามีอะไรบ้างภาพที่เห็น มีเพียง ผนังห้อง และภาพวาด ปนไปด้วยอักษร อียิปต์
เดม่อนใช้ไฟฉาย ของตัวเองบ้าง กระโดดนำหน้าไปยังห้องโถงกว้างกวาดไฟฉายไปทั่วแล้วแสงไฟฉายก็หยุดลงที่แท่น หินสูงกลางห้อง ที่วางอยู่ข้างบนคือ โรงบรรจุ มัมมี่ ที่ไม่ต้องสงสัยว่าเป็นของใครด้วย วัตถุ ชนิดนั้นเป็นทอง เหลืองอร่าม แม้จะมีฝุ่นสีน้ำตาล เกาะอยู่บ้างก็ไม่สามารถทำให้ประกายทอง หมองหม่น ทั้งสองมองหน้ากันไปมา เอวาก้มลงมอง ฝาโลงศพที่ทำให้เป็นใบหน้า และร่างของคนที่ ทำจากทองคำ ปรากฏตัวอักษรอียิปต์ สลักชื่อ ไว้ตรงส่วนอก
“โฮรัส” เอวาทวนชื่อช้าๆ ก่อนที่ลม ไม่ทราบที่มาจะพัด กระโชก ผ่าน ปะทะร่างบางจน หนาวยะเยือก
เดม่อน วางกระเป๋าเป้ ก่อนจะหยิบตะเกียงเจ้า พายุแบบชาร์ต แบตเตอรี่ ขึ้นมา วางไว้บนแท่นหิน ทั้งสองอัน เปิดสวิตช์ ด้านบน จน สว่างไปทั่วบริเวณ
“เร่งมือหน่อย เอวาก่อนที่แบตจะหมด”
เอวา วางกระเป๋าเป้ลงบ้าง หยิบ เกียงขนาดใหญ่ออกมา งัด ฝาครอบ คาโนปิค ออก เดม่อนออกแรงผลักเสียงเลือนออกช้าๆกลิ่นยางไม้หอมกระจายออกมาจาก รอยเลื่อนภาพตรงหน้าคือร่างของมัมมี่ที่ถูกพันด้วยผ้าลินินจุ่มน้ำมันยังคงสภาพเดิมไม่เปลี่ยน กระดาษปาปิรุสวางอยู่ข้างซ้ายมือของร่างกาย เอวาหยิบขึ้นมา แก้เชือกที่ผูกไว้ก่อนจะอ่านทำความเข้าใจ
เอวากดลงบนสลักมันกลับเด้งขึ้นมาเหมือนกลไก
เอวาออกแรงหมุนเบาๆ เสียงดังกริ้กก่อนที่เสียงกำปะนาทกึกก้องจะดังสนั่น เดม่อนประคองร่างบางของเอวาไว้กำแพงหินข้างหน้าร่วงลงไปข้างล่างแบบไม่ทันตั้งตัว เอวาเกือบหล่นลงไปข้างล่างด้วยทว่าเดม่อนคว้าไว้ทัน
“ระวังเอวา”
พระเอกสายแอพ เฉยชาทว่าโบ๊ะบ๊ะภายใน โคตรรั่ว อัตราการแขวะ0.01วินาที ภายใต้หน้ากากสูงส่งบริสุทธิ์ ในนามปรมาจารย์ ที่ค้ำคอไว้ พบกับ พระเอกสายกาว ที่ไม่เอื้อนเอ่ย ใครกันจะรู้ภายในใจท่านคิดเช่นไร พบกับนิยายแนว ขุนเขาจอมยุทธ์ บุญคุณความแค้น แต่พระเอกสายฮา สะกดกลั้นความอาไว้ภายใต้หน้ากากหล่อเหลาอย่าเผลอนินทาอย่าเผลอหลงรัก เพราะปรมาจารย์ท่านนี้อ่านใจคนออก
เรื่องเล่าของท่าน อาจทำข้าสำราญ หรืออาจทำให้ทุกข์ตรมไปกับท่าน ถือว่าท่านจ่ายค่าตอบแทนแก่ข้าแล้ว เสพสุขจากความทุกข์ตรมกระทำได้เช่นนั้นหรือความทุกข์ตรมของผู้อื่น ทำให้เราหลุดพ้นความทุกข์ตรมของเราได้
บุตรีของขุนนางกบฏ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้บิดาแทนที่จะหนีไปไกลแสนไกลกลับพาตัวเองมาผูกพัน กับคนที่เป็นศัตรู แค้นฆ่าพ่อจือหรานจะสามารถทวงความเป็นธรรมให้บิดาได้หรือไม่ ..พบกับความรักความแค้นที่ฝั่งแน่น
ตำรวจหญิงมือดีดับอนาถแต่สวรรค์กลับให้โอกาสได้กลับไปแก้แค้น แทนหญิงโง่งมคนหนึ่งที่ถูกหักหลังเช่นกัน งานนี้จะต้องไม่ใครก็ใครสักคนจะต้องเสียน้ำตา
ขายตัวเข้ามาเป็นอี้จีฝึกหัด แต่ยังไม่ผ่านงานแรกด้วยซ้ำ สวรรค์ชังหรือนรกแกล้งให้เฟิ่งหลิว ต้องมาพบเจอคนใจร้ายเช่นนี้แล้วยังมาหาว่าเฟิ่งหลิวเป็นนางคณิกา กร้านโลกอีก ทั้งๆที่น้องแสนจะเดียงสา
ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันทีข้างกายฮ่องเต้หนุ่มหล่อ ที่มีเสียงเล่าขานว่าไม่ยอมแต่งเมียเพราะ นิยมบุรุษด้วยกัน
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"