ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ร้านแพรลับของคุณหนูสาม เล่ม 1
ร้านแพรลับของคุณหนูสาม เล่ม 1

ร้านแพรลับของคุณหนูสาม เล่ม 1

5.0
23 บท
1.1K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เว่ยหย่งฮวาดาราตกกระป๋อง ที่โชคชะตาเล่นตลก ให้เธอฟื้นคืนชีพในโลงศพ กลายเป็นคุณหนูสามของจวนเสนาบดีตระกูลเว่ย สตรีที่มีชื่อแซ่เดียวกัน แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วนางขอเป็นคุณหนูสามที่จะสร้างตัวตนให้เป็นที่เลืองลือในโลกจีนโบราณนี้ให้ได้ เปิดร้านแพรลับแฟชั่นทันสมัยและงดงามไม่เหมือนใคร ชื่อเสียงโด่งดังจนมีตัวปลอมโผล่มาอ้างเป็นเจ้าของร้านแพรลับงานนี้คุณหนูสามเจ้าของร้านแพรลับตัวจริงไหนจะยินยอม ชีวิตใหม่ของเว่ยหย่งฮวามีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวัน ไหนจะหาเงินเพื่อไม่ให้ตัวเองไร้ค่า ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่สร้างปัญหาให้ เรื่องราวของคุณหนูสามจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามในเรื่องได้เลยเจ้าค่ะ

บทที่ 0 บทนำ ดาราตกกระป๋อง

เสียงสังสรรค์ในงานเลี้ยงหลังปิดกล้อง ทำให้เว่ยหย่งฮวาอดรู้สึกน้อยใจตัวเองไม่ได้ เพราะท่ามกลางผู้คนที่มากมายนี้ตัวเธอกลับโดดเดี่ยว

นอกจากผู้จัดการชั่วคราวที่ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแล้ว ก็ไม่มีใครเห็นหัวนักแสดงอิสระคนนี้อีก

ไม่ว่าจะเป็นงานครั้งที่เท่าไรเว่ยหย่งฮวาก็ไม่เคยชินได้เลย อาจเพราะเธอไม่ยอมปีนขึ้นเตียงผู้กำกับพวกนั้น ทำให้เธอเป็นเพียงดาราลำดับสามที่กำลังตกกระป๋องเท่านั้น แต่เธอยอมเป็นดาราตกกระป๋องดีกว่าเป็นของเล่นให้ชายวัยกลางคนที่อ้วนลงพุงแบบนั้น

"ทำไมถึงยังนั่งอยู่อีกกันนะ ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวบ้างเหรอ"

เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง ที่นั่งในห้องจัดเลี้ยงเป็นแถวยาวสามแถว เว่ยหย่งฮวานั่งอยู่แถวด้านในของโต๊ะจัดเลี้ยงแถวแรก เธอจำเสียงนั้นได้เพราะต่อบทกันมานักต่อนักแล้ว

"อย่าพูดไปเชียวนะ ทำงานมาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี ยังขึ้นแท่นนางเอกอันดับต้น ๆ ไม่ได้เลย"

เว่ยหย่งฮวาอดจะกรอกตาไม่ได้จริง ๆ ก็คนที่พูดอยู่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ความเป็นมนุษย์ช่างย้อนแย้ง แล้วที่เธอไม่ได้ขึ้นเป็นนางเอกก็เพราะไม่ได้ปีนขึ้นเตียงเหมือนเจ้าหล่อนไง

"เบาเสียงหน่อย เจ้าตัวอาจจะได้ยินนะ"

ผู้พูดก็อยากได้แสงเหลือเกิน ต่อให้เบาขนาดไหนก็ยังได้ยินอยู่ดี ที่นั่งห่างกันเพียงหนึ่งศอกกัน นินทาระยะเผาขนขนาดนี้ไม่ได้ยินก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

ถ้าเทียบกับนักแสดงมีสังกัดล่ะก็ เว่ยหย่งฮวายอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยมีชื่อเสียงจริง แต่ในหมู่นักแสดงอิสระด้วยกันก็ถือเป็นระดับต้น ๆ ที่ผู้คนจะรู้จัก

แต่เมื่อทำงานให้คนที่มีบริษัทเป็นรูปธรรม ต่อให้เธอจะมีความสามารถแค่ไหน บริษัทก็จะต้องเอาคนของตัวเองไว้ก่อนอยู่แล้ว

ไม่แปลกเลยเพราะหากเป็นเธอก็จะทำแบบเดียวกัน แต่การนินทาว่าร้ายกันทั้งต่อหน้าและลับหลังอย่างนี้เธอรับไม่ได้จริง ๆ

"ได้ดีเพราะว่าเรามีนางเอกแท้ ๆ กระแสก็ดังมาก ๆ ตัวเองไม่มีอะไรมาให้เทียบได้เลยต้องทำแบบนี้สินะ"

"ไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอ เสียงเธอชักจะดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ เมาแล้วหรือเปล่าเนี่ย"

"ฉันไม่เมา ฉันคอแข็งจะตาย"

เสียงยานคางขนาดนั้นเอาตรงไหนมาไม่เมาล่ะ

เว่ยหย่งฮวาแอบค้านในใจ หากไม่ติดว่าเธอเสียเปรียบ คงจะนินทากลับไปหลายประโยคแล้ว แต่กองถ่ายนี้ไม่มีเพื่อนร่วมวงสนทนากับเธอได้จริง ๆ แม้จะเป็นกองถ่ายของผู้กับกับชื่อดัง

แต่เห็นได้ว่าทุกคนที่เขาเลือกมาแสดงล้วนมีเส้นมีสายทั้งนั้น คงมีแต่เธอที่ถูกถูกเลือกอย่างงง ๆ และนี่คงเป็นเป้าหมายให้ดาราคนอื่นจ้องจะเล่นงานเธอตลอดเวลาแบบนี้ เมื่อไม่มีโอกาสกลั่นแกล้งเธอก็ใช้ปากนินทาแทน

"ถึงเธอจะเป็นตัวละครเอกหญิงคนหนึ่ง เห็นได้ชัดเลยนะว่าไม่ว่าพระเอกหรือพระรองก็ไม่เลือกเธอ"

"ได้สิหยิ่งผยองขนาดนั้นใครจะอยากเข้าใกล้"

คนฟังเริ่มสับสนแล้วว่าตกลงนินทาเรื่องในชีวิตจริงหรือเรื่องในละครกันแน่ เพราะดูเหมือนจะเอามาปะปนกันจนเลอะเทอะไปหมด

แม้จะเป็นเรื่องที่ควรทำตัวให้ชิน แต่เว่ยหย่งฮวาก็อดหงุดหงิดไม่ได้ว่าทำไมจะต้องให้ชินกับเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่มีใครสมควรต้องเจอเลย แต่ก็อย่างว่าแหละ

นี่คือโลกบันเทิงมีใครบ้างที่จะไม่โดนนินทา แม้แต่นางเอกแสนดีมีเงินหลายร้อยล้านหยวนก็ยังถูกนินทา นับประสาอะไรกับดาราไร้สังกัดที่กำลังตกกระป๋องอย่างเธอกัน

"คือว่า นี่ดึกมากแล้ว คงต้องขอตัวก่อนนะคะ"

เว่ยหย่งฮวาลุกขึ้นแล้วเอ่ยลาทีมงาน เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับที่นี่อย่างรุนแรง ความกดดันนี้เกินจะทำใจอยู่ต่อได้ จนกระทั่งจะกลับแล้วก็ยังไม่มีใครสนใจเธอเหมือนเดิม หญิงสาวทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินออกมาเงียบ ๆ

งานที่ส่งคำขอมาจากบริษัทนี้ในอนาคตคงต้องปฏิเสธให้หมด เรื่องเงินก็สำคัญแต่สุขภาพจิตสำคัญกว่า

เดินออกมาจากร้านได้ไม่นานโทรศัพท์มือถือก็ส่งเสียงแจ้งเตือนออกมา เธอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากลูกพี่ลูกน้อง เว่ยหย่งฮวาฝากร้านเสื้อผ้าแบรนด์เล็ก ๆ ให้เธอคนนี้ช่วยดูแลระหว่างทำการถ่ายทำภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ที่เธอรับงานช่วงนั้น

ข้อความนั้นไม่มีอะไรมาก นอกจากการบอกว่าสินค้าล็อตใหม่มาถึงแล้ว

เว่ยหย่งฮวาเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแฮนด์เมดขนาดเล็ก ทุกชิ้นปักประดับด้วยมือ บางตัวก็ใช้กรรมวิธีแตกต่างไป แต่ทั้งหมดถูกทำขึ้นด้วยมือชิ้นต่อชิ้น และเพราะอัตราการผลิตที่ทำได้ช้าและยอดผลิตต่ำนี่เอง ทำให้แบรนด์ของเธอพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นแบรนด์ขนาดเล็ก

ทว่าราคาของมันนั้นสูงพอสมควร เจ้าของแบรนด์อย่างเธอเลยพออยู่ได้ แม้ว่างานนักแสดงอิสระจะไม่ราบรื่นนักก็ตาม เว่ยหย่งฮวาไม่ได้ดื่มมากนัก ยังพอมีสติหลงเหลืออยู่เทียบเท่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์

เว่ยหย่งฮวาอยากจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านเต็มที เธอจึงตอบข้อความกลับไปว่าให้ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นปิดร้านได้เลยเมื่อถึงเวลา เพราะวันนี้เธอจะไม่เข้าไป

เว่ยหย่งฮวาไปที่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งใจจะซื้ออะไรไว้กลับไปทานที่บ้านเพิ่ม อาหารงานเลี้ยงปิดกองมีมากมายแต่เธอแทบไม่ได้แตะอะไรบรรยากาศแบบนั้นคนที่จะกินได้อร่อยก็คือคนที่ไม่มีปัญหากับใคร

เว่ยหย่งฮวาเชื่อว่าตัวเองไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ส่วนใหญ่เป็นการหาเรื่องจากฝ่ายนั้นเองทั้งนั้น

ทั้งที่วันนี้หน้าตาอาหารน่าทานเป็นอย่างมาก แต่บรรยากาศงานเลี้ยงกลับแย่ที่สุดที่เธอเคยเจอ งานก่อนหน้านี้ไม่ว่าภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ ทุกคนให้เกียรติเธอแม้ว่าเป็นนักแสดงอิสระ

เว่ยหย่งฮวายืนรอขึ้นรถบัสสายประจำที่ป้ายรถ แต่แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนักไม่ทันตั้งตัว เธอรีบเข้าไปหลบในซุ้มที่นั่งแบบมีหลังคา

เว่ยหย่งฮวาอดคิดไม่ได้ว่าชีวิตวันนี้จะซวยซ้ำซวยซ้อนเกินไปแล้ว และเพื่อตอบสนองความคิดนั้นให้เด่นชัดขึ้นไป รถยนต์ที่ขับผ่านมาด้วยความเร็วระดับหนึ่งก็เหยียบน้ำขังที่พื้นก็กระเด็นมาโดนตัวเธอ

นักแสดงสาวอยากจะกรี๊ดแต่ก็กรี๊ดไม่ออก สงสัยวันนี้จะไม่ใช่วันของเธอจริง ๆ รู้สึกว่าดวงไม่ดีตั้งแต่เช้าแล้ว

เว่ยหย่งฮวาเปลี่ยนใจไม่ใช้รถโดยสารประจำทางเพื่อกลับบ้าน แต่เรียกแท็กซี่แทน แอพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกสบายถูกจัดทำขึ้นหลายโปรแกรมหลายวัตถุประสงค์ เป็นความสะดวกในชีวิตอย่างหนึ่งตั้งแต่เข้าสู่ยุคการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันเกือบทั้งหมด

รถโดยสารที่เว่ยหย่งฮวาต้องการมาถึงแล้ว เธอใช้เสื้อคลุมตัวเองพับแล้วลองเบาะไว้อีกชั้นก่อนขึ้นไปนั่ง

เว่ยหย่งฮวาบอกจุดหมายปลายทางแล้วก็เงียบไปตลอดทาง ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ทำให้เธอแทบจะผล็อยหลับอยู่ในรถ แต่เพื่อปลอดภัยของตัวเองตลอดการเดินทาง เธอไม่ควรหลับและปล่อยให้คนขับมองทางคนเดียว

เว่ยหย่งฮวาพิมพ์ข้อความกลับไปหาลูกพี่ลูกน้องคนนั้น ทั้งสองคุยกันสีหน้าเคร่งเครียด

หรือว่าเธอจะเจอดีเข้าให้แล้ว โรงงานที่จ้างผลิตสินค้าไปในครั้งนี้ราคาสูงกว่าที่อื่น เธอจึงคิดว่ามันคุ้มค่า แต่สินค้าทุกตัวที่ส่งมาครั้งนี้กลับมีปัญหา

เว่ยหย่งฮวาก้มหน้าดูจอ โต้ตอบกับลูกพี่ลูกน้องคนนั้นไม่หยุด เธอรื้อแล้วถ่ายรูปมาให้เห็นชัด ๆ เลยว่าคุณภาพสินค้าไม่ผ่านมาตรฐานเธออย่างแรง

"ขอโทษนะ คุณช่วยเปลี่ยนไปส่งที่...หน่อยได้ไหม"

เว่ยหย่งฮวาตัดสินใจเปลี่ยนจุดหมายทันที อย่างไรก็ต้องไปจัดการด้วยตัวเอง เพราะสินค้าชุดนี้เหมือนจะย่ำแย่จริง ๆ เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ช่วงนี้เธอซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 22 เสวี่ยฉง   10-31 18:28
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY