จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
เป็นไปตามที่หลิวตานคิด ย่าหลิวให้คนมาตามพ่อของเธอกับอาสามไปเพื่อจัดการปัญหาของลูกสาว แต่พอทั้งสองไม่ได้ไปตามคำสั่ง ได้ยินว่าโวยวายใหญ่โต เพื่อนบ้านต่างปิดประตู
ตอนเช้าผู้อาวุโสในหมู่บ้านและผู้อาวุโสของตระกูลหลิวเข้ามาจัดการปัญหาตรงนี้ เพื่อไม่ให้หมู่บ้านเสื่อมเสีย ไม่ให้ผู้หญิงในหมู่บ้านต้องมัวหมองไปด้วย
ก่อนหน้านี้มีพ่อหม้ายลูกสามอายุสี่สิบปีเพิ่งเสียภรรยาไป ลูก ๆ โตจนแต่งงานกันหมดแล้ว แต่บ้านของพ่อหม้ายต้องการหาภรรยาให้เขาจึงถูกเสนอให้แต่งงานด้วย โดยที่ไม่ต้องเสียค่าสินสอดสักเฟิน ด้วยความที่พ่อหม้ายหน้าตาไม่ดี อ้วน เตี้ย ดำ พวกเขาไม่มีทางเลือกแต่ยื่นข้อเสนอมาหลังหลิวถิงเหยาคลอดเด็กจะส่งกลับบ้านใหญ่หลิว
หลิวถิงเหยากรีดร้องไม่ยินยอมแต่งงานกับพ่อหม้ายคนนี้ ทั้งขู่ว่าถ้าให้แต่งงานจะทำลายเด็กในท้อง และนั่นยิ่งทำให้ผู้อาวุโสไม่พอใจ สุดท้ายเรื่องเลยจบที่หลิวถิงเหยาต้องแต่งเข้าบ้านพ่อหม้ายอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
สำหรับบ้านรองหลิว บ้านสามหลิว ทั้งสองบ้านแยกตัวออกมาแล้วถึงแม้จะเป็นตระกูลเดียวกันแต่ไม่เกี่ยวข้องกันแล้ว เพราะมีการตัดขาดไม่เหมือนแยกบ้านออกมาเหมือนคนอื่น ทำให้พวกเขาไม่ได้รับผลกระทบ
“ยังดีที่บ้านเรามีชุดใหม่ ๆ ให้ใส่ ไม่อย่างนั้นคงต้องใส่ชุดเก่าไปแล้ว” หลิวตานถอนหายใจ มองครอบครัวของตนเองแล้วส่ายหน้า
“พี่ใหญ่ จริง ๆ ผมว่าชุดไม่ได้เก่าขนาดนั้น” หลิวเหอสวี่อมยิ้ม
“ใช่ ดูสิ เสื้อผืนนี้ฉันจำได้ว่าใส่เพียงสองครั้งเท่านั้นเอง คนในหมู่บ้านซื้อเสื้อผ้าหนึ่งตัวใช้ได้ตั้งหลายปี” หลิวอิ๋งอีหมุนตัวให้ดูชุดที่ใส่
หลิวตงตง จ้าวเหม่ย อยู่ในชุดสุภาพตัวใหม่เพราะเพิ่งเคยใช้ ทั้งคู่ซื้อเสื้อผ้านี้มาหลายเดือนแล้วเพียงแต่ไม่ได้ใช้ เนื่องจากไม่ได้พากันออกนอกบ้านเลย วันนี้ค่อนข้างพิเศษเพราะวันนี้มีเทศกาลไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำมณฑล
อันที่จริงในตอนแรกบ้านหลิวไม่มีความคิดจะไป เพียงแต่เมื่อวานนี้หลังเลิกเรียนสือหยวนเฟิงชวนหลิวตานเข้าไปดูหนังทำให้เธอตอบตกลงไป และมาชวนครอบครัวไปเปิดหน้าเปิดตาบ้าง
จ้าวเหม่ยยิ้มให้ลูกสาว “เสี่ยวตานแม่ว่าชุดไม่ได้เก่าเลย ยิ่งใส่ตอนกลางคืนไม่มีคนสังเกตเห็นหรอก พวกเราไปกันเถอะจะได้กลับเร็ว”
“ใช่”
“ญาติผู้น้องฉันมาแล้วหรือยังคะ เสียดายที่อาสาม อาสะใภ้สามไม่ไปด้วยกัน คงสนุกหน้าดู” หลิวตานถามถึงหลิวต้าสยงตัวแทนจากบ้านสามที่จะไปด้วยกัน
“มาแล้ว ๆ”
หลิวต้าสยงมาถึงพอดีทำให้เขาเดินเข้ามาหา ก่อนขึ้นเกวียนวัวที่ไปเช่าหมู่บ้านข้าง ๆ มา เนื่องจากรถยนต์ราคาสูงเกินไปกว่าจะเช่า เลยต้องหาเช่าเกวียนวัวที่หลายบ้านยังคงใช้เดินทางกันอยู่ก่อนพากันเดินทางเข้าเมืองที่จะใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมง
“คุณน้าทั้งสอง เสี่ยวตาน เด็กๆ”
มาถึงจุดนัดหมายสือหยวนเฟิงยืนรออยู่ก่อนแล้ว เขาคำนับผู้อาวุโสและทักทายหลิวตานกับน้อง ๆ อย่างเป็นกันเอง
“หยวนเฟิงมานานหรือยัง บอกให้มาพร้อมกัน” หลิวตานถาม
“ไม่นาน ๆ ฉันมากับครอบครัวน่ะ วันนี้พวกเราเดินทางมาด้วยกัน ต้องขอโทษด้วย” สือหยวนเฟิงบอก เขาหันไปคุยกับหลิวตงตง “เสี่ยวตานบอกคุณน้าเคยมางานที่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นผมคงแนะนำอะไรมากไม่ได้แล้ว”
“อืม” หลิวตงตงเหลือบมองเขาก่อนกวาดสายตามองคนในบ้านแล้วไปหยุดที่ลูกสาวคนโต “ได้ยินว่าจะไปดูหนังกันไม่ใช่หรือ ไปสิ แล้วค่อยมาเจอกันที่นี่อีกสองชั่วโมงข้างหน้า”
“ฉันไปก่อนค่ะ”
จ้าวเหม่ยยิ้มอ่อนให้สามี ทั้งสองรู้ว่าลูกสาวมีความคิดแปลกใหม่และสามารถเอาตัวรอดได้ ทั้งสือหยวนเฟิงยังจริงใจจึงกล้าปล่อยให้ไปด้วยกัน
สองข้างทางเต็มไปด้วยของกินมากมาย ทั้งเคยเห็นและไม่เคยเห็น บางร้านเป็นขนมต่างถิ่นที่คนในเมืองทำมาขาย หรือบางร้านเป็นพ่อค้า แม่ค้ามาจากที่อื่น เทศกาลไหว้ครั้งนี้เป็นเทศกาลใหญ่ ทุกปีที่จัดขึ้นเดือนนั้นคึกคักตลอดทั้งเดือน
หลิวตานมองรอบตัวอย่างตื่นเต้น เป็นครั้งแรกตั้งแต่มาอยู่ที่นี่แล้วได้เดินในงานพวกนี้ ชีวิตก่อนเธอจำไม่ได้แล้วว่าไปตลาดล่าสุดตอนอายุเท่าไร ที่นี่ไปตลาดแต่ไม่เคยไปงานที่มีเสียงดนตรี การแสดงให้ดู
“นั่นคือโรงหนังเสิ่นจู เป็นโรงหนังประจำเทศกาล หลายคนต่างรอคอยเทศกาลเพื่อเข้าโรงหนังแห่งนี้ ช่วงอื่น ๆ โรงหนังเสิ่นจูไม่เปิดให้บริการ ทำให้การเข้าดูหนังหากไม่จองบัตรไว้ก่อนก็ไม่ได้ดู” สือหยวนเฟิงชี้ไปยังโรงหนังที่อยู่ไม่ไกล
หลิวตานทำหน้าแปลกใจ “เอ๋ ฉันเคยได้ยินว่าโรงหนังเสิ่นจูเดิมทีเปิดตลอดไม่ใช่หรือ ทำไมถึงต้องเข้าโรงหนังในเทศกาลล่ะ”
“เจ้าของโรงหนังเป็นชายชราผู้หนึ่ง แต่ก่อนเปิดโรงหนังทุกวันกับภรรยา แต่พอภรรยาของเขาจากไปเพราะความเหนื่อย ลูก ๆ ของเขาเลยจำกัดเวลาเปิดโรงหนัง และเขาชอบช่วงเวลาเทศกาลที่สุด” สือหยวนเฟิงยิ้มออกมาเล็กน้อย
อันที่จริงแล้วโรงหนังเสิ่นจูเป็นโรงหนังแห่งความรักที่หลายคนต่างรับรู้ ความรักของชายชราที่มีต่อภรรยาจนหลายคนนับถือ เพราะด้วยฐานะของเขาแล้วสามารถหาภรรยาใหม่ได้เลย หลายคนต่างมาขอคนรักกันที่นี่ แล้วพบว่าพวกเขาครองคู่กันนาน
ทั้งสองเดินเข้าโรงหนังพร้อมกับขนมและน้ำที่เตรียมพร้อม สือหยวนเฟิงเดินไปหาผู้ตัวตั๋วเข้าชมก่อนหยิบตั๋วบัตรให้เขา กว่าเขาจะได้มามันไม่ง่ายเลยต้องเสียเงินมากกว่าค่าบัตรจริงเพื่อให้ได้มันมา
ภายในโรงหนังต่างจากที่คิดเอาไว้มาก มันเหมือนอีกโลกและมีแสงสว่างให้เห็น ทั้งคู่หาที่นั่งด้านหลังนั่งแต่เห็นหน้าจอ
คนไม่ได้เยอะมากเพราะที่นี่เป็นระเบียบ รับคนต่อรอบไม่เกินหนึ่งร้อยคน เวลานี้ถ้าคนซื้อตั๋วไม่มาก็ไม่ขายเพิ่มเพราะถือว่ามีคนเข้าดูแล้ว
หนังที่สือหยวนเฟิงเลือกดูเป็นหนังรัก ตัวละครเอกชายหญิงต่างเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนัก แต่พอกลับบ้านทั้งคู่คือลูกภรรยาเอกกับลูกอนุ กว่าจะฝ่าฟันกันมาจนถึงตอนจบต้องเสียสหายที่ดี เสียเลือด เสียเนื้อ เพราะคำว่าต่างชั้นกันเกินไป
“เฟิ่นซีผู้นี้ถ้าเขายอมแต่งซูซูเป็นอนุ อย่างน้อยพวกเขาคงไม่ต้องเสียเพื่อนไปมากกว่านี้” หลิวตานถอนหายใจ ถึงแม้เป็นหนังแต่เธออินไปกับมันจริง ๆ
“ทั้งเฟิ่นซีและซูซูทั้งคู่รักกันมากจนไม่อยากแยกจาก” สือหยวนเฟิงยิ้มออกมา “หากต้องแยกจากคนรักยอมตายจากกันดีกว่า”
“นั่นมันก็จริง”
ระหว่างเดินออกจากโรงหนังทั้งคู่พูดถึงหนังที่ดู หลิวตานรู้สึกว่าการแสดงดีมาก แต่มีหลายอย่างที่ค่อนข้างไม่ชอบ
“เสี่ยวตาน”
“หา”
หลิวตานมองซ้ายขวาหลังได้สติ เมื่อครู่ทั้งสองยังเดินอยู่ในงานแต่ตอนนี้มายืนข้างสระนำ ใต้ต้นไม้ที่มีแสงจันทร์ส่องให้เห็นทางเดิน
สือหยวนเฟิงเม้มปาก “เสี่ยวตาน...” เขาหลับตาก่อนลืมตาอีกครั้งเพื่อเรียกสติตนเอง “ที่ผ่านมาฉันทบทวนตัวเองดีแล้ว ฉันชอบเธอ”
“หา” หลิวตานอุทานแล้วชี้ตนเอง “นายชอบฉันเหรอ แต่พวกเรายังเด็กกันอยู่เลยนะ”
“ตอนนี้พวกเราไม่ได้เด็กขนาดที่ไม่รู้อะไร ฉันชอบเธอจริง ๆ นะ เธอล่ะ ชอบฉันหรือเปล่า ขอเพียงพวกเราใจตรงกันสิ่งอื่นย่อมไม่ต้องสนใจ” สือหยวนเฟิงจับมือเด็กผู้หญิงตรงหน้า
หลิวตานมีสีหน้ากังวล “ถึงใจพวกเราจะตรงกัน แต่ว่าครอบครัวคงไม่เห็นด้วย บ้านของนายมีฐานะ ต่างจากบ้านของฉัน”
“หลังจากเรียนจบมัธยมต้นฉันจะสมัครเข้ากองทัพทหาร คงไม่ได้เจอกันระยะหนึ่ง แต่ก่อนไปฉันอยากขอเธอเป็นคนรักฉันไว้”
ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่เห็นแก่ตัวไปหน่อยแต่ว่าสือหยวนเฟิงไม่ต้องการให้ผู้หญิงที่ตนเองรักไปคบหากับใคร ในเวลาที่เขาย้ายไปที่อื่นผู้ชายต้องเข้าหาหลิวตานเยอะแน่ ๆ
“ฉันจะต่อมัธยมปลายที่เดิมและสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถึงวันนั้นฉันกับครอบครัวของพากันย้ายไปปักกิ่ง ส่วนพวกนายมีบ้านอยู่ที่นี่...” นอกจากนี้บ้านของสือหยวนเฟิงยังมีร้านค้าที่ปล่อยทิ้งไม่ได้ ไม่เหมือนฟาร์มผักของพวกเธอ
“ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล พ่อของฉันอยากให้แม่เลิกทำงานและไปอยู่ด้วยกันแล้ว เพียงแต่แม่ไม่ยอม ที่บ้านยังมีน้องชายอีกคน ถ้าฉันตามไปด้วยใครจะว่าอะไรได้”
หลิวตานหัวเราะในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เธอเชื่อว่าถ้าครอบครัวของเขาห้ามก็ห้ามเขาไม่ได้ เพราะสือหยวนเฟิงเป็นคนที่ชอบพูดอะไรแล้วทำจริง
“ถ้าอย่างนั้นฉันตอบตกลง”
ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา "ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง