เธอสวยเลือกได้จนสามารถปรายเสือร้ายให้เป็นแมวเชื่อง ๆ ได้ “จีบฉันไม่ง่ายหรอกนะคะ ฉันไม่สนใจจะเป็นของเล่นบนเตียงให้ใคร” “แหมใครจะใจร้ายให้คุณอยู่ในฐานะของเล่นกันล่ะครับ อย่างคุณต้องพิเศษกว่านั้นอยู่แล้ว” “พิเศษแบบไหนล่ะคะ คู่ขา คู่นอนหรือว่าเด็กคุณ” “นั่นสิครับ แบบไหนดี” “คู่นอนดีไหมคะ จบแล้วก็จบกัน ไม่ต้องยืดเยื้อ” “คุณชอบทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยกับความตรงจนน่าใจหาย” “นักธุรกิจนี่คะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ สู้ยิงประตูเลยดีกว่า” “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เลยไหมล่ะครับ” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น เธอเปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ ที่สำคัญเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างเธอนั้นลูกเขาแน่นอน เพราะฉะนั้นภาระกิจตามจีบแม่ของลูกจึงเริ่มขึ้น ‘กักหัวใจไว้ใกล้รัก’ เป็นเรื่องต่อจาก ‘กองหัวใจไว้ตรงรัก’ เขาเลขาฯ สายโหด เนื่องจากต้องช่วยเจ้านาย เขาจึงได้ทำลายผู้หญิงเลว ๆ คนหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ เขากลับมาพบภายหลังว่าเธอยังบริสุทธิ์ ผิดกับทาทางร่านร้ายที่เธอแสดงออกภายนอก และความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลายด้วยน้ำมือเขาเอง เธอกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอถูกตัดขาดจากครอบครัว ทว่าวันหนึ่งกลับต้องมาเจอคนที่คิดว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนก็ไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว คนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อค้นพบความจริงบางอย่าง การตกหลุมรักจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย เขาจึงเริ่มปฏิบัติการตามจีบแม่ของลูก เธอคิดว่าเขาจะพรากลูกไปจากเธอ แต่ผิดแล้ว เขาต้องการทั้งแม่และลูก และจะกักหัวใจท้องสองไว้กับเขาตลอดไป
เสียงดนตรีดังกระหึ่มเรียกการเคลื่อนไหวของเหล่านักท่องราตรีให้ออกมาขยับโยกปลดปล่อยความสนุกท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้นในโซนชั้นล่างของผับชื่อดังในเมืองใหญ่
ลลิสาเดินออกจากห้องน้ำในโซนชั้นสองที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ราวกั้นแล้วกวาดสายตามองหาเพื่อนบางคนในกลุ่มที่ปลีกตัวลงไปสนุกด้านล่างมาสักพักใหญ่ตามประสาคนชอบห่วงที่ต้องรับหน้าที่ดูแลและเก็บตกเพื่อนยามเมาไม่มีสติอยู่ตลอด
“ยายแก้วกับยายปรายไปเต้นอยู่ไหนกันวะเนี่ย แล้วคนเยอะแบบนี้ฉันจะหายังไงเจอล่ะทีนี้”
หญิงสาวบ่นไปมองหาไป มือก็กดโทรศัพท์โทรตามเพื่อนไปด้วย โทรทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าแม่พวกนั้นคงไม่ได้ยินเสียงนี่แหละ จนหลายรอบเข้าก็ยังไม่มีหวัง เธอจึงได้แต่ถอนหายใจแล้วยอมแพ้ สองขาจึงก้าวฉับ ๆ ไปทางบันไดทางขึ้นโซนวีไอพีชั้นสาม แต่ก็ต้องหงุดหงิดหนักกว่าเก่าเมื่อเจอคู่รักนักเที่ยวยืนนัวเนียขวางทางอยู่
เธอปรายสายตาอย่างรังเกียจไปที่คนทั้งคู่ บันไดมันก็แคบแค่นี้ เดินสวนกันยังแทบจะสิงร่างยังอุตส่าห์เจอคนอดอยากได้อีก นี่คือสิ่งที่เธอคิดแต่เธอก็ฉลาดพอที่จะไม่พูดออกไปให้ลำบากตัวเองแน่นอน ยิ่งในสถานที่แบบนี้และไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เกิดเป็นคนเมาที่ไม่มีสติแล้วเธอพูดจาผิดหูไปแล้วโดนทำร้ายขึ้นมาคงไม่คุ้มกัน แต่จนแล้วจนรอดทั้งสองร่างก็ยังไม่ยอมแยกออกจากกันเสียที จนเธออดรนทนไม่ไหว
“ขอโทษนะคะ ช่วยหยุดนัวกันก่อนได้ไหมคะ”
เสียงหวานเอ่ยขัดจังหวะคนทั้งคู่หลังจากที่ยืนกรอกตามองบนมาสักพักแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรดีขึ้นเลย กลับกันสองคนตรงหน้ากลับยิ่งนัวเนียกอดรัดกันหนักขึ้นจนไม่สนใจว่าใครจะมองอยู่ด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินเสียงเรียกน่ารำคาญสองสามครั้งติด ๆ กัน ชายหญิงจึงผละออกจากกันด้วยอาการขัดใจ ฝ่ายชายหันมองผู้มาขัดจังหวะด้วยหางตาพร้อมกับเสียงสะบัดห้วนราวกับจะประกาศให้รู้ว่าไม่พอใจมากแค่ไหน
“โทษที คืนนี้ฉันมีคนไปด้วยแล้ว ไว้วันหลังนะ”
คำพูดที่หลุดออกมาประโยคแรกจากผู้ชายที่ไร้มารยาทยิ่งทำให้ลลิสาต้องจิกตามองแรงเข้าไปอีก มักมากยังไม่พอ หลงตัวเองยิ่งหนัก แค่หน้าตาดีนิดหน่อยคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะติดสอยห้อยตามไปทุกคนเลยหรือไง ไอ้ผู้ชายสำส่อนเอ๊ย!
“ทานโทษนะคะ เมื่อกี้ฉันคงพูดไม่ชัดเจน ฉันจะบอกว่าช่วยหลีกทางให้หน่อยค่ะ ฉันจะขึ้นไปข้างบนค่ะ”
หญิงสาวย้ำช้า ๆ ชัด ๆ แต่น้ำเสียงฟังดูก็รู้ว่าเธอหงุดหงิดมากแค่ไหน ผิดกับอีกฝ่ายที่เผยรอยยิ้มพอใจตรงมุมปาก ส่งให้ใบหน้าสไตล์ลูกครึ่งดูกวนอารมณ์จนเธอแทบอยากจะเอาเล็บข่วนหน้าหล่อ ๆ นั่นเพื่อระบายโทสะให้หายหัวเสีย
“บันไดก็ออกจะกว้าง ทำไมไม่ขึ้นไปล่ะยะ มัวยืนดูคนอื่นเขาจู๋จี๋กันทำไม”
คู่ขาของฝ่ายชายพูดแทรกขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าตัวเองไม่มีส่วนร่วมกับพวกเขาเลยทั้งที่ยืนทนโท่อยู่ตรงนี้ทั้งคน สองมือเธอไขว่คว้าแขนของชายหนุ่มมากอดไว้อย่างหวงแหน เชิดหน้ามองผู้หญิงไร้มารยาทที่บังอาจมาก่อกวนด้วยสายตาที่ประกาศว่าผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ ใครก็ห้ามแย่งทั้งนั้น
“หึ! กว้างบ้านป้าเธอสิ แหกตามองไหมว่ามันยังกว้างไม่ถึงเมตรครึ่งเลย ฉันคงเป็นไรฝุ่นมั้งถึงจะเดินแทรกเธอกับเขาที่รัดกันอย่างกับงูเหลือมไปได้”
ลลิสาตอกกลับอย่างไม่ไว้หน้าหลังจากที่อดทนสงบปากสงบคำมานาน ความแสบสันของเจ้าหล่อนเรียกรอยยิ้มพอใจจากผู้ชายที่ยืนเงียบอยู่ได้ เขาเกิดนึกสนใจในตัวเธอขึ้นมาทันที จะว่าไปแล้วเธอก็ดูสวยปราดเปรียวไม่หยอก
“อีบ้า แกว่าฉันเหรอ”
ผู้หญิงชุดแดงแสนสั้นรีบปล่อยแขนที่กอดอยู่มายืนดิ้นอยู่ตรงหน้าเพราะคำพูดที่ด่าเสมือนว่าเธอโง่ ใจจริงอยากเดินเข้าไปตบคนขัดจังหวะใจจะขาด แต่กลัวคู่ควงอย่างภาวัตไม่พอใจเลยต้องรักษาความเรียบร้อยเอาไว้สักหน่อย
“ไม่ได้ว่าหรอก ชมอยู่” คู่กรณีลอยหน้าลอยตาตอบอย่างยียวน
“หน็อย อี.....” สาวชุดแดงที่ถูกยั่วโมโหทนไม่ไหวจึงยกนิ้วที่มีเล็บยาวถูกเคลือบด้วยสีแดงเงาวับขึ้นชี้หน้าคู่กรณี
“พอได้แล้ว” คนที่ยืนเงียบอยู่นานแทรกขึ้นมาอย่างระอากับเหตุการณ์ประเภทนี้ เขาถูกพวกผู้หญิงตบตีแย่งกันบ่อยจนชินชา
เขาเลิกสนใจคู่ขาด้านข้างแต่กลับส่งยิ้มหวานให้กับสาวอีกคนแทน แววตาคมขยับไหวตามความพอใจที่พุ่งขึ้นเรื่อย ๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าร่างกายของเขามีปฏิกิริยากับเจ้าของร่างบางนี้ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในชุดที่ดูแล้ววาบหวิวจนน่ากลัว แต่มันกลับกระตุ้นเขาได้ดีเกินคาด
“แต่คุณภาวัตคะ นังนี่มันว่าเรานะคะ” คู่ขาสาวยังคงไม่ยอมแพ้
“เฉยเถอะน่า แล้วเธอก็ไปได้แล้วไป” ภาวัตตัดบทอย่างรำคาญ แล้วพยักหน้าให้เธอเดินลงไปโซนล่างโดยไม่ต้องรอเขา
ธนบัตรสีเทาสามสี่ใบถูกยื่นให้อีกฝ่ายที่รับไปอย่างรู้งานโดยไม่อิดออด ถึงคืนนี้จะไม่ได้ไปต่อกับชายหนุ่มที่ว่ากันว่าร้อนแรงและแซ่บมาก แต่อย่างน้อยก็ได้ค่าเสียเวลามาใช้สบาย ๆ
“ขอบคุณค่ะคุณภาวัตขา ไว้เรียกใช้เจนอีกนะคะ” หญิงสาวเอ่ยปากขอบคุณด้วยเสียงหวานหยดย้อยที่ประดิษฐ์มาเพื่อลูกค้ากระเป๋าหนักเป็นพิเศษพร้อมกับเขย่งตัวขึ้นหอมแก้มสองข้างของชายหนุ่มก่อนจะผละออกไป
“อ้าว ยังยืนอยู่อีกเหรอครับคุณ....”
ภาวัตจงใจถามกวนประสาททั้งที่เขาก็ยังคงมองเห็นอยู่ตลอด แต่อยากแหย่เธอเล่นไปอย่างนั้นเอง ไม่รู้ทำไมพอเห็นหน้าเธอไม่พอใจเขากลับรู้สึกว่ามันน่ารักอย่างบอกไม่ถูก
เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ
เขาต้องกดเก็บความต้องการของตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเย็นชา เพียงเพื่อถูกเธอกระชากออกด้วยความเร่าร้อนเกินต้าน ยั่วรักนายบอดี้การ์ดจอมโหด เรื่องราวของลูกสาวมาเฟียกับบอดี้การ์ดมาดเข้มที่แสนจะเร้าใจ นอกจากปกป้องชีวิตแล้ว เซียวเฟิง ยังได้รับคำสั่งกระชับเป็นพิเศษให้ปกป้องพรหมจรรย์ของหญิงสาว แต่ทว่า เมริสา กลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเอาเสียเลย ยิ่งทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพัง ระหว่างหน้าที่และความต้องการของตัวเอง เขาจะเลือกอะไร เพราะเธอแน่ใจอยู่แล้วว่าต้องการเขาแน่นอน
เพื่อพิชิตใจแม่ทัพหนุ่มที่หมายปอง นางผู้เป็นองค์หญิงถึงกับปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่เหตุการณ์มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นบุรุษ แล้วนางจะเกี้ยวเขาสำเร็จได้อย่างไร
ดวงใจของมาโปรด เขาคือคุณอาข้างบ้านและคนที่ยื่นมือมาช่วยเธอยามอ่อนแรง เธอ...เด็กสาวจอมซนที่หนีหายไปเสียนาน เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาจะต้องกักเก็บเธอไว้ข้างกายตลอดไป +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ดวงใจอนันต์ เหมือนกามเทพเล่นตลกให้เธอต้องมาพัวพันกับคนที่แอบชอบ ทั้งที่รู้ว่าฐานะต่างกันเหลือเกิน แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับได้ที่ไหนล่ะ!
ความงกของนางทำเอาบุรุษทุกคนต้องถอยหนี แม้กระนั้นความงามทำให้คนมาติดพันนางมากมาย แต่นางเล่นเอาพวกเขาเหล่านั้นหมดตัวกันไปทุกครั้ง แล้วอย่างนี้จะมีบุรุษจวนไหนที่จะกล้าแต่งนางเข้าจวน ฉายาท่านหญิงตำลึงทองของนางไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ “ข้าจะหาของมากมายมาให้เจ้า เมื่อนั้น เจ้าจะได้เข้าใจว่าในที่สุดแล้ว ของพวกนั้นก็หาได้มีราคาเทียบเท่ากับตัวเจ้า ที่ข้าทุ่มเททุกอย่างให้” ไป่ชางบอกพลางจ้องดวงตาดอกท้อสุกสกาวตรงหน้า มู่หรงเย่วชิงออกอาการเอียงอาย ก้มหน้าลงแล้วหันหนี สองมือจับอยู่ตรงสายชายอาภรณ์แล้วบิดไปมาระบายความเขิน ซึ่งดูได้ยากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงการซ่อนความดีอกดีใจที่จะได้รับพระราชทานสิ่งของราคาแพงถึงขนาดนั้นกันแน่ “มันจะเป็นของมากมายเพียงใดกันนะ” นางรำพึงรำพัน “มากจนเจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” “หนึ่งหีบหรือเพคะ” “มากกว่านั้น” “หรืออาจจะเป็นสอง” “เจ้าพอใจเท่านั้นเองหรือ” “สตรีไม่ควรละโมบโลภมาก แม้บุรุษผู้นั้นจะนำมาเสนอให้ถึงที่ก็ตามที” นางช่างกล้าพูด! นี่เป็นความคิดของคนที่หลบซ่อนอยู่ องค์ชายชางทำหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น” “ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยว่ชิง ใช่หรือไม่เพคะ” นางแสร้งทำเป็นออกความเห็นแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง ความฉลาดในการเอาตัวเองไปผูกกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทำให้หลี่อวี้ทั้งขำและเอ็นดูนางในคราวเดียวกัน และยิ่งขบขันมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานโง่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเจอกับอะไร
ครั้งเดียวจบแล้วไม่มีอยู่จริง เพราะดันติดใจรสสาวเวอร์จิ้น เมื่อคิดว่าเรือนร่างที่ตนประทับตราเป็นคนแรกจะถูกชายอื่นทับรอยก็แทบทนไม่ได้ เขาจึงต้องกักเก็บเธอไว้ตลอดไป โชติกา นักศึกษาสาวใจแตกที่ผิดหวังกับประสบการณ์ครั้งแรกกับเพื่อนรุ่นเดียวกัน ตั้งใจจะชดเชยด้วยการหาหนุ่มมากประสบการณ์มาเปิดซิง ชายหนุ่มวัยทำงานย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ระหว่างที่ค้นหาภาพหนุ่มฮอตจากอินเทอร์เน็ต ดันสะดุดตาเข้ากับคาร์ล เฟรเดอริก เจ้าของโรงงานช็อกโกแลตอันดับหนึ่ง คิดเล่น ๆ ว่า แบบเขาเนี่ยแหละที่เธออยากให้เป็นผู้ชายคนแรก แต่คงเป็นได้แค่ความฝัน เขากับเธอเหมือนอยู่คนละโลก อย่างไรก็ตามโชคชะตาก็พาให้ทั้งคู่ได้มาเจอกัน ชายหนุ่มทำให้หญิงสาวสมปรารถนา มันควรจะเป็นครั้งเดียวจบสิ แล้วครั้งที่สอง สาม สี่...ตามมาได้อย่างไร
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"