เขาเดินทางมาหาคู่หมั้นของตัวเองเพื่อจัดการเรื่องแต่งงาน แต่พบว่าเธอสติไม่ดี ถูกขังเอาไว้ที่ห้องใต้หลังคา! เขาจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อค้นพบความผิดปกติมากมายภายในบ้านของเธอ!
1
“อย่าเข้ามานะ อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา”
กรี๊ด!!! เสียงกรีดดังขึ้นจากห้องสี่เหลี่ยมใต้หลังคา ทั้งยังมีกลิ่นอับอบอวลไปทั่ว เสื้อผ้าข้าวของในนั้นทั้งเก่าทั้งโทรมไม่น่ามอง
“นี่แหละค่ะคุณไนล์ ยายวดีเป็นบ้ามาเกือบสองปีแล้ว พวกเราไม่รู้จะทำยังไงก็เลยจับขังเอาไว้ในห้องใต้หลังคาน่ะค่ะ” กฤติกาถอนใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะงับประตูปิดอย่างเบามือ
“งั้นเรื่องแต่งงานของผมกับวดีเป็นอันยกเลิกใช่ไหมครับ” นนทกรเอ่ยขึ้น
“ผมมาที่นี่ก็เพื่อแต่งงานตามคำคุณพ่อคุณแม่แล้วก็คุณย่า แต่ในเมื่อเจ้าสาวสติไม่ดี เขาก็ควรยกเลิก”
“คุณไนล์ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ”
“ผมไม่ใช่คนใจดีที่ยอมแต่งงานกับคนบ้าหรอกนะครับ แล้วผมเขาก็ไม่ได้รักเธอด้วย เหตุผลสำคัญอีกข้อคือ เธอต้องเป็นภรรยาออกนอกหน้าของผม สติไม่ดีแบบนี้จะเอาไปทำไมกันครับ ออกงานก็ไม่ได้”
“คุณไนล์คิดไปไกลเชียวนะคะ”
“ยิ่งเรื่องการปรนนิบัติพัดวี งานบนเตียงยังไม่ได้เลย บ้านช่องก็ต้องดูแล ผมอยากได้เมียที่เป็นเมียจริงๆ มีลูกให้ผมได้นะครับ” นนทกรพูดตรงจนกฤติกาหน้าเหวอ
“และสำคัญที่สุดคือผมต้องรักเธอ และเธอก็รักผมด้วย เราสองคนรักกันครับ”
“คุณไนล์ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ” กฤติกาพยายามบอกให้ชายหนุ่มใจเย็น
นางมีแผนการร้ายในใจที่ทำให้ลูกเลี้ยงเป็นบ้าเพราะอยากให้ลูกสาวของตนไปแทนที่ลูกเลี้ยง ได้แต่งงานกับนนทกรแทน แต่ถ้านนทกรไม่เลือกลูกสาวของตนอยากแต่งกับคนบ้า นางก็ไม่ขัดเพราะได้สินสอดทองหมั้นเหมือนกัน แต่นางก็ไม่อยากให้ลูกเลี้ยงมีความสุข ให้มันแต่งงานไปแบบบ้าๆ นั่นแหละ
“ที่ผมมาที่นี่ เพื่อที่จะมาลองคบหาดูใจและศึกษานิสัยใจคอกับรัตนวดีก่อนแต่งงาน ถ้าเข้ากันได้ดีก็ไปต่อ เข้ากันไม่ได้ก็แยกย้าย ซึ่งก่อนมาผมก็ได้ตกลงเรื่องนี้กับครอบครัวแล้วครับ”
“ค่ะ” กฤติการับคำ สีหน้าปั้นยาก ไม่คิดว่าจะโดนเป็นชุดขนาดนี้
“ที่บ้านของผมไม่มีการบังคับแต่อย่างใด พวกท่านก็อยากให้ผมได้ลองมาศึกษานิสัยใจคอรัตนวดีดูก่อน ผมจึงยอมทำตามความต้องการเดินทางมาที่นี่”
“น้าเข้าใจค่ะ” กฤติกาแสร้งทำเป็นเข้าอกเข้าใจชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้า
“ผมกับรัตนวดีเคยเจอหน้ากันตอนเด็ก ซึ่งนานมากแล้วนะครับ ในขณะที่ผมถูกส่งไปเรียนต่อเมืองนอกกับลุงและป้า ท่านเสียชีวิต ผมจึงเดินทางกลับมา ไม่อย่างนั้นผมก็คงไม่กลับมาหรอกครับ” ลุงกับป้าของเขาไม่มีทายาทจึงขอเขาไปเลี้ยง เพราะบิดามารดาของเขามีพี่สาวอีกคน
“แต่น้าก็ยังมีลูกสาวอีกคนนะคะ ยายภาน่ะเป็นเด็กดี เรียบร้อยอ่อนหวาน การบ้านการเรือนก็ไม่มีที่ติ คุณไนล์ไม่ลองพิจารณายายภาดูก่อนล่ะคะ ครอบครัวเราจะได้เป็นดองกันตามคำผู้ใหญ่ไงคะ” กฤติกาเสนอภารดี ลูกสาวของตนให้กับนนทกร
นนทกรเดินทางมาที่นี่ก็ต้องพักอยู่อีกหลายวัน ทั้งยังพาลูกน้องมาด้วยสองคน นางก็จะให้บุตรสาวเอาอกเอาใจชายหนุ่มให้มากที่สุด ผู้ชายโดนมารยาหญิงเข้าไป รับรองว่าไปไหนไม่รอด
กฤติกาเป็นภรรยาใหม่ของพงศ์รวิชญ์ ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้หลังจากจิรวดีเสียชีวิตไปได้ปีเศษ ในคราแรกก็มีท่าทีรักใคร่รัตนวดีนั่นแหละ แต่พอมีลูกของตัวเอง ก็รักลูกตัวเองมากกว่า
ใครจะรักลูกนอกไส้ได้ล่ะ ยังไง ๆ คนเป็นแม่อย่างเธอก็ต้องรักลูกในอกมากกว่า
“ผมต้องเรียนคุณน้าตามตรงนะครับ ว่าผมมาที่นี่เพื่อมาเจอรัตนวดีคู่หมั้นของผม และจะลองคบหาศึกษานิสัยใจคอของเธอก่อนแต่งงานน่ะครับว่าไปกันได้ไหม แต่ผมไม่ได้คิดจะแต่งงานในทันที ตามที่คุณน้าเข้าใจ”
“น้าเข้าใจค่ะ คนหนุ่มแบบคุณไนล์คงไม่อยากให้ใครจับคลุมถุงชน แต่ถ้าถูกใจกันจริงๆ จะแต่งเลยน้าก็ไม่ว่านะคะ” กฤติกาแสร้งทำเป็นเข้าใจ ก่อนจะร้องห่มร้องไห้ออกมา
“ตั้งแต่คุณพงศ์ล้มป่วยและเสียชีวิต น้าก็ต้องรับภาระทุกอย่างในบ้าน มีแค่ลูกสาวเท่านั้นที่เป็นแก้วตาดวงใจ น้าแค่หวังว่ายายภาจะเป็นฝั่งเป็นฝาน่ะค่ะ คุณพงศ์รวิชญ์เคยบอกเอาไว้ ว่าให้ลูกคนใดคนหนึ่งแต่งงานตามคำมั่นสัญญาที่ได้เคยให้ไว้กับคุณพ่อของคุณน่ะค่ะ”
“ลูกคนใดคนหนึ่งเหรอครับ” นนทกรขมวดคิ้วเข้าหากัน เขาไม่เคยได้ยินเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน
“ใช่จ้ะ น้าเองก็ไม่อยากจะพูดมาก แต่ยายวดีน่ะทำตัวเหลวไหล คบผู้ชายไม่ซ้ำหน้า จนตอนนี้เป็นบ้าไปแล้ว เพราะไปทำแท้งมา หลอนว่ามีผีเด็กมาหลอก เคยเล่นยาด้วยนะคะ ตอนนี้น้าก็ดูแลไปด้วยความเวทนาน่ะค่ะ สงสารยังไงก็เป็นลูกอีกคน”
“แล้วไม่พาไปรักษาเหรอครับ”
“พาไปแล้วค่ะ ไม่หาย อาการไม่ดีขึ้น อาละวาดจนหมอยังตกใจเลยค่ะ แกหนีออกมาจากโรงพยาบาล น้าเลยต้องล่ามโซ่แกเอาไว้น่ะค่ะ”
“ผมว่าน่าจะพาไปส่งโรงพยาบาลบ้านะครับ”
แค่ก แค่ก แค่ก...
อีกด้านหนึ่ง รัตนวดีสำลักน้ำที่กำลังดื่มเข้าไป ทำให้เธอต้องตบอกตัวเองไปมาเบา ๆ
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง