โปรย เมียเถื่อนของคมฉกรรจ์ เพราะเธอต้องเข้าพิธีแต่งงานกับชายอื่นเพื่อช่วยเหลือบิดามารดา ทั้ง ๆ ที่เธอรักคมฉกรรจ์เหลือเกิน เธอจึงจุดไฟความแค้นขึ้นมาในตัวเขา เขาลักพาตัวเธอในคืนวันแต่งงานทำให้เธอเป็นเมียเถื่อนของเขา ตัวอย่างบางช่วงบางตอน... คีตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เธอเพิ่งเสียตัวเป็นครั้งแรก โดนจัดหนักจากอดีตแฟนหนุ่มที่ลักพาตัวเธอมาจากงานแต่งงาน "ตื่นแล้วเหรอ" น้ำเสียงเย็นชาของคมฉกรรจ์ทำให้เธอต้องเม้มปากเข้าหากัน คีตาไม่ตอบ แต่เธอกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความหนาว ดึงผ้าห่มมาปิดบังเรือนร่างและเลื่อนมือไปหยิบเสื้อผ้าที่โดนกระชากออกไปจากตัว พบว่ามันขาดวิ่นจนหมดแล้ว เธอกัดปากตัวเองก่อนจะเหลือบมองคนตัวโตด้วยดวงตาแดงก่ำ "ไม่ต้องใส่หรอก เดี๋ยวจะเอาอีกหลายๆ รอบ" เขาเดินเข้ามาหาก่อนจะกระชากเสื้อผ้าออกไปจากมือน้อยของเธอ "พี่คม" เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "ทำสีหน้าแบบนี้อยากกลับไปหาเจ้าบ่าวของเธออย่างนั้นเหรอ แต่เสียใจด้วยนะ ป่านนี้มันคงรู้แล้วล่ะว่า มันไม่มีทางได้ตัวเธอ" "พี่คมทำถึงขนาดนี้ เพลงจะมีหน้ากลับไปได้อีกเหรอคะ" เธอมองเขาแล้วน้ำตาซึม "เสียใจขนาดนี้เลยเหรอที่ตกเป็นของพี่" "พี่คมย่ำยีกันขนาดนี้ จะให้เพลงนั่งยิ้มนั่งหัวเราะเหรอคะ" "ก็แล้วเธอผิดสัญญาไปแต่งงานกับไอ้ชเยศก่อนทำไมกันล่ะ" "พ่อกับแม่กำลังลำบาก เพลงต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ พี่ก็รู้ว่าเพลงรอไม่ได้" "เพราะไอ้หมอนั่นมันมีเงินมากกว่าต่างหากล่ะ" "ไม่ใช่นะจ้ะ แต่เพราะหนี้สินของพ่อแม่รอไม่ได้จริงๆ เพลงเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณเชน" "เรียกมันเสียสนิทสนม ไม่เรียกมันว่าพี่เชนไปเลยล่ะ" เขาประชด หมอนั่นกวนบาทาเขาจริง ๆ เคยมีเรื่องชกต่อยกันมาแล้ว "ทำไมต้องประชดเพลงด้วย" คีตามองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ "ก็ดีที่ไม่อยากแต่งงานกับมัน พี่สืบรู้มาว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้เป็นหนี้จริงๆ แต่ที่ทำไปทั้งหมดเป็นการเล่นละครบีบบังคับให้เธอแต่งงานกับหมอนั่น" "จริงเหรอจ๊ะ" "จริงสิ" "พี่รู้อย่างนี้ก็ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอจ๊ะ" "ไม่ทำแบบนี้เธอก็เป็นเมียหมอนั่นน่ะสิ ไม่ต้องกังวลไป พ่อแม่เธอไม่โดนทวงหนี้หรอก" "พี่รักเพลงจริงหรือเปล่าจ๊ะ" "ทำไม" "พี่ทำแบบนี้เพลงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไหนจะพ่อกับแม่อีก" "ถ้าไม่ทำแบบนี้ เพลงก็ต้องเป็นของมัน พี่ไม่ยอม" เขาลุกจากที่นั่งผิงไฟอยู่มาหาเธอ คีตาถอยหนี คมฉกรรจ์ก็ดึงรั้งเธอมาหา "พี่คมจะทำอะไรคะ" เธอเอ่ยถามปากคอสั่น แนวนิยาย นิยายรักโรแมนติกโรมานซ์ หวานซึ้งตรึงใจ จบแบบสุขนิยม ไม่มีนอกกาย ไม่มีนอกใจ พระนางมีความรักที่มั่นคง
เสียงครวญครางของคีตาดังขึ้นตลอดค่ำคืนอันหนาวเหน็บของป่าลึก ก่อนจะเงียบเสียงลงในตอนย่ำรุ่ง
คีตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว เธอเพิ่งเสียตัวเป็นครั้งแรก โดนจัดหนักจากอดีตแฟนหนุ่มที่ลักพาตัวเธอมาจากงานแต่งงาน
“ตื่นแล้วเหรอ” น้ำเสียงเย็นชาของคมฉกรรจ์ทำให้เธอต้องเม้มปากเข้าหากัน
คีตาไม่ตอบ แต่เธอกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความหนาว ดึงผ้าห่มมาปิดบังเรือนร่างและเลื่อนมือไปหยิบเสื้อผ้าที่โดนกระชากออกไปจากตัว พบว่ามันขาดวิ่นจนหมดแล้ว เธอกัดปากตัวเองก่อนจะเหลือบมองคนตัวโตด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ไม่ต้องใส่หรอก เดี๋ยวจะเอาอีกหลายๆ รอบ” เขาเดินเข้ามาหาก่อนจะกระชากเสื้อผ้าออกไปจากมือน้อยของเธอ
“พี่คม” เธอเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
“ทำสีหน้าแบบนี้อยากกลับไปหาเจ้าบ่าวของเธออย่างนั้นเหรอ แต่เสียใจด้วยนะ ป่านนี้มันคงรู้แล้วล่ะว่า มันไม่มีทางได้ตัวเธอ”
“พี่คมทำถึงขนาดนี้ เพลงจะมีหน้ากลับไปได้อีกเหรอคะ” เธอมองเขาแล้วน้ำตาซึม
“เสียใจขนาดนี้เลยเหรอที่ตกเป็นของพี่”
“พี่คมย่ำยีกันขนาดนี้ จะให้เพลงนั่งยิ้มนั่งหัวเราะเหรอคะ”
“ก็แล้วเธอผิดสัญญาไปแต่งงานกับไอ้ชเยศก่อนทำไมกันล่ะ”
“พ่อกับแม่กำลังลำบาก เพลงต้องตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ พี่ก็รู้ว่าเพลงรอไม่ได้”
“เพราะไอ้หมอนั่นมันมีเงินมากกว่าต่างหากล่ะ”
“ไม่ใช่นะจ้ะ แต่เพราะหนี้สินของพ่อแม่รอไม่ได้จริงๆ เพลงเองก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับคุณเชน”
“เรียกมันเสียสนิทสนม ไม่เรียกมันว่าพี่เชนไปเลยล่ะ” เขาประชด หมอนั่นกวนบาทาเขาจริง ๆ เคยมีเรื่องชกต่อยกันมาแล้ว
“ทำไมต้องประชดเพลงด้วย” คีตามองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ
ชเยศเป็นหนุ่มเมืองกรุงฯ ที่มาตามหาพี่ชายที่หายสาบสูญ แล้วเผอิญอีกฝ่ายมาถูกตาต้องใจเธอเข้า แต่เธอกำลังคบหาอยู่กับคมฉกรรจ์ชายหนุ่มในหมู่บ้านเดียวกัน แต่เพราะคมฉกรรจ์เป็นชายหนุ่มกำพร้าที่ถูกยายสะอาดเลี้ยงดูมาจนโต ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยเหมือนหนุ่มเมืองกรุงอย่างชเยศ ทำให้บิดามารดาของเธอรังเกียจเดียดฉันเขา
ถึงกระนั้นเธอก็ยังรักมั่นคงกับคมฉกรรจ์ไม่แปรผัน ถ้าไม่ใช่เพราะบิดามารดาของเธอเป็นหนี้และโดนทวงหนี้โหด เธอคงไม่เข้าพิธีแต่งงานกับชเยศ
ที่เธอเข้าพิธีแต่งงานกับเขาเพราะเงิน แต่ถ้าไม่มีเงินบิดามารดาก็จะโดนฆ่าตาย เสี่ยเจ้าของบ่อนโหดมาก เธอเป็นลูกก็ต้องกตัญญูต่อบุพการี เพราะพวกท่านเลี้ยงดูมาอย่างดี ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจเช่นนี้
เธอก็อยากให้คมฉกรรจ์เข้าใจเธอด้วย
“ก็ดีที่ไม่อยากแต่งงานกับมัน พี่สืบรู้มาว่าพ่อแม่ของเธอไม่ได้เป็นหนี้จริงๆ แต่ที่ทำไปทั้งหมดเป็นการเล่นละครบีบบังคับให้เธอแต่งงานกับหมอนั่น”
“จริงเหรอจ๊ะ”
“จริงสิ”
“พี่รู้อย่างนี้ก็ยังจะทำแบบนี้อีกเหรอจ๊ะ”
“ไม่ทำแบบนี้เธอก็เป็นเมียหมอนั่นน่ะสิ ไม่ต้องกังวลไป พ่อแม่เธอไม่โดนทวงหนี้หรอก”
“พี่รักเพลงจริงหรือเปล่าจ๊ะ”
“ทำไม”
“พี่ทำแบบนี้เพลงจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไหนจะพ่อกับแม่อีก”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ เพลงก็ต้องเป็นของมัน พี่ไม่ยอม” เขาลุกจากที่นั่งผิงไฟอยู่มาหาเธอ คีตาถอยหนี คมฉกรรจ์ก็ดึงรั้งเธอมาหา
“พี่คมจะทำอะไรคะ” เธอเอ่ยถามปากคอสั่น
“พี่ไม่ทำอะไรเพลงหรอก แค่จะหาเสื้อผ้าให้สวม” เขาเห็นท่าทีหวาดกลัวของเธอ ก็ได้สติว่าเขาอาจจะทำรุนแรงกับเธอไป
“พี่เตรียมเสื้อผ้ามาให้เธอแล้ว เปลี่ยนซะ” เขายื่นเสื้อผ้าให้เธอ
“กี่โมงแล้วคะพี่คม” เธอรับเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างไม่เกี่ยงงอน ตอนนี้เธอมึนงงไปหมด ไม่รู้จะทำยังไงต่อไป แต่โดนเขาฉุดเข้าป่ามาจากงานแต่งแบบนี้ เธอคงไม่มีหน้ากลับไปพบใครอีก
“ตีสี่” เขาตอบเสียงขรึม
เธอเงียบไป ไม่รู้จะพูดอะไรดี ได้แต่มองเขาตาปริบๆ
“หิวไหม”
“ไม่ค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมา
“นอนต่อเถอะ” เขาเดินเข้าหา เพราะนอนกันอยู่ตรงแคร่สูงหน้ากระท่อม เธอมาถึงนี่ก็ทะเลาะกับเขา จะกลับบ้านท่าเดียว เลยโดนเขาปลุกปล้ำและลากยาวมาจนถึงตอนนี้ ถามว่าตอนนี้รู้สึกยังไง บอกได้คำเดียวว่าอ่อนเพลียไปหมด
“พี่จะทำอะไร”
“นอนกอดเธอไง พี่ก่อไฟแล้ว รับรองว่าไม่หนาว และถ้าได้อ้อมกอดของพี่อีกก็จะอุ่นสบาย”
คีตายังไม่ทันที่จะได้หนีเขาก็ตรงเข้ามากอดรัดเธอเอาไว้แนบอก
“พี่คม”
“ทำไม”
“ปล่อยนะคะ”
“ถ้าไม่ให้กอดทำอย่างอื่นแทนแล้วกัน” เสียงเขาเข้มดุตามนิสัย
“ไม่ทำแล้วค่ะ” เธอพูดเสียงอ่อย
“หลับเถอะ พี่ง่วง” เขาบอกอย่างอ่อนแรงไม่ต่างกัน ลักพาตัวเธอมาได้ ก็พาเข้าป่ามาอีก สมบุกสมบันพอสมควร ดีที่ตอนพาเข้าป่าเธอสลบ ไม่อย่างนั้นคงทุลักทุเลกว่านี้
พอเขาพูดแบบนั้นก็กอดรัดเธอแนบอกและหลับไปในทันที เธอไม่ได้พูดอะไร แต่หลับตามเขาไปเพราะอ่อนเพลียและง่วงนอนสุดใจ
คีตาตื่นมาอีกครั้งก็เพราะวกลิ่นอาหารลอยมาปะทะจมูก เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าขึ้นมานอนบนเตียงในกระท่อมตอนไหน อาจเพราะหลับลึกโดนอุ้มมานอนบนเตียงอุ่น ๆ แล้วไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...