"คุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม" "นี่อะไร" ศิวัฒน์ชูเอกสารในมือขึ้น "คุณก็เห็นว่ามันคืออะไร" เธอตอบโดยไม่ใส่ใจมากนัก เพราะเกี่ยวกับเขาถึงยังไงเขาก็ต้องรู้ "หึ" เขาเดินเข้าไปใกล้เธอ "เธอคิดว่าเล่นขายของอยู่หรือไง ที่จะเลิกเล่นตอนไหนก็ได้" "คุณเองไม่ใช่เหรอที่อยากหย่าตั้งแต่แรก ตอนนี้ฉันก็ยอมเซ็นใบหย่าให้คุณแล้วเราไปอำเภอกันพรุ่งนี้เลยฉันเตรียมเอกสารครบแล้ว" "มันสายไปแล้ว" เขาบีบต้นแขนเธอแน่น "อยากเป็นเมียก็จะให้เป็น" "ฉันเจ็บนะคุณไตร" เธอพยายามแกะมือของเขาออก "อยากหย่ากับฉันมากละสิ เสียใจด้วยตอนนี้ฉันไม่อยากหย่าแล้ว" น้ำเสียงของเขาเหมือนคนที่กำลังโกรธ ซึ่งฉัตรนลินทร์ก็ไม่เขาใจว่าทำไมเขาถึงได้โกรธขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เธอพยายามทำในสิ่งที่เขาต้องการตั้งแต่แรกแล้วแท้ ๆ "คุณจะทำอะไร" ฉัตรนลินทร์ร้องถามพลางเอามือดันอกเขาไว้ เมื่ออยู่ ๆ เขาก็พยายามกอดเธอ ความกลัวเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของเธอ "ทำหน้าที่สามีไง จะทำทุกคืนให้คุ้มค่ากับเงินที่แม่ของฉันจ่ายให้เธอ" แม้จะเห็นใบหน้านวลตรงหน้านั้นกำลังซีดเผือดแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ "ไม่นะ...ปล่อยฉันลงสิคุณไตร" เธอร้องสุดเสียงเมื่อโดนศิวัฒน์อุ้มขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปที่เตียงนอน อึก!! ................................ "เธออยากหย่าขนาดนั้นเลย" "ใช่ค่ะ ไม่หย่าวันนี้วันหน้าก็ต้องหย่าอยู่ดี" ................................. "ถอยไปดิ อย่ามาขวาง" เธอไม่สนใจลูกชาย "อ้อ เอกสารของบริษัททั้งหมดอยู่ในห้องทำงานนะ ฉันยกให้แกหมดเลย" "แม่!!" "ไม่ต้องเรียก ฉันไม่มีลูกโง่อย่างแก" ................................. "เราไม่ใช่เด็ก ๆ กันแล้วนะ เรามาแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดกันเถอะ" เธอหันไปเผชิญหน้ากับศิวัฒน์ "ฉันขอโทษที่ไม่ยอมปฏิเสธแม่ของคุณในวันนั้น ขอโทษที่ไม่ยอมรับข้อเสนอของคุณ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ฉันไม่อยากให้เรารู้จักกันด้วยซ้ำ แต่เมื่อมันย้อนไม่ได้เราก็เดินไปข้างหน้าเพื่อลืมเรื่องราวของกันและกันเถอะ" ....................................
“พรุ่งนี้แกต้องไปหย่าให้หนูฉัตรให้เรียบร้อย”
“อะไรนะครับ”
“แกฟังไม่ผิดหรอก”
“แม่กำลังเล่นอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ก็บังคับให้ผมแต่ง มาตอนนี้บอกให้ผมไปหย่า”
“ใช่ ฉันเล่นอยู่แต่ตอนนี้เกมมันจบแล้ว แกเป็นฝ่ายชนะ แกจะพาแฟนแกเข้ามาอยู่ในบ้านก็ได้นะฉันไม่ห้าม”
คำพูดพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นหากวันนั้นศศิณีไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยนลูกชาย โดยการบังคับให้เขาแต่งงานกับหญิงสาวที่เธอหาให้
ณ.มหาวิทยาลัยชื่อดัง
สาวสวยหุ่นบางที่อยู่ในชุดเดรสสีฟ้ากระโปรงคลุมเข่า เธอเป็นอาจารย์สอนวิชาภาษาอังกฤษในมหาวิทยาลัยชื่อดัง และเป็นที่รักของนักศึกษา เพราะเธอเป็นคนน่ารัก อัธยาศัยดี
“อาจารย์คะ วันนี้หนูขอบคุณมากเลยนะคะที่อาจารย์ช่วยติวให้พวกหนู”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอหันไปยิ้มให้พวกนักศึกษาปี 4 “ใกล้สอบแล้วตั้งใจอ่านหนังสือกันด้วยนะ”
“ค่า....อาจารย์”
พวกเธอตะโกนตามหลังพลางโบกไม้โบกมือให้อาจารย์สาวสวย
ตี๊ด
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดข้อความที่ถูกส่งมาจากผู้เป็นแม่
‘ฉัตรลูก ถ้าสอนเสร็จแล้วโทรกลับหาแม่หน่อยนะ’
ฉัตรนลินทร์ หญิงสาววัย 28 ปี เธอเป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ามาเป็นอาจารย์ตั้งแตเรียนจบใหม่ๆ เธอสอนหนังสือที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้มาเป็นเวลา 4 ปีกว่าแล้ว ปกติทุกๆ วันหยุดเธอจะกลับไปช่วยงานที่บ้าน แต่เนื่องด้วยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาแม่ของเธอมาขอร้องให้เธอแต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงงานส่งออกขนาดใหญ่ เพื่อรักษาบริษัทรับผลิตเครื่องหนังของพ่อไว้ เธอยังไม่ให้คำตอบพวกเขา ซึ่งสุดสัปดาห์นี้เธอจะต้องกลับไปพูดคุยเรื่องนี้กับผู่ใหญ่ของอีกฝ่าย
“แม่คะ”
‘อาทิตย์นี้กลับมาคุยกันนะลูก’
“ค่ะแม่”
‘แม่ขอโทษ’
“ไม่เป็นไรค่ะ”
หลังวางสายฉัตรนลินทร์ก็ขับรถกลับที่พักของเธอ เธอนั่งทบทวนเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เธอเกิดมาพ่อกับแม่ของเธอไม่เคยปล่อยให้เธอลำบากเลย เธอมีพร้อมทุกอย่างเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าครอบครัวของเธอเป็นหนี้มากมายแค่ไหน
สุดสัปดาห์ที่ฉัตรนลินทร์ไม่อยากให้มาถึง แต่สุดท้ายเธอก็เลี่ยงไม่ได้ ก็เลยต้องปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป เธอขับรถไปยังร้านอาหารที่แม่ของเธอบอกไว้
“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่าคะ”
เมื่อเห็นฉัตรนลินทร์เดินเข้าไปในร้านพนักงานต้อนรับก็เดินเข้ามาสอบถาม
“จองไว้ค่ะ”
“กรุณาแจ้งชื่อผู้จองด้วยนะคะ”
“คุณศศิณีค่ะ”
“เชิญด้านนี้ค่ะ” หญิงสาวพนักงานเดินนำหน้าเธอไปยังห้องรับรอง แล้วให้เธอนั่งลงตรงโต๊ะกว้าง “รับน้ำอะไรดีค่ะ”
“เอาน้ำเปล่าแล้วกันค่ะ”
“สักครู่นะคะ”
“ฉัตรนลินทร์ใช่มั้ย”
“ใช่ค่ะ” ฉัตรนลินทร์รีบลุกขึ้นยืนทันที เรื่องมารยาทเธอไม่ได้ขาดตกบกพร่อง เพราะมีอาชีพที่เปรียบเสมือนแม่พิมพ์ เธอจึงมีบุคลิกที่สง่าสามารถเป็นแบบอย่างให้นักศึกษาได้ดีเลยทีเดียว
“ฉันศศิณี” หญิงวัยกลางคนแนะนำตัว
“สวัสดีค่ะคุณศศิณี”
“นั่งเถอะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“เข้าเรื่องเลยละกัน” เธอว่าพลางมองสำรวจใบหน้างามนั้นไปด้วย หญิงสาวตรงหน้าสวยไม่แพ้ตอนที่เธอยังสาวเลย
“ค่ะ”
“เธอคงรู้แล้วว่าวันนี้ฉันนัดเธอมาเจอทำไม”
“ทราบค่ะ”
ก่อนมาแม่ของฉัตรนลินทร์บอกเธอทุกอย่างแล้ว
“เธอยินดีจะแต่งงานกับลูกชายของฉันหรือเปล่า” ศศิณีไม่อ้อมค้อม
“ค่ะ”
“หลังแต่งงานฉันจะจัดการเรื่องหนี้สินทั้งหมดให้ครอบครัวของเธอ รวมไปถึงเธอด้วย”
“คุณรู้”
“แน่นอน คนที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ของฉัน ฉันก็ต้องรู้ประวัติสิ แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน เรื่องที่เธอต้องรับมือคือลูกชายของฉัน”
“ยังไงคะ” ฉัตรนลินทร์ไม่เข้าใจ
“ฉันบอกตามตรงนะ เพราะตอนนี้เจ้าลูกชายตัวดีมันกำลังติดผู้หญิงน่ะสิ”
นี่คือสิ่งที่ฉัตรลินทร์ไม่รู้ เธอไม่คิดว่าคนที่เธอต้องแต่งงานด้วยจะมีแฟนอยู่แล้ว พอเป็นแบบนี้เท่ากับว่าเธอต้องไปแย่งของ ๆ คนอื่นใช่มั้ย
“เอ่อ...ขอประทานโทษนะคะ ทำไมคุณถึงไม่ให้ลูกชายของคุณแต่งงานกับแฟนของเขาล่ะคะ”
“เพราะฉันไม่ชอบไง” ศศิณีตอบตามตรง ด้วยนิสัยหลายอย่างของหญิงสาวที่เป็นแฟนของลูกชายทำให้เธอต้องส่ายหน้า นี่คือที่มาของการหาลูกสะใภ้ด้วยตัวเอง
“แล้วหนู...” ฉัตรนลินทร์ชี้เข้าหาตัว
“ดีกว่าแม่คนนั้นเยอะ”
ก่อนที่เธอจะเลือกฉัตรนลินทร์ เธอสืบประหวัดว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้มาหมดแล้ว ซึ่งเธอก็พอใจเป็นอย่างมาก
“แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ”
“ทำให้ลูกชายของฉันรัก ยิ่งมีลูกด้วยกันเร็วๆ ยิ่งดี”
“แต่...”
ฉัตรนลินทร์หลุบตาต่ำลง การจำใจแต่งงานกับผู้ชายที่เธอไม่รู้จักว่ายากแล้ว แต่การจพทำให้เขารักคงเป็นเรื่องที่ยากกว่า ไม่ต้องคิดไปถึงมีลูกเลยด้วยซ้ำ
“ฟังให้จบก่อน”
“ค่ะ”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่สบายใจ แต่การแต่งงานก็เป็นเรื่องสำคัญของตาไตร หลังจากสามปีหากเธอทั้งสองไม่ได้รักกันฉันจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ”
“ทำไมต้องสามปีคะ”
ฉัตรนลินทร์คิดว่านี่คือทางรอดเดียวของเธอ แต่สามปีมันนานไปหรือเปล่า เธอจะสามารถทนได้ถึงตอนนั้นมั้ย
“เอาเถอะไม่ต้องถามมาก ทำตามเงื่อนไขก็พอ”
“หนูไม่มีตัวเลือกอื่นเลยใช่มั้ยคะ”
“ตอนนี้ยังไม่มี ฉันเชื่อว่าเธอจะเป็นเด็กดีของฉัน”
“ค่ะ”
“อ้อ ฉันจะซื้อบ้านที่กรุงเทพใกล้ ๆ มหาลัยที่เธอสอนอยู่ให้หนึ่งหลัง หลังแต่งงานเธอกับตาไตรจะต้องย้ายเข้าไปอยู่ที่นั่น เพราะฉันจะให้เขาเข้าไปบริหารบริษัทที่กรุงเทพ”
“แล้วเขาจะยอมเหรอคะ”
“ฉันมีวิธี เธอแค่ทำหน้าที่เมียอย่าให้ขาดตกบกพร่องก็พอ”
ศศิณีเป็นคนฉลาด ทุกครั้งก่อนที่เธอจะทำอะไรเธอมักจะรอบคอบและวางแผนมาเป็นอย่างดี
“ค่ะ”
“อาทิตย์หน้าเธอว่างหรือเปล่า”
“ยังไม่แน่ใจค่ะ มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ฉันจะให้ไปลองชุดเจ้าสาวกับตาไตร”
“ต้องไปพร้อมกันเหรอคะ”
“ต้องพร้อมกันสิ มีคู่บ่าวสาวที่ไหนบ้างไปลองชุดคนละที”
“ถ้ายังไงจะโทรแจ้งอีกทีนะคะ” ฉัตรนลินทร์เริ่มมีท่าทีประหม่า เธอไม่คิดว่าจะได้เจอเขาเร็ว ๆ นี้
“พรุ่งนี้อยู่บ้านหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ”
“ฉันจะให้ตาไตรไปรับออกมาทานข้าว”
คนฟังแทบช็อค อาทิตย์หน้าว่าเร็วแล้ว นี่ศศิณีบอกว่าจะให้ลูกชายมารับเธอพรุ่งนี้อีก เธอจะทำไงดี
“เอ่อ”
“ทำความรู้จักกันไว้ก่อน อีกเดือนเดียวก็แต่งงานกันแล้ว”
“ว่าไงนะคะ แต่งวันไหนนะคะ”
วันนี้หากว่าเธอไม่ช็อคตายซะก่อน เธอคงอยู่ได้ถึงร้อยปีแน่ ๆ เพราะทุกอย่างที่ศศิณีพูดมันเป็นเรื่องบีบหัวใจของเธอทั้งนั้น
“กลางเดือนหน้า”
“ไม่เร็วไปหน่อยเหรอ”
“นี่ยังช้าไปนะ ฉันจะให้แต่งวันสองวันนี้แล้ว” ศศิณีรู้สึกชอบใจลูกสะใภ้ที่เธอหามาเองกับมือเหลือเกิน
และนี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"