เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ในความพร่ามัวราวกับความฝัน ฉินหร่านกลับรู้สึกถึงความหรรษาอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ดวงตาที่หนักอึ้งพยายามลืมตาขึ้นแต่ไร้ความหมาย เธอรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อาจลืมตาขึ้นมาได้ สัมผัสบนเรือนร่างกลับชัดเจนในความรู้สึกเหมือนจริงจนรู้สึกหวาดกลัว
ทว่าความอบอุ่นอ่อนโยนที่ถูกมอบให้ ทำให้เธอล่องลอยอย่างสุมสม เธอเหมือนเรือลำน้อยที่ถูกคลื่นทะเลตงไห่ซัดสาดไปมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำได้แต่ปล่อยให้เรือลำน้อยล่องลอยไปตามคลื่นลมที่โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง และเฝ้าหวังว่าความฝันอันเลือนรางนี้จะจบลงด้วยดี
ราตรีกาลผ่านพ้นไป รุ่งอรุณมาเยือนจนแสงสีเหลืองทองสาดส่องเข้ามาภายในห้อง ฉินหร่านลืมตาขึ้นมองแสงยามเช้าสาดส่องดวงตาอย่างสับสน เธอกวาดตามองรอบห้องที่เป็นเพียงห้องที่เก่ามาก เครื่องเรือนที่แทบจะไม่มีภายในห้องนอนเล็กๆ แห่งนี้
ฉินหร่านผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ ก่อนจะนิ่วหน้าด้วยความปวดร้าว เรือนร่างของเธอเวลานี้ปวดร้าวไปทั้งตัวโดยเฉพาะส่วนล่างที่รู้สึกเจ็บจนต้องเม้มปากแน่น ทันใดนั้นความทรงจำที่ไม่ใช่ของเธอหลั่งไหลเข้ามาราวกับสายน้ำเซี่ยวกราก เธอพยายามอดทนกับความเจ็บปวดที่ศีรษะ โชคดีที่ความเจ็บปวดนี้ใช้เวลาไม่นาน
แต่สิ่งที่เธอเรียบเรียงได้กลับทำให้ตื่นตกใจ เหตุการณ์เมื่อคืนที่เธอคิดว่าเป็นเพียงความฝันกลับเป็นความจริง เจ้าของร่างนี้มีชื่อว่าฉินหร่านเช่นเดียวกับเธอ และถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด ซึ่งย้ายมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่นาน ด้วยราคาเพียงแค่หนึ่งตำลึงทองเท่านั้น และร่างนี้มีอายุเพียงแค่สิบหกปีที่พึ่งผ่านพ้นวัยปักปิ่นมา
อีกทั้งเมื่อคืนเป็นคืนที่ต้องเข้าหอ แต่โชคร้ายที่เด็กน้อยฉินหร่านคนนั้นหวาดกลัวจนช็อกตาย และเธอก็เข้ามาแทนที่พอดี มือเล็กผอมบางยกมือขึ้นนวดหน้าผากตัวเองอย่างสับสน จำได้ว่าเธอนอนอยู่บนเตียงของตัวเองทำไมถึงมาโผล่อยู่ที่นี่ หากบอกว่าเป็นความฝัน ทว่าความเจ็บปวดตอนนี้กลับหลอกเธอไม่ได้
“เจ้าตื่นแล้ว”
ฉินหร่านหันไปมองคนพูดอย่างตกใจ ใบหน้าคนตรงหน้าหล่อเหลาคมคาย ทว่าดวงตาทั้งสองข้างกลับปิดสนิท เรือนร่างสมส่วนอยู่ในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มเก่าๆ คนตรงหน้าคือฉีเยี่ยนสามีของร่างนี้ และเป็นคนที่เธอร่วมสัมพันธ์เมื่อคืนนี้ ใบหน้าแดงระเรื่อ เมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ อย่างไรเธอก็เป็นสาวโสดมากว่ายี่สิบแปดปีและเมื่อคืนก็เป็นครั้งแรกของเธอเช่นกัน
“ลุกไหวหรือเปล่า จะได้มากินข้าวกัน” น้ำเสียงอ่อนโยนของชายตาบอดที่ยืนอยู่หน้าประตู ทำให้ฉินหร่านรีบลุกขึ้นยืนแต่เพราะความหักโหมจากเมื่อคืน ทำให้เธอทรุดกลับไปนั่งที่เดิม เธอเม้มปากแน่นหน้าแดงระเรื่อแต่ถึงกระนั้นชายตาบอดก็ไม่สามารถมองเห็นได้
“ท่านพี่ทานก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
ฉินหร่านเอ่ยบอก แม้เธอจะหิวแต่สังขารตอนนี้กลับไม่อำนวยความสะดวกให้เธอเลย ร่างนี้ผ่ายผอมเกินไปอีกทั้งเมือคืนนี้โดนจัดหนักทำให้ไม่มีแรงจะลุกเดินได้ ร่างสูงไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับหมุนกายจากไป เธอมองตามอย่างขัดเคือง ถึงอย่างไรคนที่ทำให้นางมีสภาพนี้ก็คือชายตาบอดนั่น
ขณะที่กำลังบ่นในใจชายตาบอดก็กลับมาอีกครั้ง พร้อมโจ๊กในมือ ฉินหร่านมองตามอย่างสนใจแต่เมื่อเห็นโจ๊กข้าวที่แทบไม่มีเมล็ดข้าว อีกทั้งยังเป็นสีเหลืองและกากข้าวบางส่วนก็ทำให้อดที่จะเงยหน้ามองสามีหมาดๆ ไม่ได้
“กินอะไรสักหน่อยก่อนแล้วค่อยนอนพัก”
ฉินหร่านมองถ้วยที่ถูกยื่นมาตรงหน้าอย่างไม่แน่ใจ ว่ามันสามารถกินได้จริงๆ ใช่หรือไม่ ตั้งแต่เธอเป็นเชฟระดับห้าดาวมาไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อนเลย ทว่าเมื่อเห็นสีหน้ากังวลของคนร่างสูงก็อดที่จะรับมาถือไว้ไม่ได้
เมื่อลองชิมคำแรก เธออยากจะร้องไห้กลับบ้านเดิมทันที มันจืดมากและยังเป็นกากข้าวผสม ที่กลืนลงท้องแทบบาดคอลงไป ใบหน้าเล็กๆ เต็มไปด้วยน้ำตาเอ่อล้นอย่างไม่รู้ตัว เกิดมาตั้งแต่จำความได้ไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน
“เจ้าฝืนกินไปก่อน เดี๋ยวข้าจะหาอาหารที่ดีกว่านี้มาให้” เมื่อไม่ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวของคนบนเตียงจึงได้เอ่ยบอก ฝีมือทำอาหารของเขาคงแย่มากนางถึงกินไม่ลงเช่นนั้น
“อือ ขอบคุณ”
ฉินหร่านเอ่ยบอกเสียงแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน แต่ท้องที่ร้องหิวและร่างกายที่อ่อนแอ ทำให้พยายามกลืนอาหารมื้อเช้าอย่างจำใจ จากนั้นจึงยื่นถ้วยข้าวคืนเจ้าของ ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
ตอนนี้เธอต้องการเวลาที่จะทำใจและปรับตัวกับโลกใบใหม่ให้ได้เสียก่อน แต่น่าเสียดายที่ความรู้ของร่างเดิมมีน้อยมาก และยังอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้อีกด้วย ฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอจะต้องเรียนรู้
ฉีเยี่ยนยืนมองภรรยาตัวน้อยด้วยความรู้สึกแปลกๆ แม้จะไม่ลืมตาก็รู้ว่าวันนี้นางให้ความรู้สึกว่าไม่เหมือนเดิม แม้จะยังสงสัย แต่ก็หมุนกายจากไปเพื่อให้นางพักผ่อน เพราะเมื่อคืนเขาตักตวงความสุขจากนางอย่างเอาแต่ใจ แต่จะโทษเขาไม่ได้ เพราะนางช่างเย้ายวนเสียขนาดนั้น
ฉินหร่านมองตามชายหนุ่ม ที่หน้าตาราวอายุประมาณยี่สิบปีด้วยสายตาครุ่นคิด เขามองไม่เห็นแล้วใครทำโจ๊กที่เธอกิน หรือว่าจะเป็นฝีมือเขาจริงๆ เช่นนั้นคงไม่แปลกที่จะออกมาสภาพนั้น และรสชาติจืดชืดขนาดนี้ แม้เธอจะไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงมาอยู่ที่นี่
แต่ต่อไปนี้เธอไม่สิ ต้องเป็นนางแล้ว...
นางคือฉินหร่าน ภรรยาของชายตาบอดผู้นั้นแล้ว และคงต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไป...
------
เวลาที่ใช้ในเรื่อง เมื่อเทียบกับเวลาสากลแล้ว หนึ่งยาม เท่ากับ สองชั่วโมง และในหนึ่งวันมีสิบสองยาม ดังนี้
ยาม จื่อ เท่ากับเวลา 23.00 น. จนถึง 24.59 น.
ยาม โฉ่ว เท่ากับเวลา 01.00 น. จนถึง 02.59 น.
ยาม อิ๋น เท่ากับเวลา 03.00 น. จนถึง 04.59 น.
ยาม เหม่า เท่ากับเวลา 05.00 น. จนถึง 06.59 น.
ยาม เฉิน เท่ากับเวลา 07.00 น. จนถึง 08.59 น.
ยาม ซื่อ เท่ากับเวลา 09.00 น. จนถึง 10.59 น.
ยาม อู่ เท่ากับเวลา 11.00 น. จนถึง 12.59 น.
ยาม อุ้ย(เว่ย) เท่ากับเวลา 13.00 น. จนถึง 14.59 น.
ยาม เซิน เท่ากับเวลา 15.00 น. จนถึง 16.59 น.
ยาม อิ่ว เท่ากับเวลา 17.00 น. จนถึง 18.59 น.
ยาม ซวี เท่ากับเวลา 19.00 น. จนถึง 20.59 น.
ยาม ไฮ่ เท่ากับเวลา 21.00 น. จนถึง 22.59 น.
คำว่า “ยาม” คืนหนึ่งเราแบ่งเป็น 4 ยาม ยามละ 3 ชั่วโมง
ตั้งแต่ย่ำค่ำ คือ 18 นาฬิกา ถึง 3 ทุ่ม (21 นาฬิกา) เป็นยามที่ 1
หลังจาก 21 นาฬิกา หรือ 3 ทุ่ม ไปถึง 24 นาฬิกา หรือ เที่ยงคืน เราเรียกว่า ยาม 2 หรือ 2 ยาม
หลัง 24 นาฬิกา ไปถึงตี 3 (3 นาฬิกา) เราเรียกว่า ยาม 3
และหลังจากตี 3 ไปจนย่ำรุ่ง หรือ 6 นาฬิกา เราเรียกว่า ยาม 4 ซึ่งเป็นยามสุดท้ายของคืน
มาตราการวัดระยะทาง
ชุ่น หรือ นิ้ว : 1 ชุ่น = 2.27 – 2.31 เซนติเมตร
ฉื่อ หรือ เชี๊ยะ : 1 ฉื่อ = 10 ชุ่น = 22.7 – 23.1 เซนติเมตร
จ้าง : 1 จ้าง = 10 ฉื่อ ประมาณ 2.27 – 2.31 เมตร
ลี้ 1 ลี้ = 500 เมตร และ 1 ลี้ = 150 จ้าง ควรอยู่ในราว 345 เมตร
การวัดพื้นที่
1 ไร่เทียบเท่ากับ 2.4 หมู่ (亩) เพราะ1ไร่มี 1,600 ตารางเมตร ส่วน1หมู่ 亩 มีเพียง 666.66 ตารางเมตร
หน่วยเงิน
1000 อีแปะ คือ 1 ตำลึงเงิน
10,000 ตำลึงเงิน = 1 ตำลึงทอง
มารตราการวัดชั่งตวงน้ำหนัก
ผิง ping : ๑ ผิง = ๓.๓ เมตร
เค่อ ke : 1 เค่อจะกินเวลาประมาณเกือบ 15 นาที
จิน jin : ชั่ง : 1 ชั่ง = 500 กรัม
ฉื่อ chi : 1 ฉื่อ = 10 นิ้ว = 22.7 - 23.1 เซนติเมตร
ลี้ li : 1 ลี้ = 500 เมตร
ชั่วยาม shichen : สือเชิน คือหน่วยเรียกเวลา 1 ชั่วยาม = 2 ชั่วโมง
ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถลกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา "ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!
ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้