เพราะความเมาหรือความหิวผู้ชายจนหน้ามืดตามัวก็ไม่รู้ทำให้ดวงมณีสาวแก่วัยขึ้นคานแบบเธอลากหนุ่มรุ่นลูกมากินอย่างตะกละตะกาม แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกชายหนุ่มคนนั้นดันเป็นหนุ่มเนิร์ดที่ทำงานในบริษัทเธออีก
เพราะความเมาหรือความหิวผู้ชายจนหน้ามืดตามัวก็ไม่รู้ทำให้ดวงมณีสาวแก่วัยขึ้นคานแบบเธอลากหนุ่มรุ่นลูกมากินอย่างตะกละตะกาม แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกชายหนุ่มคนนั้นดันเป็นหนุ่มเนิร์ดที่ทำงานในบริษัทเธออีก
เสียงเพลงดังไปทั่วร้านเหล้าผีเสื้อราตรีต่างโยกย้ายเล่นไฟ หนุ่มหล่อสาวสวยต่างเดินกันให้ควัก
วันนี้ดวงมณีโดนเพื่อนสาวอย่างฮันนี่ชื่อที่บ้านเรียกชาติชาย ที่อกหักในรอบที่ห้าของเดือนชวนเธอที่ไม่มีผัวไม่มีแม้แต่แฟนมาหากินข้างนอกในที่แปลกใหม่
ไม่รู้ฮันนี่ไปหาร้านนี้เจอได้ยังไงแต่ร้านนี้มีแต่ผู้ชายงานดีทั้งนั้นจนดวงมณีที่ตอนแรกอิดออดไม่อยากจะมา
แทบน้ำลายหกเวลาที่หนุ่มน้อยนุ่งแค่กางเกงในตัวเดียวขึ้นไปเต้นโยกย้ายบนเวทีล่อตาล่อใจเหล่าแม่ยกกระเป๋าหนักๆอย่างพวกเธอให้หลงเสน่ห์
"วันนี้นะนังดวงแกต้องหาเด็กไปกินสักคนหยากไย่ขึ้นเต็มหว่างขาแกไปหมดแล้ว"
"นังฮันนี่ปากดีนักนะ ถึงไม่มีผัวแต่มีมือโว้ย! ช่วยตัวเองได้"
ดวงมณีตอบกลับเพื่อนสาวที่กล้าดียังไงมากล่าวหาว่าเธอหยากไย่ขึ้นก็แค่เธอขาดผู้ชายมาประมาณสองเอ๊ะหรือสามปีหรือสี่ว่ะ
เออนั่นแหละเธอมัวแต่ยุ่งกับงานจะให้ทำยังไงได้ แม่ของเธอก็บ่นทุกวันจนหูชาไปหมดด้วยว่าอยากเลี้ยงหลาน บอกให้ไปรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามาก็ไม่เอา ค่อยแต่จะมากดดันเธออยู่ได้ ไม่เข้าใจคำว่าหาผัวไม่ได้หรือไงไม่รู้
"ยังไงก็ตันย่ะ แกต้องหาผู้ชายทะลวงเข้าไปไม่งั้นแกตายไปยมบาลถามว่ามีเซ็กส์ล่าสุดเมื่อไหร่แกจะตอบท่านยมไม่ได้เอานะยะ"
ฮันนี่พูดด้วยความหมั่นไส้พามาหาผัวยังมาเรื่องมากอีก
"เออๆ จัดมาเลยขี้เกียจเถียงอีกอย่างตายคาอกเด็กดีกว่าตายคาเตียงโรงบาลอย่างเดียวดาย ไป๊!ฉันจะต้องได้ผัว"
สองสาวตกลงกันได้แล้วก็รีบเดินเข้าไปโชนที่ชายหนุ่มหล่อน่ากินยืนเรียงแถวกันอยู่
"นังดวงน้องผมทองนั่นฉันจองนะ" ฮันนี่บอกเมื่อเจอหนุ่มที่ตรงสเปกแล้ว
"เออๆ ผ่านๆไม่ใช่สเปก"
ดวงมณีบอกปัดและมองไปยังหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่ยืนเด่นสะดุดตาเธออยู่ สายตาเย็นชามองมาสบตาเธอเข้าพอดี เหมือนมีไฟฟ้าสถิตทำให้ดวงมณีขนลุกเพียงแค่สายตาเย็นชาที่มองมา
"แกเด็กนั่นน่ากินว่ะ หล่อ เย็นชา ดูเข้าถึงยากดีว่ะ "
ดวงมณีพูดขึ้นเมื่อหนุ่มน้อยคนนั้นหันไปมองทางอื่นไม่สนใจเธอแล้ว สเปกไม่สิพรหมลิขิตต้องใช้แน่ๆ ดวงมณีบอกตัวเองพร้อมกับยกมือขึ้นมาเช็คน้ำลายมุมปาก
"น้องมังกร แกหาคนใหม่เลยชะนีคนนี้ยาก แกไม่เห็นเหล่าแม่ยกที่ยืนจ้องจะงาบนางอยู่เหรอ คนนี้นางไม่สนใจเงินจ๊ะ พอใจก็ไปดูท่าเส้นใหญ่พอสมควร"
"เอ่อตุ๊ดไหนแกบอกเพิ่งเคยมา"
ดวงมณีละสายตาจากหนุ่มหล่อแล้วหันมาสนใจเพื่อนสาวที่อยู่ยืนข้างตนเอง
"เพิ่งเคยมากับแกไง ไม่เอาไม่คุยกับแกแล้วชะนีหาคนใหม่ฉันจะไปหาน้องคนนั้นเดี๋ยวมีชะนีนางอื่นหรือเก้งกวางแย่งของฉันไปกินก่อน "
พูดจบฮันนี่ก็เดินไปเลยทิ้งให้ดวงมณียืนงงงวยอยู่ในดงเหล่าแม่ยก
ดวงมณีมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนบนเวทีอีกรอบก็เห็นมีหญิงสาวคนหนึ่งเข้าไปคุยกับเขาอย่างสนิทสนมแถมยังจับมือถือแขนกันอีก
ไม่ได้การแล้วฉันต้องหาความมั่นใจให้กับตัวเอง ดวงมณีรีบตรงไปที่เคาน์เตอร์บาร์แล้วสั่งเหล้าผสมปนเปกันไปหมดแบบแรงๆเพื่อเพิ่มความมั่นหน้าและใจกล้าหน้าด้านเข้าไปหาเขา
เมื่อคิดว่าตัวเองเริ่มเมาได้ที่แล้ว เพราะความใจกล้ามาเกินร้อยแล้ว ดวงมณีตรงดิ่งไปหาชายหนุ่มที่ตนหมายตา แล้วเข้าไปคว้าแขนเขากระชากมาหาตนอย่างแรง
"คนนี้ของฉัน คืนนี้เขาจะไม่ไปกับเธอแน่นอน"
พอเดินเข้ามาใกล้ดวงมณีถึงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้คงอายุไล่เลี่ยกันกับชายหนุ่มคนที่เธอจับแขนอยู่นี้
"ป้ามั่นใจได้ยังไงคะ หนูมาก่อนยังไงมังกรก็ต้องเป็นของหนู "
"มังกรอันนี้ของฉันย่ะ ถ้านายไปกับฉัน ฉันจะขายบ้านขายรถขายบริษัทเพื่อมาเปย์นายคนเดียวเลย"
เอาสิ๊! ดวงมณีหันไปพูดกับชายหนุ่มที่ยังยืนนิ่งอยู่ไม่แม้แต่จะสะบัดแขนออกทั้งที่เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงมาแย่งหรือทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าเขา
สิ้นคำพูดของดวงมณีแววตาที่เธอบอกว่าเย็นชากลับสั่นระริกแล้วกระตุกคล้ายกับเจ้าตัวกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่
"ฉันพูดจริงนะ อีกอย่างยัยเด็กผู้หญิงนี่ก็ไม่แซ่บเท่าฉันหรอก จะลองดูก็ได้นะ"
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์หรือการที่ดวงมณีขาดแคลนผู้ชายมานานก็ไม่รู้ได้
เธอถึงกับยอมทิ้งทุกอย่างแถมพรีเซ้นส์ตัวเองสุดฤทธิ์เพื่อให้ได้ผู้ชายคนนี้มาครอบครอง
"ตกลง ผมจะไปกับคุณ" ชายหนุ่มที่เงียบมานานเอ่ยขึ้น
"ไม่ได้นะคะมังกรวันนี้คุณบอกว่าถึงคิวฉันแล้วนิคะ" สาวหมวยคนนั้นพูดด้วยความไม่พอใจ
"ผมเปลี่ยนใจแล้ว เชิญคุณไปหาคนใหม่ได้เลยครับ"
ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับหันมาสนใจดวงมณี ที่ตอนนี้ใบหน้าสวยคมผิวขาวอมชมพูแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
มันน่ารักแถมน่ามองอีก คนอะไรสวยฉิบหาย แถมยังดูท่าทางจะแซ่บน่าดูแต่ว่าไม่ได้ของแบบนี้เขาต้องรองถึงจะรู้
" หื้ย! ฝากไว้ก่อนเถอะอีป้า"
หญิงสาวคนนั้นหันมาพูดกับเธอแล้วก็กระทืบเท้าเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ
"เราไปกันได้รึยังครับ แม่สาวร้อนแรงของผม"
ชายหนุ่มเข้ามากระซิบชิดใบหูขาวพร้อมกับขมเม้นเบาๆจนดวงมณีขนลุก
"อะ เออ..ไปสิ"
ดวงมณีมีท่าทางตกใจเล็กน้อยแต่ก็ใจสู้ พร้อมกับเดินนำชายหนุ่มออกไปที่รถ
"จะไปโรงแรมผมหรือจะไปที่ของคุณ" ชายหนุ่มถามเมื่อเตรียมจะออกรถ
ดวงมณีได้แต่สงสัยว่าเขาแค่ทำงานบาร์โฮสถึงกับขับรถซูเปอร์คาร์คันหรูขนาดนี้เลยเหรอ สงสัยจะมีแม่ยกเปย์หนักน่าดู
ดีที่วันนี้เธอเตรียมมาเมาเต็มที่เลยไม่ได้เอารถของตัวเองมา
"ไปโรงแรมนายสิ "
"เรียกผมว่ากร" ชายหนุ่มหันมาบอก
"อ๋อ ฉันดวงนะ ดวงมณี"
เมื่อเขาบอกเธอจึงจำเป็นต้องบอกชื่อตัวเองไปด้วยตามมารยาท
"ครับ" ชายหนุ่มแค่ตอบรับยิ้มๆแล้วขับรถพุ่งออกไปทันที
เพราะรักจึงทำให้หนูนิดทำทุกอย่างเพื่อผู้มีพระคุณของเธอ ยอมแม้กระทั้งแต่งงานกับชายคนที่เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยสักนิด แถมเขายังควงคนอื่นมาเยาะเย้ยเธอให้เจ็บใจอีกทั้งๆที่รู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
"กล้ามากเลยนะเอยที่นอกใจฉัน กล้ามากที่พามันมาถึงที่นี่แถมยืนจูบกันอยู่หน้าห้องไม่อายฟ้าดินแบบนี้" "เอยไม่ได้จูบนะคะ เอยจะล้มคุณนทีเลยพยุงหน้าเลยใกล้กันแบบนั้น " เจ้าขาอธิบายตามความจริง "ทำไมโทรมาไม่รับ ข้อความอ่านแล้วก็ไม่ตอบเธออยากให้ฉันเป็นบ้าเหรอเอย" เขาถามเธอเสียงเครียดไม่เคยต้องเป็นแบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง มันทั้งคิดถึงโหยหาแต่ก็กลัวเธอจะหาว่าเขาพูดเกินจริง นอกจากเธอจะไม่เชื่อแถมมองว่าเขาบ้าอีกเพราะเธอรู้จักเขาดีกว่าใครดีมากจนเขานึกอายเรื่องที่ผ่านมา แม้มันไม่ใช่ความผิดเขาในเมื่อตอนนั้นเขายังไม่ทำสัญญาและรู้สึกแบนนี้กับเธอ "เอยไม่คิดว่าคุณขุนจะคิดมากขนาดนี้ ก็เห็นวันก่อนบอกจะเรียกสาวๆ มาแก้เหงาไงคะ" เธอยังน้อยใจเรื่องนี้ไม่หายแม้รู้ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขา "เธอก็รู้ว่าตั้งแต่มีเธอฉันก็ไม่เคยเรียกใครมาอีก ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเธอฉันติดเธอแค่ไหนทำไมเธอถึงมองไม่เห็นหรือตั้งใจจะมองข้ามมันคิดว่าฉันเป็นของเล่น" ......................................................................................................................................... "อื้อ! " มือเรียวยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกจนหมดอย่างรู้หน้าที่ ก่อนที่มือเล็กจะไล้ลงมาที่เข็มขัดราคาแพงของเขา แกร๊ก! "ถ้ารีบปล่อยมันออกมาเดี๋ยวก็ควบคุมไม่อยู่" "เอยคิดถึงคุณขุนมากนะคะ อื้อ!! " ได้ยินแบบนั้นคนที่ใจตรงกับเธอก็ก้มลงจูบปากฉ่ำหวานอีกรอบ ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้าไปดูดกลืนความหวานในนั้นด้วยความตะกละตะกลาม
สาวแสนสวยสุดมั่นแต่ก็ยังโดนทิ้งตลอดไม่ว่าจะคบหากับใครยิ่งคนล่าสุดที่เธอคาดหวังเอาไว้มากๆว่าคือชายที่จะแต่งงานด้วย แต่เขาก็ยังทิ้งเธอเพียงคำง่ายๆว่าเธอหวงตัวเกินไป งานนี้ต้องลำบากเพื่อนสนิทอย่างแทนไท ที่บังคับกึงขอร้องให้มาสอนบทรักที่เร่าร้อนให้จะได้ไม่โดนดูถูกแต่ทำไมเธอถึงลืมคืนนั้นไม่ลง แถมเพื่อนสนิทก็ยังมีท่าทีว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกด้วย "อื้ออ อย่ามากวนคนจะนอน " "แต่ฉันเป็นผัวเธอนะ จะทำอะไรก็ได้" หญิงสาวที่ยังหลับสนิทไม่รู้ตัวเพียงแค่ละเมอบอกปัดอย่างลำคาญเพียงเท่านั้น มือหนาลูบไล้ตามผิวเนียนนุ่มไปมาอย่างหลงไหลปากหนาเองก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานซึ้งยิ่งอยู่ใกล้เธอเขายิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ความอดทนอดกลั้นที่มีมา 4-5ปีพังทลายลงเพราะคืนเดียว ไอ้ที่ปากเก่งว่าลืมเธอได้แล้วมันเป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาหลอกตัวเองทั้งนั้น "อื้อ แทนบอกแล้วไงว่าอย่ามากวนแพร คนบ้า" เสียงแว้ดของเธอทำให้แทนไทต้องผงกหัวขึ้นมาดู ปรากฏว่าแม่เสือสาวของเขาเพียงแค่ละเมอแว้ดออกมาเพียงทำนั้น "ดีนะที่พูดชื่อผัวตัวเองถ้าพูดชื่อคนอื่นพ่อจะเอาให้จมเตียงทั้งวันทั้งคืนไม่ให้ไปไหนได้เลย" อีโรติก
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เจ้าสาวหมาดๆ อย่างบัวบูชาตื่นมาบนเตียงชายอื่นในวันรุ่งขึ้นของการแต่งงาน เป็นคล้ายฝันร้ายที่กลายเป็นจริง เขาทำราวกับเธอเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานมนาน เขาลักพาตัวเธอมาจากหน้าเรือนหอในคืนวิวาห์ เพราะเข้าใจว่าเธอคือบุษบงกชคนรักเก่าที่หนีตามชายอื่นไป บัวบูชาอยากหนีไปจากเขา หรือบอกความจริงว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น แต่เพราะ คนรักเก่าที่เขาเกลียดชัง เคียดแค้น คือพี่สาวฝาแฝดของเธอที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำไปก่อนหน้า หญิงสาวตัดสินใจสวมรอยเป็นบุษบงกช เพื่อสืบหาความจริง โดยไม่รู้เลยว่าเดิมพันครั้งนี้สูงนัก เพราะมันหมายถึงทั้งชีวิต...และหัวใจ!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด