เพราะรักจึงทำให้หนูนิดทำทุกอย่างเพื่อผู้มีพระคุณของเธอ ยอมแม้กระทั้งแต่งงานกับชายคนที่เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยสักนิด แถมเขายังควงคนอื่นมาเยาะเย้ยเธอให้เจ็บใจอีกทั้งๆที่รู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
เพราะรักจึงทำให้หนูนิดทำทุกอย่างเพื่อผู้มีพระคุณของเธอ ยอมแม้กระทั้งแต่งงานกับชายคนที่เขาไม่แม้แต่จะชายตามองเธอเลยสักนิด แถมเขายังควงคนอื่นมาเยาะเย้ยเธอให้เจ็บใจอีกทั้งๆที่รู้ว่าเธอรักเขามากแค่ไหน
5 ปีที่แล้ว คฤหาสน์บดินเดชา
"ไม่แต่งนะครับคุณย่าน้อย คุณแม่ครับผมไม่มีทางแต่งงานกับเด็กที่คุณย่ารับมาเลี้ยงเด็ดขาดนะครับ "
"ไม่ได้แกต้องแต่งงานกับหนูนิดให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นแกก็ออกจากบ้านของฉันไปและอย่าหวังว่าจะได้อะไรติดตัวไปแม้แต่ชิ้นเดียว"
คุณหญิงสมรที่เป็นประมุขใหญ่ที่สุดในบ้านเอ่ยกับชายหนุ่มที่เป็นหลานชายวัย 23 ปีที่ตอนนี้โมโหอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับเรื่องที่เกิดขึ้น
"โธ่เว้ย!! เลิกร้องไห้เรียกคะแนนสงสารจากคุณย่าฉันสักที ฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายโดนกระทำไม่ใช่เธอยัยเด็กเก็บมาเลี้ยง"
"หยุดเดี๋ยวนี้นะตานนท์ แกห้ามไปว่าน้องอย่างนั้นเด็ดขาดเลยนะ แกเองไม่ใช่หรือไงที่เมาแล้วลากน้องเข้าห้องไปทำไม่ดีไม่ร้ายแกยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกงั้นเหรอ "
"แต่คุณย่าครับมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนะครับไม่เชื่อถามเด็กนั้นดูก็ได้ จะมัวแต่ร้องไห้อยู่ทำไมว่ะ พูดออกมาสักทีสิว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย"
"นนท์น้องอายุเพิ่งจะ 17 ปีเข้า 18 ยังไม่ดีเลยนะอย่างน้อยแกก็บรรลุนิติภาวะแล้วสมควรที่จะมีความรับผิดชอบได้แล้วฉันไม่เคยเลี้ยงแกมาให้เป็นคนไม่มีความรับผิดชอบชั่วดีแบบนี้นะ "
คุณหญิงสมรไม่พอใจเป็นอย่างมากที่หลานชายเพียงคนเดียวของเธอทำนิสัยที่แย่เกินที่เธอจะรับได้
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้วณนนท์เมาอย่างหนักหลังจากไปสังสรรค์กับเพื่อนเพื่อเลี้ยงส่งที่เขาจะไปเรียนโทต่อที่ต่างประเทศ
เขาเมามากจนแทบเดินขึ้นบันไดไม่ไหวเลยคิดว่าจะนอนที่ห้องนั่งเล่นมันนี่แหละแต่แล้วเดินเข้าบ้านมาก็เจอกับ หนูนิดหลานสาวคนโปรดของคุณย่าน้อยที่ยืนค่อยเสนอหน้ารอเขาอยู่ ไม่สิต้องบอกว่าคนโปรดของคนทั้งบ้านยกเว้นเขาคนเดียวที่เสน่ห์ของแม่นี่ทำอะไรเขาไม่ได้
เธอชอบทำตัวเป็นผู้ปกครองคอยตามดูแลเขาไม่ว่าจะเรื่องต่างๆที่เกี่ยวกับเขาคุณย่าน้อยและคุณแม่ของณนนท์จะสอนให้เธอทำทุกอย่าง เหมือนกับเตรียมมาเป็นเมียของเขาอย่างนั้นแหละ
แล้วยัยเด็กคนนี้ก็ชอบทำตัวน่าสงสารหาเรื่องให้เขาโดนด่าประจำ เธอจะคอยมายืนรอต้อนรับเขาเวลากลับบ้านทุกครั้งด่าไปก็อ้างแต่ 'คุณย่าน้อยสั่งหนูนิดค่ะ'
เขาโดนคุณย่าบ่นอยู่ประจำว่าชอบสร้างเรื่องให้กับหนูนิดต้องคอยตามดูแลตลอด อย่าว่าหนูนิดนะ อะไรๆก็หนูนิดเขาล่ะรำคาญชื่อนี้เอามากๆ ดีที่สอบติดโทที่ฝรั่งเศสจะได้หนีไปจากยัยเด็กนี่เสียที แต่แล้วเหมือนยิ่งหนีเรื่องมันก็ยิ่งวิ่งตาม
ใครจะไปรู้พอพยุงมาถึงห้องเขาแล้วชายหญิงอยู่ในห้องเดียวกัน และด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์รึเปล่าไม่รู้ทำให้เขามองเด็กสาวในบ้านที่เขาเคยรังเกียจ แถมยังด่าทอเธออยู่ตลอดว่าเป็นเด็กที่เก็บมาเลี้ยง
ณนนท์คิดว่าหนูนิดคนดีคนนี้ต้องตั้งใจอ่อยเขาแน่ๆ ทำไมยิ่งมองยิ่งสวยน่ารักอ่อนหวานท่าทีที่อ่อนแอแต่แววตาดื้อรั้นเวลามองมาที่เขานั้นมันช่างมีเสน่ห์เสียเหลือเกินมันทำให้เขาอยากปกป้องและอยากปราบพยศเธอด้วยในที
ไม่รู้อะไรโดนใจให้ณนนท์ก้มลงไปจูบเธออย่างดูดดื่มโดยที่เธอขัดขืนไม่ได้ด้วยแรงผู้ชายและเธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กแต่หน้าอกหน้าใจนั้นดันแก่แดดแก่ลมเกินสาวน้อยวัย 17 ปีไปเสียแล้ว
เขามัวแต่มัวเมากับรสจูบที่หอมหวานดังน้ำผึ้งเดือน 5 ก็ไม่ปานอยู่นั้นเสียงเอะอะโวยวายตรงหน้าประตูก็ดังขึ้น เมื่ออยู่ดีๆผู้เป็นแม่ก็เดินเข้ามาในห้องเขาและเห็นฉากที่เขากำลังทำไม่ดีไม่ร้ายลูกสาวคนโปรดของท่านอยู่ นั่นแหละเรื่องมันเลยมาถึงตรงนี้
"แต่หลานสาวคนโปรดของคุณย่าเข้ามาอ่อยผมถึงในห้องเองนะครับ ทำไมผมถึงจะต้องรับผิดชอบเธอด้วยในเมื่อเรายังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันเลยผมเอาเธอแล้วนะสิว่าไปอย่าง "
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างหน้าตายโดยที่ไม่ได้หันไปสนใจสาวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นน้ำตาอาบสองแก้มนุ่มนิ่มนั้นอย่างน่าสงสาร ที่นั่งอยู่ข้างคุณหญิงสมรเลยแม้แต่นิดเดียว
"เอาเลยสิแกก็ไม่ต้องแต่งสิฉันจะได้ทำตามที่พูด แกจะได้รู้ว่าฉันเอาจริงไหม"
"โถ่คุณย่าครับจะให้อนาคตผมจบลงเพราะเด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าคนนี้จริงๆหรือครับคุณย่า"
"ทำไมจะไม่มีอนาคตแกแต่งแล้วแกก็ไปเรียนได้ จบแล้วก็กลับมาทำธุรกิจที่บ้านไม่ต้องไปตะลอนหางานที่ไหน แกไม่มีอนาคตตรงไหนแกบอกฉันมาสิ"
"นนท์แม่ว่าฟังคุณย่าน้อยเขาเถอะนะลูกคุณย่าน้อยท่านทำเพื่อลูกนะ "
"เหอะ!!ทำเพื่อผมงั้นเหรอ ได้!ผมจะแต่งงานกับหลานสาวสุดที่รักนอกคอกคนนี้ของคุณย่า แต่หลังจากที่ผมเรียนจบกลับมาผมจะหย่ากับเธอทันที และครั้งนี้คุณย่าเองก็ห้ามผมไม่ได้ด้วย"
พูดจบคนอารมณ์ร้อนก็เดินหนีขึ้นห้องไปเสียงดังตึ้งตั้งจนคนที่เป็นย่าเอามือมากุมหัวใจตัวเองกับความเอาแต่ใจของหลานชายคนเดียวคนนี้จริงๆ
"คุณย่าน้อยขา หนูนิดไม่แต่งไม่ได้เหรอคะคุณย่า " หนูนิดเอ่ยกับผู้มีพระคุณท่วมหัวเธอ
"ทำเพื่อย่านะหนูนิดถือว่าทำเพื่อคนแก่ๆใกล้ตายให้ชื่นใจสักครั้งเถอะนะย่าขอ"
คุณหญิงสมรจับมือของหลานสาวและมองดูใบน่าจิ้มลิ้มนั้นอย่างเอ็นดูพลางคิดว่าไม่มีใครเหมาะสมจะเป็นภรรยาของณนนท์เท่าเธอคนนี้อีกแล้ว
"ถ้าเป็นความต้องการของคุณย่าหนูนิดก็จะทำให้ค่ะ"
หนูนิดตอบรับคำคุณหญิงสมรด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง เธอชอบณนนท์มานานแสนนานเพียงแค่คิดว่าได้ดูเขาอยู่ห่างๆ ก็เพียงพอแล้วแต่นี่เธอได้แต่งงานกับเขาแถมเขายังเกลียดเธอมากกว่าเดิมอีก เธอจะต้องดีใจหรือเสียใจดีที่ทุกสิ่งทุกอย่างออกมาแบบนี้
เช้าวันต่อมาคุณหญิงสมรและคุณสุดารัตน์แม่ของณนนท์ก็ไปหาฤกษ์แต่งงานกับพระอาจารย์ที่ครอบครัวนับถือกันแต่เช้าตรู่
"มาทำอะไรแต่เช้าล่ะโยมน้อย" พระอาจารย์ทักขึ้น
"อิฉันจะมาดูฤกษ์แต่งงานให้หลานชายและหลานสาวเจ้าค่ะ อยากได้แบบเร็วๆ วันที่ดีที่ทั้งสองอยู่กันจนแก่เฒ่าเลยเจ้าค่ะ"
"ฤกษ์ดีคือฤกษ์สะดวกนะโยม มันไม่มีหรอกฤกษ์ที่โยมว่ามา ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแต่มีกรรมเป็นตัวกำหนด หมดกรรมก็เลิกกันถ้ายังมีกรรมต่อกันก็ยังอยู่ด้วยกันแค่นั้น "
พระอาจารย์บอกกับทั้งสามแล้วกลับไปนั่งสมาธิเช่นเดิมไม่ได้พูดอะไรต่อ จนคุณหญิงสมรก็ไม่อยากกวนท่านแล้วคงต้องเอาฤกษ์สะดวกนั่นแหละ
"งั้นเราก็แต่งหลังวันเกิดหนูนิดต้นเดือนเลยแล้วกัน คงเตรียมงานทันอีกอย่างหนูนิดอายุพอที่จะจดทะเบียนสมรสได้ด้วย"
คุณหญิงสมรหันมาพูดกับลูกสะใภ้ที่คอยดูแลท่านมาอย่างดีตั้งแต่พ่อของณนนท์เสียชีวิตไปด้วยโรคมะเร็ง เธอก็อยู่ดูแลแม่สามีตลอดมาตามที่ผู้เป็นสามีร้องขอก่อนสิ้นใจ
"ค่ะคุณแม่ หนูนิดล่ะลูกเตรียมตัวทันไหมอีกแค่สองอาทิตย์เอง"
คุณสุดารัตน์หันมาหาลูกสาวคนโปรดและกำลังจะเลื่อนขั้นมาเป็นลูกสะใภ้ของเธอ
"หนูนิดยังไงก็ได้ค่ะแล้วแต่คุณย่าน้อยกับคุณแม่เลย"
"แม่ดาไม่ต้องกลัวจะเตรียมตัวไม่ทันหรอกเราก็จ้างทีมงานเก่งๆที่เขาสามารถทำงานได้ตามเวลาที่เรากำหนดมาทำสิ อีกอย่างงานเราก็ไม่ได้จัดอะไรใหญ่โตจัดแค่คนรู้จักและคนในครอบครัวเท่านั้น มันคงจะไม่ยุ่งยากจนเกินไปหรอกนะ"
"ค่ะคุณแม่"
เพราะความเมาหรือความหิวผู้ชายจนหน้ามืดตามัวก็ไม่รู้ทำให้ดวงมณีสาวแก่วัยขึ้นคานแบบเธอลากหนุ่มรุ่นลูกมากินอย่างตะกละตะกาม แต่แล้วโชคชะตากลับเล่นตลกชายหนุ่มคนนั้นดันเป็นหนุ่มเนิร์ดที่ทำงานในบริษัทเธออีก
"กล้ามากเลยนะเอยที่นอกใจฉัน กล้ามากที่พามันมาถึงที่นี่แถมยืนจูบกันอยู่หน้าห้องไม่อายฟ้าดินแบบนี้" "เอยไม่ได้จูบนะคะ เอยจะล้มคุณนทีเลยพยุงหน้าเลยใกล้กันแบบนั้น " เจ้าขาอธิบายตามความจริง "ทำไมโทรมาไม่รับ ข้อความอ่านแล้วก็ไม่ตอบเธออยากให้ฉันเป็นบ้าเหรอเอย" เขาถามเธอเสียงเครียดไม่เคยต้องเป็นแบบนี้มาก่อนเลยไม่รู้ว่าต้องจัดการความรู้สึกตัวเองยังไง มันทั้งคิดถึงโหยหาแต่ก็กลัวเธอจะหาว่าเขาพูดเกินจริง นอกจากเธอจะไม่เชื่อแถมมองว่าเขาบ้าอีกเพราะเธอรู้จักเขาดีกว่าใครดีมากจนเขานึกอายเรื่องที่ผ่านมา แม้มันไม่ใช่ความผิดเขาในเมื่อตอนนั้นเขายังไม่ทำสัญญาและรู้สึกแบนนี้กับเธอ "เอยไม่คิดว่าคุณขุนจะคิดมากขนาดนี้ ก็เห็นวันก่อนบอกจะเรียกสาวๆ มาแก้เหงาไงคะ" เธอยังน้อยใจเรื่องนี้ไม่หายแม้รู้ว่าไม่มีสิทธิ์อะไรในตัวเขา "เธอก็รู้ว่าตั้งแต่มีเธอฉันก็ไม่เคยเรียกใครมาอีก ไม่ว่าจะต่อหน้าหรือลับหลังเธอฉันติดเธอแค่ไหนทำไมเธอถึงมองไม่เห็นหรือตั้งใจจะมองข้ามมันคิดว่าฉันเป็นของเล่น" ......................................................................................................................................... "อื้อ! " มือเรียวยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเขาออกจนหมดอย่างรู้หน้าที่ ก่อนที่มือเล็กจะไล้ลงมาที่เข็มขัดราคาแพงของเขา แกร๊ก! "ถ้ารีบปล่อยมันออกมาเดี๋ยวก็ควบคุมไม่อยู่" "เอยคิดถึงคุณขุนมากนะคะ อื้อ!! " ได้ยินแบบนั้นคนที่ใจตรงกับเธอก็ก้มลงจูบปากฉ่ำหวานอีกรอบ ลิ้นใหญ่สอดแทรกเข้าไปดูดกลืนความหวานในนั้นด้วยความตะกละตะกลาม
สาวแสนสวยสุดมั่นแต่ก็ยังโดนทิ้งตลอดไม่ว่าจะคบหากับใครยิ่งคนล่าสุดที่เธอคาดหวังเอาไว้มากๆว่าคือชายที่จะแต่งงานด้วย แต่เขาก็ยังทิ้งเธอเพียงคำง่ายๆว่าเธอหวงตัวเกินไป งานนี้ต้องลำบากเพื่อนสนิทอย่างแทนไท ที่บังคับกึงขอร้องให้มาสอนบทรักที่เร่าร้อนให้จะได้ไม่โดนดูถูกแต่ทำไมเธอถึงลืมคืนนั้นไม่ลง แถมเพื่อนสนิทก็ยังมีท่าทีว่าจะไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกด้วย "อื้ออ อย่ามากวนคนจะนอน " "แต่ฉันเป็นผัวเธอนะ จะทำอะไรก็ได้" หญิงสาวที่ยังหลับสนิทไม่รู้ตัวเพียงแค่ละเมอบอกปัดอย่างลำคาญเพียงเท่านั้น มือหนาลูบไล้ตามผิวเนียนนุ่มไปมาอย่างหลงไหลปากหนาเองก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าหวานซึ้งยิ่งอยู่ใกล้เธอเขายิ่งควบคุมตัวเองไม่ได้ ความอดทนอดกลั้นที่มีมา 4-5ปีพังทลายลงเพราะคืนเดียว ไอ้ที่ปากเก่งว่าลืมเธอได้แล้วมันเป็นเรื่องที่เขาแต่งขึ้นมาหลอกตัวเองทั้งนั้น "อื้อ แทนบอกแล้วไงว่าอย่ามากวนแพร คนบ้า" เสียงแว้ดของเธอทำให้แทนไทต้องผงกหัวขึ้นมาดู ปรากฏว่าแม่เสือสาวของเขาเพียงแค่ละเมอแว้ดออกมาเพียงทำนั้น "ดีนะที่พูดชื่อผัวตัวเองถ้าพูดชื่อคนอื่นพ่อจะเอาให้จมเตียงทั้งวันทั้งคืนไม่ให้ไปไหนได้เลย" อีโรติก
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด