/0/23171/coverbig.jpg?v=90a6e3d1ede961db85639ea827896535)
อาเย่ว คู่หมั้นหมายราวกิ่งทองใบหยก ภายใต้ชุดฮั่นฝูทะมัดทะแมง ทรงผมเกล้าสูงราวจอมยุทธหญิงผูกริบบิ้นสีครามอ่อนมีโอปอประดับ ใบหน้าแฉล่มแช่มฉ้อย ผู้ที่รักการล่าสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ สดใสร่าเริง อยากรู้อยากเห็นไปหมด มาดูกันว่าเขาจะช่วยคู่หมั้นได้อย่างไร อาเว่ย หรือ องค์ชายหลางเว่ย ร่างจำแลงแปลงกายราวต้องอาถรรพ์ในชุดสีดำพร้อมเสื้อคลุมตัดกับสีผิวขาวละมุน ผู้แอบซ่อนความรู้สึกเอาไว้ ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ นั่นตัวอะไรกระโดดออกจากหน้าต่างท่าทางหน้ากลัว หรืออาถรรพ์ที่ว่านี้จะทำให้เกิดอาเพศใหญ่ ผู้คนล้มตาย แล้วเลือดหญิงสาวพรหมจรรย์นั้นมันเกี่ยวอะไรกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ล่ะ อาเย่วจะช่วยอาเว่ยได้หรือไม่ ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•
꧁༻บทที่ ๑༺꧂
หลางเว่ย องค์ชายหมาป่า
ท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บในสวนท้อกลางหุบเขาที่มืดมิด พระจันทร์ดวงกลมโตส่องแสงสว่างทั่วบริเวณนั้น
โอ๊ย!! ช่วยข้าด้วย ใครก็ได้ช่วยข้าที หรือใกล้จะคลอดแล้วนี่
“ท่านแข็งใจหน่อยพระมเหสี เดี๋ยวข้าไปตามหมอหลวงที่ติดตามมาดูอาการของท่าน” สิ้นเสียงนางกำนัลที่เดินคล้อยหลังออกไป
พระมเหสีลูบครรภ์ที่ยื่นมากกว่าส่วนอื่นวนไปมาทาถูๆ ด้วยอาการทุรนทุรายก่อนจะทรุดตัวลงไปกองกับพื้น ร้องสลับกับการพลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่ง
ไม่นานนักก็ปรากฏลำแสงสีขาวจากท้องฟ้าอันมืดมิดสาดส่องลงมาบริเวณที่พักแรมของพระมเหสี
“นั่นลำแสงอะไรน่ะ” นางกำนัลชี้มือไปที่ลำแสงพร้อมตะโกนให้เหล่าองครักษ์ติดตาม
“ข้าว่ามันต้องเกิดอะไรขึ้นกับพระมเหสีแน่ๆ” องครักษ์จางรีบวิ่งไปที่กระโจมก่อนจะมีเสียงเล็กๆเล็ดลอดออกมา
“อุแว้ๆๆ !! ” เสียงองค์ชายน้อยน่ารักได้ถือกำเนิดขึ้น หมอหลวงติดตามและนางกำนัลรีบไปประคองพระมเหสีและองค์ชายน้อยจากพื้นขึ้นมา
“ข้าไม่เป็นอะไรมาก เจ้าช่วยไปดูองค์ชายลูกของเราหน่อย” พระมเหสีปาดเหงื่อ
“ว้าว!! หน้าตาจิ้มลิ้มน่ารักจังเลยเพคะ” นางกำนัลคว้าตัวองค์ชายน้อยที่ห่อตัวด้วยผ้าแพรอย่างดี สายตาจ้องมองไปที่ทารกน้อยอย่างเอ็นดู
“เอ๊ะ!! ดูนี่สิ ทำไมองค์ชายมีถึงมีหูชูชันผิดปกติ นัยน์ตาแดงก่ำราวโลหิตแดงฉาน”
“ไหนให้เราดูสิ ก็ไม่เห็นจะมีอะไรเลย”
“เขามีลักษณะเหมือนสัตว์ป่าชนิดหนึ่งก็ไม่ปาน แม่เจ้า !! มันหดกลับเข้าไปได้ เอ๊ะ..ฉันตาฝาดหรือนี่ อืม..น่าประหลาด องครักษ์จางท่านช่วยส่งม้าเร็วไปแจ้งข่าวให้ฮ่องเต้ทราบว่า พระมเหสีได้ให้กำเนิดองค์ชายแล้ว”
“แต่จริงๆอยากจะกลับเสียเดี๋ยวนี้ เราตั้งใจจะพาองค์ชายน้อยกลับไปด้วยตนเองเสียด้วยซ้ำ” องครักษ์จางกระโดดขึ้นหลังม้าอย่างรวดเร็ว เขาตวัดแส้ไปที่หลังม้าหนึ่งที
“ช่า” “ฮี๊!!” ม้ายกข้าหน้าขึ้นอย่างลำพองก่อนที่จะออกตัววิ่งจนฝุ่นตลบอบอวลราวกับอยู่ในเมฆหมอก ใบหน้าของอิสตรีผู้สูงศักดิ์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเปล่งเสียงนุ่มๆชวนฟังว่า
“คิดถึงที่นอนนุ่มๆเสียแล้วสิ พรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับกันแล้วนะ” สีหน้าของนางกำนัลยิ้มละมุนอย่างรู้ทัน
“ข้าน้อยว่าท่านน่าจะคิดถึงฮ่องเต้มากกว่าที่นอนเป็นแน่แท้”
สีหน้าของพระมเหสียิ้มเห็นไรฟัน เหลือกตามองบนพร้อมกับเบ้ปากก่อนที่จะหัวเราะขึ้นเบาๆ
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
รุ่งเช้าวันใหม่…แสงแดดสาดส่องกลีบดอกท้อสีชมพูระเรื่อไล่โทนสีเข้มสุดจากใจกลางเกสรของดอกไม้สู่ปลายก้านดอกท้อที่ยังมีดอกตูมสลับไปมาตามกิ่ง
“เมื่อคืนเราเกือบแย่แล้ว” ในสถานการณ์ที่คับขันห่างไกลจากคนรักเช่นนี้ ความเจ็บปวดเกือบคร่าวิญญาณไปจากร่างผู้เสียสละที่เรียกว่า “แม่”
“ไม่เป็นไรแล้ว ตอนนี้ท่านปลอดภัย” สายตานางกำนัลมองไปยังพระมเหสีด้วยความเข้าใจหัวอกของผู้เสียสละพร้อมอุ้มองค์ชายน้อยอย่างทะนุถนอมก่อนที่จะยื่นให้อิสตรีผู้สูงศักดิ์รับทารกน้อยเอาไว้แนบอก
เอ้ เอ เอ่ เอ้ ~~ ลูกน้อยของแม่
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
ทหารเปิดประตูเมืองให้พระมเหสีพร้อมด้วยคณะผู้ติดตามเขาไปในพระราชวัง
“เจ้ากลับมาพร้อมลูกของเรา” สายตาฮ่องเต้จ้องมองหน้าทารกน้อยน่ารักพิมพ์เดียวกับเขาอย่างกับลอกคราบเขาเมื่อสิบห้าปีก่อน
เรียกว่าถอดแบบเดียวกันก็คงจะไม่ผิดประการใด คิดๆไปก็ชื่นใจกับดีเอ็นเอที่อยู่ตรงหน้า ใบหน้าราวกับผ้าขาวบริสุทธิ์ส่งเสียงร้องโยเย ก่อนที่พระมเหสีจะเข้ามาปุ้มองค์ชายจากมือผู้ครองบัลลังก์
“เอ๊ะ เขาคงจะหิวแล้ว งั้นหม่อมฉันขอตัวก่อน” อากัปกิริยาของทารกน้อยเปลี่ยนจากร้องไห้เป็นยิ้มสวยๆให้กับผู้เป็นแม่ ใบหน้าของผู้รู้งานก็เป็นเช่นนี้นั้นเอง
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกจากทารกโตขึ้นเป็นหนุ่มน้อยที่ชอบซุกตัวอยู่กับกองตำราบ่งบอกให้รู้ว่าเขาก็เป็นหนอนหนังสือตัวยง แต่ซ่อนความเก็บกดไว้ภายใต้หน้าตาอันหล่อเหลานั้นไว้
“ช่วยด้วย ๆ…” เสียงชาวบ้านร้องเรียกเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียงละแวกนั้นวิ่งหน้าตาตื่นราวกับเห็นผีกลางวันแสกๆ ไม่สิ!! นี่มันมิใช่ยามวิกาล
“ข้าตั้งใจจะไปเลี้ยงไก่ แต่กลับพบเจอซากสัตว์ปีกตายเกลื่อน มันช่างน่าสยอง” ชายผู้หนึ่งยกซากไก่ทั้งสองมือกลางกลุ่มชนนับสิบที่เปิดสภาตั้งวงสดับรับฟังถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้
“บ้านของข้าก็เจอเช่นกัน” เสียงตะโกนของชายฉกรรจ์ตะโกนขึ้นมาราวกับผู้ประสบภัย จู่ๆสองสามีภรรยาคู่หนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นโหวกเหวกโวยวาย
“ใครก็ได้ช่วยลูกข้าด้วย” ชายฉกรรจ์ชี้มือไปยังร่างเด็กน้อที่นอนหายใจรวยริน พร้อมกับเสียงคร่ำครวญปานใจจะขาดแรงกอดและเขย่าไม่สามารถปลุกเด็กน้อยให้ฟื้นชีวิตขึ้นมาได้
หรือนี่จะเป็นลางบอกเหตุที่เลวร้าย หมูบ้านนี้กำลังจะเจอกับอาเพศจากการทำไม่ดีใช่หรือไม่
“เฮ้ย !! ดูนั่นสิตัวอะไรไม่รู้” สายตาของทุกผู้ทุกนามในบริเวณนั้นมองตามนิ้วของชายคนหนึ่งไป
༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶
จื่อหยวน หมอหนุ่มอนาคตไกล อายุ25 ปี ผู้หลงใหลการวิ่งมาราธอนเป็นชีวิตจิตใจ แต่ทำไม๊ทำไมโชคชะตาเล่นตลกอะไรกับเขากันแน่ ถึงแพ้ใจให้กับบุรุษร่างทองผู้คลั่งรักจนสุดลิ่มทิ่มประตูซะขนาดนั้น เป่ยห่าวอี้ บุรุษร่างทองในยุคราชวงศ์โบราณ อายุ25 ปี พระพักตร์งดงามราวอิสตรี ใบหน้ารูปไข่ ปากกระจับสีแดงระเรื่อคิ้วโก่งดั่งคันศร ผิวขาวราวไข่ปอก เขาทั้งสุขุม นุ่ม ลึก อภิเษกสมรสได้มิเท่าไหร่ก็ต้องแปลกพระทัยกลับร่างเดิม แต่จิตวิญญาณใหม่ที่เล่นแร่แปรธาตุอลวนอลเวงครื้นเครงไปตามๆกัน ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ เพราะความใจดีกระโดดลงไปช่วยแมวทั้งที่แต่ก็ดันจับพลัดจับผลูไปเป็นพระมเหสีในพระราชวังเข้าจนได้ โธ่ๆๆ วิ่งอยู่ดีๆแท้ๆเลยเรา จะให้ข้ากลับไปยังไงดีหล่ะ…เอ๊ะ!! หรือว่าอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ว่าแต่มันจะช่วยข้าได้หรือ? ช่วยข้าด้วย!! ใครก็ได้ช่วยข้าที… มือปลาหมึกคลั่งรักขนาดนี้ ใครมันจะทนไหวล่ะ แพ้ใจตัวเองซะเปล่าๆ
“อันนี้ก็ตอบไม่ได้นะคะ อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า หมดธุระของคุณแล้วใช่ไหม เชิญค่ะ” “พ่อไปเอายัยเด็กปากตำแยมาจากไหนไม่ทราบ พูดจากวนประสาทผมมากเลยครับ” “ผมต้องรู้ให้ได้ว่ายัยปากตำแยนี้เป็นใคร มาจากไหนลูกเต้าเหล่าใคร ทำอาชีพอะไรกันแน่” เมย สาวไซด์ไลน์ อายุ 23 ปี หญิงสาวใบหน้าคม ตากลม ผมยาว ที่รักศักดิ์ศรีของลูกผู้หญิง ถึงแม้หล่อนจะเป็นสาวไซด์ไลน์ แต่ก็มิวายตกหลุมรักลูกคุณหนูลุคแบดบอยเข้าจนได้ คาวี คุณหนูลุคแบด อายุ 30 ปี หนุ่มมาดแบดบอยมีลูกเล่นชั้นเชิงในการตกเหยื่อด้วย สายตาหวานกรุ้มกริ่มสไตล์คนเจ้าชู้ปากไม่เป็นสองรอง ใคร ที่แพ้ใจสาวไซด์ไลน์เข้าอย่างจัง… ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ เมื่อต้องเป็นสาวไซด์ไลน์รับงานจากชายแปลกหน้าก็อยากจะดูสิว่า เล่ห์ไหนที่ทำให้เธอต้องแพ้ใจตัวเอง งานเข้ารัวๆ แบบไม่มีสาเหตุ อีตาบ้าอย่ามองตาได้ไหมถ้าเธอไม่รัก.. แผนรักกลลวงอีท่าไหน ใจหล่อนถึงต้องยอมให้กับคุณหนูลุคแบดบอย ที่คอยตอแยเธอไม่เลิก
ฮองซู นางกำนันฝึกหัด อายุ 18 ปี หญิงสาวผมยาวสีดำขลับ ภายใต้ชุดสีชมพูเรียบง่ายที่ไม่ตกแต่งหรือประดับประดาสิ่งใด ที่ชอบสุมหัวอยู่กับกองหนังสือในตำหนักหอตำราหลวง นางไม่คิดอาจเอื้อมปันใจให้ใคร แต่วันหนึึ่งจู่ๆหัวใจก็สั่นคลอน ลี่หมิง องค์ชายรูปงามกล้ามตึงเปรี๊ยะ อายุ 25 ปี ชายคิ้วเข้ม โครงหน้ารูปไข่เด่นชัด ในรูปลักษณ์สีขาวทองเรียบหรูที่เป็นเอกลักษณ์ วันๆง่วนอยู่กับการชมสวน ทว่า ความฉลาดของเขาดันโป๊ะแตก เมื่อสาวปากจัดคนหนึ่งกล้าลูบคม… ༶•┈┈┈┈┈┈୨♡୧┈┈┈┈┈•༶ เข้างานนางกำนันวันแรกก็จะโดนโบยเสียแล้ว อยู่ไปอยยู่มาจะโดนเด้งให้ไปเฝ้าศพซะงั้น โอ๊ย ชีวิต แล้วนี่มันอะไร ตาลุงนั่นมันเป็นอาจารย์จริงหรือ จะให้ไปเรียนกับไอ้อาจารย์บ้านั่นก็อยากจะบ้า แต่ที่อยากจะบ้ากว่าเดิม ราชโองงการให้นางไปรับใช้องค์ชายบ้านั่นอะนะ เพิ่งรู้ว่าองค์ชายมีงานอดิเรกชอบเสแสร้งแกล้งทำเช่นนี้
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ