หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
“อื้อ……”
เจียงเนี่ยนอันส่งเสียงที่ละเอียดอ่อน ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ แต่กลับสบตาเข้ากับดวงตาที่ลุ่มลึกรางกับท้องฟ้ายามค่ำคืนคู่หนึ่ง
กู้ซ่างชินกลับมาแล้ว
ตามตัวของเขามีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ
จูบของเขายังคงครอบงำเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน มันเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งที่ยากจะปฏิเสธ
หัวใจของเจียงเนี่ยนอันเต้นไม่เป็นจังหวะ พยายามที่จะผลักเขาออกไปโดยสัญชาตญาณ
“อย่าขยับ”
เสียงของเขาทั้งทุ้มต่ำทั้งแหบแห้ง แฝงไปด้วยมนตรา
ร่างกายของเจียงเนี่ยนอันแข็งชะงักไปทันที สุดท้ายก็เลือกที่จะคล้อยตามเขา
วันนี้เป็นวันครบรอบสองปีที่พวกเขาแต่งงานกัน เธอไม่อยากจะทำให้เขาเสียอารมณ์
เธอหลับตาลง รู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา
กลิ่นโคโลญจน์จากตัวของเขามันกลบกลิ่นแอลกอฮอล์ไปจนหมด ลอยผ่านจมูกของเธอ จู่โจมเข้ามาในใจทั้งอย่างนั้น ทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม ราวกับลอยอยู่บนเมฆ
เมื่อเห็นท่าทางของเธอ ดวงตาของกู้ซ่างชินก็มืดมนไปทันที การกระทำเริ่มเหิมเกริมมากขึ้นเรื่อยๆ
เจียงเนี่ยนอันได้สติสัมปชัญญะกลับมา จึงร้องขอความเมตตาด้วยลมหายใจที่แผ่วเบา
“เบาๆ หน่อย”
“เพราะว่าฉัน.…..”
คำว่าตั้งท้องสองคำนี้ยังไม่ทันได้พูดออกไป เสียงเรียกเข้าที่รีบเร่งก็ดังขึ้นมาทำลายความคลุมเครือระหว่างทั้งสองคนก่อน
ตอนที่แววตาที่เต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความปรารถนาของกู้ซ่างชินชำเลืองไปเห็นสายที่โทรเข้ามา เขาก็เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว
เขาลุกขึ้นทันที ก่อนจะเริ่มใส่เสื้อผ้า
ดูเหมือนว่าคนที่หมกมุ่นและสับสนเมื่อตะกี้นี้ไม่ใช่เขาอย่างไรอย่างนั้น
“คุณจะออกไปข้างนอกเหรอ?”
เจียงเนี่ยนอันอึ้งตะลึง ดึงชุดนอนมาปิดโดยสัญชาตญาณ
“อืม”
กู้ซ่างชินตอบรับกลับไปอย่างเรียบเฉย ไม่ได้อธิบายอะไรต่ออีก
“แต่ว่า......”
“รีบนอนเร็วๆ เข้าเถอะ”
เขาไม่เปิดโอกาสให้เธอได้พูดอะไร จากนั้นก็โน้มตัวลงไปจุ๊บเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ น้ำเสียงอ่อนโยนแต่กลับเหินห่าง
จากนั้นก็ออกจากห้องไปโดยไม่ได้หันกลับมาอีก
เจียงเนี่ยนอันมองแผ่นหลังที่จากไปของเขาอย่างเหม่อลอย ผ่านไปสักพัก ถึงได้ดึงสติกลับมา
น่าจะเป็นเรื่องด่วนที่บริษัทล่ะมั้ง?
เธอต้องทำตามที่เขาบอก ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเขาจะไม่ชอบเธอ
เธอรักกู้ซ่างชินมาสิบปี การที่ได้แต่งงานกับเขานับว่าเป็นความโชคดี จะคาดหวังมากเกินไปไม่ได้
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ เจียงเนี่ยนอันก็ไปล้างหน้าล้างตา ก่อนจะกลับขึ้นไปบนเตียงอีกครั้ง
มือของเธอลูบท้องเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเรียบเฉย
“ลูกรัก พ่อไม่ได้ตั้งใจจะไม่อยู่ด้วยกันกับพวกเรานะ อย่าไปโกรธพ่อเลยนะ”
ทันทีที่พูดจบฟีตข่าวบนหน้าจอโทรศัพท์ก็ดึงดูดสายตาของเธอเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ
【ท่านประธานกู้ซื่อ กรุ๊ปปรากฏตัวที่สนามบินกลางดึก สันนิษฐานว่าไปรับแฟนสาวปริศนา 】
ภาพประกอบคือกู้ซ่างชินยืนอยู่ตรงทางเข้าวีไอพีของสนามบิน สวมใส่ชุดสูททั้งตัว รูปร่างสูงยาว ออร่าโดดเด่นไม่ธรรมดา
สายตาของเขาอ่อนโยน
เธอไม่เคยเห็นความอ่อนโยนแบบนี้มาก่อน
รูม่านตาของเจียงเนี่ยนอันหดเล็กลงทันที หัวใจราวกับถูกมือล่องหนแทงเข้ามาอย่างรุนแรง เจ็บจนเธอแทบจะหายใจไม่ออก
ผ่านไปนานสองนาน เธอถึงได้ดึงสติกลับมา เนื่องจากยังมีความหวังอยู่บ้าง เธอจึงคลิกเปิดข่าวขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา
เป็นอย่างที่คิดเอาไว้ ใบหน้าที่คุ้นเคยเด้งเข้ามาในแววตาของเธอ
หลินเจียเจีย
ผู้หญิงที่อยู่ภายในใจที่กู้ซ่างชินอาลัยอาวณ์มาโดยตลอด เธอกลับมาแล้ว
เจียงเนี่ยนอันรู้สึกหนาวเย็นไปหมดทั้งตัว หัวใจราวกับถูกมีดกรีด
เธอกัดริมฝีปาก พยายามอดกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา
เธอไม่มีทางลืมว่าการแต่งงานของเธอมันเกิดขึ้นได้ยังไง
เมื่อสองปีก่อน ระหว่างที่หลินเจียเจียกำลังจะหารือเรื่องแต่งงานกับกู้ซ่างชิน จู่ๆ ก็หายสาบสูญไป
ในตอนนั้นกู้ซ่างชินอยู่ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการคัดเลือกคณะกรรมการ จึงต้องการภรรยาที่เชื่อฟังสักคนหนึ่ง
เธอที่รักเขาจนทุกคนรู้กันไปทั่ว เธอที่ครอบครัวล้มละลายและพังพินาศในตอนนั้น ก็คือตัวเลือกที่ดีที่สุด
หลังจากแต่งงานมาสองปี เธอที่ถ่อมเนื้อถ่อมตัวมักจะรู้สึกว่าความสุขนี้มันเป็นการขโมยมาโดยตลอด
จนกระทั่งเมื่อวาน เธอตรวจพบว่าตัวเองตั้งครรภ์
พวกเขามีการคุมกำเนิดอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ยกเว้นเมื่อเดือนที่แล้วกู้ซ่างชินไปเข้าร่วมงานเลี้ยงสังคม ดื่มจนเมากลับมาถึงบ้าน เขาสูญเสียสติสัมปชัญญะไปจนหมดเกลี้ยง
ทั้งสองคนประมาทเลินเล่อ ถึงได้ตั้งท้องเด็กคนนี้ขึ้นมา
ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าควรจะบอกเรื่องนี้กับกู้ซ่างชินยังไง
เธอกลัวว่ากู้ซ่างชินจะให้เธอไปเอาเด็กคนนี้ออก
ถึงยังไง คนที่เขารักก็ไม่ใช่เธอมาตั้งแต่แรกแล้ว
ระหว่างที่กำลังสับสนมึนงง เจียงเนี่ยนอันก็ได้ยินเสียงของกู้ซ่างชิน
เป็นเสียงที่ดังมาจากห้องหนังสือ
เขากลับมาแล้วเหรอ?
เธอลุกขึ้นแล้วเอาเสื้อคลุมตัวบางคลุมไว้ ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องหนังสือ
ทันทีที่มาถึงประตู เสียงเยาะเย้ยของฟู่จือเซวียนก็ดังขึ้นมา “เมื่อคืนนายไม่ได้กลับมาตลอดทั้งคืน เพราะอยู่ด้วยกันกับหลินเจียเจียเหรอ?”
หัวใจของเจียงเนี่ยนอันจมดิ่งลง
ที่แท้กู้ซ่างชินก็อยู่ด้วยกันกับหลินเจียเจียตลอดทั้งคืนจริงๆ
“อืม”
กู้ซ่างชินตอบรับไปอย่างเรียบเฉย น้ำเสียงฟังไม่ออกถึงอารมณ์ความรู้สึกอะไรทั้งนั้น
“แล้วอันอันล่ะจะทำยังไง? หลังจากแต่งงานกันมาสองปี เป็นไปไม่ได้หรอกมั้งที่นายจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับเธอเลยสักนิด?” น้ำเสียงของฟู่จือเซวียนแฝงไปด้วยความเป็นกังวล “ผู้หญิงที่ดีขนาดนี้นายกลับไม่เอา เมื่อถูกคนอื่นแย่งไป แล้วอย่ามาร้องห่มร้องไห้ทีหลังก็แล้วกัน”
“ไม่หรอก แค่รู้สึกผิดเท่านั้น” น้ำเสียงของกู้ซ่างชินไม่ได้แยแสสนใจ “ถ้านายอยากได้ล่ะก็ ฉันแนะนำให้กับนายได้นะ นายยังมีธุระที่บริษัทอีกไม่ใช่เหรอ? รีบไปเถอะ”
รู้สึกผิดงั้นเหรอ?
กู้ซ่างชินแค่รู้สึกผิดต่อเธอเท่านั้นเองเหรอ?
น้ำตาของเจียงเนี่ยนอันร่วงหล่นลงบนพื้น มือที่จับลูกบิดประตูคลายออกอย่างเงียบๆ
ที่แท้เขาก็ไม่เคยหวั่นไหวเลยแม้แต่น้อย
ที่แท้ภายในใจของกู้ซ่างชิน เธอมันไม่ได้สลักสำคัญอะไร เขาถึงขั้นสามารถแนะนำให้กับคนอื่นได้เลยด้วยซ้ำ
หัวใจของเจียงเนี่ยนอันเยือกเย็นไปหมดแล้ว
เธอหันหลังกลับด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว วิ่งเข้าไปในสวนเหมือนกับกำลังหนีอะไรบางอย่าง
เธอนั่งยองๆ ลง ซบหน้าที่หัวเข่า ปล่อยให้น้ำตามันคลอสองเบ้าตา
เธอนึกถึงภาพตอนที่เธอเจอกับกู้ซ่างชินเมื่อสิบปีก่อนขึ้นมา
เขาในตอนนั้น หล่อเหลาสดใส มีพื้นฐานครอบครัวที่ดี เป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวภายในใจของเหล่าผู้หญิงทุกคนในโรงเรียน
ส่วนเธอ ก็กลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ใครๆ ต่างก็กลั่นแกล้งรังแก เพราะบริษัทของครอบครัวล้มละลาย
กู้ซ่างชินเป็นคนช่วยเหลือเธอ เขาพูดเตือนกับทุกคนว่า ห้ามมารังแกเธออีก
กู้ซ่างชินในตอนนั้น ดุจดั่งเทวดาจริงๆ
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"