ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
“หยูเจ๋อ งานแต่งงานกำลังจะเริ่มแล้ว คุณจะไปไม่ได้นะ!”
เฉียวซิงเฉินที่สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์รีบคว้าแขนเฉินหยูเจ๋อเอาไว้ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเฉียวซิงเฉินกับเฉินหยูเจ๋อ
ตอนที่งานแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น จู่ ๆ เฉินหยูเจ๋อก็ได้รับข้อความของใครบางคน แล้วประกาศยกเลิกงานแต่งงานต่อหน้าผู้คน
เฉินหยูเจ๋อขมวดคิ้วแน่น น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจ “อย่ามาขวางผม เหมิงเหมิงได้รับบาดเจ็บ ถ้าทิ้งเธอไว้ที่โรงพยาบาลคนเดียว เธอจะต้องกลัวแน่ ๆ ผมต้องรีบไปอยู่เป็นเพื่อนเธอ”
ทันใดนั้น ใบหน้าของเฉียวซิงเฉินก็ซีดเผือด
เยว่เหมิงซินคือคนรักในวัยเด็กของเฉินหยูเจ๋อ
เฉียวซิงเฉินและเฉินหยูเจ๋อคบหากันมาห้าปีแล้ว ทุกครั้งที่เป็นช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา หากเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเยว่เหมิงซินเพียงนิดเดียว เฉินหยูเจ๋อก็จะยอมทิ้งเธอ เพื่อไปหาเยว่เหมิงซินในทันที.....
เฉินหยูเจ๋อบอกว่า เขามองว่าเยว่เหมิงซินเป็นเหมือนน้องสาว เขาอยากให้เธอหัดเข้าอกเข้าใจบ้าง
เพื่อให้ความสัมพันธ์ห้าปีระหว่างเธอกับเขาได้ลงเอยด้วยดี เธอจึงเลือกที่จะยอมถอยให้ทุกครั้ง
แต่ครั้งนี้ มันเป็นวันแต่งงานของเธอกับเขา
เยว่เหมิงซินต้องการให้เฉินหยูเจ๋อไปอยู่เป็นเพื่อน แล้วเธอจะต้องยอมถูกว่าที่สามีทิ้งไปโดยไม่สนใจใยดีอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?!
เสียงของเฉียวซิงเฉินมีความสั่นเครือ เธอพูดขอร้องขึ้นมาเบา ๆ ว่า “ไม่ได้ งานแต่งงานจะไม่มีคุณไม่ได้ ไม่ว่ายังไง วันนี้คุณก็ห้ามไปไหนทั้งนั้น ฉันขอร้องล่ะนะ!”
สีหน้าของเฉินหยูเจ๋อเริ่มที่จะหมดความอดทนมากขึ้นเรื่อย ๆ “พอได้แล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่คุณจะมาเอาแต่ใจและเห็นแก่ตัวนะ! ก็แค่งานแต่งงานเอง จะจัดเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เหมิงเหมิงได้รับบาดเจ็บอยู่ หากล่าช้าไปมากกว่านี้ คุณรับผิดชอบได้ไหม หลบไปซะ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็ผลักเฉียวซิงเฉินออกไป
เฉียวซิงเฉินที่ไม่ทันได้ตั้งตัวจึงล้มลงไปกับพื้นอย่างน่าเวทนา เธอได้แต่มองตามแผ่นหลังของเฉินหยูเจ๋อที่ค่อย ๆ หายลับตาไป
วินาทีต่อมา โทรศัพท์มือถือของเฉียวซิงเฉินก็ดังขึ้น
เฉียวซิงเฉินกดปุ่มรับสายโดยสัญชาตญาณ พลันได้ยินเสียงอันเย่อหยิ่งของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาตามปลายสายอย่างสะใจ
“เฉียวซิงเฉิน ฉันได้ยินมาว่าวันนี้เป็นวันที่เธอกับหยูเจ๋อจะแต่งงานกัน เธอชอบของขวัญที่ฉันให้รึเปล่า?”
เฉียวซิงเฉินสั่นไปทั้งตัว เธอรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เธอกัดฟันพูดว่า “เยว่เหมิงซิน เธอจงใจเรียกหยูเจ๋อไปใช่ไหม?”
“ใช่ ฉันจงใจ แล้วไงเหรอ? ฉันก็แค่อยากให้เธอได้รู้ว่า ในใจของหยูเจ๋อ ฉันสำคัญกว่าเธอเสมอ!”
น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินมีความโอ้อวดอย่างเต็มเปี่ยม “เธอคงจะทุ่มเทให้กับการเตรียมงานแต่งงานนี้มากเลยสิท่า? น่าเสียดายเนอะที่ความพยายามทั้งหมดของเธอต้องสูญเปล่า ฉันล่ะสงสารเธอจริง ๆ!”
เฉียวซิงเฉินมองดูชุดแต่งงานสีขาวที่ตัวเองสวมใส่อยู่ จู่ ๆ เธอก็รู้สึกว่าความพากเพียรของเธอในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มันดูไร้สาระสิ้นดี
เพราะเธอเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอก็คือการได้มีครอบครัวที่มีความสุขเป็นของตัวเอง
แต่สุดท้ายเธอกลับพบว่า เฉินหยูเจ๋อไม่สามารถให้ทุกสิ่งที่เธอต้องการได้
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นเธอก็ควรที่จะปล่อยเขาไป
เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะออกมาก่อนจะพูดว่า “เกรงว่าเธอคงจะต้องผิดหวังแล้วล่ะ เพราะ งานแต่งงานจะยังดำเนินต่อไปตามปกติ!”
น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินเต็มไปด้วยการเยาะเย้ย “เฉียวซิงเฉิน ฉันว่าเธอต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ ๆ ? ถ้าไม่มีหยูเจ๋อ แล้วงานแต่งงานของเธอจะดำเนินต่อไปได้ยังไง?”
มุมปากของเฉียวซิงเฉินโค้งขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน
ใครบอกล่ะว่า เจ้าบ่าวของเธอจะต้องเป็นเฉินหยูเจ๋อเท่านั้น?
ในเมื่อเขาทิ้งเธอไปอย่างไม่สนใจใยดี งั้นเธอก็จะไปแต่งงานกับคนอื่น แล้วก็แสวงหาความสุขที่เป็นของเธอจริง ๆ แทน!
“ยังไงฉันก็ฝากเธอบอกเฉินหยูเจ๋อด้วยนะว่า ฉันไม่ต้องการเขาแล้ว! เขาคือผู้ชายที่ฉันไม่ต้องการแล้ว ถ้าเธอจะชอบเขาขนาดนั้น งั้นฉันยกให้เธอก็แล้วกัน ชายโฉดหญิงชั่วอย่างพวกเธอ ขอให้อยู่ด้วยกันไปนาน ๆ ล่ะ!”
น้ำเสียงของเยว่เหมิงซินเปลี่ยนไปทันที “เฉียวซิงเฉิน อย่าให้มันมากนักนะ……”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เฉียวซิงเฉินก็ตัดสายไปแล้ว
งานแต่งงานจะเริ่มในอีกครึ่งชั่วโมง เธอจะต้องหาเจ้าบ่าวมาแทนที่เฉินหยูเจ๋อให้ได้โดยเร็วที่สุด!
เธอยกชายกระโปรงขึ้นและเดินออกไปข้างนอกอย่างรีบร้อน แต่แล้วกลับพบว่าข้างนอกโบสถ์มีบอดี้การ์ดสวมชุดอยู่เป็นจำนวนมาก ดูยิ่งใหญ่อลังการ ราวกับพวกเขากำลังมองหาอะไรบางอย่างอยู่
แล้วก็มีชายคนหนึ่งที่สวมชุดเจ้าบ่าวกำลังนั่งอยู่บนวีลแชร์ ที่ตัวเขามีออร่าที่เย็นชาแผ่ออกมา
เขาถามลูกน้องที่อยู่ตรงหน้าว่า “งานแต่งงานกำลังจะเริ่มแล้ว เจอตัวรึยัง?”
บอดี้การ์ดที่สวมชุดสีดำพูดด้วยความลำบากใจว่า “คุณลู่ พวกเราหากันทั่วบริเวณโบสถ์แล้วครับ แต่ไม่เห็นวี่แววของคุณจางเลยครับ ดูเหมือนว่าเธอจะหนีไปแล้ว......”
“หนีงั้นเหรอ?” เสียงของผู้ชายคนนั้นทุ้มต่ำฟังดูไพเราะ แต่สายตาของเขากลับดูดุร้ายไร้ความปราณีเหมือนสัตว์ร้ายไม่มีผิด “ถ้าการแต่งงานไม่สามารถดำเนินต่อไปตามกำหนด นายรู้ใช่ไหมว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง!”
เฉียวซิงเฉินได้ยินบทสนทนาของพวกเขาทุกอย่าง ไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชายคนนี้จะถูกคู่รักทิ้งในวันแต่งงานเหมือนกันกับเธอเลย
เธอรีบยกชายกระโปรงขึ้น และเดินไปหาเขาอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด
บอดี้การ์ดชุดดำเมื่อเห็นเช่นนี้ก็ตั้งท่าระวัง แล้วก็ยื่นมือออกมากันเธอไว้ตามสัญชาตญาณ
“คุณผู้หญิงจะทำอะไรครับ?”
ผู้ชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์มองมาที่เธอ สายตาที่ทอดมองมาทำให้คนรู้สึกกดดัน
แต่เฉียวซิงเฉินกลับไม่ได้หวาดกลัวเลยสักนิด เธอมองตรงเข้าไปในดวงตาของชายคนนั้นและพูดขึ้นว่า
“คุณคะ ฉันได้ยินมาว่าเจ้าสาวของคุณหนีไป งั้นสู้ให้ฉันไปเป็นเจ้าสาวของคุณดีไหมคะ?”
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"