เมื่อธีร์หลงรักวินเพื่อนสนิทของเขามานานนับปี จนวันหนึ่งเขาได้มีโอกาสครอบครองวินสมใจ แล้วคนเช่นเขาจะยอมให้ใครกล้ายุ่งกับคนของเขาได้อีกเล่า
บทที่ 1 เพื่อนสนิท
ในยามค่ำคืนที่อบอวลไปด้วยแสงไฟนีออนและเสียงดนตรีที่ดังก้องไปทั่วคลับหรูย่านใจกลางเมือง ธีร์กำลังนั่งดื่มอยู่กับวินเพื่อนสนิทของเขา ธีร์เป็นลูกชายเศรษฐี เขาเป็นนักแข่งรถชื่อดัง ธีร์มีหน้าตาหล่อคม ใบหน้าฉายแววเจ้าเล่ห์เล็ก ๆ ดวงตาที่รียาวคมกริบ ทำเอาธีร์ต่างเป็นที่หมายปองของสาว ๆ มากมาย ส่วนวิน นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง วินมีหน้าตาออกแนวสำอาง ผิวขาว แต่กลับเป็นเพลย์บอยตัวยงที่ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าเลยทีเดียว
ธีร์นั่งอยู่ที่โต๊ะวีไอพีของคลับ เขากำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเห็นวินคุยโทรศัพท์กับสาว ๆ ไม่หยุด เสียงหยอกเย้าปนเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนาน ทำเอาเขาได้แต่รู้สึกหงุดหงิดใจเสียทุกครั้งไป เพราะในใจลึก ๆ ของธีร์ เขาแอบรักวินมาตลอดโดยไม่กล้าแสดงความรู้สึกอันใดออกมา ดังนั้นเขาจึงทำเพียงนั่งนิ่งและแกล้งทำเป็นไม่สนใจท่าทีที่น่าหมั่นไส้ของวินอย่างนั้น
“เฮ้ ธีร์” วินเรียกทำลายความเงียบ “นายเคยคิดบ้างไหมว่า...อยากเจอใครสักคนที่เราจะลงหลักปักฐานด้วยกัน บางทีฉันก็คิดอยากจะแต่งงานแล้วว่ะ”
คำถามนี้ทำเอาธีร์ถึงกับสะอึกใหญ่ เขารู้สึกเหมือนหัวใจถูกบีบเมื่อได้ยินวินพูดแบบนั้น แต่แล้วเขากลบความรู้สึกนั้นด้วยการยิ้มแล้วตอบออกไปอย่างไม่ใคร่สนใจนัก “ไม่เคยคิดหรอก นายคิดเรื่องเหลวไหลอะไรของนายอีกแล้ว”
“นี่นายอย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง ฉันเห็นสาว ๆ แอบมองนายอยู่ตั้งหลายคน นายไม่คิดจะสนใจเสียหน่อยเหรอ...เอ...หรือว่านายแอบซ่อนใครไว้อยู่” วินทำน้ำเสียงล้อเลียนเพื่อนรัก
ตั้งแต่คบกันมาวินไม่เคยเห็นธีร์คบใครสักคนเลย ทั้ง ๆ ที่รูปร่าง หน้าตา ฐานะอย่างธีร์ ผู้หญิงนับร้อยแทบอยากจะซบลงมาที่อกเขาให้ได้
“นายพูดบ้าอะไรเนี่ย เลิกเพ้อเจ้อได้แล้ว” ธีร์บ่ายเบี่ยงพร้อมหลบสายตาวิน เขาจะมองหน้าวินได้อย่างไร หากวินรู้ความรู้สึกของเขา แม้แต่คำว่าเพื่อน วินคงไม่มีให้เขาอีกแล้ว
“โธ่ธีร์...ฉันก็แค่...รู้สึกเบื่อกับการควงสาวไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ฉันเริ่มอยากมีใครสักคนที่ฉันจะรักเขาคนเดียวอย่างจริงจัง” วินพูดพร้อมถอนหายใจอย่างรู้สึกเบื่อหน่ายเข้าจริง ๆ
“วิน นายอย่าบอกนะ ว่านายคิดจะแต่งงาน” ธีร์เลิกคิ้วสูง มองหน้าวินด้วยสายตาจริงจัง
วินยักไหล่กับคำพูดของเพื่อน “ก็ไม่แน่” ก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ คลับอีกครั้ง พลันสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่หญิงสาวคนหนึ่ง เธอหน้าตาสวยหวาน แต่งกายแม้ไม่เย้ายวน แต่กลับดูน่าหลงใหลยิ่งนัก เธอนั่งอยู่ที่บาร์เหล้าเพียงลำพัง วินบังเกิดสายตาลุกวาวและยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ “นั่นไง ฉันว่าเธอนี่แหละ ที่จะเป็นแม่ของลูกฉัน”
ธีร์ได้แต่ปรายตามองวินด้วยดวงตาที่หม่นแสง วินไม่มีวันรู้หรอกว่าคำพูดเหล่านั้นทิ่มแทงใจเขามากแค่ไหน
พลันวินก็ตัดสินใจลุกขึ้น ก่อนจะยกแก้วเหล้าทำท่าจะเดินตรงไปหญิงสาวคนดังกล่าว ธีร์ได้แต่มองท่าทางกระตือรือร้นของวิน พลางสลับหันไปมองหญิงสาวที่วินแอบหมายตาอยู่ นั่นทำให้เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ธีร์ดึงแขนวินเอาไว้ “วันนี้นายเมามากแล้ว นายยังจะเดินไปหาเธออีกเหรอ” เขาพยายามเหนี่ยวรั้งวินไว้อย่างสุดกำลัง
“แน่นอน ต่อให้ต้องเมาจนตาย ก็ขอตายคาอกสาวก็แล้วกัน” วินตอบพลางยักคิ้วหลิ่วตาให้ธีร์อย่างทีเล่นทีจริง แต่นั่นทำเอาธีร์หัวใจเต้นแรง รู้สึกร้อนวูบไปทั่วใบหน้า
วินเดินตรงไปที่บาร์ที่ผู้หญิงคนดังกล่าวนั่งอยู่ ทิ้งให้ธีร์นั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะ เขามองตามหลังวินไปด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธขึ้งและหึงหวง
ธีร์ยังคงจ้องมองวินที่นั่งคุยอย่างสนิทสนมกับหญิงสาวคนนั้น เขารู้สึกเหมือนทุกนาทีเป็นชั่วโมง ความโกรธทำให้เขาแทบจะไม่สามารถทนอยู่ต่อได้อีก เขาตั้งท่าจะลุกจากโต๊ะเพื่อเตรียมตัวกลับ หากแต่วินที่กลับมานั่งที่โต๊ะ เขารีบฉุดรั้งแขนธีร์เข้ามาหา พร้อมกระซิบกระซาบใส่เขา
“เธอน่ารักใช่ไหมล่ะ” วินพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “ฉันว่าฉันเจอแล้วแหละ แม่ของลูกฉัน” วินพูดพร้อมประกายตาวาววับ ทำท่าทางอย่างกับหนุ่มช่างเพ้อฝัน
ธีร์ได้แต่เบือนหน้าหนีอย่างพยายามเก็บอารมณ์ “อืม...ก็น่ารักดี”
เวลาผ่านไปพวกเขาดื่มกันต่อจนกระทั่งวินเริ่มเมาไม่ได้สติ ธีร์มองวินที่เริ่มพูดจาไม่เป็นภาษาและบ้างก็พร่ำเพ้อ บ้างก็โอดครวญ ทำเอาเขาได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างจนใจ ธีร์ตัดสินใจลุกขึ้นก่อนจะเข้าพยุงวินขึ้นมา “วิน นายต้องกลับห้องแล้ว เดี๋ยวฉันพานายไปส่ง”
ร่างกายวินที่แนบเข้ามากับตัวของธีร์ ทำเอาธีร์รู้สึกหายใจติดขัดขึ้นมา ยิ่งเมื่อวินที่เริ่มทรงตัวไม่อยู่ วินจึงใช้สองแขนโอบรอบคอธีร์ไว้แน่น ใบหน้าหวานแอบอิงเข้ากับบ่ากว้างของธีร์อย่างลืมตัว ทว่าลมหายใจร้อนของวินที่เป่ารดอยู่บนบริเวณลำคอของธีร์ ทำเอาเขาหัวใจเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา ร่างกายส่วนล่างขยับขยายอย่างไม่อาจห้ามอยู่ ธีร์ต้องพยายามข่มใจอยู่พักใหญ่ เขาสูดลมหายใจแรงเข้าไปในร่างกายเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง ก่อนจะรีบพาวินกลับออกมาด้านนอก
หลังจากที่ธีร์ลากร่างอันอ่อนปวกเปียกของวินมาถึงที่รถ เขาก็แทบจะหมดแรงลงไป “เจ้าบ้านี่ กินยังไงให้เมาไร้สติแบบนี้กัน” ธีร์บ่นอุบขึ้นมาพร้อมมองหน้าวินที่ตอนนี้กำลังหลับสนิท
ธีร์ถอนหายใจก่อนจะยิ้มน้อยออกมา ธีร์โน้มตัวดึงเข็มขัดนิรภัยขึ้นมาเพื่อคาดให้กับวิน แต่เมื่อใบหน้าหวานพร้อมลมหายใจร้อนที่เป่ารดอยู่บนใบหน้าของเขา ทำเอาเขาอดกลั้นไว้ไม่อยู่ ธีร์ตัดสินใจก้มลงพร้อมจูบเข้าที่ริมฝีปากวินอย่างรวดเร็ว วินที่กำลังเมาเคลิ้มเผลอตัวขึ้นครางออกมา ยิ่งเปิดโอกาสให้ธีร์ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจภายในปากวินอย่างราบรื่น
ธีร์จูบวินอย่างดูดดื่มและโหยหา เขาบดเบียดริมฝีปากไปมา พร้อมลิ้นที่ตวัดเกี่ยวพันลิ้นของวินอย่างลึกซึ้ง ธีร์จูบวินเนิ่นนานกว่าเขาจะยอมปล่อยริมฝีปากหวานนั้นออกไป
“อืม...” เสียงวินครางออกมาอย่างลืมตัว ทำเอาธีร์ถึงกับยกยิ้มขึ้นด้วยความปลื้มปริ่ม เขายกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าของวินอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับมาขึ้นรถพร้อมขับตรงไปยังคอนโดของเขาในทันที
เมื่อภัทราได้ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในร่างของเจียงอันเล่อ ตัวละครในนิยายเรื่อง "ชะตารักพันธนาการ" ภารกิจปกป้องหานอี้หลง พระรองของเรื่องแต่เป็นชายในดวงใจของเธอก็เริ่มต้นขึ้น
เผิงฟู่หลิน บุตรสาวราชครูเผิงผู้ยิ่งใหญ่ นางทั้งรูปงาม ทั้งเพียบพร้อมด้วยความสามารถ แต่ผู้คนกลับตราหน้าว่านางเป็นคุณหนูใจโฉด ทั้งร้ายกาจ ทั้งเอาแต่ใจ ในเมื่อนางรักมั่นทั้งหัวใจ แต่กลับได้รับเพียงความว่างเปล่า เช่นนั้นนางจะหันหลังให้บุรุษทุกคน....
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
"พี่ริก" นินิวเรียกคนที่เข้ามาในห้องเธอ ฉันอยากจะกรี๊ดและกัดลิ้นตัวเองให้ขาด ฉันลืมไปสนิทว่าริกเป็นคนที่เข้าออกคอนโดของเธอได้อย่างง่ายดาย "ออกไป ถ้าไม่อยากโดนข้อหาบุกรุกห้องคนอื่นในยามวิกาล" นินิวบอกริกมาเสียดังด้วยสีหน้าโกรธจัด ที่ริกเข้าห้องเธออย่างถือวิสะ "ไม่ไป ในเมื่อที่นี่คือห้องเมียฉัน ทำไมฉันต้องออก" ร่างสูงบอกมาด้วยเสียงแข็งด้วยความไม่พอใจ "ห้องฉันไม่ใช่ห้องของยัยโมเน่ เมียคนปัจจุบันของพี่ ถ้าพี่ยังหลงเหลือความเป็นคนอยู่บ้างก็ออกไปจากห้องฉันคะ" แต่ริกกับไม่สนใจคำพูดนินิวเลยซักนิด ร่างสูงเดินเข้ามาหาคนตรงหน้า นินิวที่เห็นเช่นนั้นถึงกับจับที่ชายผ้าขนหนูเอาไว้แน่นขึ้น เพราะคนตรงหน้านั่นดูอันตรายสำหรับเธอ "อย่านะพี่ริก เรื่องของเรามันจบไปแล้ว" นินิวบอกมาด้วยเสียงสั่นเพราะสายตาที่เขามองเธอมามันน่ากลัวมากจริงๆ "ชอบฉันไม่ใช่เหรอ เอาฉันแล้วจะไปอ่อยคนอื่น อีกทำไม ฉันเห็นเต็มสองตาว่าเธอจูบกับไอ้ไทม์" "ในเมื่อพี่เห็นเช่นนั้น พี่ก็เลิกยุ่งกับฉันเสียสิ ฉันจะอ่อยจะจูบกับใครมันก็เรื่องของฉันไหม ฉันบอกพี่ไม่กี่ร้อยครั้งแล้วว่าเราเลิกกันแล้ว เพราะพี่มันเลว ฉันเลยไม่อยากได้พี่แล้ว " นินิวบอกคนใจร้ายอย่างคนเหลืออด เธอระเบิดอารมณ์ใส่คนตรงหน้าอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัว สำหรับริกตอนนี้เธอมองเขาเป็นแค่เศษฝุ่นที่รู้สึกขยะแขยงยิ่งกว่าแมลงสาบ ริกถึงกับกัดฟันกอดด้วยความโกรธและโมโห เชตเรื่องหนุ่มๆวิศวะทั้ง 4 หนุ่มนะคะ พันธะร้ายนายวิศวะ เรียวตะ x เชอรีน (มีให้อ่านจบเรื่อง) พิษรักร้าย Toxic Love ริกกี้ x นินิว พลาดรักร้ายนายวิศวะ อรัณ x มิริณ คลั่งรักร้ายนายวิศวะ ริว x เจนิส โลกสวยไม่เหมาะกับนิยายเรื่องนี้ ข้ามไปได้เลยจ้า นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้แต่ง ห้ามขัดลอกเรียนแบบใดๆ ทั้งสิ้นเขียนขึ้นตามจิตนาการของผู้เขียนเท่านั้น นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหารุนแรงในบางตอน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน อายุต่ำกว่า 18 ปีควรได้รับคำแนะนำ
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้