"เกมโกงมาเฟียซ่อนรัก"เมื่อเกมแห่งอำนาจไม่มีที่ว่างให้กับความรู้สึก แต่มาเฟียหนุ่มผู้แสนเย็นชา กลับต้องเดิมพันหัวใจกับศัตรูที่ไม่เคยพ่ายแพ้
"เกมโกงมาเฟียซ่อนรัก"เมื่อเกมแห่งอำนาจไม่มีที่ว่างให้กับความรู้สึก แต่มาเฟียหนุ่มผู้แสนเย็นชา กลับต้องเดิมพันหัวใจกับศัตรูที่ไม่เคยพ่ายแพ้
"คุณเดมี่ คะ คุณเดมี่ " เสียงเรียกของหญิงวัยกลางคน ที่ดังพร้อมกับเสียงเคาะประตู ที่ดังเป็นจังหวะ เข้ามา
เดมี่ ที่กำลังนอนหลับ อย่างสบาย ด้วยบรรยากาศ ที่ฝนกำลังตก ช่วงนี้ เข้าหน้าฝน มันยิ่งทำให้เธอ รู้สึกชอบไม่น้อย
"มีอะไร หรือคะ ป้าพิ้งค์ " เธอตะโกนถาม ถามออกไปทั้งๆ ที่ยังคง นั่งอยู่บน ที่นอน
"เปิดประตูให้ป้าหน่อยค่ะ "
"มีอะไร หรือคะ "
เดมี่ เธอเห็นว่าป้า ยังคงตะโกนเรียกเธอ ให้ลุกไปเปิด
"ป้าคะ "
"คุณ เจจจ สัน กลับมาแล้ว" เสียงของป้า บอกกับเธอ
"ป้ารู้ได้ยังไงคะ "
"ก็ ลุงดำ ผัวของป้านะสิ บอก มา ป้าถึงวิ่งมาหาคุณเดมี่ นี่ไง ... "
"เดมี่ ไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยค่ะ ว่าเขาจะมา "
"ป้าก็ เพิ่งจะรู้ พร้อมๆ กับคุณเดมี่ นั่นแหละค่ะ ป้ามาบอกคุณ เรื่องนี้ ให้คุณเตรียมรับมือ กับคุณ เขาไว้ "
"ค่ะป้า "
"ระวัง ตัวด้วยล่ะ "
"ค่ะ " เดมี่ พยักหน้ารับ ก่อนที่จะปิดประตู ห้องนอน ของเธอ เธอกลับมาที่เตียงของตัวเอง และล้มนอนทันที เหมือนไม่ได้ยินเรื่อง การกลับมาของเขา
ถ้าคุณเปิด Google แล้วพิมพ์คำว่า “วิธีไม่ตกหลุมรักไกด์สาวในปารีส”... คุณจะไม่เจอคำตอบและ Luc Morel ก็รู้ดีว่าทันทีที่เขาเห็นหญิงสาวในเสื้อโค้ตสีแดง ผู้ถือป้ายทัวร์พร้อมรอยยิ้มสุดแพรวพราวเขารักเธอทันที
โรงเรียนมัธยมปลายโยชิโนะในเช้าวันจันทร์ฮารุวิ่งกระหืดกระหอบเข้าห้องเรียนพร้อมขนมปังในปากแบบที่เห็นได้ตามสูตรพระเอกมังงะแต่สิ่งที่เขาสะดุดไม่ใช่ขนมปัง แต่เป็นสายตาขวาง ๆ ของชายคนหนึ่ง
ในโลกของคนที่มีหัวใจ ‘ไร้รัก’ การครอบครองคือวิธีเดียวที่จะผูกมัดเธอไว้ข้างกาย แม้จะต้องใช้ความแค้น…แม้จะต้องทำให้เธอเกลียดเขาก็ตาม
แสงแดดอ่อนยามสายลอดผ่านกระจกสูงของตึกสำนักงานหรูใจกลางเมือง ‘คิรัน’ เจ้าของใบหน้าคมเข้มในชุดสูทเทาเข้มเนื้อดี นั่งพิงพนักเก้าอี้หนังแท้ด้วยท่าทางสบายๆ ขณะจิบกาแฟจากถ้วยพอร์ซเลนราคาแพง เขายังคงเป็นผู้ชายในฝันของใครหลายคนทั้งพนักงานในบริษัท ทั้งผู้หญิงนอกบริษัท และแม้แต่ในงานสังคมระดับสูง หล่อ รวย เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อันดับต้นๆ ของประเทศ แถมยังมีประวัติรักๆ เลิกๆ ที่ยาวเป็นหางว่าว แต่ถึงอย่างนั้น ไม่มีใครเข้าใกล้หัวใจของคิรันได้เลยสักคน ไม่ใช่เพราะเขาไร้หัวใจ…แต่เพราะเขา “ไม่คิดจะยกมันให้ใคร” จนกระทั่ง...วันนี้ “คุณคิรันคะ พนักงานใหม่ที่คุณสั่งให้ขึ้นมารายงานตัวด้วยตัวเอง...มาถึงแล้วค่ะ” เสียงเลขาส่วนตัวเอ่ยขึ้นพร้อมเคาะประตูเบาๆ “เข้ามาได้เลย” ชายหนุ่มตอบเรียบๆ ก่อนจะหันกลับไปมองวิวเมืองจากกระจกใส เขาจิบกาแฟต่อด้วยสีหน้าไม่แยแส เขาจำชื่อเธอได้ลางๆ จากโปรไฟล์ ‘มินนี่’...เด็กสาวจากบ้านรับเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่พ่อแม่เขาเคยอุปถัมภ์ไว้เมื่อสิบปีก่อน เขาไม่ได้เจอเธอมานานนับสิบปี รู้แค่ว่าเธอขยันเรียนจนได้ทุนไปต่างประเทศ และเพิ่งกลับมาทำงาน เด็กคนนั้นโตพอจะมาทำงานในบริษัทของเขาแล้วจริงๆ หรือ? เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้น และเมื่อประตูเปิดออก คิรันหันกลับมาอย่างไม่คาดหวังอะไรเป็นพิเศษ แต่ภาพที่เห็นทำให้ปลายนิ้วเขาหยุดนิ่งอยู่ที่ขอบถ้วยกาแฟ หญิงสาวตรงหน้ามีผิวขาวอมชมพู ผมยาวสีน้ำตาลเข้มถูกมัดรวบไว้หลวมๆ ใบหน้าหวานซ่อนความมั่นใจ และดวงตาที่ทั้งใสและนิ่งในเวลาเดียวกัน ไม่ใช่เด็กสาวตัวเล็กในชุดนักเรียนที่เขาเคยจำได้อีกต่อไป “สวัสดีค่ะ พี่คิรัน...ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ” เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่สดใส คิรันชะงักไปครู่หนึ่ง หัวใจเขา…เหมือนสะดุดไม่ใช่เพราะเธอสวย ไม่ใช่เพราะเธอดูโตเป็นผู้หญิงเต็มตัว แต่เพราะคำว่า “พี่คิรัน” จากปากเธอ มันกระแทกหัวใจเขาอย่างจัง เขาไม่เคยถูกใครเรียกแบบนี้ แล้วใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ “โตจนฉันจำไม่ได้แล้วนะ...มินนี่” เขายิ้มบาง แต่แววตากลับหลบเลี่ยงสายตาเธออย่างไม่รู้ตัว ขณะเดียวกัน หญิงสาวที่ชื่อมินนี่ ก็กำลังเก็บอาการไม่ให้ใจเต้นแรงไปกว่านี้ เธอเตรียมตัวมาพบเขาแล้ว…ชายหนุ่มที่เคยเป็น “พี่ชายบุญธรรม” และครั้งหนึ่ง เคยเป็นรักแรกแสนเงียบของเธอ เธอเติบโตขึ้นมาแล้วและเขา...ก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเธอรู้ดีว่าโลกของเขาเต็มไปด้วยผู้หญิงมากหน้าหลายตา แต่เธอไม่คิดจะเข้าไปยุ่ง ไม่คิดจะหวั่นไหว …ทว่าหัวใจไม่ใช่สิ่งที่สั่งได้ และบางครั้งการกลับมาของใครบางคน อาจทำให้ทุกอย่างที่เคยแน่นอน…เริ่มสั่นคลอน
ในโลกที่ถูกขับเคลื่อนด้วยอำนาจและเงินตรา หัวใจกลับกลายเป็นเครื่องเดิมพันที่ล้ำค่าที่สุด เมื่อเธอหญิงสาวผู้ไม่เคยข้องเกี่ยวกับอาณาจักรเงามืด ถูดึงเข้าสู่เกมอันตรายของมาเฟียผู้เย็นชาและไร้หัวใจ เมื่อเขาบุรุษที่วางกลลวงเป็นอาวุธ ต้องเผชิญกับความรู้สึกที่ไม่เคยคาดคิด ระหว่างเล่ห์เหลี่ยมและความจริง ระหว่างภารกิจและความรู้สึก หัวใจของพวกเขาจะเลือกอะไร
“ฉันก็แค่อยากช่วยเพื่อนให้ห่างจากผู้หญิงแบบเธอ” “ผู้หญิงแบบฉันมันเป็นยังไง” “ก็อยากได้ผัวของคนอื่นไง!!!”
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ที่งานหมั้น มู่ซินยวี่ดื่มเหล้าเข้าไปจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอจึงพุ่งเข้าไปหาและจูบอย่างหลงใหล “คุณสามีจ๋า ฉันอยาก...” หลังจากเกิดอะไรบ้าคลั่งมาคืนหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายที่อยู่ข้างกายเธอคือ เสิ่นเจียสวี่ ลูกพี่ลูกน้องนักบินของคู่หมั้น! “ตอดรัดแน่นมาก ชอบมากเลยเหรอ?”พอเสียงแหบ ๆ เบา ๆ นี้ลอยเข้าหูมา ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเสียงคู่หมั้น เสิ่นเจียหวิน ตะโกนโวยวายอยู่หน้าประตู เสิ่นเจียสวี่เอาเสื้อสูทคลุมหัวเธอเพื่อพาเธอออกมาแต่ก็ยื่นเงื่อนไขโหดร้าย “มาเป็นกิ๊กของฉัน ไม่งั้น...ลองเดาดูสิว่าตระกูลเสิ่นจะมองเธอเป็นหญิงสำส่อนยังไง ?” มู่ซินยวี่กัดฟันรับข้อเสนอ แค่อยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ แต่กลับพบว่าเสิ่นเจียสวี่คือกัปตันเครื่องบินของเธอ ในห้องพักบนเครื่องบินสูงหมื่นเมตร เขาจับเอวเธอ "คิดหนีเหรอ? เที่ยวบินนี้ฉันเป็นเป็นหลัก" เธอกล้ำกลืนเอาไว้เพื่อรักษาบริษัทที่แม่ทิ้งไว้และพ่อที่ป่วยหนักของเธอ แต่กลับได้ยินเสิ่นเจียหวินเยาะเย้ยว่า “คุณหนูที่ตกอับ เล่นสนุกแค่แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว!” และเห็นเขากอดมู่อยู่อู่ น้องสาวบุญธรรม พร้อมทุ่มเงินฟุ่มเฟือย! มู่ซินยวี่รู้สึกใจหาย เอาล่ะ การหมั้นนี้ เธอไม่เอาแล้ว เธอหันหลังไปหาเสิ่นเจียสวี่ที่มีอำนาจมากกว่า “ช่วยฉันถอนหมั้น ฟื้นฟูบริษัท แล้วฉันจะยอมตามใจคุณ” ชายหนุ่มมีประกายตาแห่งความต้องการเป็นเจ้าของ “ตกลง จำไว้ จากนี้ไป เธอต้องเป็นของฉันเท่านั้น” ตั้งแต่นั้น ชีวิตของมู่ซินยวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
... ในวันครบรอบแต่งงาน ฮั่วเยี่ยนสือ สามีผู้มั่งคั่งทิ้งเธอไป แล้วหาคนรักแรกของเขา ผู้ชายที่ไม่รักนวลสงวนตัวก็เหมือนสิ่งไร้ค่า ผู้ชายที่เธอเคยอ่อนข้อให้แต่ก็ไม่สนใจเธอ งั้นเธอไม่ต้องการแล้ว จึงขอหย่าทันที ฮั่วเยี่ยนสือไม่สนใจ ซูหว่านหนิงกลับเข้าสู่วงการบันเทิงและเฉิดฉาย รักแรกในอุดมคติชอบแกล้งอ่อนแองั้นเหรอ งั้นก็ให้เธอเผยธาตุแท้จริงให้ทุกคนได้เห็น อดีตสามีที่เป็นคนปากแข็งที่สุด "เมื่อเธอเบื่อแล้วเธอจะกลับมาหาฉัน" แต่ภรรยาที่เคยเต็มใจทำทุกอย่างให้เขานั้นไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในอาชีพเท่านั้น แต่ยังมีคนมากมายมาตามจีบเธออีก ดาราระดับโลกแสดงความรักอย่างแรงกล้า ผู้บริหารบริษัทสื่อพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้เธอยิ้ม แม้แต่ทายาทเศรษฐีอันดับหนึ่งก็ต้องการเธอเท่านั้น จากนั้นฮั่วเยี่ยนสือเริ่มตระหนก เปลี่ยนจากคนเย็นชากลายเป็นคนที่คอยติดตามไม่ห่าง ใช้ทุกวิถีทางเพื่อตามจีบภรรยา ซูหว่านหนิงไม่แม้แต่จะมอง "เมื่อก่อนคุณเฉยเมยกับฉัน ตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว" ฮั่วเยี่ยนสือขอร้องเธออย่างบ้าคลั่ง "หนิงหนิง เราแต่งงานใหม่เถอะ" ซูหว่านหนิงแสดงท่าทางหยิ่ง "คุณฮั่ว ฉันไม่เคยกลับไปหาของที่ทิ้งไปแล้ว"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY