เขาเจอเธอเมื่อหลายเดือนก่อน แต่เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง เธอกลับจำเขาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เธอสัญญากับเขาว่าเธอจะแต่งงานกับเขา พันธกานต์คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินที่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แต่เขากลับพบว่าผู้ชายที่เธอต้องแต่งงานด้วยคือเขา!
เขาเจอเธอเมื่อหลายเดือนก่อน แต่เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง เธอกลับจำเขาไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่เธอสัญญากับเขาว่าเธอจะแต่งงานกับเขา พันธกานต์คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงเห็นแก่เงินที่ต้องการแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น แต่เขากลับพบว่าผู้ชายที่เธอต้องแต่งงานด้วยคือเขา!
“ถึงบ้านคุณยายแล้วโทร. หาพ่อด้วยนะ” ธนกรเอ่ยบอกลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องเป็นห่วงหนูนะคะ” มณีชนกรับคำพร้อมด้วยรอยยิ้ม เธอเพิ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้าน ช่วงเวลานี้เป็นช่วงพักผ่อนก่อนเข้าทำงานในบริษัทใหญ่ที่จองตัวเธอเอาไว้
มณีชนกขึ้นรถไปแล้ว อรัญญาก็ค้อนหน้าคว่ำ ไม่รู้สามีจะรักอะไรลูกนักหนา ทั้ง ๆ ที่มารดาของมณีชนกก็เสียชีวิตไปนานมากแล้ว
“เรียนจบแทนที่จะทำงาน จะไปเยี่ยมยาย ลูกสาวของคุณนี่ดีจริง ๆ เลยนะคะ” อรัญญาบ่นอุบ
“ลูกเพิ่งเรียนจบก็ควรให้แก่พักผ่อนบ้าง และที่แกเรียนจบมาก็เพราะความสามารถตัวเองล้วน ๆ แกสอบชิงทุนได้ ไม่รบกวนผมเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นลูกจะทำงานหรือพักผ่อนผมก็ไม่ควรไปบังคับหรือก้าวก่ายชีวิตของแก แกโตแล้ว”
“ไม่ใช่ว่าจะพักไปยาวๆ แล้วให้เราเลี้ยงหรอกนะคะ”
“คุณพูดอะไรของคุณ หยาดไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ถ้าเป็นยายยิ้มน่ะไม่แน่ คุณควรอบรมสั่งสอนแล้วก็ดูแลลูกให้ดี ยายยิ้มไม่สนใจเรียน ผมยอมรับว่ากังวล ไม่รู้เลยว่าลูกจะเรียนจบไหม”
“แล้วทำไมคุณไม่สั่งสอนแกบ้างล่ะคะ”
“ผมพูดได้เสียที่ไหน คุณเอาแต่เข้าข้างลูก ถ้าลูกเรียนไม่จบ ไม่มีงานทำ คุณนั่นแหละที่ต้องเลี้ยงลูกไปตลอดชีวิต”
“นี่คุณหาว่าฉันเลี้ยงลูกไม่ดีอย่างนั้นเหรอคะ ใช่สิ ใครมันจะเหมือนลูกสาวสุดที่รักของคุณล่ะคะ แตะต้องเป็นไม่ได้ ยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์”
“คุณญานี่หยุดพูดจากระแหนะกระแหนะลูกสาวผมสักที ก่อนแต่งงานกัน คุณบอกว่าจะรักยายหยาดเหมือนลูกในไส้ แต่พอคุณมีลูกเป็นของตัวเอง คุณก็รักลูกของคุณมากกว่า ซึ่งผมก็ไม่ว่าอะไรแล้ว แต่ขอเถอะ อย่าทำนิสัยแบบนี้กับลูกผม”
“ลูกผม ลูกผม แล้วมณีกานดาไม่ลูกของคุณหรือไง”
“ใช่ แต่ผมพูดอะไรไม่ได้เลย คุณก็เข้าข้างลูกตลอด ตามใจจนเหลิง ถ้าลูกเสียผู้เสียคนขึ้นมา ผมจะไม่ยุ่งอะไรอีก” พูดจบธนกรก็เดินเข้าบ้านไปในทันที
“คุณกรกลับมานี่ก่อนนะ คุณกร!” อรัญญาตะโกนไล่หลังไปอย่างหงุดหงิดใจ
ทางด้านมณีชนก เธอเดินทางมาหาคุณยายที่บ้านสวนที่กาญจนบุรีอย่างมีความสุข หญิงสาวมองบรรยากาศรอบกายแล้วเผยยิ้มกว้างออกมา ถ้าไม่เพราะบริษัทใหญ่ ๆ จองตัวเธอเข้าทำงานแล้ว เธออาจจะมาอยู่บ้านสวนดูแลผู้เป็นยายแทน อยากสืบทอดสูตรทำขนมจากคุณยาย แต่อุตส่าห์เรียนมาแล้ว เธอก็อยากมีงานและอาชีพที่มั่นคงเลี้ยงตัวเองให้ได้
“คุณยายขา คิดถึงจังเลยค่ะ” มณีชนกโผเข้ากอดคุณยายแก้วกาญจน์ด้วยความคิดถึง
“ยายก็คิดถึงหนูจ้ะ ไหนมาดูซิ หลานสาวของยายสวยแค่ไหน”
“คุณยายน่ะ ปากหวานตลอดเลยนะคะ”
“หลานของยายสวยเสียจริง หน้าตาน่ารักขนาดนี้มีแฟนหรือยังจ๊ะ”
“ยังไม่มีค่ะคุณยาย หรือว่าคุณยายจะหาแฟนให้หนูคะ” ยังไม่ทันที่คุณยายจะตอบอะไร ก็มีเสียงเรียกดังอยู่หน้าบ้านเสียก่อน
“คุณยายครับ คุณลุงให้เอาปลากับผลไม้มาให้ครับ”
“เข้ามาก่อนสิจ๊ะพ่อหนึ่ง” ประโยคของคุณยายทำให้มณีชนกหันไปมองผู้มาใหม่ เขาเองก็มองเธออย่างตกตะลึง
ผู้หญิงตรงหน้าสวยเสียจนพันธกานต์ยืนนิ่งไม่ไหวติง
“ฮะแฮ่ม ขอบใจมากนะพ่อหนึ่ง ลุงของเรานี่มีน้ำใจเสียจริง วันนี้หลานสาวของยายมาเยี่ยม จะทำอาหารต้อนรับ ยายเชิญพ่อหนึ่งกับลุงของเรามากินข้าวด้วยกันเย็นนี้นะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับคุณยาย” พันธกานต์เอ่ยตอบ แต่สายตามองมณีชนกไม่วาง ทำเอาหญิงสาวประหม่าต้องหลบสายตาเป็นพัลวัน
“นี่หลานสาวของยายจ้ะ ชื่อมณีชนก เพิ่งเรียนจบกลับมาอยู่บ้าน เลยมาเยี่ยมยาย เดินทางมาถึงเมื่อกี้นี้เอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมพันธกานต์ครับ เรียกว่าพี่หนึ่งก็ได้”
“ค่ะพี่หนึ่ง เรียกฉันว่าหยาดก็ได้ค่ะ” สองหนุ่มสาวมองสบตากัน ด้วยความรู้สึกหัวใจเต้นแรงทั้งคู่
“มาดื่มน้ำกินขนมก่อนสิพ่อหนึ่ง”
“เอาไว้โอกาสหน้านะครับ ผมมีงานที่ยังต้องทำน่ะครับ” แม้จะอยากอยู่ต่อเพียงใด แต่เขามีงานต้องทำอีกหลายอย่าง เนื้อตัวของเขาเองก็เต็มไปด้วยเหงื่อและคราบโคลนสกปรก คิดว่าเอาไว้วันหลังค่อยคุยกันก็ได้
“งั้นก็ตามสบายจ้ะ” คุณยายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” พันธกานต์เอ่ยขอตัวอย่างสุภาพ สายตายังอ้อยอิ่งอยู่ที่หลานสาวคนสวยของคุณยายแก้วกาญจน์ แต่ร่างสูงก็จำต้องเดินกลับบ้านไปก่อน
“ใครกันเหรอคะคุณยาย” มณีชนกเอ่ยถามด้วยความสงสัย เพื่อนบ้านใหม่ของคุณยายเป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เพราะปิดเทอมทีไรเธอจะมาเยี่ยมผู้
เป็นยายทุกครั้ง รวมถึงใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นานหลายเดือน เพื่อเรียนรู้การทำขนมและการทำอาหารจากคุณยาย
“เพื่อนบ้านใหม่น่ะ พ่อหนึ่งกับลุงของเขามาซื้อที่ใกล้ ๆ บ้านเรา เลยย้ายมาอยู่ที่นี่หลายเดือนแล้ว เป็นคนดีมีน้ำใจมากนะ” เธอยิ้มตอบกลับไปเป็นการรับรู้กลายๆ
“ขนมกับของว่างของคุณยายน่ากินจังเลยค่ะ” เธอมองขนมไทยหลากหลายที่คุณยายทำเอาไว้ต้อนรับกับเครื่องดื่มสมุนไพรด้วยรอยยิ้มมากกว่าเดิม
เมื่อ ภูผา ทายาทนักธุรกิจพันล้าน ถูกส่งตัวมาอยู่ที่บ้านนอกกลางทุ่งนา เขาต้องใช้ชีวิตร่วมชายคากับ ดาหลา ลูกสาวกำนันจอมแก่นที่มองเขาเป็นแค่ "หนุ่มกรุงไม่เอาไหน" จากความหมั่นไส้ กลายเป็นความห่วงใย... จากแผงผักริมตลาดนัด สู่แผนเปิดโปงที่เขย่าทั้งวงการธุรกิจ เมื่อหนุ่มเจ้าสำอางต้องมาเลี้ยงน้องควายทองแท้ที่ชอบให้ขัดหลังเสียเหลือเกิน แท้จริงคือ CEO ตัวจริงเสียงจริง! ความรัก ความลับ และแผนร้ายที่ซ่อนอยู่หลังรอยยิ้มจะพาทุกหัวใจอบอุ่นไปพร้อมกลิ่นหอมของไอดิน และคำว่ารักที่งอกงามกลางทุ่งนา เพราะบางที...ควายตัวเดียว ก็พาเราพบรักแท้ได้
เพราะเธอช่วยชีวิตเขาไว้...โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ในนาทีที่เธอคิดว่าเป็นแค่การทำดีธรรมดา กลับกลายเป็นการสะกิดหัวใจของชายหนุ่มผู้เย็นชาที่ไม่เคยเปิดใจให้ใคร "ธามกร วัฒนเดช" บอสหนุ่มผู้เก็บงำความเจ็บปวดไว้ใต้ท่าทีเรียบนิ่ง เขาไม่เคยเชื่อในน้ำใจของใคร...จนวันที่หญิงสาวตัวเล็กคนหนึ่งยอมเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเขา และเธอ... "แก้วจอมขวัญ อินทราวงศ์" พนักงานบัญชีคนใหม่ ที่ไม่รู้เลยว่าแค่ ความดีเล็ก ๆ ในวันนั้น จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล จากคำขอบคุณ กลายเป็นความห่วงใย จากเจ้านายผู้เย็นชา กลายเป็นผู้ชายที่เดินเข้ามาทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวทุกวินาที เขาค่อย ๆ เติมเต็มรอยร้าวในชีวิตของเธอ และเธอกลายเป็นคนเดียวที่เขาอยากปกป้องไปตลอดชีวิต "ถ้าคุณยังไม่กล้ารักผม งั้นขอให้ผมได้รักคุณก่อนนะ แก้วจอมขวัญ"
เธอ...คือผู้หญิงที่ไม่มีใครต้องการ แม้แต่คนที่เธอรักสุดหัวใจ...ก็เคยมองเธอเป็นแค่เงาของคนอื่น เธอเลี้ยงลูกให้เขา รักและปกป้องอย่างไม่มีข้อแม้ แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงคนแปลกหน้าในบ้านของตัวเอง ถูกหาว่าล่อลวง ถูกผลักไสด้วยคำดูแคลน และถูกบีบให้หายไปอย่างไร้ตัวตน จนกระทั่งวันที่เขาพบความจริง ว่าเธอคือคนที่รักเขามากที่สุด และเขาคือคนที่ทำลายผู้หญิงที่ควรรักที่สุดไปด้วยน้ำมือของตัวเอง
เธอเป็นลูกที่พ่อแม่ไม่รัก ถูกส่งไปแต่งงานกับชายแก่ แต่โชคชะตาเล่นตลกกลับให้เธอได้แต่งงานกับชายหนุ่มหน้าตาดี ร่ำรวย แถมยังรักเธอมาก และความลับในอดีตที่ถูกกลบฝังก็ถูกเปิดเผยให้เธอได้รู้ความจริงที่ซุกซ่อนเอาไว้
"แผนรักมัดใจคุณอาข้างบ้าน" เมื่อคุณอาข้างบ้านสุดหล่อมาดขรึม ที่ไม่เคยชายตามองเธอเกินกว่าสถานะ 'หลานสาวเพื่อนบ้าน' กลายเป็นเป้าหมายหลักในภารกิจหัวใจ พลอยลดา จึงต้องร่วมมือกับเพื่อนรักวางแผนพิชิตใจคุณอาสุดเย็นชา จากแผนเนียน ๆ กลายเป็นความใกล้ชิดที่แสนเขินอาย และจาก อา ผู้แสนใจเย็น... กลับกลายเป็น ผู้ชายขี้หวง ที่เธอแทบตั้งรับไม่ทัน! รักครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร เมื่อหัวใจดวงน้อยเต้นแรงทุกครั้งที่สบตาคุณอา และหัวใจดวงใหญ่... เริ่มเต้นแรงไม่แพ้กัน
เมื่อบอสหน้านิ่งจอมเย็นชา แอบตกหลุมรักเลขาจอมโก๊ะเข้าเต็มเปา! จากคนที่เคยแค่เฝ้ามองกลายเป็นคนที่คอยตามจีบแบบเนียน ๆ ทุกวัน แต่ใครจะคิดว่า...เบื้องหลังแว่นใส ๆ ของเลขาคนซื่อ จะทำให้บอสสุดหล่อกลายร่างเป็น 'บอสหื่น' ที่พร้อมงัดทุกกลเม็ดมาอ่อย! ภารกิจจับเลขาแต่งงานเริ่มต้นขึ้นแล้ว! และงานนี้...จะจบลงที่แหวนแต่งงาน หรือเตียงนุ่ม ๆ กันแน่นะ
โปรย : กลางวันเธออยู่หน้าห้อง กลางคืนเธออยู่หน้าเตียง +++++++++++++++++++++++++++++ มัสยาหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาแล้วเปิดก๊อกให้น้ำไหลลงสู่ผ้าจนชุ่ม เขาชิงดึงผ้าออกไปแล้วค่อยเช็ดซับลงบนคราบกาแฟที่กระเซ็นโดนส่วนแขนของเธอเสียเอง แต่มันไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มือของเขาไต่ขึ้นสูงจนมาถึงหน้าอกอวบอิ่ม มัสยารีบตะครุบมือเขาเอาไว้ “ ตรงนี้ไม่ได้เปื้อนค่ะ ” “ เปื้อนสิ มีรอยนิดหน่อย มัสไม่เห็นแต่ฉันเห็น ดูผ่านกระจกก็ได้ ” เขาหมุนตัวเธอให้ไปประจันหน้ากับกระจกโดยที่ตนเองประกบซ้อนอยู่ด้านหลังแล้วสวมกอดพลางใช้ผ้านั้นเน้นย้ำซับเช็ดหนักขึ้นเรื่อย ๆ ตรงทรวงอก เช็ดไปเช็ดมากลายเป็นว่าใช้มือขยำคลึงแทน “ ฉันมันนิสัยไม่ดี ใจร้อนตลอด เลยทำกาแฟหกโดนเธอ ขอโทษนะมัส ” กล่าวคำขอโทษแต่การกระทำดูเหมือนจะไม่สำนึก เขารุกล้ำซุกซนไปเรื่อย ๆ มือหนึ่งเริ่มแกะกระดุมเชิ้ตของเธอช้า ๆ “ คุณเอกขา อย่าค่ะ ตรงนั้น... ไม่ต้อง ” เจ้าของทรวงท้วงเสียงสั่นเมื่อเขาก้มลงดูดเม้มที่ใบหูเบา ๆ “ ต้องสิ เพราะฉันต้องดูว่ามันเปื้อนไปถึงข้างในด้วยหรือเปล่า ”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด