ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี
เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี

เจ็ดปี แห่งการหลอกลวงสี่ปี

5.0

เบาะแสแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตฉันเป็นเรื่องหลอกลวงคือเสียงครางจากห้องนอนแขก สามีที่แต่งงานกันมาเจ็ดปีไม่ได้อยู่บนเตียงของเรา เขาอยู่กับเด็กฝึกงานของฉัน ฉันค้นพบว่าภัทร สามีของฉัน แอบคบชู้กับขวัญข้าวมาสี่ปีแล้ว เด็กสาวมากความสามารถที่ฉันคอยชี้แนะและจ่ายค่าเทอมให้ด้วยตัวเอง เช้าวันต่อมา เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าของเราในเสื้อเชิ้ตของเขา ขณะที่เขากำลังทำแพนเค้กให้เรา เขายังโกหกฉันซึ่งๆ หน้า สัญญาว่าจะไม่มีวันรักใครอื่น ก่อนที่ฉันจะมารู้ว่าเธอท้องกับเขา—ลูกที่เขาปฏิเสธที่จะมีกับฉันมาตลอด คนสองคนที่ฉันไว้ใจที่สุดในโลกร่วมมือกันทำลายฉัน ความเจ็บปวดนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะทนอยู่กับมันได้ มันคือการทำลายล้างโลกทั้งใบของฉัน ฉันจึงโทรหานักประสาทวิทยาเกี่ยวกับการทดลองของเขา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ฉันไม่ได้ต้องการแก้แค้น ฉันแค่อยากจะลบทุกความทรงจำเกี่ยวกับสามีของฉัน และเป็นผู้เข้ารับการทดลองคนแรกของเขา

สารบัญ

บทที่ 1

เบาะแสแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตฉันเป็นเรื่องหลอกลวงคือเสียงครางจากห้องนอนแขก สามีที่แต่งงานกันมาเจ็ดปีไม่ได้อยู่บนเตียงของเรา เขาอยู่กับเด็กฝึกงานของฉัน

ฉันค้นพบว่าภัทร สามีของฉัน แอบคบชู้กับขวัญข้าวมาสี่ปีแล้ว เด็กสาวมากความสามารถที่ฉันคอยชี้แนะและจ่ายค่าเทอมให้ด้วยตัวเอง

เช้าวันต่อมา เธอนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าของเราในเสื้อเชิ้ตของเขา ขณะที่เขากำลังทำแพนเค้กให้เรา เขายังโกหกฉันซึ่งๆ หน้า สัญญาว่าจะไม่มีวันรักใครอื่น ก่อนที่ฉันจะมารู้ว่าเธอท้องกับเขา—ลูกที่เขาปฏิเสธที่จะมีกับฉันมาตลอด

คนสองคนที่ฉันไว้ใจที่สุดในโลกร่วมมือกันทำลายฉัน ความเจ็บปวดนี้มันเกินกว่าที่ฉันจะทนอยู่กับมันได้ มันคือการทำลายล้างโลกทั้งใบของฉัน

ฉันจึงโทรหานักประสาทวิทยาเกี่ยวกับการทดลองของเขา ซึ่งเป็นกระบวนการที่ไม่อาจย้อนกลับได้ ฉันไม่ได้ต้องการแก้แค้น ฉันแค่อยากจะลบทุกความทรงจำเกี่ยวกับสามีของฉัน และเป็นผู้เข้ารับการทดลองคนแรกของเขา

บทที่ 1

เอลลี่ POV:

เบาะแสแรกที่บ่งบอกว่าชีวิตของฉันเป็นเรื่องหลอกลวงไม่ได้มาในรูปแบบของเสียงตะโกน แต่เป็นเสียงครางอู้อี้จากห้องนอนแขกที่อยู่สุดทางเดิน

ฉันกะพริบตาตื่นขึ้นมา นาฬิกาดิจิทัลบนโต๊ะข้างเตียงส่องแสงสีนวลเยาะเย้ยบอกเวลา ตี 2:14 น. พื้นที่ข้างตัวฉันบนเตียงคิงไซส์ของเรานั้นเย็นเฉียบ ว่างเปล่า ภัทรไม่ได้อยู่ที่นั่น

ความรู้สึกไม่สบายใจก่อตัวขึ้นในท้องของฉัน เขาทำงานดึกมาหลายเดือนแล้ว อาณาจักรเทคโนโลยีของเขาเรียกร้องเวลาจากเขามากขึ้นเรื่อยๆ แต่เขากลับมานอนบนเตียงเสมอ เสมอมา ต่อให้เป็นแค่การจูบหน้าผากฉันแล้วกระซิบว่าจะกลับไปทำงานที่โฮมออฟฟิศ เขาก็จะแวะมาดูฉันก่อนเสมอ

ฉันลุกขึ้นนั่ง ผ้าปูที่นอนไหมลื่นไหลลงมากองอยู่รอบเอว บ้านทั้งหลังเงียบสงัด ห่อหุ้มด้วยความเงียบงันของบ้านพักตากอากาศริมผาอันเงียบสงบของเรา แล้วฉันก็ได้ยินมันอีกครั้ง เสียงหัวเราะคิกคักแผ่วเบาของผู้หญิงที่ถูกทำให้เงียบลงอย่างรวดเร็ว

หัวใจของฉันเต้นระรัวอยู่ในอกราวกับนกที่ติดกับ มันจะเป็นไปไม่ได้ ไม่ใช่ในบ้านของฉัน ไม่ใช่ในบ้านของเรา

ฉันเลื่อนตัวลงจากเตียง เท้าเปล่าเหยียบลงบนพื้นไม้เนื้อแข็งเย็นเฉียบอย่างเงียบกริบ ฉันไม่ได้เปิดไฟ ฉันเคลื่อนไหวราวกับภูตผีผ่านเงาที่คุ้นเคยของชีวิตที่ฉันคิดว่าเราสร้างมันขึ้นมาด้วยกัน ทางเดินยาวเป็นอุโมงค์มืดมิดที่นำไปสู่ความจริงที่ฉันไม่แน่ใจว่าจะเผชิญหน้ากับมันได้

เมื่อฉันเข้าใกล้ประตูห้องนอนแขกมากขึ้น เสียงก็ชัดเจนขึ้น เสียงของเขา ทุ้มลึกและคุ้นเคย เสียงที่เคยช่วยชีวิตฉันและสัญญาว่าจะรักฉันตลอดไป และอีกเสียงหนึ่ง เสียงที่เด็กกว่า หอบกระเส่าและกระตือรือร้น

“ภัทร หยุดเถอะค่ะ” เธอกระซิบ แต่น้ำเสียงของเธอกลับหยอกล้อและส่งเสริม “เดี๋ยวเธอก็ได้ยินหรอก”

เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ เธอ ฉันคือเธอ สิ่งกีดขวาง ของนอกสายตาในบ้านของตัวเอง

“เธอนอนหลับลึกจะตาย” ภัทรพึมพำตอบกลับ เสียงของเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ฉันไม่ได้ยินมานานหลายเดือน “อีกอย่าง เธอก็เหนื่อยมาก วันนี้เธออยู่ที่สตูดิโอทั้งวัน”

วิธีที่เขาพูดถึงฉันอย่างไม่ใส่ใจ ราวกับเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งที่เขาต้องเดินเลี่ยง มันเป็นเหมือนการตบหน้าอย่างแรง ฉันแนบหูเข้ากับเนื้อไม้เย็นๆ ของประตู กลั้นหายใจ

“เธอเก่งขนาดนั้นเลยเหรอคะ” เด็กสาวถาม น้ำเสียงของเธอเจือไปด้วยความชื่นชมและท้าทายอย่างประหลาด “เอลลี่ ริช ผู้ยิ่งใหญ่ สถาปนิกอัจฉริยะ”

“เธอเก่งมาก” ภัทรพูด และชั่ววินาทีอันน่าคลื่นไส้ ฉันรู้สึกถึงความหวังริบหรี่ เขากำลังปกป้องฉัน แต่แล้วเขาก็เสริมว่า “แต่เธอ ขวัญข้าว… เธอมีบางอย่างที่เอลลี่ไม่มี”

ขวัญข้าว

ชื่อนั้นดังก้องอยู่ในหัวของฉัน

ขวัญข้าว ชมิท

เด็กฝึกงานของฉัน เด็กในความดูแลของฉัน เด็กสาวเงียบๆ มากความสามารถที่ฉันรับมาอยู่ใต้ปีก คอยชี้แนะเป็นการส่วนตัว จ่ายค่าเทอมปีสุดท้ายให้เธอจากเงินของฉันเอง เพราะเธอทำให้ฉันนึกถึงตัวเองในวัยนั้น—กระหาย ทะเยอทะยาน และโดดเดี่ยว

ฉันโตมาในระบบบ้านอุปถัมภ์ โลกของบ้านชั่วคราวและความรักแบบมีเงื่อนไข ฉันเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ สร้างกำแพงของตัวเอง ไม่เคยคาดหวังว่าใครจะอยู่ด้วย แล้วภัทรก็เข้ามา เขาไม่ใช่แค่เข้ามาอยู่ แต่เขาสร้างป้อมปราการรอบตัวฉัน ความรักของเขาเป็นเหมือนปูนที่ยึดอิฐทุกก้อนไว้ด้วยกัน เขาคือครอบครัวของฉัน ครอบครัวเดียวที่ฉันเคยมีอย่างแท้จริง

และขวัญข้าว… ฉันเห็นความโดดเดี่ยวแบบเดียวกันในดวงตาของเธอ ฉันรับรองเธอ สนับสนุนผลงานของเธอ พาเธอเข้ามาในบริษัทของฉัน ในชีวิตของฉัน ฉันเคยบอกภัทรว่าฉันภูมิใจในตัวเธอแค่ไหน เธอจะต้องเป็นดาวในสักวันหนึ่ง

ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นดาวในสายตาของเขาแล้ว แค่ไม่ใช่ในแบบที่ฉันตั้งใจ

“เหรอคะ” เสียงของขวัญข้าวตอนนี้เหมือนเสียงแมวคราง “แล้วมันคืออะไรล่ะคะ”

ฉันไม่จำเป็นต้องได้ยินคำตอบของเขา ฉันจินตนาการได้ ความสาว ความหลงใหล ความตื่นเต้นในสิ่งต้องห้าม ทุกสิ่งที่ฉันในวัยสามสิบสองไม่มีอีกต่อไปแล้ว

เสียงที่ตามมา—เสียงผ้าปูที่นอนเสียดสีกัน เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดเป็นจังหวะแผ่วเบา—คือการยืนยันที่ทำลายรากฐานโลกทั้งใบของฉัน นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียว นี่คือกิจวัตรที่แสนจะคุ้นเคยและสบายใจ พวกเขากำลังทำมันในบ้านของฉัน ในห้องที่อยู่สุดทางเดินจากห้องที่ฉันนอน ห้องที่ฉันเป็นคนออกแบบ

ฉันถอยห่างจากประตู เอามือปิดปากเพื่อกลั้นเสียงสะอื้น คำว่าทรยศยังไม่แรงพอ นี่คือการทำลายล้าง คนสองคนที่ฉันไว้ใจที่สุดในโลก ผู้ชายที่ฉันมอบหัวใจให้ทั้งดวง และเด็กสาวที่ฉันพยายามจะมอบอนาคตให้ ได้ร่วมมือกันทำลายฉัน

ฉันอยากให้มันหายไป ทั้งหมด เจ็ดปีของการแต่งงาน ความทรงจำถึงมือของเขาบนผิวของฉัน เสียงหัวเราะของเขา ภาพบ้านที่เราสร้างด้วยกัน ฉันอยากจะขูดเขาออกจากสมองจนไม่เหลืออะไรเลยนอกจากพื้นที่ว่างเปล่าที่สะอาด

ฉันเดินโซซัดโซเซกลับไปที่ห้องนอน การเคลื่อนไหวของฉันแข็งทื่อและไร้ชีวิต ฉันไม่ได้มองรูปแต่งงานของเราบนผนัง ฉันไม่ได้มองเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพฯ ที่ฉันออกแบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างชื่อให้ฉัน ฉันคว้าโทรศัพท์จากโต๊ะข้างเตียง

นิ้วของฉันสั่นขณะที่เลื่อนดูรายชื่อผู้ติดต่อ ผ่านชื่อของภัทร ผ่านชื่อเพื่อนๆ จนกระทั่งเจอคนที่ฉันต้องการ ดร. เอื้อการย์ กัลดอร์น อาจารย์ที่ปรึกษาสมัยมหาวิทยาลัยของฉัน นักประสาทวิทยาชั้นนำที่ผลงานของเขาล้ำหน้าจนแทบจะเป็นนิยายวิทยาศาสตร์

เมื่อสองสามเดือนก่อน ระหว่างงานเลี้ยงรุ่น เขาเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับโครงการล่าสุดของเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและเป็นความลับ กระบวนการทดลองลับสุดยอดที่ออกแบบมาเพื่อกำหนดเป้าหมายและกำจัดเส้นทางความทรงจำที่เฉพาะเจาะจง วิธีการลบความทรงจำที่เลวร้าย ในตอนนั้น ฉันรู้สึกทึ่งในเชิงวิชาการล้วนๆ

แต่ตอนนี้ มันคือทางรอดเดียวของฉัน

โทรศัพท์ดังสองครั้งก่อนที่เขาจะรับ เสียงของเขางัวเงีย “เอลลี่? มีอะไรหรือเปล่า? นี่มันกลางดึกนะ”

น้ำตาไหลอาบแก้มของฉันอย่างเงียบๆ ร้อนผ่าวและไร้ประโยชน์ “อาจารย์เอื้อ” ฉันพูดเสียงแหบพร่า เสียงของฉันเหมือนคนแปลกหน้า แหบแห้งและแตกสลาย “การทดลองที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟัง… ที่มันลบความทรงจำได้”

ความเงียบที่เต็มไปด้วยความกังวลจากปลายสาย “มันทำไมเหรอ เอลลี่”

ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ การตัดสินใจก่อตัวขึ้นในใจฉันด้วยความเย็นชาและหนักแน่นเหมือนเพชร

“หนูอยากเป็นผู้เข้ารับการทดลองคนแรกของอาจารย์ค่ะ”

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 18   วันนี้17:56
img
img
บทที่ 1
วันนี้17:56
บทที่ 2
วันนี้17:56
บทที่ 3
วันนี้17:56
บทที่ 4
วันนี้17:56
บทที่ 5
วันนี้17:56
บทที่ 6
วันนี้17:56
บทที่ 7
วันนี้17:56
บทที่ 8
วันนี้17:56
บทที่ 9
วันนี้17:56
บทที่ 10
วันนี้17:56
บทที่ 11
วันนี้17:56
บทที่ 12
วันนี้17:56
บทที่ 13
วันนี้17:56
บทที่ 14
วันนี้17:56
บทที่ 15
วันนี้17:56
บทที่ 16
วันนี้17:56
บทที่ 17
วันนี้17:56
บทที่ 18
วันนี้17:56
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY