รักคือการให้ยังได้ยินอยู่ทุกยุคสมัยและเป็นคติประจ าใจของ ‘เมฆ’ เสมอมา ตั ้งแต่ได้มาพบกับ ‘ก๊อป’ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึง กับน้องชายผู้จากไป ท าให้เขาอดคิดถึงอีกคนเสียไม่ได้ เมฆจะมีวิธี อย่างไรเมื่อฟ้าลิขิตให้ก๊อปเดินเข้ามาในวันที่เขาสูญเสียน้องชายไปตลอด กาล... ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่เขาวาดไว้กลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น ความเกลียดชังแก่อีกฝ่ายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ..." LIPPO
หน้าบ้านหลังใหญ่ตระกูลดัง
“เฮ้ย!! จะทันเปล่าวะเนี่ย แม่ง 7 โมงจะครึ่งละ”
ผมบ่นกับตัวเองขณะที่กำลังถือกระเป๋านักเรียนและแฟ้มเอกสารพะลุงพะลังทั้งยังต้องก้มใส่รองเท้าอย่างทุลักทุเลด้วยความเร่งรีบหน้าประตูบานใหญ่
ขณะเดียวกันนั้น...เสียงลุงคนขับรถก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังของผม
"คุณหนูครับ เอ่อ...วันนี้คงเอารถออกไปส่งคุณหนูไม่ได้แล้วครับ" คำพูดของลุงคนขับรถทำให้ผมรีบหันไปถามท่านด้วยความตกใจปนความสงสัย
"ทำไมล่ะลุง แบบนี้ก๊อปจะไปโรงเรียนทันมั๊ยอ่ะครับ?" (ก๊อป คำนี้ย่อมาจาก ก๊อปปี้นะครับ)
"รถติดตั้งแต่หน้าปากซอยจนถึงหน้าบ้านเลยครับคุณหนู"
ลุงคนขับรถประจำบ้านบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง ผมถึงกับยืนเอ๋ออยู่พักหนึ่งก่อนตัดสินใจอะไรบ้างอย่างได้โดยไม่คิดมาก
"งั้นไม่เป็นไรครับลุง ไม่ต้องไปส่งก๊อปก็ได้ เดี๋ยวก๊อปวิ่งไปหาวินเอาข้างหน้าปากซอยเองครับ"
ผมบอกจบก็รีบวิ่งออกจากตัวบ้านไปหน้าประตูก็เล่นเอาหอบแล้วครับ เล่นอยู่ห่างกันเกือบร้อยเมตร (เอ๊ะ!! ไม่ต้องสงสัยหรอกครับว่าทำไมมันอยู่ห่างกันขนาดนั้น เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังทีหลังนะครับ เดี๋ยวผมจะไปโรงเรียนไม่ทันครับ)
ทางลุงคนขับรถก็เรียกตามหลังแต่ไม่ทันหรอกครับ เพราะผมวิ่งถึงหน้าบ้านแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) ทำไมวันนี้รถมันติดจังวะตั้งแต่หน้าบ้านจนจะถึงปากซอยอยู่แล้วยังไม่ขยับเลย ผมวิ่งไปบ่นไปตลอดทาง บนหลังก็มีกระเป๋านักเรียน มือซ้ายก็ถือแฟ้มเอกสารโครงงาน มือขวาก็ถือถุงรายงานที่ต้องส่งอาจารย์วันนี้ถึง 3 วิชา จะเล่มใหญ่ไปไหนเนี่ย เฮ้อ ผมละเพลีย
ผมวิ่งสปีดจนเลยปากซอยหมู่บ้านมาละแต่ท่าทีที่รถจะเคลื่อนตัวก็ไม่มี จังหวะเดียวกันนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเข้าโสตประสาทหูผมแทบอยากจะปล่อยของจากมือขึ้นมาปิดหูทันทีแต่ไม่สามารถที่จะทำได้
บึ้นน...บึ้นน...บึ้นนนน…
"เสียงรถเชี้ยอะไรวะหนวกหูโว้ย!!"
ผมหลุดปากออกไปอย่างดังขณะที่ยืนพักเหนื่อยอยู่ริมฟุตบาทที่มีรถติดยาวเหยียดเป็นกิโลๆ
"ไม่ใช่รถเชี้ยหรอกครับ รถบิ๊กไบค์พี่เอง" ผมต้องหันไปตามเจ้าของเสียงที่กำลังนั่งค่อมบนรถบิ๊กไบค์คันโตนั้นทันที
'กรูจะตายมั๊ยเนี่ย แม่งได้ยินด้วย ปากหนอปาก'
ผมด่าตัวเองในใจอย่างรู้สึกกลัวและอยากตีปากตัวเองหลายๆ ทีแต่ก็ทำไม่ได้เช่นเคย เท่าที่ผมสังเกตรถบิ๊กไบค์กับเจ้าของแม่งโคตรเท่เลยครับ ใส่ชุดหนังสีดำ หมวกกันน็อกสีดำและรถก็ยังสีดำ ดูคลาสสิคลงตัวเป๊ะเลยครับแล้วดันมาจอดข้างๆ ผมด้วย ห่างกันแค่เมตรเดียวว่าแล้วทำไมถึงได้ยินที่ผมพูด ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ผมแทบจะหัวเราะไม่ออก ทำตัวไม่ถูก จึงทำเพียงส่งยิ้มหวานแห้งๆ ให้เขาแทน
"อ๋อครับ คือก๊อปตกใจอ่ะครับเลยหลุดปากไป ขอโทษด้วยนะครับพี่" พูดไปยิ้มไปอย่างคนรู้สึกผิด กรูจะไม่เจอตรีนใช่มั๊ย!!? ผมก้มหน้าพูดกับตัวเองอย่างหัวเสีย
"จริงดิ!! ตกใจหรอครับน้องงั้นพี่ขอโทษด้วยละกันครับ"
เมื่อพี่เขาพูดจบก็เปิดกระจกหมวกกันน็อกขึ้น เฮ้ย!! ยังกับดาราเลยครับ จมูกโด่ง ตาสีดำดูมีเสน่ห์ คิ้วเข้มๆ มีหนวดกับเครานิดหน่อย ผิวสีแทนไม่ถึงกับดำแดงนะครับ ปากสวยเป็นกระจับได้รูปสีออกคล้ำนิดๆ โดยรวมแล้วโคตรหล่ออ่ะครับ เฮ้ย!! นี่ผมกำลังบรรยายใบหน้าผู้ชายใช่มั๊ยเนี่ย เหอะๆ ตลกละผมชอบผู้หญิงนะคร้าบแต่ที่บรรยายมาทั้งหมดสรุปสั้นๆ เลยนะครับ ผมหล่อกว่าเยอะจบป้ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ)
"ไม่เป็นไรครับพี่ไม่ต้องขอโทษก๊อปหรอกครับ แฮ่ๆ" คิดว่าจะเจอตรีนแต่เช้าแล้วกรู
"จะรีบไปโรงเรียนหรอครับ?"
พี่เขาถามกลับมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแลดูเป็นมิตรมากๆ ครับ แต่ผมก็อดระแวงไม่ได้กลัวจะเจอเหมือนในข่าวตอนเช้าๆ อ่ะครับที่จะมีพวกรถตู้หรือไม่ก็พวกทำตัวเป็นพวกแมวมองมาหาเด็กหนุ่มไปเป็นดารา นายแบบอะไรแบบนี้น่ะครับ แล้วสรุปก็ล่อลวงไปค้ากามซะงั้น เอ๊ะ!! ผมคิดมากไปหรือเปล่าเนี่ยก่อนจะรีบตอบคำถามพี่เขาไป
"ครับพี่"
"นี่ก็จะแปดโมงแล้วเหลืออีก 20 นาทีจะทันหรอให้พี่ไปส่งดีมั๊ยครับ"
พี่เขายกแขนซ้ายขึ้นดูนาฬิกาข้อมือ โห!! นาฬิกาโคตรเท่เลยว่ะ ผมอยากได้ยี่ห้อนี้มานานละ แต่ปี๊ไม่ยอมซื้อให้สักที (ปี๊ ก็พ่อแหละครับที่บ้านผมเรียก ปี๊ ส่วน มี๊ ก็คือแม่ เข้าใจตรงกันนะครับ)
จะแปดโมงแล้ว!!...พักแปบเดียวเองนะเนี่ย โอ๊ย!! ไปไม่ทันแน่เลยกรูเอ๊ย!! ผมบ่นอุบแต่ทำไมพี่เขามองผมแปลกๆ วะ มีแอบอมยิ้มด้วยหรือจะเป็นอย่างที่ผมคิดวะเนี่ย ตายแน่ๆ เลยกรู ผมกำลังจะก้าวขาเดินต่อไปแต่ถูกพี่เขาชิงยิงคำถามเสียก่อน "ให้พี่ไปส่งนะครับ อยู่โรงเรียนอะไรหรอ?" ผมเลยค่อยๆ ดึงขานั้นกลับมาที่เดิม
เป็นไงเป็นกันวะถามมาก็ตอบไปแล้วกันแต่ผมกลับไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ
"อ๋อโรงเรียนนี้เป็นทางผ่านไปที่ทำงานของพี่พอดีเลย ป้ะขึ้นรถ…"
จู่ๆ พี่เขาก็คว้าเอาแฟ้มเอกสารและถุงรายงานไปจากมือผมดื้อๆ อ้าว!! แบบนี้ผมก็งงสิครับ
"พี่ๆ ก๊อปว่าไม่เป็นไรดีกว่าครับ ถึงจะสายก็สายวันเดียวก๊อปไปเองดีกว่าครับรบกวนพี่เปล่าๆ"
ผมปฏิเสธอย่างสุภาพที่สุดทั้งที่ตัวจริงเป็นคนสุภาพมาก ฮ่า ฮ่า ฮ่า (หัวเราะ) ใครจะกล้าไปด้วยวะรู้จักก็ไม่รู้จักจะเอากรูไปข่มขืนแล้วลืมฆ่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่ทันครับรถเริ่มเคลื่อนตัวแล้วรถพี่เขาขวางทางมอไซด์ข้างหลังอีกเป็นสิบคันและมอเตอร์ไซค์ข้างหน้าก็ออกตัวไปพอดี
ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
ชีวิตที่พลิกผันเปลี่ยนเด็กหนุ่มกำพร้าให้มีเจ้าพ่อมาเฟียรับเขาไปอุปการะเลี้ยงดูราวกับน้องชายร่วมสายเลือด ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจที่จะมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เด็กน้อยรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตจะกลายเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาให้พังพินาศที่สุดด้วยเช่นกัน การตัดสินใจที่จะหนีออกมาจากคฤหาสน์สุดหรู เพราะเขาไม่สามารถทนกับความรุนแรงและความเจ้าชู้ได้ ในที่สุดเด็กหนุ่มกลับได้พบรักกับนายแบบนู้ดชื่อดังอย่างไม่ตั้งใจ… เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของเขาจะพลิกผันอีกหรือไม่ไปติดตามพร้อมๆกันค่ะ
ดาราชื่อดังอย่างทิชาพบรักกับจันทร์ จันทร์หอมที่เป็นพ่อค้าขายผักในตลาด คนทั้งสองต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยมีแม่ของทิชาเป็นต้นเหตุที่คอยกีดกันความรักของเขาทั้งสองคนตลอดเวลา จนกระทั่งแม่ทิชานำตัวเองเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะให้ทิชาได้แต่งงานกับหลานชายของตน ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้ทิชาได้สมหวังในความรักกับคนธรรมดาอย่างจันทร์ ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรและไปในทิศทางไหน มาติดตามกับความรักของคนทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันค่ะ
'วายุ' หรือ 'วา' นายแบบหนุ่มหน้าหวาน ผู้มีรูปร่างสวยสง่า ปานอิสตรีผู้เลอโฉม มีชีวิตเฉิดฉายบนเส้นทางสายบันเทิงและแคทวอล์ค... เขา 'ณธีร์' หรือ 'ธีร์' ข้าราชการหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม นายแบบเนื้อหอมอย่างวา กำลังตามหาชายหนุ่มอย่างเขามาแสนนาน ….หนุ่มหน้าหวานที่ร้อนรุ่มดังสายลมร้อนเฉกเช่นวายุไฟอันระอุ แรงปรารถนาของเขาจะเป็นจริงหรือไม่... ติดตามได้แล้วที่นี่ค่ะ!!
องค์รัชทายาทตกอับถูกท่านน้าขับไล่ออกจากพระราชวังเพื่อหวังตั้งตนเป็นใหญ่ กระทั่งรัชทายาทหนุ่มต้องเร่ร่อนมาเป็นพ่อบ้านของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ถูกกลั่นแกล้งจนต้องลาออกจากงานที่นั่นไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บ้านของคุณชายทายาทของตระกูลใหญ่และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ในที่สุดท่านน้าเกิดสิ้นพระชนม์จึงมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับไปดำรงตำแหน่งรัชทายาทผู้ครองพระราชวังตามพินัยกรรมของพระมารดาโดยทันที LIPPO
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ