ดาราชื่อดังอย่างทิชาพบรักกับจันทร์ จันทร์หอมที่เป็นพ่อค้าขายผักในตลาด คนทั้งสองต้องร่วมกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ โดยมีแม่ของทิชาเป็นต้นเหตุที่คอยกีดกันความรักของเขาทั้งสองคนตลอดเวลา จนกระทั่งแม่ทิชานำตัวเองเป็นข้อต่อรองเพื่อที่จะให้ทิชาได้แต่งงานกับหลานชายของตน ซึ่งเป็นการกีดกันไม่ให้ทิชาได้สมหวังในความรักกับคนธรรมดาอย่างจันทร์ ความรักของคนทั้งสองจะเป็นอย่างไรและไปในทิศทางไหน มาติดตามกับความรักของคนทั้งคู่ไปพร้อมๆ กันค่ะ
ควีน ณพงศ์
"แกจะมาที่นี่อีกทำไม ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าดารามีชื่อเสียงอย่างแกอ่ะ พี่จันทร์เขาไม่สนใจหรอกกลับไปซะ!"
เสียงตวาดด่าดังลั่นตลาดเจ๊หยก เขียวขจี จากน้ำเสียงเด็กหนุ่มที่กำลังยืนชี้หน้าด่าใครคนหนึ่งด้วยวาจามาดร้ายตามสไตล์ลูกชายเจ้าของตลาด
"คุยกันดีๆ สิครับคุณควีนทำไมต้องพูดจารุนแรงใส่กันด้วยครับ"
ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้นขณะที่ประคองใครคนนัั้นมาอยู่ทางด้านหลังของตนเพื่อความปลอดภัย
"ปล่อยเขาเถอะจันทร์ เราไม่สนใจหรอกเพราะถึงยังไงเราก็รู้ว่าจันทร์สนใจใครมากกว่ากัน"
คำพูดของคนที่ถูกพูดถึงส่งผลให้เด็กหนุ่มลูกชายเจ้าของตลาดถึงกับดิ้นพล่านด้วยความโกรธ ในขณะที่ข้างกายก็มีชายอีกคนหนึ่งคอยประคองตัวเพื่อไม่ให้ล้มลงสู่พื้นปูนซีเมนต์บริเวณช่องทางเดินกลางตลาด
"คุณควีนระวังล้มนะครับ...”
"ปล่อยฉัน! แกก็เห็นไม่ใช่เหรอว่ามันพูดกับฉันยังไง ไปสิ! ไปจัดการมันจะมัวยืนบื้ออะไรตรงนี้ ให้มันได้รู้จะมาพูดกับฉันแบบนี้ไม่ได้"
ชายหนุ่มที่ถูกออกคำสั่ง มีทีท่าลังเลก่อนจะถูกผู้เป็นนายผลักหลังเข้าใส่คนทั้งสองที่ยืนอยู่ต่อหน้า
"อย่าเข้ามานะเขม ถ้านายเข้ามาจะหาว่าเราไม่เตือน คุณควีนครับผมว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ...”
จันทร์พูดขึ้นเพราะเป็นต้นเหตุให้เกิดเรื่องทะเลาะวิวาทระหว่างสองคนนี้อยู่บ่อยครั้ง เขาออกเสียงห้ามลูกน้องคนสนิทของควีน ก่อนจะหันไปพูดจาดีๆ กับลูกชายเจ้าของตลาด
"จันทร์นายพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงอ่ะ จะคุยอะไรกับเขา?"
ดาราหนุ่มเอ่ยถามอีกฝ่ายด้วยความสงสัยและมีสีหน้าไม่พอใจ จังหวะนั้นลูกเจ้าของตลาดก็สวนขึ้นทันใด
"แกคงไม่รู้สินะ ว่าทุกครั้งที่พี่จันทร์เรียกฉันไปคุยน่ะมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง เห็นพี่จันทร์แบบนี้เด็ดมากนะจะบอกให้ ฉันถึงพยายามหาเรื่องทะเลาะกับแกทุกครั้งที่แกมาที่นี่ไง 555"
ผลัวะ!!
ดาราหนุ่มถึงกับหูแดงหน้าร้อนผ่าวแล้วรุดเข้าปล่อยหมัดใส่มุมปากของคนพูดเสียเต็มแรง ส่งผลให้ควีนล้มลงใส่ชั้นวางผักสดที่จันทร์นำมาวางขายจนพังเสียหายตามแรงคนล้มใส่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม
โดยที่ใครไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แม้แต่เขมลูกน้องคนสนิทของควีนก็เข้ามาช่วยไว้ไม่ทัน แล้วมีทีท่าว่าทิชาจะเดินเข้าหาควีนอีกรอบ แต่ถูกอีกคนคว้าตัวไว้ ก่อนที่ลูกเจ้าของตลาดจะฟาดฝ่ามือเล็กเข้าที่แก้มของลูกน้องคนสนิทอย่างแรง
เพี๊ยะ!!
แล้วยืนดูผลงานของตัวเองด้วยสายตาเหยียดๆ
"สมน้ำหน้า!! แกทำให้ฉันต้องถูกมันต่อยแกก็ต้องโดนฉันตบแบบนี้แหละสมกับที่แกไม่เข้ามาช่วยฉัน"
"คุณควีนหยุดเถอะครับ เขมเจ็บไหม เราขอโทษนะ" จันทร์เอ่ยถามลูกน้องของควีนอย่างเห็นใจ
"ไม่เป็นไรหรอกจันทร์ ขอบใจนะ"
"พี่จันทร์จะไปขอโทษมันทำไม สมควรแล้วที่โดนแบบนั้น ไอ้คนที่ผิดก็อีดาราบ้าผู้ชายนั่นแหละ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้น ถ้าจะโทษๆ มันดีกว่า...”
ควีนว่าดาราหนุ่มด้วยท่าทางจีบปากจีบคอ เกือบทำให้เขาต้องเจ็บตัวอีกรอบจากดาราหนุ่มที่มีท่าทางโกรธอยู่
"พอได้แล้วผมจะพาทิชากลับตามที่คุณต้องการ ผมขอให้เลิกแล้วต่อกันนะครับ...”
"ไม่!!..."
ดาราหนุ่มและลูกเจ้าของตลาดแทบจะพูดพร้อมกัน ทำให้ชายหนุ่มอย่างจันทร์รู้สึกหนักใจเพิ่มขึ้น
ทิชา ทิชานนท์
จังหวะเดียวกันนั้นเสียงริงโทนโทรศัพท์ของดาราหนุ่มดังขึ้น ทิชาหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยกขึ้นดูก็รู้ว่าเป็นเบอร์ที่คุ้นเคย
"ว่ายังไงครับพี่แมคมีอะไรหรือเปล่า ผมกำลังจะเดินกลับไปที่รถครับ"
"คุณอานภาโทรมาครับน้องทิชารีบมาที่รถเลยครับ พี่สตาร์ทรถรออยู่ที่หน้าตลาดนะครับ" น้ำเสียงคนปลายสายดูเครียดจนดาราหนุ่มรับรู้ได้
"ได้ครับพี่แมคผมกำลังรีบไปครับ"
ดาราหนุ่มกดวางสายแล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าคนรัก ซึ่งจันทร์ก็รู้ถึงเรื่องราวที่คนทั้งคู่พูดกันดี
"รีบไปเถอะเดี๋ยวแม่ของนายจะเป็นห่วงเอา" พ่อค้าหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด
"จะไปแล้วใช่ไหม รีบๆ ไปให้พ้นตลาดฉัน ฉันไม่อยากเห็นหน้าแกอีก ถ้าเป็นไปได้นะก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีกเลยยิ่งดี อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ข่าวว่าแกกำลังจะหมั้นกับลูกสาวเจ้าของจิวเวลรี่แบรนด์ดังน่ะ รีบหมั้นรีบแต่งแล้วก็ขนเอาตระกูลของแกไปอยู่ต่างประเทศให้หมดด้วยก็ดีนะ ฉันกับพี่จันทร์จะได้มีความสุขกันสักทีไปเลยไป 555" คำถากถางที่ดูเย้ยหยันยังคงถูกพร่ำออกมาจากปากของลูกชายเจ้าของตลาดอย่างไม่ขาดคำ
ทันทีที่เขาได้ฟังคำบอกของพ่อค้าหนุ่มที่พูดต่อดาราหนุ่มจบลงพร้อมทั้งยังมีเสียงหัวเราะที่แสดงออกถึงการมีชัยชนะในสงครามน้ำลายครั้งนี้ ทำให้ควีนต้องเจ็บตัวอีกครั้งเมื่อดาราหนุ่มวิ่งเข้าไปปล่อยหมัดเน้นๆ เข้าที่รอยเดิมอีก 2 ครั้งติดๆ กัน เป็นไปตามคาดไม่มีใครสามารถช่วยป้องกันปากน้อยๆ ของควีนได้ทันอีกเช่นเคยและผลการกระทำจากน้ำมือของดาราหนุ่มก็ไปตกที่ลูกน้องคนสนิทอย่างเขมอีกตามเคย
ทำให้ทิชารีบวิ่งเข้าไปประคองเขมให้ลุกขึ้นมา หลังจากถูกฝ่ามือเล็กของเจ้านายตบจนล้มลงเป็นครั้งที่สองก่อนที่ดาราหนุ่มจะกล่าวขอโทษคนเจ็บอย่างคนรู้สึกผิด
ไคด้า ดาริน ลูกสาวพราวเสน่ห์อดีตเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ มีปมชีวิตกับการสูญเสียคนที่รักไปทั้งครอบครัว จากฝีมือคู่อริของพ่อ การแก้แค้นจึงเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เธอได้ทุกสิ่งคืนมา แล้วเธอจะมีวิธีอะไรที่ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
ชีวิตที่พลิกผันเปลี่ยนเด็กหนุ่มกำพร้าให้มีเจ้าพ่อมาเฟียรับเขาไปอุปการะเลี้ยงดูราวกับน้องชายร่วมสายเลือด ความสัมพันธ์ของทั้งสองแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในเวลาต่อมา จึงตัดสินใจที่จะมีลูกน้อยด้วยกัน แต่ใครจะรู้ว่าคนที่เด็กน้อยรักและเทิดทูนที่สุดในชีวิตจะกลายเป็นคนที่ทำลายชีวิตเขาให้พังพินาศที่สุดด้วยเช่นกัน การตัดสินใจที่จะหนีออกมาจากคฤหาสน์สุดหรู เพราะเขาไม่สามารถทนกับความรุนแรงและความเจ้าชู้ได้ ในที่สุดเด็กหนุ่มกลับได้พบรักกับนายแบบนู้ดชื่อดังอย่างไม่ตั้งใจ… เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร ชีวิตของเขาจะพลิกผันอีกหรือไม่ไปติดตามพร้อมๆกันค่ะ
'วายุ' หรือ 'วา' นายแบบหนุ่มหน้าหวาน ผู้มีรูปร่างสวยสง่า ปานอิสตรีผู้เลอโฉม มีชีวิตเฉิดฉายบนเส้นทางสายบันเทิงและแคทวอล์ค... เขา 'ณธีร์' หรือ 'ธีร์' ข้าราชการหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม นายแบบเนื้อหอมอย่างวา กำลังตามหาชายหนุ่มอย่างเขามาแสนนาน ….หนุ่มหน้าหวานที่ร้อนรุ่มดังสายลมร้อนเฉกเช่นวายุไฟอันระอุ แรงปรารถนาของเขาจะเป็นจริงหรือไม่... ติดตามได้แล้วที่นี่ค่ะ!!
องค์รัชทายาทตกอับถูกท่านน้าขับไล่ออกจากพระราชวังเพื่อหวังตั้งตนเป็นใหญ่ กระทั่งรัชทายาทหนุ่มต้องเร่ร่อนมาเป็นพ่อบ้านของมหาเศรษฐีคนหนึ่ง แต่แล้วเขาก็ถูกกลั่นแกล้งจนต้องลาออกจากงานที่นั่นไปทำงานเป็นพ่อบ้านที่บ้านของคุณชายทายาทของตระกูลใหญ่และเกิดเรื่องวุ่นวายมากมาย ในที่สุดท่านน้าเกิดสิ้นพระชนม์จึงมีคำสั่งให้องค์รัชทายาทกลับไปดำรงตำแหน่งรัชทายาทผู้ครองพระราชวังตามพินัยกรรมของพระมารดาโดยทันที LIPPO
รักคือการให้ยังได้ยินอยู่ทุกยุคสมัยและเป็นคติประจ าใจของ ‘เมฆ’ เสมอมา ตั ้งแต่ได้มาพบกับ ‘ก๊อป’ เด็กหนุ่มผู้มีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึง กับน้องชายผู้จากไป ท าให้เขาอดคิดถึงอีกคนเสียไม่ได้ เมฆจะมีวิธี อย่างไรเมื่อฟ้าลิขิตให้ก๊อปเดินเข้ามาในวันที่เขาสูญเสียน้องชายไปตลอด กาล... ความสัมพันธ์แบบพี่น้องที่เขาวาดไว้กลับแปรเปลี่ยนกลายเป็น ความเกลียดชังแก่อีกฝ่ายเพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบ..." LIPPO
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ปลัมน์ นักธุรกิจหนุ่มหล่อลูกครึ่ง ถูกแม่สั่งให้ทำยังไงก็ได้ ที่จะกัน พลอยหยก ออกไปจากชีวิตน้องชายของเขา แต่หารู้ไม่ว่า พอถึงคราวของตัวเอง เขากลับกันเธอออกจากชีวิตตัวเองไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ เขาไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ โดยไม่มีเธอ ----------------------- “ปวดแผลจัง สงสัยต้องนอนพัก คุณล่ะทำอะไรตั้งหลายอย่างผมว่านอนพักก่อนดีกว่ามั้ย” เขาเอ่ยเมื่อพลอยหยกกลับจากเอาทุกอย่างไปล้างในทะเลเรียบร้อยแล้ว “ฉันยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ค่ะ แต่คุณนอนก็ดี เดินไกลกว่าทุกวันแล้วค่ะ” พลอยหยกเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยเดินมาคอยประคองให้เขานอนลงได้อย่างสะดวก โดยมีเสื้อชูชีพสองตัววางซ้อนกันเป็นหมอนให้ หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอีกแล้วเมื่อจ้องมองใบหน้าของเขาที่หล่อเหลากว่าทุกวัน ยิ่งเขาจ้องมองมาหาด้วยแล้วก็ยิ่งเกิดอาการประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก “คุณนอนพักก่อนดีกว่านะแกว จะได้มีแรงไว้สู้กับการสอยมะพร้าวไง” มือข้างขวาของเขารั้งเอวเธอเอาไว้ไม่ให้ลุกไปไหน แถมยังออกแรงกดบังคับให้เธอโน้มกายลงไปหาพื้นข้างๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะเจ็บแผลอยู่บ้างแขนข้างขวาของเขาก็ยังมีเรี่ยวแรงมาพอที่จะหยัดตัวให้นอนตะแคงไปหาเธอ ดวงตาคู่คมจ้องมองใบหน้าที่เขาเดาว่าคงจะแดงเพราะความอายที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาเป็นแน่ และเขาก็ช่วยให้ห้วงเวลาที่เธอคงจะอึดอัดนั้นสั้นลงด้วยการก้มลงไปหาริมฝีปากนุ่มช้าๆ มอบจุมพิตอันแผ่วเบาให้เจ้าของริมฝีปากที่ไม่ได้ขัดขืนใดๆ อีกทั้งยังโอบกอดตัวเขาไว้อย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ใบหน้าสวยก็แหงนเงยขึ้นเพื่อให้เขาได้ดอมดมปลายคาง ลำคองามระหงอย่างสะดวก ก่อนจะกลับขึ้นไปดูดดื่มริมฝีปากอีกวาระ แขนข้างซ้ายที่เคยเจ็บบัดนี้ดูเหมือนเขาจะไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไปแล้ว และใช้มันยกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืด แถมมันยังมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะถลกบราเซียออกจากสองบัวงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเมื่อไม่ใคร่ถนัดนักเขาเลยเลื่อนมือขวาลงมาช่วยด้วยการถลกเสื้อยืดขึ้น โดยเจ้าของเสื้อคอยให้ความร่วมมือพยุงกายขึ้นจากพื้น แล้วแอ่นอกให้กับอุ้งปากอุ่นของเขาได้ลิ้มลองอย่างไม่หวงแหน แม้ใจจะบอกตัวเองว่าต้องห้ามเขา แต่พลอยหยกก็ไม่อาจจะทำได้ ไม่รู้เป็นเพราะอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นสุขใจจนลืมทุกอย่างเพียงเพราะมีเขาอยู่แนบชิดขณะนี้ จนไม่อาจจะผลักไสเขาไปไหนได้นอกจากยินยอมพร้อมใจให้เขาได้เชยชมเพื่อชดเชยความสุขสมที่พึงมีด้วยกันนับตั้งแต่วันได้นอนแนบชิดกันโดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้ว ปลัมน์ก็ไม่คิดจะห้ามตัวเองด้วยเช่นกัน เขาไม่แคร์ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ไม่มีแม้แต่ถุงยางอนามัยติดตัว และไม่แคร์ด้วยว่าเธอคืออดีตคนรักของหลานชาย ด้วยหัวใจไม่อาจจะหักห้ามความต้องการทั้งทางกายและทางใจได้อีกต่อไปแล้ว ผ่านมาหลายค่ำคืนที่เขามีสติล้วนแล้วแต่เป็นการกล้ำกลืนฝืนทนสุดๆ สำหรับเขาแล้ว แผงอกเปลือยทั้งสองบดเบียดแนบชิดกันเนิ่นนานกว่าปลัมน์จะค่อยๆ เลื่อนมือขวาลงไปหาหน้าท้องแบนราบจนพานพบตะขอกางเกงยีนส์ เขาใช้เวลาปลดไม่นานพอๆ กับการรูปซิปออก แล้วส่งนิ้วเรียวเข้าไปลูบไล้ผิวกายนุ่มนวลนอกแพนตี้สีหวานที่ชวนให้หลงใหลจนเขาปล่อยใจให้เตลิดเปิดเปิงไปเลยขั้นที่เกินจะควบคุมได้อีกต่อไป ไม่แตกต่างจากพลอยหยกนักที่เป็นสุขใจเกินคณากับการมีเขามาแนบชิดอยู่อย่างนี้ สองฝ่ามือนุ่มลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างบึกบึนของเขาอย่างลืมตัว ริมฝีปากนุ่มก็จูบตอบเขาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า แม้จะไร้ซึ่งประสบการณ์ก็ตามที แต่การถูกเขามอบจุมพิตให้บ่อยครั้งก็คือเป็นความคุ้นเคยกับเขาในระดับหนึ่งแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเฮือกกับอุ้งปากอุ่นของเขาที่กำลังครอบครองปลายยอดชูช่อประหนึ่งรอให้เขามาเยี่ยมเยือนก็ไม่ปาน แผ่นหลังนุ่มแทบไม่ติดพื้นใบมะพร้าวเมื่อเธอเผลอแอ่นกายขึ้นเพื่อให้เขาได้ดูดดื่มอย่างสะดวก เธอรับรู้ได้ว่ากายเขาสะดุ้งน้อยๆ เมื่อมือบางเผลอออกแรงบีบตรงหัวไหล่ซ้ายของเขาเพราะความเจ็บร้าวไปทั่วกายจากความต้องการที่จะมีเขาเข้าครอบครอง “แกว! ตัวผมจะแตกเป็นเสี่ยงๆ อยู่แล้ว ผมต้องการคุณเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเขาแหบพร่าอยู่ใกล้ๆ หู ก่อนจะซอกไซ้ปลายจมูกไปกับซอกคอระหงแล้วเลื่อนลงไปหาอกอวบอิ่ม อ้อยอิ่งอยู่กับปลายยอดอีกข้างอย่างหลงใหลอีกครั้ง พลอยหยกรับรู้ถึงความต้องการของเขาได้ตรงสะโพกผายตึงเมื่อความแข็งแกร่งของเขาส่งสัญญาณมาหาโดยไม่ต้องบอกกล่าวทางวาจาเพราะด้วยภาษาทางกายแจ้งอย่างชัดเจนกว่าเรียบร้อยแล้ว “คุณปลัมน์คะ!” พลอยหยกส่งเสียงติดๆ ขัดๆ ไปหาเขา สองมือบางก็พยายามจะดันอกเขาออกอย่างยากลำบาก “แกว! อย่าห้ามผมเลยนะ เราต่างก็ต้องการกันและกัน อย่าสนใจอะไรอีกเลยนะ” เขาส่งน้ำเสียงอ้อนวอนมาให้ขณะพรมจูบไปตามผิวกายขาวและกำลังเลื่อนต่ำลง พลอยหยกต้องพยายามสะกัดกลั้นความรู้สึกวาบหวานเอาไว้และพยายามใช้สองแขนหยัดกายให้ลุกขึ้น “คุณปลัมน์คะ! ฟังสิคะ” “บนเกาะนี้มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าจะมีใครมาช่วยเราหรือเปล่า และไม่แน่ว่าเราอาจจะต้องติดอยู่นี่ไปเป็นปีๆ ก็ได้ ถ้าถึงตอนนั้นเราก็คงไม่พ้นต้องทำเรื่องนี้ด้วยกันอยู่ดี แล้วจะให้ผมรออะไรอีกแกวคุณอยากให้ผมลงแดงตายเพราะต้องการคุณหรือไง” แต่ก็ถูกกายกำยำเขาทาบทับไว้ ส่วนมือขวาที่ใช้การได้ก็กำลังเลื่อนขอบกางเกงยีนส์ออกจากสะโพกผายตึง “แต่เสียงนั่นค่ะ คุณฟังสิคะ” แม้จะเป็นเสียงแห่งความช่วยเหลือกำลังมาถึง แต่ปลัมน์ก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น และอยากฆ่าคนที่กำลังมาด้วย เพราะมันไม่ถูกเวลาเอาเสียเลย “คุณหูฝาดไปเอง ผมไม่เห็นได้ยินอะไรสักนิด” เขางับยอดบัวงามไว้ในอุ้งปากแล้วดูดดื่มอย่างหิวกระหายและควบคุมตัวเองแทบไม่อยู่ “คุณปลัมน์คะ แต่เสียงนั่นใช่เสียงเครื่องบินหรือเปล่าคะ ฉันได้ยินค่ะ คุณฟังสิคะ”
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ