“ฮึ่ก... พอแล้วหนูเสียว ฮือๆ ไม่ไหวแล้วค่ะคุณลุงขา” มือเรียวของฉันขยุ้มศีรษะของลุงทอมเอาไว้แน่น ลิ้นของเขาไล้เลียนุ่มนวล สลับกระแทกเสียบรุนแรง ฉันยอมรับว่าทรมาน แต่ใจจริงก็ชอบ… มันเสียวซ่าน ไม่อยากให้เขาหยุด ลุงทอมเลียเก่งเหลือเกิน “ของหนูสวยมาก… ฟิตแน่นดูดลิ้นลุงดีจัง” ลุงทอมชำแรกเรียวลิ้น ไชชอนกลีบเนื้อสีชมพูนุ่มอ่อนบอบบางของฉันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งแบะทั้งบีบกลีบสวาทออกมาไล้เลีย สลับไปมาทั้งสองข้างซ้ายขวา เสียงดังจ๊วบจั๊บหนับหนุบ “ฮื่อๆ…. ลุงขาหนูเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว” ฉันขยับสะโพก ยกหนอกเนินสวาทกระแทกสวนใบหน้าของลุงทอมที่ก้มงุดอยู่ตรงง่ามขา เบิร์นน้องสาวฉันไม่ลืมหูลืมตา เมามันจนแทบไม่อยากเงยหน้ากลับขึ้นมาหายใจ คาวสวาทของฉันคงหอมถูกใจแก กระตุ้นอารมณ์ลุงทอมจนออกอาการหลงใหลอย่างที่เห็น
นิยายชุดนี้มีสองเรื่องคือ คุณลุงขาอย่าบอกใคร และ ลุงเจมส์
"คุณลุงขาอย่าบอกใคร"
ขณะที่ฉันกำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายสุดฟินอยู่ในเปลที่ผูกเอาไว้ระหว่างต้นมะม่วงสองต้น จู่ๆ ภายในหูก็พลันได้ยินเสียงรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งเข้ามาในบ้านเช่าที่อยู่ติดกับสวนมะพร้าวข้างบ้าน
ตอนแรกฉันไม่ได้สนใจมอง แต่เป็นเพราะว่าบ้านหลังนี้อยู่ติดกับสวนมะพร้าวของพ่อฉัน ห่างกันเพียงรั้วกั้น ใครเข้าใครออกก็ต้องเห็น ลักษณะของบ้านปลูกสร้างแบบปูนเปลือยชั้นเดียวผสมไม้ ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เจ้าของเปิดให้เช่าแบบรายเดือน จึงมีลูกค้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเช่าบ้านหลังนี้ไม่ซ้ำหน้า เท่าที่เห็นส่วนมากก็เป็นพวกฝรั่งต่างชาติที่นิยมมาเที่ยวเมืองไทยแล้วอยู่นานแบบลองสเตย์
บอกตรงๆ ว่าตอนแรกฉันไม่ได้สนใจมอง กระทั่งได้ยินเสียงคนที่มาเช่าบ้าน ถือโทรศัพท์แนบหูเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน
เสียงสนทนาเป็นภาษาอังกฤษสะดุดหูฉันอย่างจัง ทำให้ต้องลุกขึ้นจากเปล เดินมาที่รั้ว มองผ่านช่องว่างระหว่างแนวรั้วหลังบ้าน
และพลันนั้นเอง ที่สายตาของฉันปะทะเข้ากับฝรั่งร่างสูงใหญ่วัยลุงคนหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์หนุ่มลาตินที่ฉันชอบ กำลังเดินตรงมาที่ป่ากล้วย ใกล้กับแนวรั้วที่ฉันยืนอยู่ แกไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงบอลขาสั้นบางๆ
เนื้อตัวของฝรั่งคนนี้กำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม แผงอกแน่นนูนไปด้วยมัดเนื้อ มีเส้นขนสีดำแผ่กระจายทั่วอกกว้าง ซิกแพคเป็นลูกเป็นลอนน่าลูบไล้ ที่ปั้นไหล่ด้านขวามีลายสักคลาสสิคเป็นเส้นสายสีดำขลัง สวมนาฬิกาสีเงินวาวที่ข้อมือข้างซ้าย โครงร่างสูงใหญ่ล่ำสันสะดุดตาฉันเหลือเกิน
‘ว้าว… อีตาลุงคนนี้เซ็กซี่สุดๆ’
ฉันอุทานในใจ เบี่ยงตัวหลบวูบว่องไวเพราะกลัวว่าแกจะเห็น รีบซ่อนร่างไว้หลังเหลี่ยมเสา แอบมองฝรั่งวัยลุงควักกล้วยของเขาออกมาอวดสายตา
‘ว้าย… อกอีแป้นจะแตก’
ไม่คิดว่าจะได้เห็นของดีเป็นบุญตาแต่เช้าตรู่ ฉันอุทานเสียงดังลั่นอยู่ในใจ อีตาลุงคนนี้ไม่ได้ดึงขอบกางเกงลงมา แต่ควักแก่นกายชนิดที่ว่าทำเอาฉันใจเต้นระทึก เพราะว่าแกรั้งเป้ากางเกงไปไว้ข้างซอกขาแล้วควักดุ้นเอ็นยาวใหญ่ออกมาจากด้านล่าง ล้วงออกมาแบบแมนๆ
‘โห… ’
ฉันตะลึง มองอีตาลุงฝรั่งยืนแอ่นสะโพก ปลดปล่อยน้ำฉี่สีเหลืองอำพัน พวยพุ่งออกมาเป็นสาย สะท้อนอยู่ในประกายแสงแดดเหลืองอร่ามของยามสาย ราดรดลงมาที่โคนต้นกล้วย ที่เห็นมันพุ่งแรงนั้นคงเป็นธรรมดาของคนท่อใหญ่
‘โอ้แม่เจ้า… ของคนหรือของม้าวะนั่น โห… ยังกะแขนเด็กแน่ะ… ใครโดนเข้าไปตายแน่ๆ’
ฉันยังคงอุทานลั่นอยู่ในใจ เอามือลูบแขนตัวเองไปมา ยอมรับว่ารู้สึกขนลุกขนพอง หากดวงตาก็ยังเบิกโพลง มองแล้วมองอีก มองจนตาแทบจะถลนออกจากมาจากเบ้า ตะลึงกับความ ‘ใหญ่’ และ ‘ยาว’ ของอีตาลุงฝรั่งสุดหล่อที่จู่ๆ ก็ควักไอ้จ้อนออกมาให้สาวน้อยอย่างฉันตาค้าง เพ่งมองด้วยใจกระเจิง
นี่ขนาดอยู่ในสภาพปกติธรรมดาก็ยังใหญ่ยาวราวกับมะเขือยาว แล้วถ้าตอนที่มันอยู่ในสภาพแข็งตัวสุดๆ ล่ะ โอ้ย… ไม่อยากจะคิด แต่ก็คิดไปแล้ว… มันคงใหญ่เบ้อเริ่มเท่าแขนของฉันกระมัง
ฉันนิ่งมอง ยืนตัวแข็งทื่อ ราวกับโดนสะกดด้วยเวทย์มนต์คาถาอะไรสักอย่าง ยืนมองลุงฝรั่งจับแท่งเอ็นฟาดกับต้นขาของตัวเองสองสามทีจนสะเด็ดน้ำแล้วดึงกลับเข้ามาทางซอกขากางเกง เมื่อเก็บอาวุธไว้ในสภาพเรียบร้อยก็ผิวปากหวือ เดินออกไปจากป่ากล้วยโดยไม่รับผิดชอบกับความรู้สึกของฉันที่ยังตะลึง ใจเต้นแรง
“อีตาลุงบ้า”
ฉันรู้สึกโล่งใจ ที่แกเดินออกไปเสียได้ สิ่งที่เห็นทำเอาเหงื่อซึมออกมาชื้นอยู่ในอุ้งมือทั้งสองข้าง ใจยังเต็นรัวไม่หาย ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาเห็นอวัยวะเพศชายขนาดอลังการในตอนกลางวันแสกๆ
“โอ๊ย… ตกใจหมดเลย”
ฉันยกมือขึ้นทาบอก ใจยังเต้นแรงเหมือนกลองรัว ก่อนที่เสียงแหวของแม่ช่วยฉุดฉันออกจากภวังค์
“นังฟ้า… นั่นเอ็งอยู่ไหนวะ”
เสียงของ ‘นางชบา’ แม่ฉันดังขึ้นมาอีก ฉันมีชื่อจริงว่า ‘เฟื่องฟ้า’ แต่แม่มักจะเรียกสั้นๆ ว่า ‘ฟ้า’ ด้วยความเคยชิน
“จ๋า… อยู่หลังบ้านจ้ะ แม่มีอะไรจ๊ะ”
เสียงของแม่เรียกสติฉันกลับมา รีบเก็บอาการพิรุธแล้วก้าวยาวๆ กลับเข้ามาในบ้าน สงสัยว่าแม่คงมีอะไรจะใช้จึงร้องเรียกเสียงดังลั่นมาถึงหลังบ้าน
“มีอะไรจ๊ะแม่จ๋า”
ฉันยื่นใบหน้าเข้ามาในครัว
“เดี๋ยวเอ็งช่วยเอาปิ่นโตไปส่งให้ลุงฝรั่งข้างบ้านนะ”
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่สมมติขึ้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องจริงแต่อย่างใด ชื่อบุคคล และสถานที่ที่ปรากฏในเนื้อเรื่อง ไม่มีเจตนา อ้างอิงหรือก่อให้เกิดความเสียหายใดๆ ………. นิยายเรื่องนี้… ไม่มีแก่นสารสารัตถะอะไรนักหนา ทั้งเรื่องขับเคลื่อนด้วยอารมณ์อันมืดดำของมนุษย์ ดำเนินเรื่องด้วยตัณหาราคะสุดร้อนแรง ท่านใดที่ไม่ชอบโปรดหลีกเลี่ยง *เราเตือนท่านแล้ว*
กรุงเทพฯ มหานคร ตอนเช้า ที่ห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ เสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ระหว่างลูกสะใภ้กับเพื่อนสาวของหล่อนที่อยู่ปลายสาย ทำให้ พ่อเลี้ยง ‘เพลิง’ ถึงกับชะงัก ต้องแอบฟังอย่างเสียมารยาท เพราะมันเหมือนเป็นการหยามเกียรติของลูกชายจนเขาทนไม่ได้
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“ไม่ให้เลียข้างล่าง... งั้นผมดูดข้างบนนะที่รัก” อดัมส์ยังมีอารมณ์ขี้เล่น แม้ในตอนจะร่วมรัก เขารีบผละออกมาจากง่ามขา จูบไซ้ขึ้นมาที่ท้องน้อย กระทั่งถึงเต้านมของหล่อน ครอบริมฝีปากดูดเลียอย่างโหยหาเอาเป็นเอาตาย “อุ๊ย... วันนี้คุณดำซาดิสม์จัง” อรทัยสะดุ้งเฮือก เมื่อทรวงอกอวบโดนมือใหญ่ของสามีบีบขยำอย่างแรง จากนั้นก็เกลือกใบหน้าฟอนฟัดอย่างไม่ลืมหูลืมตา อรทัยเสียวซ่านสุดๆ รีบบีบนมยัดปากเขาที่ค้อมลงมาดูดเลียหัวนมอย่างตะกละตะกลาม อดัมส์ดูดเลียสลับไปมาระหว่างยอดอกทั้งสองข้างเสียงดังซ่วดๆ เหมือนกำลังซดกลืนของอร่อย ทำเอาสาวน้อยที่แอบยืนดู เกิดอาการเสียวซ่านขึ้นมาที่ยอดอกของตัวเองอย่างควบคุมเอาไว้ไม่ได้ รู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังโดนพี่เขยดูดนม
แก้วตาพึมพำในใจ มองพี่เขยจัดหนักพี่สาวของหล่อน ยิ่งมอง… ก็ยิ่งตื่นเต้นมีอารมณ์ หน้าขาหนีบแน่น บิดไปบิดมาจนรู้สึกได้ว่ามีน้ำหล่อหลื่นเหนียวๆ หลั่งชุ่มออกมาแฉะแพนตี้ตัวน้อย พอเอามือเอื้อมลงมาแตะที่ง่ามขา ก็รู้ว่ามีน้ำใสๆ ไหลเยิ้มเป็นยางย้อยติดนิ้ว ‘อุ๊ย… ’ แก้วตาตกใจ หลังจากแอบดูจนน้ำเดิน ด้วยภาพที่เกิดขึ้นในห้องนอน อยู่ห่างจากสายตาของหล่อนเพียงช่วงแขนกระมัง จึงเห็นทุกอย่าง ชัดเจนเต็มสองตาทั้งภาพทั้งเสียง คมชัดปานว่ากำลังมองผ่านจอภาพระบบเอชดี “อ๊าย... ผัวจ๋า... เมียเสียว... เมียทรมาน” ใบหน้าของลีนาบิดเบะ สะบัดไปด้วยความซ่านสยิว ก้นอวบขาวดีดเด้ง แอ่นส่ายไปตามอารมณ์กระเจิดกระเจิง โดนกระแทกกระทั้นดุเดือดขนาดนี้ไม่ว่าเป็นใครก็คงเคลิบเคลิ้มไม่ต่างจากหล่อน ลีนาเปล่งเสียงร้องครางออกมาตลอดเวลาที่ท่อนเอ็นคัดแข็งเป็นลำเหมือนดุ้นมะระจีนใหญ่ๆ ของสามีกระแทกใส่จนมิดสุดโคนพวงสวรรค์ บลั่กๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
“ไม่ไหวแล้วครับ… ผมแข็งแทบระเบิดแล้ว… ไม่เชื่อก็ลองจับ… ” บอสหื่นดึงมือข้างหนึ่งของเลขามาทางด้านหลังเธอจึงต้องไล้ลูบสัมผัสความเป็นชาย ใหญ่ยาวน่าสะพรึง ยิ่งลูบไล้ของเขา… มือเธอยิ่งสั่น ใบหน้าร้อนผะผ่าว ความเสียวซ่านแล่นวาบเข้ามาตรงกึ่งกลางกาย ใจเต้นระทึก มือยังจับท่อนเนื้อยาวใหญ่ของบอส ใหญ่มากจนมือกำไม่รอบ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?