กะ่าส
กะ่าส
‘ความแค้น’ เหมือนไฟ
แต่ ‘ความใคร่’
สุดเร่าร้อนรุนแรงยิ่งกว่า
ไฟราคะของเขาพร้อมจะแผดเผาหล่อน
ใช้ความใคร่กลบรอยความแค้น
ให้หล่อนมอดไหม้ไปกับ
‘กามตัณหา’ ที่ยากจะหยุดยั้ง
แต่สุดท้าย…
ใครจะคิดว่าผู้ชาย ‘สุดร้าย’ คนนี้
จะกลายมาเป็น
ผู้ชาย ‘สุดที่รัก’ ของหล่อนในที่สุด
สาวน้อย
บำเรอกาม
ที่บ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์
ตั้งอยู่ท่ามกลางเนินหญ้าสีเขียวขจี บนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ในอำเภอแม่ริมของจังหวัดเชียงใหม่
ที่ห้องครัวด้านหลังบ้าน ใกล้กับเรือนพักของคนใช้ ‘คมภวัศน์’ หรือที่ผู้คนในบ้านมักจะเรียกชื่อของเขาสั้นๆ ว่าคุณ ‘คมน์’ จนติดปาก
คมน์ตัดสินใจย่องเข้ามาใกล้ห้องครัว เมื่อเห็นว่านาย ‘วศุวัฒน์’ บิดาของตน เดินเข้าไปในครัวด้วยท่าทางมีพิรุธน่าสงสัย
คมน์ครุ่นคิดด้วยความข้องใจ ว่าเพราะเหตุใดนายใหญ่ของบ้านที่ไม่เคยย่างกรายเข้ามาถึงห้องครัว วันนี้จึงลงมาได้
ดวงตาคมกริบราวกับตาของสัตว์นักล่า เพ่งมองผ่านช่องว่างของบานหน้าต่างที่เปิดแง้มเอาไว้เพียงน้อย เห็นบิดาของตนนั่งอยู่หัวโต๊ะ โดยมีผู้หญิงสองคนนั่งอยู่ข้างๆ
หญิงวัยกลางคนร่างอวบคือ ‘ป้านิ่ม’ เป็นคนรับใช้ที่คมน์รู้จักดี ป้านิ่มทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้มานานนับสิบปี
ส่วนอีกคนเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยสะดุดตา เป็นใครที่คมน์ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน?
รู้แต่ว่าหล่อนใช้สรรพนามแทนตัวเองว่า ‘หนู’
คมน์ยืนนิ่ง
ฟังสิ่งที่นายพศุวัฒน์ผู้เป็นบิดากำลังกล่าวกับผู้หญิงสองคน คนหนึ่งคือหญิงรับใช้เก่าแก่ และอีกคนนั้นคมน์เพิ่งได้รู้ก็เดี๋ยวนี้… ว่าสาวน้อยหน้าตาสะสวยสะดุดตาคนนี้เป็นใคร?... มาจากไหน?
‘เป็นแบบนี้นี่เอง… ’
เรื่องที่ได้แอบฟังเกือบสิบนาที ทำเอาคมน์ถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ เหตุนี้เอง… ที่ทำให้บิดาของตนต้องเดินเข้ามาถึงห้องครัวของคนรับใช้
‘ร้ายนะคุณพ่อ… กล้าเอาลูกชู้เข้ามาอยู่ในบ้าน’
คมน์รำพึงในใจ
รีบเดินออกมาเสียก่อนที่จะมีใครรู้ว่าเขาเข้ามาแอบฟังความลับของคนอื่นอย่างเสียมารยาท
‘ได้รู้แบบนี้ก็ดี… เดี๋ยวกูจะเอาคืนให้สาสม’
คมน์กำมือแน่นด้วยความโกรธ
อีกสัปดาห์ต่อมา
ตอนเย็นของวันเสาร์
นานเกือบสัปดาห์ที่คมน์ไม่อยู่บ้าน เพราะว่าต้องเดินทางไปดูแลโรงแรมในกรุงเทพฯ และรีสอร์ตในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวมาแต่ดั้งเดิม
พศุวัฒน์รู้ดี
ว่าคมน์ซึ่งเป็นลูกชายคนโตนั้นเป็นคนเก่งรอบด้าน ทั้งในเรื่องการบริหารจัดการและการตลาด จึงตัดสินใจยกตำแหน่ง GM (General Manager) ของโรงแรมทั้งหมดที่มีอยู่ในหลายจังหวัดของภาคเหนือและกรุงเทพฯ ให้คมน์เป็นผู้ดูแล
ส่วนเกสเฮาส์เล็กๆ และร้านอาหารในกรุงเทพฯ อีกหลายที่ พศุวัฒน์ยกให้ ‘ราเมศ’ ซึ่งเป็นลูกชายอีกคนเป็นผู้ดูแล โดยที่เขาคอยดูอยู่ห่างๆ
“ป้านิ่ม… นั่นใคร”
คมน์ทอดสายตามองไปยังหญิงสาวที่กำลังเก็บจานของว่างออกไปจากห้องรับแขก
อันที่จริงคมน์รู้…
รู้ตั้งแต่วันที่แอบฟัง… แต่ลองแกล้งถาม ทั้งที่ก็รู้ว่าจะไม่ได้ความจริงจากปากของป้านิ่ม
“อ๋อ… หลานสาวป้าชื่อ ‘ดาวเรือง’ จ้ะ มันเป็นลูกกำพร้า พ่อแม่มันตายหมดแล้ว ป้าสงสารที่เห็นมันเหลือตัวคนเดียว ก็เลยต้องเอาเข้ามาทำงานเป็นคนรับใช้ โชคดีที่คุณท่านเมตตารับเข้าทำงาน ไม่งั้นมันคงลำบาก แล้วดาวมันเพิ่งสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้ ป้าเลยช่วยเอามาส่งเสียให้มันได้ร่ำเรียนต่อ”
ป้านิ่มกล่าวถึงที่มาของหญิงสาวที่ลูกชายคนโตของบ้านกำลังมองอย่างให้ความสนใจ
คมน์นิ่งฟัง
เหลือบมองไปทางหญิงสาวพร้อมกับเหยียดยิ้มน้อยๆ เพราะรู้ว่าที่ป้านิ่มบอกนั้นไม่ใช่ความจริง
เรื่องสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยได้อาจจะใช่ แต่เรื่องที่บอกว่าเป็นหลานป้านิ่มนั้นไม่ใช่แน่ๆ
จากที่แอบฟังมา ทำให้คมน์รู้ว่าดาวเรืองเป็นลูกติดมาจากเมียน้อยของนายพศุวัฒน์ผู้เป็นบิดา
“เป็นคนใช้… ถ้างั้นผมจะใช้อะไรก็ได้ใช่ไหม”
คมน์กล่าวพลางเหลือบมองไปยังดาวเรืองอย่างเอาเรื่อง
“ค่ะ… คุณคมน์จะใช้อะไรมันหรือคะ?”
ป้านิ่มถามด้วยความสงสัย เห็นสายตาของคมน์แล้วนึกเป็นห่วงดาวเรืองขึ้นมาทันที
ป้านิ่มเรียกดาวเรืองเข้ามาแนะนำตัวกับลูกชายคนโตของบ้าน
“ดาวจ๊ะ… นี่คุณคมน์”
ป้านิ่มแนะนำชายหนุ่ม ในชุดสูทสีดำยิ่งทำให้คมน์ดูสมาร์ท มีออร่าผู้บริหารเด่นชัด โครงร่างสูงใหญ่แบบลูกครึ่งฝรั่งยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาสะดุดตา แต่แววตาคมดุที่มองมา ก็ทำเอาดาวเรืองรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ
“สวัสดีค่ะคุณคมน์… หนูชื่อดาวเรืองค่ะ”
หญิงสาวแนะนำตัวเอง
คมน์จ้องมองดวงหน้าสวยหวาน ตาคมกลมโต จมูกโด่งเป็นสัน ผมสีดำยาวสลวยลงมาประบ่า ริมฝีปากจิ้มลิ้มเซ็กซี่สะดุดตา
“ดาวเรือง… ชื่อเชยจัง”
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
“ฮึ่ก... พอแล้วหนูเสียว ฮือๆ ไม่ไหวแล้วค่ะคุณลุงขา” มือเรียวของฉันขยุ้มศีรษะของลุงทอมเอาไว้แน่น ลิ้นของเขาไล้เลียนุ่มนวล สลับกระแทกเสียบรุนแรง ฉันยอมรับว่าทรมาน แต่ใจจริงก็ชอบ… มันเสียวซ่าน ไม่อยากให้เขาหยุด ลุงทอมเลียเก่งเหลือเกิน “ของหนูสวยมาก… ฟิตแน่นดูดลิ้นลุงดีจัง” ลุงทอมชำแรกเรียวลิ้น ไชชอนกลีบเนื้อสีชมพูนุ่มอ่อนบอบบางของฉันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งแบะทั้งบีบกลีบสวาทออกมาไล้เลีย สลับไปมาทั้งสองข้างซ้ายขวา เสียงดังจ๊วบจั๊บหนับหนุบ “ฮื่อๆ…. ลุงขาหนูเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว” ฉันขยับสะโพก ยกหนอกเนินสวาทกระแทกสวนใบหน้าของลุงทอมที่ก้มงุดอยู่ตรงง่ามขา เบิร์นน้องสาวฉันไม่ลืมหูลืมตา เมามันจนแทบไม่อยากเงยหน้ากลับขึ้นมาหายใจ คาวสวาทของฉันคงหอมถูกใจแก กระตุ้นอารมณ์ลุงทอมจนออกอาการหลงใหลอย่างที่เห็น
“อ๊ะ… ซี้ดดดดดดด… ” เสียงร้องครางหลุดออกมาจากริมฝีปากของยาดาที่ต้องเผยออ้าทุกครั้งที่ลิ้นของเขาปาดเสยเข้าใส่กลีบสาว ไม่เพียงแค่เลีย แต่ยังสอดนิ้วเข้ามาบดคลึงเม็ดกระสัน ยิ่งทำให้หล่อนเสียวซ่านสุดจะบรรยาย “อู้ววว… กลีบอวบอูมดีจัง” น้ำเสียงสะใจ หลังจากจู่โจมด้วยปลายลิ้นจนน้ำคาวสวาทของหญิงสาวหลั่งไหลออกมาอาบชุ่มสองกลีบ ขมิบสู้ลำนิ้ว “ว้าว… เยิ้มเร็วมากหนูจ๋า” ท่านประธานชอบใจที่เห็นร่างกายของหล่อนตอบสนองการปลุกเร้า ค่อยๆ หงายฝ่ามือสอดเข้ามาระหว่างง่ามก้นด้านหลัง ตะล่อมโอบพูเนื้อโหนกนูนเหมือนกับหลังเต่าคว่ำลงมาประกบกับอุ้งมือพอดี “อ๊า… ซี้ดดดดดด… ” ยาดาร้องครวญครางออกมาด้วยความสยิว นิ้วของเขาไม่เพียงแค่ไล้ลูบ แต่ยังตวัดรัวแหวกร่องแล้วสอดใส่เข้ามาในความฝืดคับ
ทีปต์อุทานเบาๆ กับภาพที่เห็น… มาลิลล์กำลังนอนหงายอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่าล่อนจ้อน โดยมีหมอนสีขาวสองใบรองไว้ที่แผ่นหลัง ทำให้สองเต้าคัพเอฟอวบใหญ่มหึมา นูนเด่นอวดสายตาของทีปต์ และสิ่งที่ทำเอาเลือดกำเดาของทีปต์แทบสาดทะลักออกมา ก็คือของดีที่กำลังเปิดเปลือยอยู่ระหว่างเข่าสองข้างตั้งชัน มือข้างหนึ่งจับกล้วยหอมดุนดันเข้าออกเป็นจังหวะ “อ่า… ลุงทีปต์จ๋า กระแทกหนูเถอะค่ะ… อูย… ของลุงใหญ่เหลือเกิน… ซี้ดดดด… เห็นแล้วอยากสุดๆ” มาลิลล์หลับตาพริ้ม…
“อ๊อย... ” หล่อนร้องคราง เมื่อหนวดเคราสากระคาย ปักทิ่มลงบนผิวเนื้ออ่อนๆ ของทรวงอก ทำเอาเส้นขนลุกซู่ สองเต้าขยับยก หัวนมชูชันรับเคราแข็งปักทิ่มลงมาไม่ยั้ง แอ่นสองเต้าสู้ริมฝีปากของพ่อเลี้ยงดามพ์ ครอบลงมาดูดเลียลนลานหิวกระหาย “อูย... สะ... เสียว... ” เดือนฉายเม้มริมฝีปากแน่น ปลายลิ้นร้อนผ่าวของ พ่อเลี้ยงตวัดรัวรวบหัวนม เลียกินรอบวงป้านหัวนมสลับไปมาทั้งสองข้าง ขณะที่กึ่งกลางกายของหล่อนกำลังโดนนิ้วยาว กระแทกยัดเข้าใส่รูเสียงดังพลั่กๆ น้ำหล่อลื่นทะลักออกมาอาบเลื่อมลำนิ้วของเขา “นมก็เต่งตึง... ร่องก็ฟิตแน่นดีเหลือเกินเดือนจ๋า... อ๊า ดูสิ... น้ำเยิ้มออกมาแล้ว” สีหน้าของพ่อเลี้ยงบ่งบอกความสะใจ ที่เห็นอารมณ์ของหล่อนกระเจิดกระเจิง ก็ใครจะทนไหว โดนหนักขนาดนี้ ไม่อ่อนระทวยก็เกินไป เพราะว่าพ่อเลี้ยงจอมหื่นจู่โจมทั้งหัวนมและร่องสวาทของหล่อนไปพร้อมกัน
“โอ๊ย... ” ใบบัวร้อง เมื่อร่างสูงใหญ่โถมเข้าหาร่างเล็กๆ ที่พยายามกระถดกายถอยหนีจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับผนังด้านหนึ่งของห้อง “มานี่... ดื้อนักใช่ไหม เถียงเก่งนักใช่ไหม” ขาข้างหนึ่งของใบบัวถูกคว้าแล้วกระชากออกมาที่กลางเตียง ก่อนที่ร่างกำยำจะโถมทับลงไปบนเรือนกายบอบบางน่าเวทนา “ถ้าคิดว่าร่างกายของบัวสามารถทดแทนบุญคุณที่คุณอาอุปการะเลี้ยงดูมา... ก็เชิญคุณอาตักตวงเอาให้สาสมใจเถอะค่ะ” ใบบัวเชิดหน้าขึ้นท้าทายทั้งน้ำตาคลอเบ้า “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง... ฉันเอาเธอแน่ๆ” ทันทีที่พูดจบมือใหญ่ก็กระชากเสื้อของเธอจนขาดวิ่นออกจากกันเสียงดังแคว่ก ก้มหน้าลงจูบฟัดทรวงอกอวบใหญ่ที่ผุดออกมาตรงหน้าอย่างหิวกระหาย สลับจูบไซ้ขึ้นไปที่ซอกคอเสียงดังฟืดฟาด เพราะพ่อเลี้ยงกระสันหาโอกาสนี้มาตลอด หากแต่สำนึกในความเหมาะสมก็ทำให้เขาพยายามยับยั้งชั่งใจมาโดยตลอด... แต่วันนี้เห็นทีจะไม่ พอโดนจูบหนักๆ เนื้อตัวของสาวน้อยก็อ่อนระทวยลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทรวงอกอวบอัดแอ่นหยัดรับริมฝีปากของคุณอาที่ดูเลียยอดถันสองข้างสลับไปมาอย่างเมามัน “อื๊อ... อ๊า” ใบบัวพริ้มตา ทันทีที่เขาครอบริมฝีปากเข้ากับหัวนมแล้วดูดลึกลงไปจนสุดฐานป้านสีชมพูพร้อมกับไล้ลิ้นวนเลียจนยอดทรวงอกของสาวน้อยปูดปลิ้นอยู่ในอุ้งปากของเขา
เอ๋ สาวโรงงานที่มีคำถามอยู่ในหัวตลอดเวลาว่า คนเราตายแล้วไปไหน แต่ไม่มีใครสามารถให้คำตอบเธอได้เลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนรักอย่างชลดา ที่มาด่วนจากไปเมื่อ 5ปีที่แล้ว หรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเองที่เพิ่งจะเสียไปเมื่อ 3เดือนก่อน แล้วตอนนี้ สำหรับเอ๋ ไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว นอกจากเพื่อนสนิท ที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียว เช่น พร อยู่มาวันหนึ่งเอ๋ได้ฝันถึงชลดา เพื่อนรักอีกคนที่จากไปแล้ว ในฝัน ชลดา บอกกับเธอว่า หลังจากที่ตายไปแล้วชลดาก็ไปมีสามีและมีลูก เธอยังพูดกับชลดาว่า มันจะเป็นไปได้ยังไง ตายแล้วไหนจะไปมีสามีมีลูกได้เล่า และในฝัน ชลดาบอกว่านี่เป็นคำตอบสำหรับตัวเธอว่าตายแล้วไปไหน ส่วนคนอื่นเธอไม่รู้จริงๆ ว่าตายแล้วไปไหน แต่ตัวชลดาเองบอกกับ เอ๋ ว่าตายแล้วไปมีสามีและมีลูก เช้าวันต่อมา เอ๋ก็ไปทำงานตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ เอนก แฟนหนุ่มของเธอ จะเกิดอะไรขึ้นกับเอ๋ และเอ๋จะได้คำตอบเป็นของตัวเองหรือไม่ เราไปร่วมลุ้นหาคำตอบไปด้วยกันค่ะ
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
ตระกูลซูล่มสลาย จวนเจิ้นกั๋วทั้งตระกูลถูกประหารชีวิตในคืนเดียว ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งถูกน้องสาวหลอกใช้ ถูกชายเจ้าชู้เล่นตลก ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งใช้ชีวิตอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่แคว้นเป่ยเหลียงสิบกว่าปี แต่กลับถูกกล่าวหาว่าคบคิดกับศัตรู คนทั้งแคว้นเซิ่งถังต่างก็ด่าทอยกใหญ่ ชาติก่อน… ซูเฉิงอิ้งต้องยืนมองน้องสาวกับรักแรกของตนสนิทสนมกัน ครองโลก ส่วนตัวเองกลับโดนประหารชีวิต เลือดสาดตะวัน เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้ง… ซูเฉิงอิ้งถือดาบกลับมา ฟาดแรก… ตัดสายเลือด ฟันน้องสาวอกตัญญู ฟาดที่สอง… ตัดความรัก ฟันรักแรกที่หน้าเนื้อใจเสือ ฟาดที่สาม… ตัดคำพูด ฟันทุกเสียงนินทาของเป่ยเหลียงที่บิดเบือนความจริง ฟาดที่สี่… ตงฟางไป๋เยว่ “หรือว่าฮูหยินอยากจะฆ่าสามีผู้นี้ด้วยหรือ” ซูเฉิงอิ้ง“หุบปาก…”
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เขา คือเฮดว้ากตัวร้ายที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุ! โหด! ส่วนเธอคือเด็กปีหนึ่งที่ไม่เคยเกรงกลัวเขาเลยสักนิด ยิ่งได้รู้จักทำให้เขารู้ว่า เธอ! ไม่ใช่วัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เธอปิดบังอะไรอยู่กันแน่ เขาจะต้องรู้มันให้ได้! ซีรีส์ชุดมาเฟียตามรัก ประกอบด้วยเรื่อง 1.ยัยตัวร้ายกับนายสายโหด จบแล้ว 2.เฮดว้ากตัวร้ายกับยัยมาเฟีย จบแล้ว
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด