“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
“พลอย...มีคนมาขอพบเธอแน่ะ เขารออยู่ในสวนข้างห้องอาหารของรีสอร์ทจ้ะ”
เสียงที่ดังขึ้นทำให้ร่างเล็กบอบบางซึ่งอยู่ในชุดพนักงานเสิร์ฟของห้องอาหารในรีสอร์ทหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาวางถาดในมือลง หญิงสาวเจ้าของใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตเป็นประกาย จมูกโด่งและริมฝีปากเป็นกระจับสีชมพูอ่อนภายใต้กรอบเรือนผมยาวดำขลับย่นคิ้วด้วยความประหลาดใจ
“ใครน่ะ มิ้นท์...เขาบอกหรือเปล่าว่าชื่ออะไร?”
พลอยพิชญาถามด้วยความสงสัยและเห็นมินตราเพื่อนของเธอทำหน้าครุ่นคิด
“เขาแค่บอกว่าต้องการพบพนักงานเสิร์ฟที่ชื่อพลอยพิชญา และเขาจะขอคุยธุระด้วยไม่นาน อืม...แต่...เขาเป็นคนต่างชาติ หล่อมากเลยนะ”
“ผู้ชายต่างชาติ...งั้นหรือ?”
ร่างเล็กบอบบางรำพึงคำถามกับตัวเอง หญิงสาวหันไปยังห้องอาหารที่มีแขกนั่งบางตาก่อนบอกกับเพื่อนของเธอ
“มินท์...ถ้าอย่างนั้นพลอยจะออกไปพบเขาก่อนก็แล้วกัน ทางนี้ฝากมิ้นท์แป๊บนึงนะ”
“โอเคจ้ะ”
มินตรารับปากก่อนที่พลอยพิชญาจะเดินออกไปทางประตูด้านหลังห้องอาหารที่มีทางเดินเล็ก ๆ ตรงไปยังสวนดอกไม้ของรีสอร์ท แสงจากโคมไฟในยามราตรีอาบไล้ไปทั่วพื้นหญ้าและและดงดอกไม้สีสันลานตาทั้งยังส่งกลิ่นหอมในยามค่ำคืน แสงสว่างทำให้เธอมองเห็นแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ เขาเป็นชายชาวต่างชาติอย่างที่มินตราบอก และกำลังยืนหันหน้าไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังไหลเอื่อยเบื้องหน้าอย่างเพลินใจ
หญิงสาวชะงักเท้าลงเล็กน้อย เธอคุ้นเคยกับรูปร่างของบุรุษผู้นี้อย่างประหลาด ไหล่กว้างผึ่งผาย เรือนกายและความสูงสมส่วน ผมสีน้ำตาลประกายทองแดงเข้ม เธอคิดวาไม่น่าจะใช่กระทั่งเขาหันมา
“มาเรียส...”
อุทานออกมาเบา ๆ ทว่ามือเย็นเฉียบและตัวแข็งทื่อ กลีบปากบางอ้าค้างเมื่อเห็นใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่ยังประทับในหัวใจไม่เคยลืม
“สวัสดีครับ...คุณคงจะใช่...คุณพลอยพิชญา ธรรมวงศ์ สินะครับ”
“มาเรียส...คุณ...”
หญิงสาวยังตกอยู่ในอาการตื่นตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่รำพึงชื่อนั้นออกมากระทั่งอีกฝ่ายก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าและกล่าวขึ้น
“ผมคือ เบน คริสเตียนเซน...ผมเป็นพี่ชายของ มาเรียส คริสเตียนเซน หวังว่าคุณคงจะจำเขาได้”
พลอยพิชญาเหมือนถูกกระชากออกจากภวังค์คิดเมื่อ เขา แนะนำตัวด้วยภาษาไทยอันชัดถ้อย เธอหายใจติดขัด เขา ไม่ใช่ มาเรียส คริสเตียนเซน คนที่เธอเคยรู้จัก ทว่าหน้าตายิ่งกว่าถอดออกมาจากพิมพ์เดียวกัน
“สะ สวัสดีค่ะ...เอ้อ...ขอโทษทีค่ะ ฉันนึกว่าคุณคือ...”
“มาเรียส...น้องชายฝาแฝดของผมอย่างนั้นหรือครับ?”
เบนแทรกขึ้น นัยน์ตาสีน้ำเงินประกายเข้มมีบางอย่างฉายวาบขึ้นมาทว่าใบหน้าหล่อเหลายังคงเป็นปกติ
“ค่ะ...ฉันนึกว่าคุณคือมาเรียส เพราะหน้าตาคุณเหมือนเขามาก และที่สำคัญ ฉันไม่เคยรู้ว่าเขามีพี่ชายฝาแฝด เอ้อ...ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างคะ?”
หญิงสาวถามถึงคนอีกคนที่เธอไม่ได้พบเขามานานนับปี ใช่...เธอรู้จักมาเรียส แฝดผู้น้องของเบนในฐานะเพื่อนชายของ ดาริน ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเธอและตอนนี้ดารินก็เดินทางไปอยู่ต่างประเทศหลังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันในคืนนั้น
“มาเรียสสบายดีครับ ตอนนี้เขาอยู่ที่บ้านในนอร์เวย์ บนเกาะสกรูวา ในหมู่เกาะโลโฟเตน”
“แล้วเขา...เอ้อ...สบายดีหรือคะ?”
พลอยพิชญาถามด้วยความตื่นเต้นขณะที่เบนยังคงอยู่ในท่าทีเยือกเย็น
“ครับ เขาหายดีแล้ว และที่ผมมาที่นี่ก็มาตามคำร้องขอของเขา”
“คะ?...คำร้องขอ”
ร่างสูงก้าวเข้ามาใกล้เธออีก ใกล้จนหญิงสาวรู้สึกแปลก ๆ ไม่ใช่รังเกียจ แต่ร้อนวูบวาบไปหมดตามเนื้อตัวโดยเฉพาะใบหน้า
“ตั้งแต่ที่เขาประสบอุบัติเหตุและถูกส่งกลับไปรักษาตัวที่นอร์เวย์ เขามักพูดถึงเพื่อนคนหนึ่งของเขาเสมอ เพื่อนที่เขาพูดถึงเป็นสาวไทยตัวเล็ก เธอชื่อ พลอยพิชญา...มาเรียสบอกผมว่าเขาคิดถึงเพื่อนของเขาและอยากให้ผมพาเธอไปหาเขาที่โน่น”
พลอยพิชญาอึ้งไปนานทีเดียว เธอช้อนดวงตาสีน้ำตาลใสมองเขาอย่างไม่เข้าใจระคนลังเล ทำไมผู้หญิงที่มาเรียสคิดถึงจึงไม่ใช่ ดาริน
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
เธอยังคงรักเขา... ผู้ชายที่แต่งงานกับเธอโดยปราศจากความรัก และเขายังคงผูกหัวใจเจ็บแค้น พยาบาทยังฝังแน่นเพราะ เธอ...เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ ทศรัสมิ์เคยมีใจผูกพันกับอณัศยา แต่เมื่อเขาพาเธอไปรู้จักกับครอบครัว กลับกลายเป็นพ่อของทศรัสมิ์ที่หลงใหลแม่ของอณัศยาถึงขั้นหย่ากับแม่ของเขาที่ตรอมใจจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ ความรักของเขาและเธอจบสิ้นลง ทศรัสมิ์หายไปจากชีวิตของอณัศยาจวบจนกระทั่งวันที่เขากลับมาร่วมงานศพบิดาและรับรู้ว่าเขาคือผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านของครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว แม่ของอณัศยาร้องขอให้เขาช่วยเหลือและทศรัสมิ์จะไม่มีวันปฏิเสธโอกาสอันงดงามนี้...โอกาสที่เขาจะได้เอาคืน ล้างหนี้แค้นที่สองแม่ลูกเคยทำให้ชีวิตของเขาแทบสิ้นไร้ทางเดิน
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
เธอคิดว่าพวกเขาจะต่างคนต่างไปหลังจากการหย่าร้าง โดยเขาใช้ชีวิตของเขาเอง ส่วนเธอก็มีความสุขกับเธอไป-- แต่แล้ว... "ที่รัก ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาได้ไหม" ชายใจร้ายที่เคยหักหลังเธอสุดท้ายก็ก้มหัวที่หยิ่งผยองลง "เราคืนดีกันเถอะ ผมขอร้องล่ะ" ซูเชียนชือผลักดอกไม้ที่ชายคนนั้นมอบให้ออกไปอย่างเย็นชา และตอบอย่างใจเย็น "มันสายไปแล้ว"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด