เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
ตอนที่ 1
“บอกแล้วยังไงล่ะเพียงว่าอย่ามาพูดเรื่องนี้กับพี่อีก เรื่องที่จะให้พี่มีเมียอีกคนแล้วแถมจะให้ผู้หญิงคนนั้นมีลูกกับพี่ด้วย ถึงเพียงจะพูดอีกสักกี่หนพี่ก็ไม่อยากฟัง”
น้ำสิงห์ฉุนเฉียวของ จเด็จ เจ้าของปางไม้ชื่อดังสิงหอัครวัฒน์ดังขึ้นในบ้านไม้สักหลังใหญ่ในป่าภายในปางไม้ที่มีอาณาบริเวณกว้างขวางหลายร้อยไร่โอบล้อมด้วยป่าใหญ่เขียวขจีดังขึ้นและแสดงความไม่พอใจนั้นทำให้เพียงกมลภรรยาสาววัย 26 ปีวางแก้วน้ำส้มที่จิบไปเพียงเล็กน้อยลงบนโต๊ะที่หน้าระเบียงห้องนอนซึ่งในขณะนั้นมีเธอและผู้เป็นสามีอยู่เพียงลำพังสองคนในยามย่ำค่ำ มองออกไปด้านนอกเป็นแสงไฟสปอร์ตไลท์ที่ส่องสว่างอยู่ทั่วไปภายในปางไม้อันกว้างใหญ่
“คนที่พี่เด็จว่าเป็นคนอื่นนั่นเป็นน้องสาวของเพียงนะคะถึงแม้ว่าจะเป็นน้องสาวต่างแม่ก็ตามเถอะค่ะ แต่นิ่มเขาก็เป็นน้องสาวคนนึงที่เพียงรักและก็ส่งเสียให้เขาเรียนจนจบมหาวิทยาลัยปีนี้แล้วด้วย”
จเด็จ เจ้าของปางไม้หนุ่มวัย 30 ปีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนผู้ชายชาวยุโรปหันกลับมา ใบหน้าหล่อเหลาจับจิตจับใจนั้นแสดงความเครียดขึ้ง เขาเอ่ยว่า
“ก็นั่นล่ะ...ยิ่งเป็นญาติสนิท ยิ่งมีสายเลือดใกล้ชิดกันมันก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจแล้วถ้าคนทั่วไปรู้เขาจะคิดยังไงเขาจะมองว่าพี่เป็นคนยังไงที่ได้ทั้งพี่ทั้งน้องมาเป็นเมียทีเดียวพร้อมกัน 2 คน”
“นี่เป็นคำขอร้องจากเพียงนะคะ เพียงรู้ค่ะว่าพี่เด็จก็คงจะลำบากใจกับเรื่องนี้ แต่พี่เด็จก็รู้อยู่แล้วนะคะว่าระหว่างเราสองคนมันเป็นยังไง พี่เด็จก็รู้ว่าเพียงมีลูกไม่ได้แล้วเราก็แต่งงานกันมาก็เกือบ 2 ปีแล้ว”
“มีไม่ได้ก็ไม่ต้องมีสิ แล้วทำไมเพียงจะต้องคิดมากกับเรื่องนี้ด้วย”
เขากล่าวและนั่งลงเคียงข้างภรรยาขณะดึงมือบอบบางแต่ว่าซีดเซียวมากุมไว้ขณะนั้นเขาจ้องใบหน้ารูปไข่ เป็นใบหน้าที่งดงามทว่าก็ดูซูบซีดเหลือเกินของเพียงกมล ภรรยาสาวที่เขาแต่งงานอยู่กินกับเธอมาเป็นเวลาเกือบสองปีและนับตั้งแต่แต่งงานก็เริ่มเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพของเพียงกมลซึ่งมันไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อปี 2 ปีหลังจากที่เธอแต่งงานกับเขา แต่จเด็จรู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าภรรยาสาวมีปัญหาในเรื่องสุขภาพเพราะขณะนี้เธอเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดซึ่งก็อยู่ในระยะท้ายๆ เพียงกมลต้องต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่และเธอก็มักตำหนิตัวเองเสมอเรื่องที่แต่งงานอยู่กินกับเขาแต่ก็ไม่สามารถมีลูกให้เขาได้เป็นปมที่ติดค้างอยู่ในใจหากแต่นั่นกลับไม่ใช่เรื่องที่ทำให้จเด็จลำบากใจได้มากเท่ากับการที่เพียงกมลเสนอจะให้เขารับผู้หญิงมาเป็นภรรยาอีกคนเพื่อที่จะมีลูกให้เขา
และผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นน้องสาวต่างมารดาที่เพียงกมลส่งเสียให้เรียนจนจบระดับมหาวิทยาลัย ภรรยาของเขาอ้างว่าได้ทำความตกลงกับนภัทสรีย์ซึ่งเป็นน้องสาวต่างแม่อย่างดีแล้ว ตอนแรกที่เพียงกมลบอกเรื่องนี้ทำให้จเด็จโกรธเคืองมากเขาไม่ได้โกรธจนกระทั่งเกลียดเพียงกมล เพียงแต่เขาไม่ต้องการที่จะรับผู้หญิงคนอื่นเข้ามาอยู่ในในฐานะเมียอีกคนเพราะเขาถือว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดปกติสำหรับตัวเอง ในเมื่อเขามีเมียอยู่แล้วและเขาก็เป็นผู้ชายที่ถือในเรื่องของความรักเดียวใจเดียว ที่เขาไม่ชอบการมีเมียหลายคนนั้นเพราะในอดีตพ่อของเขาเคยทำให้แม่ของเขาเสียใจกับการมีผู้หญิงหลายบ้านและเขาเองก็มีปมด้อยมาตั้งแต่เด็กกับการที่พ่อของเขาเป็นคนเจ้าชู้ เขาจึงไม่อยากทำตัวเหมือนพ่อของเขา ไม่อยากทำตัวเป็นผู้ชายร้อยเล่ห์หลายใจมีเมียหลายคนอย่างที่พ่อของเขาเป็น หากแต่เมื่อเขาปฏิเสธ เพียงกมลก็พยายามรบเร้าเขาอยู่เสมอและนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เขาลำบากใจแต่จเด็จเองก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรในเมื่อคำร้องขอนั้นมันมาจากความต้องการของคนที่เขารักและรู้ว่าเธอจะอยู่กับเขาได้อีกไม่นาน
“พี่เด็จคะ ที่เพียงอยากจะให้พี่เด็จมีลูกกับนิ่มมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไรเลยนะคะ เพียงอยากจะเห็นพี่เด็จมีความสุขเพราะเมื่อก่อนนี้ตอนที่เราคบกันใหม่ๆ พี่เด็จเคยบอกกับเพียงว่าอยากจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและความสมบูรณ์แบบนั้นก็คือการที่เราจะต้องมีลูก”
ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
เธอยังคงรักเขา... ผู้ชายที่แต่งงานกับเธอโดยปราศจากความรัก และเขายังคงผูกหัวใจเจ็บแค้น พยาบาทยังฝังแน่นเพราะ เธอ...เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ ทศรัสมิ์เคยมีใจผูกพันกับอณัศยา แต่เมื่อเขาพาเธอไปรู้จักกับครอบครัว กลับกลายเป็นพ่อของทศรัสมิ์ที่หลงใหลแม่ของอณัศยาถึงขั้นหย่ากับแม่ของเขาที่ตรอมใจจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ ความรักของเขาและเธอจบสิ้นลง ทศรัสมิ์หายไปจากชีวิตของอณัศยาจวบจนกระทั่งวันที่เขากลับมาร่วมงานศพบิดาและรับรู้ว่าเขาคือผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านของครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว แม่ของอณัศยาร้องขอให้เขาช่วยเหลือและทศรัสมิ์จะไม่มีวันปฏิเสธโอกาสอันงดงามนี้...โอกาสที่เขาจะได้เอาคืน ล้างหนี้แค้นที่สองแม่ลูกเคยทำให้ชีวิตของเขาแทบสิ้นไร้ทางเดิน
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก