ไม่มีใครรู้ว่า นันทินี เลขาของ เจตต์ มีงานอีกอย่างคือการเป็นนางบำเรอลับๆ ของเขา กระทั่งวันหนึ่งเธอไม่สามารถทำหน้าที่นั้นต่อไปได้เพราะนันทินีหลงรักท่านประธานสุดหล่อ เธอตัดสินใจลาออกแต่เขากลับไม่ยินยอม ก็ในเมื่อเธอจากไปพร้อมหอบลูกในท้องของเขาไปด้วย
“ท่านประธานคะ...วันนี้มีประชุมด่วนตอนเช้านะคะ”
นันทินี เลขาสาวสวยวัยยี่สิบเยี่ยมหน้าเข้าไปในห้องทำงานโอ่อ่าแล้วต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าข้างในปราศจากเงาของคนที่หล่อนต้องการพบ หญิงสาวร่างระหงในชุดสูทเรียบเก๋ สวมแว่นตาอย่างสาวออฟฟิศก้าวเข้าไปแล้วปิดประตู แต่ทันใดนั้นก็ต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ ถูกท่อนแขนแข็งแกร่งรวบเอวบาง ใครคนหนึ่งโอบกอดหล่อนไว้จากด้านหลัง กลิ่นโคโลญจน์หอมอวลแตะจมูก เป็นกลิ่นที่หล่อนจำได้
“อุ๊ย! ท่านประธานคะ...ทำอะไรคะเนี่ย” หล่อนร้องออกมาทั้งที่ถูกสวมกอดจากข้างหลัง เสียงของหล่อนแหบพร่ามากกว่าร้องออกมาด้วยความตกใจ
“นุ่น...วันนี้มีประชุมอีกเหรอ” เจตต์ ประธานบริหารระดับสูงสุดของ วัฒนรักษ์ กลุ่มบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเครือทั้งในและต่างประเทศกระซิบถาม นันทินีหันไปเผชิญหน้ากับเขาในระยะประชิด ท่านประธานของหล่อนคือหนุ่มวัยสามสิบสองหน้าตาหล่อเหลาบาดจิต รูปร่างสูงใหญ่เพราะมีเชื้อสายของชาวต่างชาติ เจตต์เป็นนักธุรกิจระดับแถวหน้าที่มีชื่อเสียงในวงสังคมระดับสูง เป็นที่หลงใหลคลั่งไคล้ของสาว ๆ แม้แต่พนักงานในบริษัทก็ยังแสดงออกว่าต่างหลงเสน่ห์ความเท่ห์ หล่อร้าย แต่ไม่มีใครรู้ระแคะระคายว่าแท้จริงแล้วเขามีความสัมพันธ์ลับ ๆ กับเลขาสาวที่เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วยส่วนตัวกับเขาเป็นเวลาเกือบสามเดือน นันทินีเรียนจบแค่ระดับอาชีวศึกษา แต่หล่อนเป็นคนสวยและพกความเก่งจนเอาชนะใจ เจตต์รับหล่อนเข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มเปิดเผยความรู้สึกและนันทินีก็ไม่ปฏิเสธเสียด้วย หล่อนยอมเป็นของเขาหลังเข้ามาทำงานไม่ถึงเดือน เจตต์ไม่ใช่เจ้านายปากหวาน เขาไม่ใช่ผู้ชายโรแมนติก ตรงข้ามไม่ค่อยพูดจาแต่เด็ดขาดในการทำงาน เขาจะหวานและดึงดูดใจมากก็ตอนมีเซ็กส์ เรื่องนี้หล่อนรู้ดี
“ค่ะ...ท่านประธาน...วันนี้มีประชุมตอนเช้าเลยนะคะ เป็นประชุมด่วนด้วยค่ะ”
“ทำไมต้องด่วนวันนี้ด้วยนะ ถ้าไม่ไปประชุมจะเป็นยังไง”
“ก็ไม่เป็นไงหรอกค่ะ แต่มันอาจจะกระทบกับงานของท่านประธานนะสิคะ”
“ประชุมกี่โมงกันล่ะ”
“เก้าโมงครึ่งค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นเราก็ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงสินะ”
“ท่านประธานจะทำอะไรคะ” หล่อนถามเสียงพร่า ก่อนท่านประธานหนุ่มจะเฉลยด้วยการก้มหน้าลงมาหา ประกบปิดปากเพื่อกลืนเสียงหวานของหล่อนเข้าไปในปากของเขา ฉกลิ้นสากหนาเข้าไปในโพรงปากของเลขาสาว วินาทีนั้นหล่อนก็ระทดระทวยและแทบทรงตัวยืนไม่อยู่ เสื้อสูทของหล่อนถูกดึงออกไปโดยแทบไม่รู้ตัว เจตต์ถอดมันออกจากตัวหล่อนวางกองบนพื้นอย่างไม่ใส่ใจ
“อือ...อ่าส์....ทะ...ท่านประธานขา”
“เราต้องรีบสักหน่อยแล้วนะ นุ่น...อืม...” เขาส่งเสียงงึมงำอยู่บนกลีบปากของหล่อน มือทั้งสองเลื่อนเข้าไปใต้ชายเสื้อเชิ้ตที่เขาดึงมันออกจากขอบกระโปรงตัวสวย ลูบไล้สัมผัสรอยนูนบนลูกไม้บราเซียที่แนบบนสองเต้าอวบอิ่ม เจตต์พ่นลมหายใจร้อนรุ่มออกมาราดรดบนหน้าของนันทินี หล่อนอ้าปากรับลิ้นร้อนของเขาที่ฉกเข้าไปลิ้มรสหวาน สักครู่เขาช้อนร่างนั้นขึ้นแล้วอุ้มหล่อนไปยังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ วางหล่อนให้นั่งแล้วถอดเสื้อสูทของตัวเองออก ทิ้งมันลงพื้นอย่างไม่ใยดี เจตต์ไม่เสียเวลาถอดเสื้อเชิ้ตออก เขาประชิดเข้าหา ยืนตรงกลางระหว่างเรียวขางามที่เขาจับมันแยกออก ท่านประธานหนุ่มลูบไล้ถุงน่องสีดำตั้งแต่ขาอ่อนลงมาถึงปลีน่องขาวเนียน ในช่วงเวลานั้นนันทินีหอบหายใจด้วยความเสียวซ่าน บ่อยครั้งที่หล่อนกับเจตต์มีเซ็กส์กันอย่างเร่าร้อนในห้องทำงาน ทั้งบนโซฟา บนโต๊ะทำงาน บนพื้นห้อง แต่ดูเหมือนวันนี้เขาเร่าร้อนเป็นพิเศษ ทุกครั้งเขาจับหล่อนถอดเสื้อผ้าจนหมด และเขาเองก็ถอดจนหมดเช่นเดียวกัน แต่วันนี้เขารีบเร่งอย่างแปลกประหลาด เจตต์ถลกกระโปรงสั้นขึ้นและถอดสายรัดถุงน่องบนเรียวขานวลเนียน เขารูดจีสตริงสีชมพูพ้นจากขาเรียวงามแล้วจับเข่าทั้งสองของหล่อนให้แยกถ่างกว้าง
“อ๊า...ท่านประธาน...ซี๊ดดดด....อ่าส์...อูยยยย....ซี๊ดดดด”
เธอยอมทนให้เขาดูถูก เป็นแม่ของลูกให้สามีของพี่สาว จเด็จ - นภัทสรีย์ นภัทสรีย์ ยอมรับข้อเสนอมีลูกกับ จเด็จ สามีของ เพียงกมล พี่สาวต่างแม่ที่มีปัญหาสุขภาพไม่สามารถมีลูกได้และชีวิตอาจไม่ยืนยาว เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เพียงกมลส่งเสียให้เธอเรียนจนจบ ทั้งที่ จเด็จไม่เห็นด้วยแต่แรกและแสดงท่าทีรังเกียจเพราะคิดว่า นภัทสรีย์อยากได้สามีของพี่สาว และยิ่งกว่านั้นคืออยากได้มรดก แต่แล้วเขาเองเผลอมีความสัมพันธ์กับนภัทสรีย์จนเธอตั้งท้อง แต่เพียงกมลกลับเสียชีวิตเสียก่อนน้องสาวคลอด เมื่อไม่มีพี่สาวแล้ว นภัทสรีย์ก็ตัดสินใจยอมจากไปทั้งที่อุ้มท้องแก่เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าเธอไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น ทั้งทรัพย์สมบัติและที่ดินแม้จะรักสามีของพี่สาวที่รังเกียจเดียจฉันท์เธอ ไม่ต้องการเป็นแค่ เมียแทนรัก ถึงเวลานั้นจเด็จจึงรู้ใจตัวเองว่าเขารักเธอมากแค่ไหน และไม่สามารถปล่อยเมียกับลูกไปจากชีวิตของเขาได้
“มาเรียสจะไม่เป็นอะไร เขาจะไม่บาดเจ็บอาการสาหัสและต้องตายถ้าคนที่ขับรถพาเขาไปคืนนั้น ไม่ใช่คุณ!” เบน คริสเตียนเซน จะไม่ยอมสูญเสียน้องชายฝาแฝดของเขาไปโดยไม่ได้ลากตัวคนผิดมาลงโทษ เขาล่อหลอก พลอยพิชญา มายังสกรูวา แห่งหมู่เกาะโลโฟเตนเพื่อจองจำเธอไว้กับอเวจีชั่วนิรันดร์ในสวรรค์ของชาวไวกิ้ง เขาคือมัจจุราชที่จะลากเธอลงสู่ห้วงลึกที่สุดของมหาสมุทรแห่งความสิ้นหวัง ทว่าเธอกลับยินดีชดใช้ความผิดแม้แลกด้วยวิญญาณที่ถูกร้อยรัดจากความชิงชัง หากแต่พิศวาสเถื่อนนั้นคือการลงทัณฑ์หรือเสน่หาที่พันธนาการตัวเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
ภารกิจสำคัญของ อลินทิรา คาฮานา สายลับสาวลูกครึ่งไทย เวเนซูเอลา หรือที่รู้จักในองค์กรว่า ออลโซย่า คือการโจรกรรมข้อมูลสำคัญของธาตุชนิดใหม่ที่สามารถพัฒนาเป็นอาวุธ ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงกว่านิวเคลียร์ สายลับแสนสวยมือหนึ่งได้ข้อมูลนั้นไป แต่เธอกลับต้องพบกับความจริงอันน่าพรั่นพรึงยิ่งกว่า เพราะเธอกำลังถูกตามล่า ไม่ใช่แค่องค์กรลับที่สั่งเธอมา แต่ยังมีเขา แดเนียล ไพรซ์ เทพบุตรผู้หล่อเหลาเกินใครในตระกูลขุนนางเก่าอันมั่งคั่ง มาเฟียผู้หยิ่งทะนงและเลือดเย็นเจ้าของข้อมูลลับที่ถูกโจรกรรม เขาควานหาตัว ออลโซย่า แทบพลิกแผ่นดิน แต่เมื่อได้ตัวเธอมา เขากลับ ฆ่า เธอด้วยเสน่หาและพิศวาสร้อนแรง
เมมนอน ราชองครักษ์หลวงแห่งฟาโรห์รามเสสมหาราช ผู้มีหัวใจรักมั่นคงต่อเจ้าฟ้าหญิงเนเฟอร์ติตี หากเมื่อถูกหักหลัง รักจึงกลายกลับ เป็นความเคียดแค้นชิงชังอย่างมิอาจเลี่ยง เนเฟอร์ติตี เจ้าฟ้าหญิงแห่งนครธีปส์ พระราชธิดาในฟาโรห์รามเสสและพระมเหสีเอกเนเฟอร์ตารี พระชนมายุ ๑๗ ชันษา หัวใจของนางมอบไว้แด่ราชองรักษ์หลวงเมมนอนผู้เดียวเท่านั้น “เมมนอน…เกิดอะไรขึ้น…ท่านบาดเจ็บ” “อย่ามาแสร้งว่าท่านเป็นห่วงเป็นใยข้าเจ้าหญิงเนเฟอร์ติตี !” เมมนอนคำรามลั่นพร้อมทั้งดึงข้อพระบาททั้งสองจนร่างทั้งร่างของเจ้าหญิงเซเข้าหาร่างสูงใหญ่ เนเฟอร์ติตีสั่นไปหมดด้วยไม่เคยเห็นชายหนุ่มโกรธมากขนาดนี้ หากดูเหมือนทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่น้ำพระเนตรของเจ้าหญิงซึ่งเคยเป็นที่รัก มีแต่จะเดือดดาลและบีบข้อพระหัตถ์แรงขึ้น “เมมนอน…. ท่านเป็นอะไรไป ข้าเจ็บ!” “เนเฟอร์ติตี…ท่านคงรู้เห็นกับรามเสสส่งคนไปกำจัดข้าในการเดินทางครั้งนี้ แสร้งทำดีให้ข้าไปอาบูซิมเบลแล้วตลบหลังด้วยการส่งนักฆ่าขึ้นไปบนเรือหลวง เท่านั้นไม่พอ พวกท่านอำมหิตนักแม้แต่ทหารที่ไปกับข้าก็ไม้ละเว้นชีวิตเพื่อให้ใครๆเข้าใจว่านี่เป็นการปล้นสะดมต์ บอกข้าสิเนเฟอร์ติตี…บอกข้าว่าหัวใจของท่านทำด้วยอะไรถึงได้โหดร้ายยิ่งกว่าอนูบิส!” “หยุดปรักปรำข้าเดี่ยวนี้! ข้าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งใดที่ท่านกล่าวมา ท่านน่าจะรู้ว่าข้ามิเคยคิดจะทำอะไรเช่นนั้น” เสียงนางอ่อนลงในตอนท้ายราวจะบอกให้รู้ว่าความอาลัยนั้นยังติดลึกในใจมากเหลือเกิน หากสำหรับราชองครักษ์หนุ่มกลับคิดตรงกันข้าม เนเฟอร์ติตีก็เหมือนน้ำผึ้งอาบยาพิษ นางแสร้งทำให้เขาสงสารเพื่อคิดจะพล่าผลาญวิญญานของเขาในภายหลัง “ข้าเคยหลงเชื่อพวกท่าน ยอมมอบชีวิตและความภักดีแก่องค์สมมติเทพแห่งอมุน-รา เป็นนายทหารที่ยอมตายแทนองค์เหนือหัวได้ทุกเวลา... และสำหรับท่าน ข้าก็ได้มอบความรักอย่างชายคนหนึ่งที่พึงรักหญิงเดียวอย่างสุดหัวใจ หากแต่สิ่งที่ข้าได้กลับคืนก็แค่คำลวงและความทรยศหักหลัง ท่านจงรู้ไว้ว่าข้าหมดสิ้นแล้วซึ่งความไว้วางใจ ระหว่างท่านกับข้าให้มันเหมือนสายน้ำไนล์ที่ไหลไปไม่มีวันหวนคืน!”
แม่ทัพเฉิงจิ้นเหอ หนึ่งในแม่ทัพผู้เยี่ยมยุทธถูกส่งตัวมายังดินแดนลับเร้นเพื่อกวาดล้างอำนาจของเหล่ามาร และหนึ่งในเหตุผลที่เขาต้องมาที่นี่ก็เพื่อตามล่า นางมารหมื่นบุปผา ผู้ซึ่งปลิดชีวิตคู่หมายของเขาโดยไร้ความปราณี หากแต่เมื่อเฉินจิ้นเหอได้พบนาง โลกอันเปล่าร้างนั้นเสมือนกลับมาเบ่งบานในหัวใจ ของจอมยุทธผู้ไร้รัก
เธอยังคงรักเขา... ผู้ชายที่แต่งงานกับเธอโดยปราศจากความรัก และเขายังคงผูกหัวใจเจ็บแค้น พยาบาทยังฝังแน่นเพราะ เธอ...เป็นต้นเหตุให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ ทศรัสมิ์เคยมีใจผูกพันกับอณัศยา แต่เมื่อเขาพาเธอไปรู้จักกับครอบครัว กลับกลายเป็นพ่อของทศรัสมิ์ที่หลงใหลแม่ของอณัศยาถึงขั้นหย่ากับแม่ของเขาที่ตรอมใจจนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ ความรักของเขาและเธอจบสิ้นลง ทศรัสมิ์หายไปจากชีวิตของอณัศยาจวบจนกระทั่งวันที่เขากลับมาร่วมงานศพบิดาและรับรู้ว่าเขาคือผู้ครอบครองอาณาจักรธุรกิจหมื่นล้านของครอบครัวแต่เพียงผู้เดียว แม่ของอณัศยาร้องขอให้เขาช่วยเหลือและทศรัสมิ์จะไม่มีวันปฏิเสธโอกาสอันงดงามนี้...โอกาสที่เขาจะได้เอาคืน ล้างหนี้แค้นที่สองแม่ลูกเคยทำให้ชีวิตของเขาแทบสิ้นไร้ทางเดิน
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว