ฉันจะต้องร้ายที่สุด ฉันจะต้องงามที่สุดในปฐพีและฉันจะต้องเก่งที่สุด 'หม่านซื่อหลิง'สาวโชคร้ายผู้เกิดอุบัติเหตุ(นอน)เสียชีวิตและได้รับชีวิตใหม่ในร่างนางร้าย!
ฉันจะต้องร้ายที่สุด ฉันจะต้องงามที่สุดในปฐพีและฉันจะต้องเก่งที่สุด 'หม่านซื่อหลิง'สาวโชคร้ายผู้เกิดอุบัติเหตุ(นอน)เสียชีวิตและได้รับชีวิตใหม่ในร่างนางร้าย!
"คุณหนูเจ้าคะ แย่แล้วเจ้าค่ะ!" บ่าวรับใช้มวยผมสองข้างวิ่งเข้ามาหาร่างบางที่ที่นั่งปลูกผักอยู่ในบริเวณจวนของตนอย่างมีความสุข
แต่ความสุขของนางก็ต้องเป็นอันจบลงเมื่อคนที่ได้ชื่อว่าพ่อผู้มิเคยหันหัวมามองนางเลยในคราเดียว เพราะนางดื้อรั้นเป็นที่สุด ได้กลับมาที่จวน
"คนพรรณนั้นอย่าสนเลย เอาเวลามาทำมาหากินยังมีประโยชน์กว่าเยอะ" หญิงสาวพูดไปพลางปลูกผักไป
"มะ..ไม่ได้นะเจ้าคะคุณหนู! หากท่านเสนาบดีไม่เจอคุณหนูที่นั้นข้ากับท่านจะโดนโบยเอาได้นะเจ้าคะ" บ่าวรับใช้พูดขึ้นพร้อมกับหยิบจอบของร่างบางไปเก็บเข้าที่
"นิ! เจ้าทำอะไรนะ ปลอบจอบเดี๋ยวนี้นะ"
"หากท่านไม่ไปข้าก็ไม่ปล่อยเจ้าคะ ไปแค่เคอเดียวไม่ตายหรอกนะเจ้าคะคุณหนู" หญิงทั้งสองพลางดึงจอบกันไปมาก่อนร่างบางจะเป็นฝ่ายปล่อยจอบไป
ข้ามิอยากไปเลยเห็นหน้าแล้วแทบเอียน พอเห็นสายตาเหยียดหยามพวกนั้นตัวเราก็แทบอยากจะเดินหนีเสียอย่างนั่น หน้ารำคาญ ทำไมข้าจำต้องเกิดมาอยู่ในร่างเด็กนี้ด้วยนะ!
ทั้งๆที่ตัวเลือกมีมากมายแท้ๆเหตุใดจึงมิยอมให้ตัวข้านั้นเกิดมาอยู่ในร่างนางเอกเสียเล่า
"เจ้ายืนงงอะไร ไปเตรียมชุดให้ข้าสิจะได้รีบๆไปรีบๆกลับ!" ร่างระหงพูดขึ้นก่อนบ่าวรับใช้จะฉีกยิ้มดีใจขึ้น นางรีบวิ่งเข้าไปในจวนหลังเล็กภายในมีเสียงกุกกักเล็กน้อยเหมือนกำลังหาบางอย่าง
'เฮ้อ... ข้าควรทำเช่นไรดีจะกลับไปที่โลกเดิมก็ไม่ได้จะหนีก็ไม่มีที่พึ่งพิงเสียด้วยสิ ข้าละอยากถอนหายใจเป็นสีรุ่งเสียจริง'
ร่างระหงพลางครุ่นคิดหนัก แต่นางจำต้องจำใจอยู่ต่อไป ตลอดชีวิต นางอยากตายอีกรอบแม้คราวจะได้ไปอยู่ในปรโลกก็ตาม
____________________________________
"คุณหนูเจ้าคะ คุณหนูงามมากเลยเจ้าค่ะ" ร่างระหงพลังมองกระจกทองเหลืองที่สะท้อนใบหน้าของตนแม้เลือนลางนักแต่รับรู้ได้ว่ามันสวยงามมากจริงๆ
"ฝีมือแต่งหน้าของข้าไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว" ร่างระหงชูสองนิ้วขึ้นแนบใบหน้า จนทำให้บ่าวของตกอยู่ในอาการงุนงงและยังทำตัวไม่ถูกกับกิริยาของเธอ
"สองรองใคร? คืออะไรเจ้าคะ" บ่าวร่างเล็กเปล่งวาจาใส่เธอด้วยความงุนงงสงสัย
"เอาเป็นว่ามันมีความหมายดีละกัน" นวลระหงส์ยิ้มหวามใส่บ่าวที่กำลังยืนอยู่ข้างหลัง
"เจ้าคะคุณหนู" บ่าวรับใช้เอ่ยตอบพร้อมยิ้มน้อยๆให้เธอ
ในชีวิตของฉันสิ่งที่ฉันไม่อยากทำที่สุดคือการพบเจอครอบครัว(ลวงๆ)ของตัวเอง... แต่ว่าในเมื่อมันเลี่ยงไม่ได้ก็ต้องจำใจ แม้ในสายตาของทุกคนจะคิดว่าฉันเป็นคนเลวทรามก็ตาม
เพราะอะไรนะเหรอก็เพราะเจ้าของร่างเก่าล่ะสิ พาลกับคนอื่นเขาไว้เยอะจนสุดท้ายตนเองก็กลับจนตรอก ในที่สุดก็สิ้นใจเพราะตัวพระ ไปรักกับตัวนาง เห้อ..น่าสงสารๆ
ฉันพยายามหาทางกลับโลกปัจจุบันแต่มันก็ทำไม่ได้ แม้จะกลับไปในที่เดิมๆก็แล้ว ทำอะไรอะไรบ้าๆก็แล้วผลสุดท้ายก็ต้องจำใจรับชีวิตที่เหลือของ 'นางร้าย' ในนิยายที่ตนเองอ่าน
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ หลายเดือนที่แล้ว
____________________________________
1 เดือนก่อนเกิดเรื่อง
ณ มลฑลชานซี ประเทศจีน
'บริษัท หลิวเหว่ย กรุ๊ป'
' ฟึบ ฟุบ ฟึบ ฟุบ ' เสียงลุกๆนั่งๆของร่างนวลระหงบนเก้าอี้หนังตัวโปรด
"นี้ๆ ซื่อหลิง ถ้าเธอจะลุกๆนั่งๆอย่างนี้ ฉันว่าเธอเดินไปหานางเองเลยดีกว่านะ" เสียงเพื่อนสาวคนสนิทเรียกบัดดี้ของตน
"อึ๋ย~ ลี่จางเธอเห็นรึป่าวพอนางได้รับคำชมจากหัวหน้าก็ทำเป็นเขินชักดิ้นชักงอ เหอะ!" ร่างระหงมองหญิงสาวตรงหลังแผ่นกั้นด้วยสีหน้าดุร้ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนเธอจะสะบัดก้นของตนนั่งเก้าอี้อย่างเป็นสุข
เธอเป็นคนขี้รำคาญคนที่ชอบประจบประแจงคนโน่นนั้นคนนี้ ทำไมชอบคำชมนักรึไง ที่เธอพูดหวานใส่บ้างทำเป็นหยิ่งใส่นางคิดว่านางดีมาจากไหนห้ะ!
"เอาน่าๆ เรากลับหอกันดีกว่าอย่ามัวมานั่งมองเสนียดสายตาเลย ฉันเห็นว่าเธอซื้อนิยายมาอ่านด้วยนี้หน่าฉันละอยากลองไปอ่านจะตายอยู่แล้วล่ะ" ลี่จางมองคนหน้างอข้างๆ
เธอคิดว่าเพื่อนสาวของเธอเป็นไบโพล่าเพราะเดี๋ยวหล่อนก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย แต่สิ่งที่ทำให้ฉันชอบเธอคือการที่เธอนั้นเป็นตัวของตัวเองได้อย่างมีความสุข
"เหอะ! ก็ได้กลับก็กลับ!" หญิงสาวทั้งสองลุกขึ้นเก็บโต๊ะสะพายกระเป๋าข้าง สาวเท้าฉับออกไปจากออฟฟิต ตรงดิ่งไปหอพักของตน
____________________________________
ณ หอพัก
ไม่กี่ชั่วโมงหลักจากกลับมาจากออฟฟิตฉันอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ก่อนกระโดดกลิ้งลงบนเตียงนิ่ม มือเรียวพลางหยิบหนังสือเล่มใหม่มาอ่าน
หัวใจเธอโลดเต้นจนแทบจะกระโดดออกมานอกอก เธอนำมือเรียวของตนลูบไปบนปกหนังสือหนาอย่างเปี่ยมสุข
เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างเข้มข้นจนคนติดนิยายอย่างเธอไม่สามารถปล่อยมันออกไปได้ นางเอกก็เป็นขุนแม่ผู้แสนดีเหลือเกิน ส่วนนางร้ายก็แสนร้ายเหลือคำบรรยาย
นิยายดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว ร่างระหงที่นอนราบอยู่บนเตียงถอนหายใจดังเฮือก 'เธอยังอ่านไม่ทันสนุกจบอีกละ' นางคิดอย่าท้อแท้จนที่สุดแล้วเนื้อเรื่องดำเนินมาถึงหน้าสุดท้าย
ร่างระหงอยากรู้เหลือ พระเอกจะคิดอย่างไรกับนางเอกกันแน่ ต่อให้หลับหูหลับตาก็รู้อยู่ว่านางเอกมีใจให้ พระเอกคงไม่ต่างกันนักหรอก แต่เธอสงสารตัวร้ายมากกว่าที่สุดท้ายนั้นตายอย่างน่าเวทนายิ่ง
'ตุ๊บ!' ท่อนไม้หนากระแทกเข้ากลางหลังของร่างระหงอย่างแรง จนคนที่นอนอยู่ถึงกับสะอึก
"อึก! โอ้ย!" สายตาของร่างระหงพร่ามัวจนมองไม่เห็นสิ่งใด
"โอ้ย ใครก็ได้... ลี่จาง..." เธอพลิกตัวไปทางที่ท่อนไม้ฟาดมา ก็ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งยืนอยู่ปลายเตียง ใครกัน..โอ้ยเจ็บ นี่ฉันไปทำอะไรให้
' แล้วม่านตาของเธอก็ปิดลง '
เขา คือเฮดว้ากตัวร้ายที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความดุ! โหด! ส่วนเธอคือเด็กปีหนึ่งที่ไม่เคยเกรงกลัวเขาเลยสักนิด ยิ่งได้รู้จักทำให้เขารู้ว่า เธอ! ไม่ใช่วัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เธอปิดบังอะไรอยู่กันแน่ เขาจะต้องรู้มันให้ได้! ซีรีส์ชุดมาเฟียตามรัก ประกอบด้วยเรื่อง 1.ยัยตัวร้ายกับนายสายโหด จบแล้ว 2.เฮดว้ากตัวร้ายกับยัยมาเฟีย จบแล้ว
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
© 2018-now MeghaBook
บนสุด