คุณพร้อมจะถูกบดขยี้แล้วหรือยัง... เขาเป็นสุภาพบุรุษในฝันของสาว ๆ แต่ภายใต้ท่าทีแสนอ่อนโยนนั้นกลับซุกซ่อนตัวตนอันร้ายกาจเอาไว้อย่างแนบเนียน เขาจะทำให้คุณติดใจในรสกามจนลืมไม่ลง... ใครชอบแนวโคแก่ขอบอกว่าคุณมาถูกทางแล้วค่ะ
เที่ยงคืนกว่าขณะที่ใครต่อใครต่างนอนหลับกันแล้วรถสปอร์ตคันหรูถูกขับเข้ามาที่คฤหาสน์หลังงามเลี้ยวตรงไปยังโรงจอดรถทันที ทว่าเวลาผ่านไปสักครึ่งชั่วโมงแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าเครื่องยนต์จะดับลงและคนขับจะก้าวออกมาสักที เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะภายในห้องขับเคลื่อนสุดหรูที่แม้เครื่องปรับอากาศจะทำงานได้ดีเพียงใด ก็ไม่อาจสู้บทรักร้อนแรงของสองร่างที่กำลังฟัดกันนัวเนียอยู่ได้
ที่นั่งประจำคนขับตอนนี้กลับถูกจับจองไปด้วยสองร่างที่กำลังเคลื่อนไหวเป็นจังหวะจะโคน แม้ที่จะแคบแต่กลับเข้าขากันดีเหลือเกิน ชายหนุ่มทำหน้าที่ขับรถ ส่วนหญิงสาวที่ชุดเดรสเกาะอกถูกรั้งให้ลงมากองอยู่ตรงบั้นเอวเพื่อที่จะทำหน้าที่ควบคุม ‘เกียร์’ ได้อย่างถนัดถนี่ และไอ้เกียร์อันนี้ช่างแข็งกว่าเกียร์ธรรมดาทั่ว ๆ ไป ดังนั้นการใช้มือควบคุมเห็นทีคงจะทำไม่ได้ เธอจึงต้องใช้สิ่งอื่นควบคุมแทน
ร่างอวบอัดกำลังนั่งคร่อมทับกระปุกเกียร์ของชายหนุ่มแล้วทำการเปลี่ยนเกียร์ด้วยการขยับโยกเอวปัดป่ายซ้ายขวาสลับกับการขย่มขึ้นลงอย่างรวดเร็วรุนแรง ยิ่งขย่มแรง ๆ ก็ยิ่งมัน ทำให้เสียงครวญครางสูดปากซี้ดซ้าดกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังปะปนกันเป็นจังหวะอันร้อนเร่าถึงทรวง
“อ๊า...”
หญิงสาวร้องเสียงหลงเมื่อถูกเกียร์ด้านล่างสวนขึ้นมาตอนที่เธอขย่มตัวเองลงไปพอดี ทั้งจุกไปถึงลิ้นปี่ทั้งเสียวแล่นพล่านไปทั่วร่าง ร่องสวาทสาวที่ทำหน้าที่ควบคุมเกียร์ฉ่ำแฉะเสร็จสมติด ๆ กันอย่างที่ยากจะได้รับจากชายส่วนใหญ่
“เสียวเหลือเกิน อ๊า... ซี้ด...”
เสียงครวญครางสูดปากเผ็ดร้อนออกมาจากริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงสดดูแล้วยั่วยวนชวนกลืนกิน แต่นั่นไม่ใช่สำหรับชายหนุ่มที่กำลังเด้งอัดสะโพกกระทุ้งแก่นกายใหญ่โตใส่คนที่นั่งทับเขาอยู่ ต่อให้เย้ายวนแค่ไหนเขาก็ไม่จูบใครสุ่มสี่สุ่มห้า
“ขย่มลงมาแรง ๆ โอว...” เสียงทุ้มพร่าสั่งและเด้งเอวสวน
“อา... ไม่ไหวแล้ว” ตอนนี้เธอร้อนร่านอย่างถึงที่สุดเลยตั้งหน้าตั้งตาขย่มใส่เกียร์ด้านล่างให้เต็มที่ เอาให้มันแตกหักซ่านกระเซ็นกันเลยทีเดียวเพราะนาน ๆ จะได้เจอของดีอย่างนี้ แท่งลำรักอันใหญ่เกินมาตรฐาน อึดทน และพอขยับเข้ามาแต่ละทีจะเสียดสีและชนกระทุ้งไปถึงผนังมดลูกจนเสียวสั่นสะท้านไปถึงตับไตไส้พุง จัดว่าเด็ดถึงทรวง
“อ้า... ซี้ดส์...”
เจ้าของเกียร์ใช้สองมือใหญ่บีบเคล้นสองเต้ามหึมาที่เด้งขึ้นลงล่อสายตาอยู่ตรงหน้า ก้อนเนื้อแข็งสู้มือจนทั้งบีบทั้งขยำอย่างเมามัน พร้อมกับเด้งสวนลำรักอันใหญ่โตอัดใส่ร่องสาวในทุกครั้งที่หญิงสาวขย่มกายลงมาทำให้เจ้าหล่อนครวญครางไม่ได้ศัพท์ทั้งเจ็บและจุก แต่นั่นไม่เท่ากับความเสียวที่มันเข้าไปนวดจุดกระสันส่งให้เธอถึงจุดสุดยอดแทบจะทันทีในทุก ๆ ครั้ง จนต้องใช้สองมือจิกเกร็งลงบนบ่าแกร่งเพื่อใช้เป็นหลักยึด แม้เธอจะได้ปลดปล่อยไปแล้วแต่เขายังเด้งสวนขึ้นมาไม่ยั้ง ทำให้เธอถึงจุดสุดยอดติดกันหลาย ๆ ครั้ง แต่เธอก็ยังสู้ไม่ถอยหวังให้ชายหนุ่มประทับใจเธอที่สุด
“โอว... จะเสร็จอีกแล้วค่ะ อ่า... ซี้ด.... เสียว...”
ร่างอวบอัดขย่มควบแท่งลำยักษ์แรง ๆ คนด้านล่างก็สวนแทงขึ้นมา
หนัก ๆ จังหวะสอดรุกรับกระชั้นถี่หนักหน่วงทำให้รถสปอร์ตคันงามสั่นไหวสะเทือนไปทั้งคัน แต่ตอนนี้ต่างไม่มีใครสนใจอะไรทั้งสิ้น ต่อให้แผ่นดินไหวน้ำท่วมโลกก็มิอาจหยุดยั้งเกมกามของคนทั้งคู่ได้ สิ่งเดียวที่ต้องทำคือไปต่อจนสุดทาง
หญิงสาวเตรียมพร้อมเปลี่ยนเกียร์แล้วกระแทกคันเร่งส่งตัวเองให้พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ขย่มใส่เอ็นร้อนขึ้นลงแรง ๆ ชายหนุ่มสวนอัดแก่นกายใส่ร่องสาวหนักหน่วงเป็นจังหวะถี่ยิบ จนกระทั่งในที่สุดเขาก็ชักแก่นกายออกยกร่างอวบอัดลงวางไว้ที่เบาะข้างคนขับ ถอดปลอกป้องกันที่สวมอยู่ทิ้งแล้วเสียบเอ็นร้อนเข้าไปในปากที่เผยอรออยู่อย่างรู้งาน หญิงสาวดูดมัน
แรง ๆ จนแก้มตอบ ในขณะที่มือก็ล้วงบดขยี้ปุ่มกระสันของตัวเองไปด้วย เธอส่งเสียงครางอู้อี้อยู่ในลำคอ แท่งลำบดกระแทกแรง ๆ สองสามครั้ง และในที่สุดก็ปลดปล่อยความใคร่ทั้งหมดทั้งมวลใส่ปากสาวจนหมด และเจ้าหล่อนเองก็กลืนมันลงไปอย่างรู้หน้าที่
นี่คือเขา... เทวา อมรศิลากุล มหาเศรษฐีผู้เป็นเจ้าของบริษัทลอจิสติกส์อันดับหนึ่งของประเทศ ชายผู้เพียบพร้อมไปด้วยหน้าตาและฐานะ เขาเป็นสุภาพบุรุษในฝันของสาว ๆ แต่ภายใต้ท่าทีแสนอ่อนโยนนั้นกลับซุกซ่อนตัวตนอันร้ายกาจเอาไว้ได้อย่างแนบเนียน หญิงสาวทุกคนที่เคยขึ้นเตียงกับเขาต่างรู้ดี ชื่อเสียงในเรื่องเซ็กซ์อันจัดจ้านดุดันทำเอาพวกเธอติดใจในรสกามจนลืมไม่ลง จนต้องเฝ้าฝันว่าจะได้รับโอกาสนั้นอีกครั้งเมื่อไหร่ นี่เป็นเหตุว่าทำไมเขาถึงได้รับฉายา ‘เทวาแข็งแกร่งประดุจศิลา เยดุจนต้องร้องขอชีวิต’
การได้ร่วมรักกับเขาแม้เพียงสักครั้งยิ่งกว่าการถูกรุมโทรมโดยผู้ชายสิบคนในครั้งเดียว และมั่นใจได้เลยว่าเขาจะพาไปถึงจุดสุดยอดทุกครั้ง นี่เองเป็นสาเหตุให้ไม่ว่าใครต่างใฝ่ฝันที่จะถูกเขากระแทกลงมาสักครั้ง
เขาผู้ไม่เชื่อในรัก แต่ความสัมพันธ์ครั้งเดียวกลับเปลี่ยนเขาไปตลอดกาล ธาริกา สาวน้อยแสนสวยที่ดันไปเข้าตา จักรินทร์ คุณหมอที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นคาสซาโนว่า เธอเป็นคุณหนูที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูมาราวกับไข่ในหิน ซึ่งความรักของพ่อแม่ที่คอยปกป้องดูแลอย่างไม่ให้คลาดสายตาทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด เธอไม่สามารถไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระโดยไม่แจ้งให้พ่อแม่ได้รับรู้ ด้วยเหตุนี้ประสบการณ์รักเหมือนเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันจึงเป็นศูนย์ แน่นอนว่าเรื่องนั้น...เธอยังคงความบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาเป็นคุณหมอหนุ่มที่ไม่เชื่อเรื่องความรัก เมื่อเขาเจอเธอ เขาถูกความงามของเธอดึงดูดจนไม่อาจปล่อยวางได้ เขาต้องได้เธอ เขาใช้ประสบการณ์อันโชกโชนล่อลวงสาวน้อยที่หมายปองได้สำเร็จ โดยการทำข้อแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน เขาจะสอนประสบการณ์บนเตียงให้เธอ แต่ทั้งหมดนี้ ไม่มีเรื่องหัวใจมาเกี่ยวข้อง ทว่าเหตุการณ์กลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อความหวั่นไหวเกิดขึ้นในใจ ด้วยอายุที่หางกันมาก อีกทั้งสถานะทางสังคม กลับเป็นอุปสรรคขัดขวางเส้นทางรักของทั้งคู่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวจะลงเอยอย่างไร โปรดไปติดตามกันค่ะ
เขาต้องกดเก็บความต้องการของตัวเองไว้ภายใต้หน้ากากเย็นชา เพียงเพื่อถูกเธอกระชากออกด้วยความเร่าร้อนเกินต้าน ยั่วรักนายบอดี้การ์ดจอมโหด เรื่องราวของลูกสาวมาเฟียกับบอดี้การ์ดมาดเข้มที่แสนจะเร้าใจ นอกจากปกป้องชีวิตแล้ว เซียวเฟิง ยังได้รับคำสั่งกระชับเป็นพิเศษให้ปกป้องพรหมจรรย์ของหญิงสาว แต่ทว่า เมริสา กลับไม่ยอมให้ความร่วมมือเอาเสียเลย ยิ่งทั้งคู่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามลำพัง ระหว่างหน้าที่และความต้องการของตัวเอง เขาจะเลือกอะไร เพราะเธอแน่ใจอยู่แล้วว่าต้องการเขาแน่นอน
เธอสวยเลือกได้จนสามารถปรายเสือร้ายให้เป็นแมวเชื่อง ๆ ได้ “จีบฉันไม่ง่ายหรอกนะคะ ฉันไม่สนใจจะเป็นของเล่นบนเตียงให้ใคร” “แหมใครจะใจร้ายให้คุณอยู่ในฐานะของเล่นกันล่ะครับ อย่างคุณต้องพิเศษกว่านั้นอยู่แล้ว” “พิเศษแบบไหนล่ะคะ คู่ขา คู่นอนหรือว่าเด็กคุณ” “นั่นสิครับ แบบไหนดี” “คู่นอนดีไหมคะ จบแล้วก็จบกัน ไม่ต้องยืดเยื้อ” “คุณชอบทำให้ผมประหลาดใจอยู่เรื่อยกับความตรงจนน่าใจหาย” “นักธุรกิจนี่คะ อ้อมค้อมไปก็เสียเวลาเปล่า ๆ สู้ยิงประตูเลยดีกว่า” “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้เลยไหมล่ะครับ” ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะเป็นคนเดียวกับผู้หญิงน่ารังเกียจคนนั้น เธอเปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ ที่สำคัญเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ข้างเธอนั้นลูกเขาแน่นอน เพราะฉะนั้นภาระกิจตามจีบแม่ของลูกจึงเริ่มขึ้น ‘กักหัวใจไว้ใกล้รัก’ เป็นเรื่องต่อจาก ‘กองหัวใจไว้ตรงรัก’ เขาเลขาฯ สายโหด เนื่องจากต้องช่วยเจ้านาย เขาจึงได้ทำลายผู้หญิงเลว ๆ คนหนึ่ง แต่ที่ไหนได้ เขากลับมาพบภายหลังว่าเธอยังบริสุทธิ์ ผิดกับทาทางร่านร้ายที่เธอแสดงออกภายนอก และความบริสุทธิ์ของเธอถูกทำลายด้วยน้ำมือเขาเอง เธอกลายมาเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอถูกตัดขาดจากครอบครัว ทว่าวันหนึ่งกลับต้องมาเจอคนที่คิดว่าไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนก็ไม่อยากเจอหน้าเขาอีกแล้ว คนที่เป็นพ่อของลูกเธอ เมื่อค้นพบความจริงบางอย่าง การตกหลุมรักจึงไม่ใช่เรื่องยากเลย เขาจึงเริ่มปฏิบัติการตามจีบแม่ของลูก เธอคิดว่าเขาจะพรากลูกไปจากเธอ แต่ผิดแล้ว เขาต้องการทั้งแม่และลูก และจะกักหัวใจท้องสองไว้กับเขาตลอดไป
เพื่อพิชิตใจแม่ทัพหนุ่มที่หมายปอง นางผู้เป็นองค์หญิงถึงกับปลอมตัวเข้าไปเป็นทหารเพื่อที่จะได้ใกล้ชิดเขา แต่เหตุการณ์มันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเขาเข้าใจว่านางเป็นบุรุษ แล้วนางจะเกี้ยวเขาสำเร็จได้อย่างไร
ดวงใจของมาโปรด เขาคือคุณอาข้างบ้านและคนที่ยื่นมือมาช่วยเธอยามอ่อนแรง เธอ...เด็กสาวจอมซนที่หนีหายไปเสียนาน เมื่อได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขาจะต้องกักเก็บเธอไว้ข้างกายตลอดไป +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ดวงใจอนันต์ เหมือนกามเทพเล่นตลกให้เธอต้องมาพัวพันกับคนที่แอบชอบ ทั้งที่รู้ว่าฐานะต่างกันเหลือเกิน แต่เรื่องของหัวใจมันบังคับได้ที่ไหนล่ะ!
ความงกของนางทำเอาบุรุษทุกคนต้องถอยหนี แม้กระนั้นความงามทำให้คนมาติดพันนางมากมาย แต่นางเล่นเอาพวกเขาเหล่านั้นหมดตัวกันไปทุกครั้ง แล้วอย่างนี้จะมีบุรุษจวนไหนที่จะกล้าแต่งนางเข้าจวน ฉายาท่านหญิงตำลึงทองของนางไม่ใช่ได้มาเล่น ๆ “ข้าจะหาของมากมายมาให้เจ้า เมื่อนั้น เจ้าจะได้เข้าใจว่าในที่สุดแล้ว ของพวกนั้นก็หาได้มีราคาเทียบเท่ากับตัวเจ้า ที่ข้าทุ่มเททุกอย่างให้” ไป่ชางบอกพลางจ้องดวงตาดอกท้อสุกสกาวตรงหน้า มู่หรงเย่วชิงออกอาการเอียงอาย ก้มหน้าลงแล้วหันหนี สองมือจับอยู่ตรงสายชายอาภรณ์แล้วบิดไปมาระบายความเขิน ซึ่งดูได้ยากว่าเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเพียงการซ่อนความดีอกดีใจที่จะได้รับพระราชทานสิ่งของราคาแพงถึงขนาดนั้นกันแน่ “มันจะเป็นของมากมายเพียงใดกันนะ” นางรำพึงรำพัน “มากจนเจ้าคาดไม่ถึงเลยทีเดียว” “หนึ่งหีบหรือเพคะ” “มากกว่านั้น” “หรืออาจจะเป็นสอง” “เจ้าพอใจเท่านั้นเองหรือ” “สตรีไม่ควรละโมบโลภมาก แม้บุรุษผู้นั้นจะนำมาเสนอให้ถึงที่ก็ตามที” นางช่างกล้าพูด! นี่เป็นความคิดของคนที่หลบซ่อนอยู่ องค์ชายชางทำหน้าไม่เห็นด้วย “ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านั้น” “ยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเยว่ชิง ใช่หรือไม่เพคะ” นางแสร้งทำเป็นออกความเห็นแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง ความฉลาดในการเอาตัวเองไปผูกกับบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในอาณาจักรทำให้หลี่อวี้ทั้งขำและเอ็นดูนางในคราวเดียวกัน และยิ่งขบขันมากขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าหลานโง่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเจอกับอะไร
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ