นราวดีผวาสุดตัว เธอพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากเชือกที่มัดเธอเอาไว้บนหัวเตียง เท้าของเธอโดนมัด และร่างของเธอเหลือเพียงบราเซียกับแพนตี้ติดกายเท่านั้น ร่างของเธอค่อยๆ สั่นและเธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน มันช่างรุนแรงและทรมานจนแทบจะขาดใจ เธอต้องการการปลดปล่อย เธออยากจะร้องไห้กับความทรมานนี้เหลือเกิน ร่างน้อยสัมผัสได้ถึงมือหนาอันแข็งกร้าวที่ลูบไล้ร่างกายของเธอ ความหวาดกลัวมาพร้อมกับความปรารถนาที่รุนแรงเกินจะหักห้ามใจ “อื้อ...” เธอครางเสียงสั่นจนสะท้าน รับรู้ได้ถึงรสสัมผัสแปลกใหม่ ริมฝีปากร้อนรุ่มของใครสักคนที่ค่อยๆ ช่วยปัดเป่าความทรมานให้เธออย่างลึกซึ้ง เธอบิดกายเร่าๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อยอดถันถูกดูดดึงด้วยริมฝีปากร้อนๆ เสียงลมหายใจของเขาร้อนแรง เขากัดยอดถันของเธอจนเจ็บแปลบ เธอดิ้นเร่าๆ ถูกตามติดบดเบียดเรือนกายเข้ามาหา ในขณะที่มือของเธอถูกปลดปล่อยจากพันธนาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บทนำ
ว้าย!!!
เอี๊ยด!!!
กรี๊ด!!!
โครม!!!
เสียงหวีดร้อง เสียงเบรกรถเบียดอัดกับถนน เกิดจากเสียงรถชนดังสนั่นไปทั่วบริเวณ นราวดี อภิวัชรโยธิน เด็กสาววัย 15 ปี นั่งตัวสั่นอยู่หน้าพวงมาลัยรถ ก่อนที่ไทยมุงจะเข้ามาดูเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รถพยาบาล เสียงคนพูดกันอย่างแซ็งแซ่ผ่านเข้าประสาทหู ในขณะที่เด็กสาวได้แต่ช็อกกับเกตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอส่ายหน้าไปมาอย่างขวัญเสีย
‘ขับรถยังไง ชนคนท้องตายคาที่’
‘แบบนี้แหละ พวกลูกนักการเมืองใหญ่ พ่อมันก็โกง ลูกมันก็ใจดำ นี่แหละเขาว่าคนดีตายง่าย คนชั่วๆ เลวๆ ตายยาก’
‘นี่ก็คงรอดพ้นจากคดีอีกตามเคย พ่อมันเส้นใหญ่ ถ้าลูกคนอย่างพวกเราๆ มีหวังติดคุกหัวโต’
‘ขับรถเร็วใช่ไหมล่ะ วันก่อนพี่ชายมันซิ่งชนคนตายยังเอาเรื่องไม่ได้เลย’
‘อายุแค่นี้เป็นฆาตกรเสียแล้ว เวรกรรมจริงๆ ประเทศไทย มีแต่เด็กนรก ยิ่งพ่อแม่มันรวยยิ่งเลวทรามต่ำช้า หาดีไม่ได้เลยจริงๆ’
‘กฎหมายหรือจะสู้เงินได้ มันสองมาตรฐานเห็นๆ’
‘รอลงอาญาอีกล่ะสิ ลูกคนรวยก็แบบนี้แหละ กฎหมายไทยน่าจะจริงจังมากกว่านี้นะ’
ไทยมุงวิจารณ์กันไปต่างๆ นาๆ รู้กฎหมายบ้างไม่รู้กฎหมายบ้าง
นราวดีหน้าซีดตัวสั่นเมื่อได้ยินว่าผู้หญิงที่เธอขับรถชนเสียชีวิตตายคาที่ ลูกน้องของบิดาตามติดเธอไปยังโรงพยาบาลด้วยเพื่อให้ปากคำกับตำรวจก่อนจะพากลับ เพราะสถานที่เกิดเหตุเป็นหน้าบ้านของเธอเอง เธอสติหลุดพูดผิดๆ ถูกๆ แถมยังไม่เห็นหน้าคนเจ็บอีกเพราะเลือดท่วม หลังจากนั้นเธอก็เก็บตัวอยู่แต่บนห้องด้วยความกลัว
“แกนี่มันตัวซวยจริงๆ เลย ฉันกำลังจะลงเล่นการเมือง แกก็ทำงามหน้า ขับรถชนคนตาย” นนท์จิ้มหน้าผากบุตรสาวด้วยความโมโห นราวดีลนลานทำอะไรไม่ถูก หลังจากเกิดเรื่อง นนท์กับมาตาก็ต้องรับผิดชอบเต็มที่เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้ แต่พ่อแม่ของสุวดีนั้นปฏิเสธการช่วยเหลือ แถมยังสาดน้ำไล่อีกเมื่อไปเคารพศพ ทำให้ต้องกลับกะทันหัน
“มันตายๆ ไปซะได้ก็ดีค่ะคุณ” มาตาพูดอย่างแค้นใจ เพราะคนที่บุตรสาวขับรถชนเป็นเมียน้อยของสามี ซึ่งเคยเป็นอดีตเลขา ตั้งท้องขึ้นมาก็เรียกร้องให้รับผิดชอบลูกในท้อง ผู้หญิงเดี๋ยวนี้หน้าด้านหน้าทนจริงๆ ชอบแย่งผัวชาวบ้าน
“นังลูกคนนี้นี่มันตัวซวย ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง”
“คุณพ่อคะ คุณแม่คะ แล้วครอบครัวผู้หญิงคนนั้นเป็นยังไงบ้างคะ” เด็กสาวเอ่ยถามบิดามารดา เธอนึกเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่มันมีบางสิ่งบางอย่างที่เธอพูดไม่ได้ พูดออกไปก็ไม่ดี และคงไม่มีใครเชื่อ
“แกจะถามทำไม มันจะเป็นยังไงก็ช่างมันสิ” นนท์พูดด้วยความโมโห
“แต่หนูอยาก...”
“แกเลิกพูดมากแล้วทำตามคำสั่งของฉันก็พอ ไม่เห็นหรือไงว่ามันไม่รับความช่วยเหลือจากเรา”
นราวดีได้แต่รู้สึกผิด เธอนอนฝันร้ายทุกคืน ฝันว่าผู้หญิงคนนั้นยืนอุ้มลูกมาทวงความเป็นธรรม เธอปิดกั้นทุกอย่างไม่เคยดูข่าว ไม่รับรู้อะไร เพราะหวาดกลัว เนื่องจากอายุยังน้อย เธอไม่เห็นหรอกว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาเป็นยังไง เห็นในความฝันว่าเธอยืนเลือดท่วมกายเพียงแค่นั้น เพราะตอนไปงานศพยังไม่ทันจะเข้าไปในงานก็โดนสาดน้ำไล่ออกมาเสียก่อน
นราวดีจึงไปทำบุญถวายสังฆทานกับแม่นมที่เลี้ยงดูกันมา อุทิศส่วนกุศลให้กับผู้หญิงคนนั้น เพราะไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครต้องมาจบชีวิตลงแบบนี้ หลังจากวันนั้นเธอไม่เคยหัดขับรถอีกเลย นอกจากความรู้สึกผิดแล้ว มีบางสิ่งบางอย่างที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจ ปริปากบอกใครไม่ได้
คดีความนั้นเธอยอมรับผิดทุกอย่าง ตอนให้ปากคำก็มีทนายของบิดาไปด้วยตลอด พอขึ้นศาลทางพ่อแม่ผู้เสียหายก็ไม่รับความช่วยเหลือใดๆ แถมยังสาปแช่งเธออีก โชคดีที่เป็นช่วงปิดเทอม เธอจึงไม่ต้องออกไปพบเจอผู้คน ปิดกั้นข่าวสารทุกอย่างเอาไว้แค่เพียงในห้องเล็กๆ
“ฉันจะส่งแกไปอยู่โรงเรียนประจำ” นนท์พูดใส่หน้าลูกสาวคนเล็กที่เขาแสนจะรังเกียจ เพราะคดีของนราวดี รอลงอาญาสามปี บุตรสาวเป็นผู้เยาว์ ต้องบำเพ็ญประโยชน์ และห้ามก่อคดีแบบนี้อีก
ตั้งแต่เล็กจนโต นราวดีไม่เคยได้รับความรักจากบุพการี เธอมักอยู่กับแม่นมและสาวใช้ซึ่งคอยดูแลกันมาตลอด เธอทำอะไรก็ผิดหูผิดตาบิดามารดาไปเสียหมด มารดาอาจไม่เท่าไหร่ แต่บิดานั้นเรียกว่าจงเกลียดจงชังเธอเหลือเกิน เธอเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุอันใดจึงเป็นเช่นนั้น
นราวดีถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำ ในช่วงมัธยมปลาย หลังจากนั้นท่านก็ส่งเธอไปอยู่กับป้าเพื่อเรียนต่อที่ต่างประเทศ ฝันร้ายยังตามหลอกหลอน เธออยากกลับบ้านเกิดเมืองนอน ป้าของเธอมีสามีหลายคน ใช้ชีวิตหรูหรา และไม่เคยคิดว่าเธอคือหลานสาว นราวดีจึงกลายเป็นคนรับใช้ในคฤหาสน์หลังงามไปโดยปริยาย เธอไม่รู้ว่าทำไมทุกคนถึงไม่ชอบเธอกันนัก แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีหวัง หลังจากเรียนจบ จะได้กลับประเทศไทย ข่าวคราวของครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่เธอขับรถชนตายก็เงียบหายไป เหมือนกาลเวลาจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกลืมเลือน แต่มันไม่ได้ทำให้เธอลืมไปได้เลย...
นราวดีคิดว่าบิดาคงหายโกรธเธอ เธอจะกลับมาเซอร์ไพร้ส์ท่าน จึงเดินทางกลับมาโดยไม่ได้แจ้งให้ใครรับรู้ เธอไม่สนิทกับพี่ชายและพี่สาว เพราะตั้งแต่เล็กจนโต บิดานั้นรักใคร่พี่ๆ ของเธอ แต่กับเธอนั้นท่านกลับเกลียดชังและแสดงออกถึงความห่างเหิน เธอเห็นบิดามารดากอดพี่ๆ ก็นึกน้อยใจ ในขณะที่เธอกลับนั่งอยู่บนตักของคนรับใช้เก่าแก่ เหมือนไม่ใช่ลูกของท่านอีกคน
นราวดี หญิงสาววัย 23 ปี เธอขึ้นรถแท็กซี่อย่างมีความหวัง หลังจากถึงสนามบินอย่างปลอดภัย บางทีการกลับมาถึงบ้าน บิดามารดาอาจจะคิดถึงกอดรัดเธอเหมือนกอดรัดพี่ๆ ของเธอบ้าง อาการง่วงนอนที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเธอพบแต่ความมืด และนอนอยู่ที่ไหนสักแห่ง พอขยับกายกลับพบว่าเธอโดนมัดเอาไว้
นราวดีผวาสุดตัว เธอพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากเชือกที่มัดเธอเอาไว้บนหัวเตียง เท้าของเธอโดนมัด และร่างของเธอเหลือเพียงบราเซียกับแพนตี้ติดกายเท่านั้น
ร่างของเธอค่อยๆ สั่นและเธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่ไม่เคยพานพบมาก่อน มันช่างรุนแรงและทรมานจนแทบจะขาดใจ เธอต้องการการปลดปล่อย เธออยากจะร้องไห้กับความทรมานนี้เหลือเกิน
ร่างน้อยสัมผัสได้ถึงมือหนาอันแข็งกร้าวที่ลูบไล้ร่างกายของเธอ ความหวาดกลัวมาพร้อมกับความปรารถนาที่รุนแรงเกินจะหักห้ามใจ
“อื้อ...” เธอครางเสียงสั่นจนสะท้าน รับรู้ได้ถึงรสสัมผัสแปลกใหม่ ริมฝีปากร้อนรุ่มของใครสักคนที่ค่อยๆ ช่วยปัดเป่าความทรมานให้เธออย่างลึกซึ้ง เธอบิดกายเร่าๆ ไปมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อยอดถันถูกดูดดึงด้วยริมฝีปากร้อนๆ เสียงลมหายใจของเขาร้อนแรง เขากัดยอดถันของเธอจนเจ็บแปลบ เธอดิ้นเร่าๆ ถูกตามติดบดเบียดเรือนกายเข้ามาหา ในขณะที่มือของเธอถูกปลดปล่อยจากพันธนาการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“อ๊ะ! เจ็บ ถอยออกไปก่อน ไม่เอา” นราวดีตัวแข็งค้าง เธอดันหน้าท้องแกร่งของอีกฝ่ายออกห่าง แต่เขาตามมาประชิดกดเธอแทบจมเตียง เธอหวีดร้องด้วยความทรมาน เจ็บแปลบและเสียวซ่าน ส่ายหน้าไปมาด้วยความรู้สึกสับสนไปหมด
ร่างสูงของใครสักคนกดแทรกตัวเข้ามาจนล้ำลึกมิดเม้น ผ่านปราการพรหมจรรย์จนขาดสะบั้น เธอหวีดร้องอีกครั้งผวากอดรัดเขาทั้งแขนขาด้วยความเจ็บเสียว ม่านน้ำตารินไหลในขณะที่เขาเริ่มขยับ
เธอรู้สึกว่าทุกอย่างรอบกายดูพลิกคว่ำพลิกหงายไปหมด และสุดท้ายความเสียวซ่านก็เข้ามาแทนที่อารมณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่ก่อตัวขึ้นจนหัวหมุนไปหมด
โปรย หวานใจเฮียเจ้า ปิ่นเพชรยืนมองประตูห้องน้ำอย่างลังเล เขากำลังอาบน้ำเช่นนี้ เธอควรจะเข้าไปดูแลเขาไหมนะ เขาไม่เคยเรียกร้อง ทำให้เธอรู้สึกอึดอัด ถ้าเขาจะทำอะไรก็ควรทำสักที เธอมาอยู่กับเขาเพื่อสิ่งนี้ไม่ใช่หรือ ตัดสินใจได้ดังนั้น ปิ่นเพชรก็ทะลึ่งพรวดพราดเข้าไปในห้องน้ำของเขาในทันที เจ้าทัพตกใจเมื่อจู่ ๆ เธอก็โผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งตัว ในขณะที่เขาเองก็กำลังเปลือยเปล่าอยู่ “มีอะไร” เขาเอ่ยถามเหมือนเพิ่งหาเสียงเจอ ไม่คิดว่าเธอจะโผล่พรวดเข้ามาแบบนี้ “คือปิ่นจะมาช่วยอาบน้ำให้คุณน่ะค่ะ” คนบอกว่าจะมาช่วยอาบน้ำกอดเขาเอาไว้แน่น ไม่กล้าผละออกห่างหรือเงยหน้ามองเขาเพราะอาย “จะมาช่วยอาบน้ำให้ผม แต่กอดผมเอาไว้ซะแน่นแบบนี้จะอาบได้ยังไงกันครรับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่ม พลางกลั้นยิ้มเอาไว้ “ก็คุณโป๊อยู่” “มาช่วยผมอาบน้ำก็ต้องรู้สิครับว่าผมโป๊” “เอ่อ...” เธออึกอัก เขาจึงค่อย ๆ ดันเธอออกห่าง ก่อนจะมองหน้าเธอไม่วาง เจ้าทัพทาบริมฝีปากลงไปหาริมฝีปากน้อยสั่นระริกของเธอ เธอเกร็งตัวหลับตาแน่น จิกมือเข้าที่บ่าของเขา ท่าทีของเธอบอกว่ากำลังหวาดกลัว และไม่พร้อม ทำให้เขาต้องละริมฝีปากออกห่าง เมื่อเขาจูบลงไปแต่เธอกลับปิดปากแน่น “คุณไม่ต้องฝืนใจตัวเองหรอกนะ ผมไม่บังคับคุณจนกว่าคุณจะเต็มใจ” ประโยคของเขาทำให้เธอชะงักและอึ้งไป
“เดี๋ยวพลอยไปเอาเสื้อผ้ามาให้พี่แล้วกันค่ะ” เขาทำท่าจะตามมา เธอเลยรีบปรามเอาไว้ “พี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องพลอยดีกว่า ยืนรอตรงนี้มันหนาว” “ไม่ได้ค่ะ” “กลัวพี่เหรอ” “กลัวค่ะ” เธอตอบตามตรง จะไปอวดดีว่าไม่กลัวเขา เดี๋ยวก็เจอดีเข้าหรอก “พี่ไม่ทำอะไรหรอก ถ้าพลอยไม่ยอม” “แน่ใช่ไหม” เธอพูดอย่างไม่ไว้ใจ “แน่ครับ” เขาเอานิ้วไปเกี่ยวไว้ทางด้านหลัง ก่อนจะฉีกยิ้มให้เธออย่างบริสุทธิ์ใจ “พลอยไม่ไว้ใจพี่เจตน์หรอกค่ะ พี่น่ะเสือผู้หญิง รออยู่นี่แหละค่ะ พลอยจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้” เธอรีบตัดบท ไม่ยอมใจอ่อนง่าย ๆ พลอยไพลินเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดให้เขา พอหันมาก็ต้องสะดุ้ง “อุ๊ย! พี่เจตน์เข้ามาตอนไหนคะ พลอยบอกว่าให้รออยู่ข้างนอกไง” “ห้องน้องพลอยเรียบร้อยจังเลยครับ หอมด้วย” เขาได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากห้องนอนของเธอ “ชุดพี่เจตน์ค่ะ” เธอยื่นให้เขา เขาก็รับมาถือเอาไว้ “ชุดน้องพลอยหอมจังเลยครับ” เจตน์ยกขึ้นมาดม ก่อนจะยิ้มหวานให้เธอ “เวลาพี่เจตน์จีบผู้หญิงก็ใช้มุขนี้เหรอคะ” “พี่ไม่เคยจีบผู้หญิง” “จะบอกว่าผู้หญิงวิ่งเข้าหาพี่เองเหรอคะ” “น้องพลอยเห็นยังไงก็อย่างนั้นแหละ” “...” เธอเงียบไม่ได้ตอบโต้ “หึงพี่เหรอ” เขาเดินเข้าหา ก่อนจะใช้มือดันไปที่ตู้เสื้อผ้า ทำให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา “ใครจะไปหึงพี่กันล่ะคะ” “น้องพลอยก็เปียกไปหมดแล้ว เปลี่ยนชุดพร้อมพี่ไหม” “อุ๊ย! อย่ามาลามกกับพลอยนะคะ” เธอยกขึ้นกอดอกเมื่อเขาหลุบสายตามองต่ำลง “ยังไม่ตอบเลยว่าหึงพี่เหรอ” เขาขยับเข้าไปใกล้ พลางกระซิบถามตรงริมหู ลมหายใจร้อนแรงของเขาเป่ารดอยู่ตรงพวงแก้มหอมกรุ่น “ไม่ได้หึงค่ะ” เธอตอบเขาออกไป ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด การใกล้ชิดกับผู้ชายที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายแบบเขา ทำให้เธอใจสั่น พยายามจะอยู่ให้ไกลจากเขา เพราะรู้ว่าหัวใจตัวเองคงทานทนไม่ไหว แต่ก็เผลอเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาในชีวิตอยู่ร่ำไป “อย่าค่ะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง เมื่อเขาทำท่าจะก้มลงมาประทับริมฝีปากกับกลีบปากหวานฉ่ำของเธอ
เธอขอพรได้ 1 ข้อ ถ้าเป็นไปได้ คุณจะขอพรอะไรเหรอ เมื่อเพียงดาวเจอกับชีวิตครอบครัวที่มีแม่สามีประสาทแดก สามีนอกใจไปเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน เขาดีแต่ดีไม่เกินแม่ของเขา เพียงดาวจึงขอพรหนึ่งข้อให้กับตัวเองในวันปีใหม่ ในวันที่เธอคิดสั้นฆ่าตัวตาย
เรื่องราวของภพและภาม ความรักมั่นคงของพวกเขาทำให้ฝ่าฟันอุปสรรคทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
เขาคือท่านประธานนิรันดร์ ท่านประธานที่อยู่ห้องพักข้างๆ แถมยังชอบเรียกเธอให้ไปหาตอนดึกๆ ดื่นๆ
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจนฉันต้องลดหนังสือในมือลงชะเง้อคอมองไปที่ถนน “เสียงท่อรถแบบนี้ ผ่านด่านตรวจมาได้ยังไงวะ?” ความรู้สึกแรกหลังได้ยินเสียงแสบหู ท่อไอเสียที่ถูกตัดแต่งเพิ่มเสียงให้ดังมากขึ้น จนทำให้คนที่ได้ยินเกิดความรำคาญ และฉันเป็นหนึ่งในหลายคนที่เบ้ปากร้องยี๋ แต่ฉันอาจจะอาการหนักกว่าคนอื่นนิดหน่อยก็ได้ เพราะฉันกำลังติดพันกับหนังสือนวนิยายที่เพิ่งได้มา มันเป็นหนังสือนิยายทำมือของนักเขียนท่านหนึ่งแต่ติดเรท ที่ฉันพยายามหลบๆ อ่าน เพราะบางทีสายตาของคนอื่นตอนที่มองปกหนังสือก็ทำให้ฉันหงุดหงิดเล็กๆ ฉันคิดในใจทุกครั้งหากสายตาคนเหล่านั้นพุ่งตรงมาที่หนังสือในมือฉัน ฉันซื้อมาด้วยสตางค์ที่หาได้ ไม่ได้ไปใครขโมยใครมา แล้วทำไมล่ะ ความชอบส่วนตัวของฉันจึงไปขัดตาคนอื่น จบเรื่องนั้นกันก่อนเถอะค่ะ เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องที่กำลังเกิดขึ้น ไอ้รถบิ้กไบค์คันนั้นดันมาจอดใกล้ๆ แปลที่ฉันนอนซุ่มอ่านหนังสือเล่มโปรดอยู่นี่สิ!!
“อ๊ะ… อ๊อย... ” ดวงตาของฝ้ายคำหลับพริ้ม เม้มปากแน่น เมื่อโดนสามีกดใบหน้าแนบเน้นซุกไซ้เข้าหาความเป็นสาว ฉั่วๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เสียงลิ้นสากเฉาะรัว ลากเลียเลยขึ้นเป็นจังหวะยาวๆ ตามรูปทรงของกลีบสวาท เบียดกันแน่นเป็นพูงามอร่ามอะร้าอยู่ตรงง่ามขาของหญิงสาวที่เข่าสองข้างโดนดันแบะอ้า แอ่นร่องสวาทให้สามีเบิร์นอย่างดิบเถื่อน “อ๊า... ซี้ด... อูย... เสียวค่ะ... ฮึ่ก” ทั้งที่หล่อนพยายามกัดฟัน เม้มริมฝีปากแน่น สะกดกลั้นเสียงคราง กลัวว่าจะหลุดออกมาน่าอาย หากความเสียวซ่านก็ทำให้เสียงของคนโดนเลียร่องหอย เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสั่นระริก ปลายลิ้นของอลังค์จุ่มจ้วงทะลวงเลียกลีบมาลีสีชมพูสดสวยอย่างโหยหา “อ๊า... อ๊า... อ๊า... ” หญิงสาวร้องครางตามจังหวะลิ้นปาดเลียรัวๆ สลับลากเสยขึ้นๆ ลงๆ ตามแนวความยาวของร่องสวาท เรียกน้ำเสียวของหญิงสาวให้สาดทะลักออกมาอย่างมิอาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้ “อ๊า... ที่รักจ๋าฝ้ายเสียวเหลือเกิน... ซี้ดอูย... สะ... เสียวมาก” คนโดนจู่โจมหนอกเนินสวาท เปล่งเสียงร้องครางครวญออกมาอย่างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง ปลายลิ้นของอลังค์เสียบรัวเข้าใส่กลีบบอบบาง โดนแบะบีบจนเบ่งบวมขึ้นมารับปลายลิ้น บดขยี้ลงบนความนุ่มอ่อน ไชชอนสำรวจซอกหลืบอย่างมีลีลา สมกับเป็นสายเบิร์นตัวจริง อลังค์ไม่ทำให้หญิงสาวผิดหวัง ทำเอาผู้หญิงสามคนที่กำลังมองดูภาพของการเล้าโลมสุดเร่าร้อนผ่านหน้าจอมอนิเตอร์จนเกิดอาการน้ำเดินไปตามๆ กัน
แม่บ้านอย่างฉัน.. มีสามีก็เหมือนไม่มี.. เพราะเขาเป็นพวกนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ.. ปล่อยให้ฉันอารมณ์ค้างตลอด.. จนฉันเริ่มจะทนไม่ไหว... แต่แล้ว.. เราทั้งสองก็ค้นพบทางออกอย่างไม่คาดฝัน..
[แนวลูกเด็กน่ารัก+สาวเก่ง+แก้แค้น]ฉวี่ชิงเกอแต่งงานกับฟู่หนานจิ่นมาเป็นเวลา 5 ปี เธอใช้ชีวิตเหมือนแม่บ้าน เธอคิดว่าตัวเองท้องแล้วจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาดีขึ้น แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้มาคือ ข้อตกลงการหย่า เมื่อคลอดลูก ฉวี่ชิงเกอแทบจะไม่รอดเพราะมีคนทำร้าย เธอถึงรู้สํานึก ห้าปีต่อมา เธอกลายเป็น"ท่านประธานฉวี่"แล้วกลับมาแก้แค้น คนที่เคยรังแกเธอต่างก็ได้รับการสั่งสอนอย่างสะหัส และความจริงที่ถูกปิดบังไว้ก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมาก อดีตสามีคิดจะขอคืนดีกับเธอเหรอ คิดง่ายไปหน่อยไหม? ฟู่หนานจิ่นอ้อนวอน"ที่รัก ลูกต้องการหม่ามี๊ ขอแต่งงานใหม่ได้ไหม?"
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ