ตืดด...ตืดดด...
เสียงไอโฟนรุ่นใหม่สั่นครืน ๆ อยู่บนโต๊ะข้างเตียง ทำให้ชายหนุ่มงัวเงียตื่นขึ้นมา เขาผงกหัวมองหาเสียงมือถือฝ่าความมืดมิด มือไม้สะเปะสะปะหยิบเอาโทรศัพท์
“ผมพิสุทธิ์พูดครับ” ชายหนุ่มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครโทรมา แต่เขาก็กดรับแล้ววางโทรศัพท์ไว้ข้างแก้มทั้งที่ยังนอนหงายหลับตา
“เก้าคะ? นี่มุกพูดค่ะ...”
เสียงใสพูดลิ้นพันกันของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มลืมตาโพลงแล้วรีบดีดตัวลุกขึ้นนั่ง เขารีบเปิดอินสตาแกรมเข้าแอคเคานต์ของคนที่โทรมาหา ดวงตาสีเข้มเบิกกว้างเท่าไข่ห่านมองภรรยาสุดดวงใจนั่งดี๊ด๊า มีผู้ชายหลายคนคลอเคลียอย่างใกล้ชิด
“มุกอยู่ไหน นั่นคุณอยู่กับใครทำไมไม่กลับห้อง” พิสุทธิ์ถาม เพราะเวลาตีสามแบบนี้ภรรยาของเขาน่าจะกลับเข้าห้องพักได้แล้ว แต่นี่มันอะไรกัน ทำไมเธอยังนั่งดื่มอยู่กับพวกผู้ชายแปลกหน้าหลายสิบคน
เขาโกรธเธอมากแต่เพราะรักมากจึงเลือกที่จะไม่สนใจมองภาพเคลื่อนไหวในโทรศัพท์ พิสุทธิ์รู้สึกเจ็บขั้วหัวใจสุดทานทน แต่ก็แกล้งทำเป็นไม่เห็นพฤติกรรมอันโสมมของภรรยารัก
“พรุ่งนี้มุกยังไม่กลับบ้านนะ มุกจะอยู่ที่นี่อีกสักสามสี่วัน...”
“ทำไมเหรอ” พิสุทธิ์ถามภรรยา
“ก็เจ้านายมุกน่ะสิคะ โทรมาเมื่อตอนบ่ายบอกว่ามีงานให้มุกทำต่ออีกสักสามสี่วันค่ะ”
“...” พิสุทธิ์ไม่มีคำถาม เขาหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อรู้ว่าภรรยาสุดดวงใจโกหกและจะนอกกายนอกใจเขา ชายหนุ่มรู้ว่างานที่เธอไปทำนั้นเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว
“แค่นี้ก่อนนะเก้า เดี๋ยววันมะรืนมุกจะโทรหาค่ะ...”
“เดี๋ยวก่อนสิมุก” พิสุทธิ์บอกให้เธออย่าเพิ่งวางสาย
“มีอะไรอีกคะ...”
“มุกจำได้ไหม พรุ่งนี้เป็นวันของเราสองคนนะ” พิสุทธิ์ตัดสินใจถามเพราะตลอดสองปีที่แต่งงานกันมา ภรรยาของเขาไม่เคยจดจำวันสำคัญระหว่างเขาและเธอเลย
“วันอะไรคะ มุกจำไม่ได้ค่ะ...”
พิสุทธิ์ยิ้มสมเพชและหัวเราะเยาะตัวเองในใจเมื่อได้ยินคำถามของภรรยา ทำไมหัวใจของเขามันไม่เลวและคิดหักหลังเธอบ้าง ทำไมเขาจะต้องยอมรับในสิ่งที่เธอเป็นด้วย
พิสุทธิ์เจอมุกดาครั้งแรกก็ตกหลุมรักเธอทันที พวกเขาทั้งสองคบกันได้เพียงแค่สองเดือน และนี่ก็ครบสองปีแล้วที่เขาแต่งงานกับเธอ
“เมื่อกี้นี้เก้าว่าอะไรคะ มุกไม่ได้ยินค่ะ...”
พิสุทธิ์ยิ่งหายใจไม่ออกเมื่อเห็นกิริยาของภรรยา เธอยอมให้ผู้ชายแปลกหน้าหลายคนที่ต่างรุมล้อมคอยเทเหล้าและป้อนน้ำเมาให้เธอดื่ม
“ก็วะ...” เพราะรักมากพิสุทธิ์จึงยอมทำเป็นคนหูหนวกตาบอดมองไม่เห็นจุดบกพร่องของภรรยา เขาจะพูดว่า ‘ก็วันครบรอบแต่งงานของเราไง’ ภรรยารักของเขาก็พูดขึ้น
“เก้าแค่นี้ก่อนนะคะ...”
ตู๊ดด!!!
“ฮัลโหลมุก เดี๋ยว อย่าเพิ่งวางสาย มุก! นี่มุกฟังผมอยู่ไหม” พิสุทธิ์ถูกภรรยาตัดสาย เขาล้มตัวนอนหงาย ดวงตาสีนิลสั่นสะท้านคลอน้ำตามองรอยด่างเป็นจุดดำ ๆ บนเพดานห้อง ช่างเหมือนเขาที่ถูกเท้าของภรรยาเหยียบขยี้หัวใจจนแตกละเอียดเลือดกระอักออกมาเป็นลิ่ม ๆ…
สามวันต่อมาที่บริษัทออกแบบบ้าน ‘Architect Home’ เป็นบริษัทของพิสุทธิ์ที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนรักอีกสองคน เอกภพและโชคชัย
“คุณโชค คุณเอก สวัสดีครับ” ‘ลิซ่า’ สาวแก่ทอมบอยเลขาส่วนตัวของพิสุทธิ์ลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นเอกภพและโชคชัยเดินเข้ามายืนตรงโต๊ะทำงานของเธอ
“พี่ลิซ่า ไอ้เก้าอยู่ไหมครับ” โชคชัยถามลูกน้องที่เป็นหญิง แต่เธอพูดคุยเฉกเช่นผู้ชายแม้แต่การแต่งตัวก็เหมือนผู้ชาย
“อยู่ครับ” ลิซ่าทำหน้างง เพราะเมื่อสักครู่เธอยังเอาของว่างเข้าไปให้พิสุทธิ์อยู่เลย
“อยู่ แต่ไม่ยอมรับสายนะไอ้บ้าเก้า” เอกภพหันไปบ่นว่าพิสุทธิ์ให้โชคชัยฟัง
“ให้พี่โทรบอกคุณเก้าไหมครับ” ลิซ่าถามเจ้านายรุ่นน้องทั้งสอง ซึ่งชายหนุ่มทั้งสองมีอายุเท่า ๆ กับพิสุทธิ์ และพวกเขามีอายุน้อยกว่าเธอหลายปี
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพวกผมเข้าไปหามันเองครับ” เอกภพบอกลิซ่า แล้วเดินตามเพื่อนตรงไปที่ประตู
โชคชัยถือวิสาสะเปิดประตูห้องทำงานของพิสุทธิ์โดยที่ไม่ได้เคาะ และเมื่อได้เข้ามายืนอยู่กลางห้องทำงาน โชคชัยก็พยักหน้าให้เอกภพดูพิสุทธิ์ ชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวในท่าเอนหลังพิงเบาะหัวเกยพนักโซฟา
“ดูมัน ทำยังกะคนอกหักรักคุดเลยนะมึง” โชคชัยยืนเท้าเอวมองพิสุทธิ์
“จะไม่ให้มันเป็นแบบนี้ได้ไงวะ เมียไฮโซของมันเล่นไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องหลายวันแล้วนะโว้ย” เอกภพกอดอกมองเพื่อนที่ไม่มีทีท่าว่าจะรู้สึกรู้สา ทั้งที่พวกเขาคุยกันเสียงออกจะดัง
“ไอ้ห่า ดูสภาพเหมือนคนถูกเมียทิ้งเลยนะมึง” โชคชัยเข้าไปนั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามพิสุทธิ์
“สงสัยเมียไฮโซยังไม่กลับมาจากเชียงใหม่แน่เลย” เอกภพไม่ยอมนั่ง เขายังยืนกอดอกมองเพื่อนทั้งสองสลับกันไปมา
“สงสัยเมีย...” โชคชัยพูดเสียงเบากระซิบกระซาบข้างหูของเอกภพว่า “สงสัยเมียคนสวยของมันคงจะเจอผู้ชายใหม่แน่เลยถึงไม่ยอมกลับบ้าน ทั้งที่งานที่ไปทำก็เสร็จแล้วนี่”
“เอ้ย! นี่ไอ้โชค มึงอย่าพูดให้ไอ้เก้าได้ยินนะโว้ย กูสงสารมันว่ะ มึงก็รู้ว่าไอ้นี่มันรักเมียมันมากแค่ไหน พวกเราเคยเตือนมันแล้วนะ แต่มันเคยเชื่อเราไหม ไม่เลย ไอ้นี่มันไม่เชื่อใครเลย” เอกภพรีบพูดดักคอไม่ให้โชคชัยพูดต่อ
“กูไม่พูดหรอกโว้ย ถึงกูพูดไป ไอ้บ้าเก้ามันก็ไม่เชื่อกูหรอก” โชคชัยไม่อยากจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายปัญหาครอบครัวความรักของเพื่อน
“ไอ้บ้านี่ก็รักเมียจนไม่ยอมลืมหูลืมตา เมียจะสวมเขาให้ มันยังไม่รู้ตัวอีก” เอกภพรู้จักมุกดาดีกว่าใคร ๆ เพราะเธอได้สร้างวีรกรรมไว้กับอนันต์ญาติลูกพี่ลูกน้องของเขา ซึ่งเอกภพเคยเตือนพิสุทธิ์แล้ว แต่อย่างว่าแหละความรักย่อมทำให้ทุกคนตาบอดเฉกเช่นพิสุทธิ์ที่รักมุกดาจนไม่ยอมมองจุดบกพร่องของหญิงสาวเลย
“นี่พวกมึงจะนินทากูก็พูดกันเบา ๆ ได้ปะวะ กูได้ยินนะโว้ย ไอ้พวกเวร” พิสุทธิ์พูดทั้งที่ยังเอนหลังพิงเบาะโซฟา หัวหนักอึ้งก็ยังเกยอยู่ตรงพนักโซฟา
“กูไม่ได้นินทาโว้ย แต่พวกกูพูดเรื่องจริงและตั้งใจให้มึงได้ยินด้วยแหละ” โชคชัยยื่นบุหรี่ให้เพื่อนเมื่อพิสุทธิ์ผงกหัวขึ้นมองเขาทั้งสอง
“มึงเป็นไรวะ ทำไมไม่รับสาย” เอกภพรู้ว่าเพื่อนเป็นอะไร แต่เขาก็ถามไปอย่างนั้นแหละ
“พวกมึงมีอะไรวะ” พิสุทธิ์โบกมือไม่เอาบุหรี่แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นชูน้ำอัดลมและเบียร์กระป๋องให้เพื่อนดู ซึ่งพวกเพื่อน ๆ ก็ขอเบียร์กระป๋อง