‘กุลสตรี’ หญิงสาวหน้าตาธรรมดาแต่ดวงตาและทรวดทรงของหล่อนนั้นเซ็กซี่เข้าขั้นขยี้ใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แบบชะงัด แต่เจ้าหล่อนกลับรักษาพรหมจรรย์ไว้ยิ่งชีพจวบจนกระทั่งอายุย่างเข้าสู่วัย 25 ปี เรื่องวุ่นๆก็เกิดขึ้นเพราะการตัดสินใจอย่างไร้สติของหล่อนเอง “กุลรักพี่ธีร์นะคะ รักมานานแล้ว” “พิสูจน์สิ ...ว่าเธอยังเวอร์จิ้น ถ้าใช่! ฉันจะคบกับเธอ แล้วหยุดที่เธอคนเดียว” กุลสตรีหน้าชา สายตาเขาดูหมิ่นดูแคลนหล่อนเหลือใจ หล่อนไม่เคยอับอายอะไรอย่างนี้มาก่อน นี่หล่อนทำอะไรลงไป ความตื่นตระหนกตกใจ ทำให้หล่อนก้าวผิดพลาดไปหมด อะไรที่วาดหวังวางแผนไว้ หล่อนลืมเลือนหมดสิ้น ...ลืมเลือนถึงขั้นไร้สติ เอ่ยวาจาเหมือนคนไร้สมองให้เขาเหยียดหยาม “ว่าไง...กล้าพิสูจน์ไหมล่ะ” นั่นคือคำท้า ...และหล่อนก็ใจกล้าอย่างไร้สติจริงๆ ความรักทำให้คนตาบอดฉันใด ความอยากเอาชนะและอยากครอบครองก็ทำให้คนขาดสติฉันนั้น กุลสตรีเองก็เช่นกัน หล่อนตัดสินใจทันควัน ...หล่อนจะเป็นคนรักของ ‘ธันเดอร์ ธีร์ เทย์เลอร์’ ...และเป็นผู้หญิงคนสุดท้ายในชีวิตเขา! ฝากนิยายเรื่องแรกของ 'ธีร์ ธัชชา' ด้วยนะคะ คำเตือนก่อนอ่านนิยายเรื่องนี้ คำเตือน 1 นิสัยและความคิดพระเอกอาจจะดูร้ายเข้าขั้นเลวบริสุทธิ์ แต่ก็นะ...ท้ายสุดก็รักนางเอก คำเตือน 2 นิสัยนางเอก คือ ความมุมานะ ลงว่าตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ แต่อีกนัยคือ ความรั้น! เมื่อรักบดบังคนดวงตามืดมิด ความคิดและความรู้สึกก็เหมือนตกอยู่ในห้วงมายา ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า... หลอกตัวเองไปวันๆ คำเตือน 3 'พรหมจรรย์แลกรัก' ไม่มีอยู่จริง เพราะในความเป็นจริง ความรักไม่มีอะไรสามารถนำมาแลกเปลี่ยนได้ รักก็คือรัก ไม่รักก็คือไม่รัก แต่ไม่รักสุดท้ายอาจรักก็ได้ (เครดิต ความเห็นจาก นักอ่านท่านหนึ่งในเด้กดี ขอบคุณค่ะ) คำเตือน 4 นิยายเรื่องนี้นักเขียนจินตนาการขึ้นมาเพื่อความบันเทิงและสอดแทรกมุมมองความคิด หากไม่ถูกจริตท่านใดก้ขออภัย
‘กุลสตรี' หญิงสาวหน้าตาธรรมดาแต่ดวงตาและทรวดทรงของหล่อนเซ็กซี่เข้าขั้นขยี้ใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่แบบชะงัด แต่เจ้าหล่อนกลับรักษาพรหมจรรย์ไว้ยิ่งชีพจวบจนกระทั่งอายุย่างเข้าสู่วัย 25 ปี วันครบรอบวันเกิดหล่อนปีนี้เอง ที่นำพาชีวิตหล่อนให้เปลี่ยนไปตลอดกาล
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยู ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยู ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ ...แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทู้ยู ...เย้ๆๆ”
“มีความสุขมากๆนะกุล ขอให้สวย รวยวันรวยคืนนะจ๊ะ”
“ช่าย...แล้วก็ขอให้มีหนุ่มหล่อๆมาคว้าใจกุลได้เร็วๆนะจ๊ะ ยี่สิบห้าปีแล้วอย่ามัวเลือกอยู่เลย เดี๋ยวจะกลายเป็นชะนีแก่เรียกร้องหาผัวๆๆๆ ฮ่าๆๆ”
กุลสตรีหัวเราะครื้นเครงกับคำอวยพรของเหล่าพี่ๆและเพื่อนร่วมงาน วันนี้ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีอวยพรหล่อนในวันเกิดครบรอบวัยเบญจเพส
ปกติหล่อนไม่ค่อยจัดปาร์ตี้เพราะไม่ชอบความอึกทึกครึกโครม ปีนี้เป็นปีแรกที่หล่อนจัดฉลองวันเกิดในผับหรูซึ่งมีแต่เหล่าไฮโซตบเท้าเข้ามา และนั่นก็ทำให้เพื่อนๆ พี่ๆ ผู้ร่วมงานต่างพากันตื่นตาตื่นใจ เพราะหล่อนเชื้อเชิญทุกคนให้มาร่วมฉลอง
“เฮ้! กุลจะไปไหนน่ะ” พลอยนภัสเรียกรั้งเจ้าของงานปาร์ตี้เอาไว้เมื่อเห็นเจ้าหล่อนขยับลุกขึ้นเหมือนจะเดินออกจากงาน
กุลสตรีได้ยินก็หันมาตอบ เพราะรอบด้านเสียงค่อนข้างดังพวกหล่อนจึงต้องเหมือนตะโกนคุยกันแข่งกับเสียงเพลง
“เดี๋ยวกุลมานะขอไปห้องน้ำหน่อย”
“โอเครีบไปรีบมาล่ะ ระวังหลงจนกลับโต๊ะไม่ถูกนะ” จิรัชยาได้ยินก็รีบสำทับ พลอยนภัสชะโงกหน้าเข้ามาใกล้แล้วเอ่ยถ้อยคำติดทะเล้น
“ใช่ๆ ในนี้มีแต่ผู้ชายหล่อๆน่าหลงชะมัด”
“ให้มันน้อยๆหน่อยยัยพลอย ฉันหมายถึงหลงทางย่ะ ไม่ใช่หลงผู้ชาย”
“แหม...ยัยจิ ความหมายมันก็ใกล้ๆเคียงๆกันนั่นแหละ ฮ่าๆๆ”
กุลสตรีส่ายหน้าหัวเราะกับความแก่นเซี้ยวของเพื่อนรัก ภายนอกพวกหล่อนอาจเหมือนก๋ากั่นแต่แท้จริงแล้วแต่ละคนล้วนไม่ประสีประสากับเรื่องผู้ชาย และจนป่านนี้พวกหล่อนก็ยังไม่คิดคบหาหรือรักใครจริงจัง
จะว่าทั้งสามคนไม่คิดคบใครก็ไม่ใช่ เพราะจิรัชยาเป็นคนแรกในกลุ่มที่ตกลงคบหากับหนุ่มรุ่นพี่ต่างคณะฯตั้งแต่สมัยยังอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย แต่คบไปยังไม่ทันถึงเดือน เพื่อนหล่อนก็ตบหน้ารุ่นพี่คนนั้นแล้วด่ากราดเสียๆ หายๆ ก่อนบอกเลิก เหตุเพราะผู้ชายคนนั้นคบเพียงหวังฟันนั่นเอง จากนั้นจิรัชยาก็ไม่คิดคบหาใครอีก ทุกวันนี้อย่าแม้แต่จะคิดเปิดใจ หางตาของเจ้าหล่อนก็ไม่เคยชายตาส่งให้ใคร
ต่อมาพลอยนภัสก็เจริญรอยตามจิรัชยาไปอีกคน คราแรกหล่อนคิดว่าเพื่อนคนนี้จะมีความรักสุขสมหวัง แต่ไม่นานหล่อนก็ต้องคอยซับน้ำตาให้อีกคน เพราะพลอยนภัสจับได้ว่าชายคนรักแอบคบซ้อน ไม่ใช่เพียงแค่สองแต่มีถึงสี่คนด้วยกัน นับจากนั้นเพื่อนทั้งสองก็ประกาศก้องว่าจะไม่ขอลองรักกับผู้ชายคนไหนให้เปลืองหัวใจอีก
แต่นั่นไม่ใช่หล่อน!
ใครๆอาจคิดว่าหล่อนเห็นความรักของเพื่อนๆไม่สมหวังจึงไม่คิดคบหาใครทั้งที่มีผู้ชายเข้ามาขายขนมจีบมากหน้า แต่ใครเล่าจะล่วงรู้เหตุผลที่แท้จริงว่าเหตุใดหล่อนถึงยังครองตัวโสดมาถึงทุกวันนี้ และนั่นคือเหตุผลที่หล่อนยอมทุ่มทุนจัดงานวันเกิดอายุครบ 25 ปี ที่ผับหรูระดับท็อปในกรุงเทพมหานครฯ
“ขออย่าให้คลาดกันเลยนะ สาธุ” กุลสตรีภาวนาในใจแล้วสอดส่ายสายตามองหาใครคนหนึ่งซึ่งหล่อนรู้มาว่าเขาจะมาที่นี่คืนนี้ ...และก็จริงตามคาด หล่อนเห็นเขาเดินเข้ามาหลังจากหล่อนและเพื่อนๆมาพร้อมเพรียงกันได้ไม่นาน
ความจริงหล่อนอยากเข้าไปทักเขาตั้งแต่ตอนนั้น แต่ก็อดใจรอจนกว่าจะเป่าเค้กวันเกิดเสร็จสิ้น ช่วงนั้นทุกคนคงเมามายกันจนไม่ทันสังเกตว่าหล่อนไปไหนและทำอะไร เรื่องแบบนี้หล่อนไม่อยากให้ใครรับรู้ ไม่อย่างนั้นคงไม่สู้อุตส่าห์เก็บงำเอาไว้มาร่วมสิบปี
แต่กว่าหล่อนจะปลีกตัวออกมาจากวงสังสรรค์ได้ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว ก่อนออกมาหล่อนมั่นใจว่าเห็นเขาแยกตัวมาเข้าห้องน้ำ เพราะหล่อนจองที่นั่งโซนวี.ไอ.พี.ซึ่งเป็นโซนใกล้เคียงกับที่เขาจับจอง หล่อนจึงพอมองเห็นความเคลื่อนไหวของเขาได้เกือบตลอดเวลา
“อุ๊ย! / โอ๊ะ!”
“ขอโทษครับ / ขอโทษค่ะ” กุลสตรีอุทานแล้วเอ่ยขอโทษซึ่งพร้อมๆกันกับคนที่หล่อนหันหลังมาชนเข้าโดยไม่ตั้งใจ ความไม่ทันระวังและชนเข้าอย่างจังทำให้หล่อนซวนเซ ดีที่ว่าอีกฝ่ายยื่นมือมาคว้าเอวหล่อนไว้เสียก่อน ความตกใจทำให้หล่อนเงยหน้ามองใครคนนั้นทันควัน
“พี่ธีร์”
“เธอน่ะเอง นึกว่าใคร” เขายิ้มหยันแล้วคลายมือจากเอวคอดของหล่อนทันควัน ดวงตาของเขาเฉยชายามตวัดมองเรือนร่างทรวดทรงเซ็กซี่ในเดรสสั้นสีดำรัดรูปจนเห็นส่วนเว้าส่วนโค้ง
“ลงทุนมาดักรอฉันถึงที่นี่มีอะไรไม่ทราบ” เขาถามแดกดันแล้วใช้สายตาเยาะหยัน กุลสตรีชาวาบไปทั้งตัวและหัวใจเมื่อเห็นสายตานั้น ใจดวงน้อยเต้นรัวเร็วและแรง หล่อนประหม่าเพราะไม่คิดว่าจะเจอเขาแบบ ไม่ทันตั้งตัวอย่างนี้ คำพูดที่ตระเตรียมมาหายไปหมดสิ้น พยายามระลึกเท่าไรหล่อนก็นึกไม่ออก
“ถ้าไม่มีอะไรก็ช่วยหลีกทางด้วย เสียเวลาฉัน” เขาว่าแล้วตั้งท่าจะเดินผ่านเลยไป
ความกลัวจะไม่ได้พูดในสิ่งที่อยากพูดทำให้กุลสตรีหลุดปากออกไปทันที
“กุลรักพี่ธีร์นะคะ รักมานานแล้ว”
ธันเดอร์ชะงักกึกก่อนพ่นลมหายใจพรู เขาเจอผู้หญิงมาบอกรักมากมายไม่ซ้ำหน้า ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นอีกคน เขาเดาไม่ผิดเลยจริงๆที่เห็นหล่อนไปวนเวียนอยู่แถวคอนโดมิเนียมแล้วเป็นต้นเหตุให้เขาเกือบตกเครื่องในวันนั้น เพราะเจ้าหล่อนดันมาทำรถเสียขวางทางเข้าออกทำให้เขาต้องเสียเวลาเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาช่วยเข็น
ซีอีโอหนุ่มนึกย้อนไปถึงเมื่อหนึ่งเดือนก่อน วันนั้นเขางุนงงและประหลาดใจกับหญิงสาวหน้าตาธรรมดาแต่ดวงตาทรงเสน่ห์ชนิดที่ต้องเหลียวมองซ้ำ หล่อนเข้ามาทักทายเขาอย่างสนิทชิดเชื้อ จะว่าเป็นหนึ่งในผู้หญิงที่เขาเคยควงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ถึงเขาจะเปลี่ยนคู่ควงไม่ซ้ำเหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่เขาก็จดจำได้ทุกคนว่าเคยคั่วกับใครมาบ้าง
‘สวัสดีค่ะพี่ธีร์ กุลเอง พี่ธีร์จำกุลได้ไหมคะ’
‘ขอโทษนะ ผมจำไม่ได้ว่าเคยเจอคุณที่ไหน และรู้จักคุณเมื่อไร’ เขาบอกแล้วถอนหายใจ จะว่าไปหล่อนคนนี้ก็สะดุดตาสะดุดใจไม่น้อย ถึงหน้าตาจะบ้านๆ แต่ดวงตาและทรวดทรงหล่อนเซ็กซี่เหลือร้าย หากหล่อนจะเข้ามาทำความรู้จักเขาด้วยวิธีที่ดีกว่าการมาทำรถเสียขวางทางตอนที่เขากำลังรีบเร่งแบบนี้ เขาคงมีแก่ใจพอที่จะสานสัมพันธ์ต่อให้แน่นแฟ้นตามที่หล่อนต้องการ
‘พี่ธีร์ กุลไงคะ กุลสตรี เด็กผู้หญิงที่พี่เคยช่วยไว้เมื่อสิบปีก่อน’
‘ขอโทษนะ ผมไม่มีเวลามารำลึกความหลังกับใคร หลีกทาง! ผมต้องรีบไป’ เขาว่าแล้วเดินขึ้นรถจากมาทันทีที่พนักงานรักษาความปลอดภัยช่วยกันขยับรถให้พ้นทาง พอมองผ่านกระจกมองหลังเขาก็เห็นสายตาหล่อนมองตามมาด้วยความอาลัย
“พี่ธีร์คะ” เสียงของหล่อนดังแทรกเข้ามาดึงให้เขาหลุดออกจากภวังค์ ธันเดอร์กลอกตาบนแล้วยิ้มหยัน ผู้หญิงสมัยนี้จะมีสักคนไหมที่รู้จักวางตัว เขาเห็นมีแต่มัวเมาแหลกเหลวและวิ่งไล่ล่าผู้ชายทั้งนั้น
“กุลเฝ้ารอวันนี้มานานแล้ว วันที่กุลจะมีโอกาสได้บอกความในใจให้พี่รู้ ถึงพี่ธีร์จะจำกุลไม่ได้ แต่กุลก็อยากบอกให้พี่รู้ ...กุลรักพี่ธีร์ รักมาตั้งแต่วันแรกที่เราเจอกัน”
ธันเดอร์เม้มปากขัดใจ เจอกันคราวก่อนหล่อนรั้นและพล่ามอะไรมากมาย คราวนี้ก็ไม่ต่างกัน เพลย์บอยหนุ่มหันกลับไปทางหญิงสาวช้าๆ เห็นหล่อนจ้องมองก่อนแล้ว สายตานั้นเปี่ยมไปด้วยความรักและชื่นชมเขาจนน่าประหลาดใจ
“เหอะ...บอกรักผู้ชายมากี่คนแล้วนะเธอน่ะ”
“พี่ธีร์! กุลไม่เคยบอกรักใคร ไม่เคยจริงๆนะคะ”
“ฉันควรเชื่อเธอใช่ไหม” เขาว่าแล้วยิ้มหยัน กุลสตรีรีบพยักหน้า หล่อนจะต้องพูดอย่างไรให้เขาเชื่อ หล่อนรักเขามานาน เฝ้ามองแต่เขา และไม่เคยชายตามองใคร
“พี่ธีร์จะรับรักกุลได้ไหมคะ” หล่อนกลั้นใจถาม แล้วนิ่งรอฟังคำตอบ
หล่อนบ้าไปแล้ว! แค่ถามย้ำความทรงจำ เขายังจดจำหล่อนไม่ได้ หล่อนยังถามหาขอให้เขารับรักหล่อน หึ! หากเขาตอบตกลงกลับมาเขาก็คงบ้าสิ้นดี
‘น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ หวังว่าจะไม่น้อยจนเกินไปสำหรับ 'ผู้ชายขายกล้วย’ อย่างคุณ ขอบคุณค่ำคืนดีๆ ที่น่าจดจำ’ ‘เปลวตะวัน’ ฉุนจัดเมื่อตื่นมาในเช้าวันใหม่หลังผ่านค่ำคืนอัน เร่าร้อนกับแม่สาวไวไฟความเร็วเกิน 5G แล้วพบธนบัตรสีเทา ปึกหนึ่ง พร้อมจดหมายน้อยระบุข้อความถึงเขาชัดเจน!! "ห้าหมื่น! กล้าดียังไงมาตีค่าราคาฉันด้วยเศษเงินแค่นี้” คนอย่างเขาเสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าไม่ได้! หยามกันขนาดนี้ ต่อให้ต้องควานหาจนไกลสุดขอบฟ้า ต้องจ่ายเงินมหาศาล เขาก็จะตามล่าเธอมาลงทัณฑ์ให้ได้ นั่นคือคำประกาศก้องของ ‘หมอเปลวตะวัน’ ผู้แสนหล่อเหลา เบื้องหน้าเขาคือสูตินรีแพทย์ผู้แสนสุภาพและอ่อนโยนในสายตาคนทั่วไป แต่เบื้องลึกเขามีอีกด้าน ตัวตนที่ไม่มีใครคาดคิด เขาแสนร้าย เร่าร้อน และดุดัน! เธออยากมีลูก แต่ไม่อยากมีสามีผูกมัด ‘หนุมโฮสต์’ ทรงเสน่ห์ ในค่ำคืนนั้นจึงตอบโจทย์ 'พราวชมพู' ไม่คิดว่าการตัดสินใจเลือกคำตอบข้อนี้จะนำความยุ่งยากมาให้มากขนาดนี้ เธอตาถั่วหรือสวรรค์ชังความคิดรั่วๆ ของเธอจึงแกล้งสาปส่งให้ดวงตาเธอฝ้าฟางเข้าใจไปว่าเขาคือ ผู้ชายขายกล้วย' ในคำนิยามของเธอที่นัดหมายเอาไว้ ซ้ำร้ายยังส่งเขามาตามรังควานจนหาความสงบสุขไม่ได้ เธออยากได้แค่ลูก ไม่อยากได้ผัว ใครอยากได้แม่ยกให้ฟรีๆเลยเอ้า!
ว่ากันว่า...First impression จะเกิดขึ้นใน 3 วินาทีแรก ถ้าจะทำให้ใครสักคนประทับใจต้องมัดใจเขาให้ได้ใน 3 วินาทีนั้น!! และเขาจะไม่มีวันลืมเลือน... ซ่า... “โอ๊ะ!” เสียงน้ำสาดซัดเข้าใส่ร่างสูง ดังขึ้นพร้อมๆ กับเสียงร้องอย่างตกใจของชายนิรนามเมื่อจู่ๆก็ถูกใครคนหนึ่งกระโจนขึ้นขี่หลังแล้วใช้กระป๋องครอบศีรษะเขา พร้อมเสียงตะโกนโหวกเหวก “นี่แน่ะเจ้าหัวขโมย!” “ท่านรองฯ!!” “ท่านรองฯ อะไรคะพี่ๆ นี่มันโจรโรคจิตชัดๆ เราต้องจับไอ้หมอนี่ส่งตำรวจนะคะ” “ยู้ดดด... หยุดก่อนหนูช่อ นี่ท่านรองฯ ...รองประธานนะไม่ใช่โจรโรคจิต” “ฮะ!” ช่อมาลีผงะถอย มือน้อยปล่อยท่อนแขนกำยำโดยไว คนถูกเรียก ‘ท่านรองฯ’ ยืนทำหน้าถมึงทึง จ้องมองมาด้วยสายตาดุดัน “ตามฉันไปที่ห้อง!” โอ้! เจ้าช่อมาลี ช่างกล้า... แบบนี้ 'ท่านรองฯ' คงประทับใจเจ้ามิรู้ลืม... 555 เรื่องแจ้ง: นิยายเรื่องนี้ช่อมาลีเป็นสาวเชียงใหม่ ธัชชาจึงมีสอดแทรกภาษาพื้นเมืองลงไปตามถิ่นเกิดของนางเอกนะคะ ทั้งนี้ธัชชาไม่ใช่คนทางนั้น ภาษาพูดที่ใส่ลงไป ธัชชาปรึกษาจากเพื่อนซึ่งเป็นคนทางนั้น แต่อาจมีบางประโยคที่ธัชชาเขียนเองแต่ลืมถามเพื่อน หากใครอ่านแล้วรู้สึกว่ามันไม่ใช่ รีบท้วงมานะคะ จะได้แก้ไขให้ถูกต้อง “ไปกับฉันช่อมาลี ไปเป็นผู้หญิงของภีมวัจน์ ฉันสัญญาว่าเธอจะเป็นผู้หญิงของฉันคนเดียว...ตลอดกาล” “แต่สมภารไม่กินไก่วัดนะคะ” “บังเอิญว่า ฉันไม่ใช่สมภารแล้วเธอก็ไม่ใช่ไก่วัดด้วยสิ” เขาบอกยิ้มๆ ช่อมาลีนิ่งอึ้งจ้องคนตัวโตที่ยามนี้ดวงหน้าคมของเขาโน้มต่ำลง ...ใกล้เข้ามา ...ใกล้เข้ามา ทุกขณะ! “เธอนี่จริงๆเลยนะ ไหนว่าฉันถอดเสื้อแล้วอุจาดตาไง ทำไมตอนนี้ถึงได้กอดแล้วก็ซบอกฉันไม่ยอมปล่อยแบบนี้ล่ะฮึ” ช่อมาลีผงะ! ภีมวัจน์แกล้งคลายวงแขนออกเหมือนจะปล่อยให้เธอเป็นอิสระ และก่อนที่ช่อมาลีจะทันได้ขยับห่างออกไปอีก เขาก็คว้าเอวคอดรั้งร่างเธอเข้ามากอดแล้วจู่โจมจูบเธอไม่ปล่อยให้ตั้งตัว!
‘พระจันทร์’ นักธุรกิจหนุ่มด้านอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคอาเซียน ไม่มีครั้งไหนที่เขาจะต้องเป็นฝ่ายวิ่งตามผู้หญิง แต่สำหรับ ‘พิมพ์อัปสร’ มัคคุเทศก์สาวแสนธรรมดา เธอกลับพยศเสียจนเขาอยากเอาชนะ และเมื่อเธอกล้าใช้หัวใจของเขาเป็นสะพาน ซ้ำอาจหาญทำร้ายจิตใจน้องสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของเขา เธอจะต้องได้รับโทษทัณฑ์อย่างสาสม!! “ว้าย! นี่คุณจะทำอะไรปล่อยนะ” “กับผมสะดีดสะดิ้ง ทีกับนายทัดเทพคุณกลับยิ้มระรื่นนะพิมพ์” “ปล่อยนะ! บอกให้ปล่อย!” พิมพ์อัปสรณ์ออกคำสั่งด้วยเสียงสั่นสะท้านเพราะรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาจับจิต “ตบผมถึงสองครั้งสองหน คุณคิดว่าผมจะปล่อยคุณง่ายๆ หรือไง” จบคำร่างบางก็ถูกโยนขึ้นเตียงกว้างพร้อมร่างหนาตามติดขึ้นไปทับทาบขึงตรึงจนไม่อาจขยับหนีได้ “กรี๊ดดด... ” “อย่า... ได้โปรด... อย่าทำพิมพ์” เสียงหวานเปลี่ยนมาเป็นร้องขอ เมื่ออีกฝ่ายไม่มีทีท่าหยุดฟังสักนิด พระจันทร์เหยียดยิ้มเมื่อเห็นแววตื่นตระหนกในดวงตาคู่งาม “ผมปล่อยคุณไปก็โง่น่ะสิพิมพ์ ฮึ!”
ชีวิตของซุปเปอร์สตาร์หนุ่มมีเพียง One night stand เท่านั้น ไม่มีรัก ไม่ผูกพัน ‘คิมฮัน’ ไม่เคยคิดเลยว่ารักแรกพบจะมีอยู่จริง จนกระทั่ง... “ฉันจะมาทำอะไร ยังไงมันก็เรื่องของฉัน” จบคำหญิงสาวก็สะบัดหน้าพรืดหมุนกายขยับจะหลีกหนีกลับเข้าไปในงาน แต่ทว่าเรียวแขนกลมกลึงกลับถูกอีกฝ่ายคว้าไว้เสียก่อน “เอ๊ะ! ปล่อยนะ นายถือดียังไงมาจับแขนฉัน” “แตะนิดแตะหน่อยทำเป็นโวยวาย อยากให้ฉันทำมากกว่านี้ก็บอกมาเถอะน่า ไม่ต้องทำเป็นแกล้งหวงเนื้อหวงตัวหรอก บางทีถ้าเธอบอกมาตรงๆ คืนนี้เราอาจไปสนุกกันต่อก็ได้นะ” เพียะ!! เสียงฝ่ามือกระทบเข้ากับเนื้อข้างแก้มของคิมฮันทันทีที่จบวาจาแสนร้ายกาจนั้น ใบหน้าคมสะบัดตามแรงกระทบ ดาราหนุ่มตกใจไม่น้อย เรียวฟันแข็งแกร่งขบเข้าหากันแน่นอย่างสะกดกลั้นอารมณ์ขุ่นมัว แม้ในใจจะรู้ดีว่านี่คือผลของการใช้วาจาระรานอีกฝ่ายด้วยความคึกคะนอง แต่ทว่าไม่เคยมีใครกระทำกับเขาเยี่ยงนี้มาก่อน ใบหน้าคมสันค่อยๆ หันกลับมา ดวงตาคมวาวโรจน์ราวกับดวงไฟที่ลุกโชนด้วยความโกรธ ร่างบางถูกกระชากเข้าหาอย่างลืมตัว สองแขนถูกรวบไพล่ไปด้านหลังด้วยมือแข็งแรง ศีรษะสวยถูกบังคับให้เงยแหงนขึ้นด้วยมืออีกข้าง ใบหน้าคมโน้มต่ำลงแล้วฉกจูบเธออย่างรวดเร็ว... เธอ... จะทำอย่างไร เมื่ออยู่ๆ ผู้ชายที่ชื่อ ‘คิมฮัน’ ก็เข้ามาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจตลอดเวลา ยิ่งหลบหนีก็ยิ่งชิดใกล้... แม้จะปิดบังซ่อนเร้นหัวใจที่อ่อนไหวไว้ภายใต้ท่าทีเย็นชา แต่ว่า... จะซ่อนเร้นได้ตลอดไปหรือ ในเมื่อยิ่งหลบซ่อน เขาก็ยิ่งค้นหา เธอยิ่งหนี เขาก็ยิ่งรุก!
‘เตชัส’ หรือ ‘ดาวิเด้ ดิ เฟอร์นันโด’ เครียดขึ้นมาทันทีเพราะ ‘สาวน้อยนัยน์ตากวาง’ ที่เขาต้องตาต้องใจและเกือบเขมือบเจ้าหล่อนคืนนั้นกลายมาเป็น 'น้องสาวต่างมารดา' ของเขา และเพียงเหยียบย่างเข้าสู่อาณาเขต 'คฤหาสน์นราธิบดี' เขาก็พบว่า...นอกจากจะต้องเก็บข่มความรู้สึกในหัวใจของตัวเองเอาไว้แล้ว เขายังต้องรับมือกับความร้ายกาจของใครบางคนที่หวังครอบครองทุกสิ่งอย่างของตระกูล ความลับบางอย่างที่ใครบางคนเก็บซ่อนเอาไว้จะถูกเปิดเผยหรือไม่ เขาและเธอจะก้าวผ่านเรื่องราวบีบคั้นหัวใจนี้ไปได้อย่างไร ประตูแห่งความรักจะถูก 'ปิดตาย' หรือพอจะมีช่องทางใดเป็น 'สะพาน' ให้พวกเขาก้าวข้ามเดิน!
'ฉันเอารูปมาคืนคุณตามคำสัญญา หวังว่าคุณจะทำตามคำพูดนะคะ คุณปวีร์' 'แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้วสิเอมีก้า' 'หมายความว่าไง' 'หมายความว่าผมจะทำให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผมแทนการเก็บสะสมรูปพวกนั้นน่ะสิ' 'คุณปวีร์!'
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า