เพราะเด็กหนุ่มที่เขาช่วยไว้ในคืนนั้นได้สูญเสียความทรงจำหมอหนุ่มจำต้องรับไว้ดูแลความใกล้ชิดทำให้หัวใจแกร่งของเขาหวั่นไหวจนเกิดเป็นความรัก แต่เมื่อความทรงจำกลับคืนมา เจ้านายกลับจำเรื่องราวของเขาไม่ได้
เพราะเด็กหนุ่มที่เขาช่วยไว้ในคืนนั้นได้สูญเสียความทรงจำหมอหนุ่มจำต้องรับไว้ดูแลความใกล้ชิดทำให้หัวใจแกร่งของเขาหวั่นไหวจนเกิดเป็นความรัก แต่เมื่อความทรงจำกลับคืนมา เจ้านายกลับจำเรื่องราวของเขาไม่ได้
เอี๊ยดดดดดดดด
เสียงเบรกรถสนั่นบนท้องถนนสายเปลี่ยวในยามดึกแทบไม่มีผู้คนสัญจรไปมา หมอกหนาทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่น้อยลง หมอหนุ่มขับรถด้วยความเร็วท่ามกลางความมืดต้องเหยียบเบรคจนตัวโก่งเมื่อแสงไฟหน้ารถสาดส่องกระทบร่างบางของใครคนหนึ่งที่นอนคว่ำหน้าขวางอยู่กลางถนน หมอหนุ่มมองซ้ายมองขวาดูกระจกส่องหลังเมื่อเห็นว่าไม่มีใคร อาทิตย์ วิจิตรอลงกรณ์ หมอหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ของจังหวัด ตัดสินใจเปิดประตูลงไปเขาจอดรถไว้ในระยะห่างพอสมควร ในยามนี้จะไว้ใจใครไม่ได้ ชายหนุ่มไม่ลืมหยิบปืนพกคู่กายลงมาด้วย เขามั่นใจว่าเขาไม่ได้ชนร่างอีกคนแน่นอน
ร่างที่นอนอยู่มีเลือดไหลข้างตัว ชายหนุ่มมองไปรอบๆอีกครั้ง ก่อนจะทรุดตัวลงข้างๆร่างที่นอนนิ่ง
“ยังไม่ตาย” มือหนาแตะตรงลมหายใจอ่อนๆของอีกฝ่าย เอื้อมมือไปจับไหล่ของอีกคนพลิกให้หันมาเพื่อที่จะได้ดูหน้าตาของอีกคนอย่างช้าๆ
รอยฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกายไม่ได้ปิดบังความหล่อเหลาคมคายของเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนี้เลย ผิวขาวเนียนสวยราวกับผู้หญิง รูปร่างสูงสมส่วนพอเหมาะ เสื้อผ้าที่สวมใส่บ่งบอกฐานะว่าไม่ธรรมดา เด็กหนุ่มมีเลือดออกจากศีรษะเปรอะเปื้อนใบหน้าหล่อและเสื้อผ้า ลมหายใจรวยริน
หมอหนุ่มมองไปรอบๆอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจช้อนร่างสูงของอีกฝ่ายไว้ในวงแขนและอุ้มไปยังรถที่จอดไว้ ปรับเบาะเอนนอนแล้วรีบวิ่งไปยังด้านคนขับและขับออกไปบนถนนสายเปลี่ยวอย่างรวดเร็ว มือหนากดโทรศัพท์หาเพื่อนสนิททันที
“เฮ้ย! ไอ้วิน มึงรีบมาที่บ้านกูด่วนเลย กูมีเรื่องให้ช่วย” น้ำเสียงปลายทางดูร้อนรน ทำให้หมอวินที่กำลังล้มตัวลงนอนดีดตัวลุกขึ้นนั่งทันที
“แม่ง!ไอ้หมอ กูเพิ่งจะออกเวร มีอะไรว่ามากูจะนอน”
“ไม่ได้มึงต้องมาบ้านกูก่อน เดี๋ยวนี้อีกสิบนาทีเจอกัน”
“อ้าวเฮ้ย!! ไอ้นายอาทิตย์ มึงอย่ามาใช้อำนาจกับเพื่อนตัวเองนอกเวลางานไม่ได้นะโว้ย นี่มันเวลาพักผ่อนของกู”
“กูมีเรื่องให้ช่วย มีคนบาดเจ็บกูเจอระหว่างทาง”
“ไอ้เวร มึงก็เป็นหมอเปล่าวะ เสือกจะให้กูไปดูคนเจ็บ ในประเทศนี้มีใครเก่งเกินมึง ให้กูถามหน่อยเถอะ”
“มึงจะมาไหม?” คำถามสั้นๆแต่แฝงไปด้วยคลื่นบางอย่างที่ปลายสายจำต้องรับปากแทบทันที
“เออ.เออ..แม่งไปก็ได้วะ ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยวะ แล้วนี่เขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ยังไม่ได้สติ อย่าถามมากความ รีบมาให้ไว”
“ไอ้หมอเวร”
วินสบถเมื่อปลายสายตัดไปแล้ว หมอวินได้แต่มองโทรศัพท์แล้วส่ายหน้าอย่างระอากับเพื่อนหนุ่มที่เป็นทั้งเจ้านายและเพื่อนสนิท เขาเพิ่งจะออกเวรและอาบน้ำกำลังล้มตัวลงนอนแต่ต้องมารับโทรศัพท์เจ้านายสุดโหด
“กูอยากดูหน้าคนที่มึงช่วย แม่งจะสวยขนาดไหนวะ ถึงได้ดูร้อนรนจริง”
อาทิตย์วางโทรศัพท์ไว้ข้างกายก่อนจะหันไปมองคนข้างด้วยความเป็นห่วงด้วยจรรยาบรรณเขาจะปล่อยคนที่ได้รับบาดเจ็บที่นอนบนท้องถนนไว้ได้อย่างไรถึงแม้จะไม่รู้จักก็ตามที แต่จะให้พาไปยังโรงพยาบาลเขาก็ไม่กล้าเสี่ยงเพราะไม่รู้หัวนอนปลายเท้าของอีกคน ว่าทำไมถึงนอนเจ็บอยู่บนถนนสายเปลี่ยวแบบนั้นได้ หากอาการดีขึ้นแล้วเขาจะซักไซร้ไล่เรียงแล้วนำส่งโรงพยาบาลต่อไป เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ขับรถมาจอดหน้าคฤหาสน์หรูแม่บ้านร่างท้วมคนเก่าคนแก่ของตระกูลออกมารอรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“คุณหนูเหนื่อยไหมคะ ทานอะไรมาหรือยัง”
“ยังครับ แต่ป้าให้เด็กไปเตรียมต้มน้ำร้อนให้ผมหน่อย” หมอแบงค์หรืออาทิตย์ บอกแล้วรีบเดินไปยังประตูด้านข้างคนขับแล้วอุ้มร่างสูงของอีกคนออกมา
“ว้าย แล้วนี่ใครคะ คะ..คุณหนูขับรถชนเขาเหรอคะ” แม่บ้านถามด้วยแววตาตื่นตกใจกับภาพหนุ่มหน้าตาดีแต่มีเลือดออก ตามตัวฟกซ้ำดำเขียวไม่น้อยทีเดียว
“ไม่ใช่ครับป้า แล้วผมค่อยเล่าให้ฟัง”
ชายหนุ่มอุ้มอีกคนเข้าไปในบ้านและขึ้นบันไดตรงไปที่ห้องนอนของตน เขาว่างลงสูงลงอย่างแผ่วเบาโดยไม่กลัวว่าเลือดจากตัวชายหนุ่มจะเปรอะเปื้อนบนที่นอน
“พาไปโรงพยาบาลเถอะค่ะคุณหนู ใครก็ไม่รู้ป้าว่ามันจะเกิดเป็นเรื่องราวเอานะคะ” หญิงสาวที่ผ่านโลกมาก่อนเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง สีหน้ามีความกังวลอย่างเห็นได้ชัด
“เพราะผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ผมถึงไม่กล้าพาไปส่งที่โรงพยาบาล”
“ป้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมเป็นหมอนะครับป้า เดี๋ยวไอ้วินก็มาแล้ว ป้าไปเตรียมของมาให้ผมก็พอ”
สิ้นเสียงชายหนุ่มก็หันมาสนใจใบหน้าหล่อที่ยังคงหลับสนิทไม่รู้สึกตัว อย่างสำรวจตรวจตรา ชายหนุ่มคนนี้ผิวพรรณดี จัดว่าหล่อระดับขั้นเทพหาตัวจับยากเลยทีเดียว ใบหน้าใสรับกับคิ้วดกดำเรียวยาวได้รูป ผมสีน้ำตาลอ่อนอย่างทันสมัย จมูกโด่งเป็นสันรั้นขึ้นเล็กน้อยไม่บอกก็รู้ว่าดื้อรั้นมากแค่ไหน ริมฝีปากบางสวยของชายหนุ่มซีดเผือด เสื้อเชิ้ตแบรนเนมและยีนส์ราคาแพงลิบลิ่ว รวมถึงรองเท้าคู่สวยที่มีเพียงไม่กี่คู่เท่านั้น ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแต่ดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ของประดับทั้งนาฬิกาเรือนละเจ็ดหลักที่สวมนี่อีก ทำไมคนมีเงินมากมายขนาดนี้ถึงมานอนอยู่กลางถนนแบบนั้นได้
“ท่าทางจะเป็นลูกคนมีเงิน”
หมอหนุ่มขมวดคิ้วพลางคิดไปต่างๆนาๆคิ้วเข้มสวยขมวดเข้าหากันแน่น ก่อนจะยืนลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจถอดรองเท้าออก ตามด้วยเสื้อผ้าที่เลอะเปรอะเลือดของอีกฝ่าย เหลือเพียงชั้นในยี่ห้อหรู สายตาคู่คมสำรวจเรือนร่างแกร่งสวยกำลังดี มีกล้ามเนื้อเป็นลอนอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอ หน้าอกแกร่งขยับขึ้นลงตามแรงหายใจรวยริน ยอดอกชูชันสีสวย มันทำให้เขาหัวใจเต้นถี่รัวแปลกๆ ไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกแบบนี้เลยสักครั้ง หมอหนุ่มจัดการเช็ดทำความสะอาดให้คนเจ็บด้วยตัวเองแล้วเอาชุดของเขามาเปลี่ยนให้
เสียงฝีเท้าเดินตรงมาที่ห้องไม่นานก็ปรากฏร่างสูงของหมอหนุ่มฝีมือดีอีกคนที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา ครั้งนี้เขาไม่อยากจะรักษาคนเจ็บเองด้วยยังรู้สึกแปลกๆตั้งแต่อุ้มอีกคนขึ้นรถมาที่นี่แล้ว
“แหม่..ถึงขนาดยืนเฝ้าคนเจ็บจนชิดขอบเตียงเชียวนะไอ้หมอ” อาทิตย์หลีกให้หมอวินเข้ามาใกล้คนป่วยและหยิบอุปกรณ์เตรียมพร้อม
“หน้าตาดีนี่หว่า ผิวพรรณเหมือนไม่ใช่คนแถวนี้ มึงไปเจอที่ไหนวะ”
หมอวินก้มลงสำรวจบาดแผลตามใบหน้าลำตัวของอีกฝ่าย รวมถึงบริเวณที่สำคัญที่สุดคือที่ศีรษะที่มีเลือดไหลออกมา
“หัวแตกนี่หว่า เป็นทางยาวเลยเว้ย ต้องเย็บหลายเข็มเลยนะ มึงรีบไปเตรียมน้ำร้อนมา”
"อืม กูให้เด็กเตรียมน้ำร้อนให้แล้ว”
“คงโดนมาหนักทีเดียว อาจจะโดนตีหัวมาหรืออาจจะกระแทกอะไรสักอย่าง หรือไม่ก็ถูกรถชน”
“อืม” อาทิตย์ไม่แน่ใจว่าสมองของอีกฝ่ายจะถูกกระทบกระเทือนหรือเปล่า ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองด้วยแววตายากจะคาดเดาได้
“แล้วนี่มึงดูบัตรประชาชนหรือยังว่าเป็นใคร”
“ไม่มีเอกสารอะไรติดตัวมาเลยสักอย่าง”
“อ้าว!! จะไม่ซวยเหรอวะไอ้หมอ” หมอวินหน้าตาตื่นหันกลับมามองเพื่อนหนุ่มด้วยความกังวล
“เออน่า ค่อยว่ากันอีกทีตอนนี้ช่วยชีวิตไปก่อนละกัน” อาทิตย์จับชีพจรอีกฝ่าย
"ชีพจรเต้นอ่อนจังวะ มึงมัวแต่พูด รีบช่วยเร็วเข้า” อาทิตย์ดุเพื่อนสนิทที่มัวโอ้เอ้ถามนั่นนี่ไม่หยุด ก่อนจะก้มลงเก็บเสื้อผ้าที่กองไว้บนพื้น ยืนจ้องหน้าคนเจ็บด้วยใบหน้าเรียบนิ่งก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้อีกคนรักษาคนเจ็บตามลำพัง
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใคร เพราะว่ามีคนในหัวใจอยู่แล้ว แม่มดตัวร้ายเข้า มาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเขาตั้งแต่เด็ก แล้วจะให้เขามองหาหญิงอื่นอีกทำไม เมื่อคนที่อยู่ในหัวใจกำลังหลงเข้ามาในอาณาจักรของเขา เพราะตั้งแต่โตมาจนป่านนี้แทนคุณยังไม่เคยเห็นว่าจะมีผู้ชายคนไหนเข้ามาเป็นเจ้าของหัวใจยัยแม่มดน้อยได้เลย เขาเองก็อยากจะลองดูสักครั้ง หากมีโอกาส สุดท้ายใครจะชนะเกมนี้ มารอลุ้นกัน
"หนาว" ฉันเริ่มหนาวไปทั้งตัว แต่ข้างในก็ยังคงร้อนรุ่มจนอยากที่จะปลดปล่อยออกมา "อดทนไว้ ให้มันลดความร้อนรุ่มในกาย" เจ้าคุณเอ่ยบอกเสียงต่ำ คงเห็นว่าฉันสั่นสะท้านจนเขาเองแอบสงสาร “ไอ้เชี้ยชาร์ค” ฉันคำรามออกมา นึกโกรธตัวเองทีเสียทีหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้น แต่ยังดีที่ไม่ได้เสียความสาวให้กับมัน “มันเป็นใคร” เจ้าคุณมองฉันอย่างคาดคั้น แต่ฉันไม่บอกหรอกยังมีหลายอย่างที่ฉันยังปิดบังเขา ฉันยังคงประท้วงให้เขาปล่อยโดยการเตะ ถีบ ต่อย เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนตัวโต ยิ่งดิ้นแรงผ้าขนหนูที่พันอกไว้ก็ยิ่งหมิ่นแหม่ พอขยับเคลื่อนไหวแรงๆและถูกน้ำจากฝักบัวยิ่งพาลจะหลุดกองลงพื้น "ไม่ตอบใช่ไหม” เจ้าคุณเริ่มหงุดหงิดเมื่อฉันไม่ยอมตอบ แต่พอผ้าขนหนูหลุดไปกองลงพื้นการสนทนาของเราทั้งคู่ก็ตัดบทจบทันที (⊙_⊙;) "มึงอย่าท้ากูนะ..ลูกศร" ยิ่งเธอท้าทาย ยิ่งทำให้ผมอยากลอง!
แต่งงานมาสามปี อันหนีก็ยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ในบรรยากาศที่มีความสุข เดิมทีคิดว่าเขาจะกลับใจ ที่แท้ก็แค่ต้องการรับคนรักในใจกลับมาเท่านั้น ถ้าความรักมีขีดจำกัด ความอดทนก็มีเช่นกัน เธอยื่นข้อตกลงการหย่าฉบับหนึ่งให้เขา แต่กลับไม่คิดว่ากลับถูกเขาพลิกมือกดกับพนัง “คนที่บอกว่าต้องการฉันก็คือเธอ บอกว่าไม่ต้องการฉันก็เธอ มันจะง่ายขนาดนั้นเสียที่ไหน? ” จากนั้น ภรรยาไร้รสชาติที่เคยอ่อนโยนเยือกเย็น ก็ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน หัวกระไดไม่เคยแห้ง ผู้ชายข้างกายเปลี่ยนหน้าไปทุกเดือนทุกปี แต่สิ่งเดียวที่ไม่เปลี่ยนคือใบหน้างดงามที่บึ้งตึงของโม่หานชวน จนกระทั่งท้องของเธอโตขึ้นเรื่อย ๆ และอุ้มเด็กที่ไม่รู้ว่าเป็นลูกของใครออกมา โม่หานชวนอดทนแล้วอดทนอีก สุดท้ายก็ตัดสินใจอดทนต่อไป แต่เมื่อเขาตัดสินใจจะยอมรับเป็นพ่อ—— เธอกลับโบกมือลา “ขอบคุณความหวังดีของคุณโม่ ต่อไปเรื่องแบบนี้ก็มีอีกเยอะแยะ ก็จะรบกวนคุณบ่อย ๆ ไม่ได้นะคะ”
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY