"มึงเป็นขี้ข้า มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง"
"มึงเป็นขี้ข้า มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง"
ตอนที่ 1 เมฆ
ภายในผับกลางกรุงกลางดึก แสง สี เสียงเพลงของวงดนตรีสดกำลังเล่นจังหวะสนุกสนาน นักเที่ยวกลางคืนต่างออกมาโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสุดเหวี่ยง บ้างก็วาดลวดลายไม่เกรงเท้าใคร บ้างก็นัวเนียล้วงกันภายในร่มผ้าอย่างลืมอายตามแต่ใจชอบ เพราะในเวลานี้ต่างคนก็สนุกสนานไม่มีใครสนใจว่าใครจะทำอะไร
เมฆหรือเมฆา อายุ 27 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถหรูและมีสนามแข่งรถระดับประเทศอีกสองแห่ง รวมทั้งสถานบันเทิงอีกนับไม่ถ้วนที่เขาปล่อยให้ลูกน้องดูแล กำลังเดินเข้ามากลางฝูงชนที่ต่างก็ต้องหลีกทางให้เขา ด้วยเพราะความมีอิทธิพลที่ใครต่างก็รูว่าเฮียเมฆดุแค่ไหน หน้าตาหล่อเหลา และหุ่นสูงกำยำกราวใจสาวแก่แม่หม้ายนั่นอีก เมฆต่างก็เป็นที่หมายปองของบรรดาสาวสวยและหนุ่มหล่ออีกมากที่อยากจะลิ้มลองรสรักสักครั้ง เพราะคำร่ำลือที่ใครต่างก็กล่าวขานว่าเขาดุและเก่งแค่ไหนแต่ยังไม่เคยมีใครได้หัวใจผู้ชายคนนี้ไปครองเลยสักคน
เมฆเดินเข้ามาพร้อมบอดี้การ์ดร่างโตอีกนับสิบ แต่มีเพียงคนสนิทที่ชื่อชิน หรือชินวุฒิเท่านั้นที่จะได้เข้ามานั่งหรือยืนอยู่ข้างเฮียเมฆเสมอ จนใครๆก็รู้ว่าชินเป็นเด็กโปรดของเฮีย เห็นเมฆที่ไหนก็จะต้องมีชินที่นั่น บางครั้งไม่เว้นแม้กระทั่งยามออกรบกับข้าศึกบนเตียง
"เฮียเมฆ ทางนี้ครับที่ของเฮียผมเตรียมไว้แล้ว"
เบลเจ้าของคลับรีบกุลีกุจอออกไปต้อนรับแขกสำคัญ ผู้มีพระคุณคนหนึ่งที่ทำให้เขามีวันนี้ ทุกๆวันศุกร์เมฆจะออกมาที่เบลคลับ เพื่อออกมาเปิดหูเปิดตาและผ่อนคลายให้กับตัวเอง
"คนเยอะดีนี่ กิจการรุ่งเรืองละสิ" เจ้าของใบหน้าเฉี่ยว รูปหล่อคมสัน รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงอย่างคนออกกำลังกายอยู่เสมอเอ่ยถามเจ้าของคลับ
"เรื่อยๆครับแต่ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะเฮียเมตตา ผมขอบคุณเฮียมากจริงๆ"
"ไม่ต้องมาขอบคุณกู ถ้าผับไม่ดีจริง ลูกค้าก็คงไม่ติด" เมฆพูดเสียงเรียบสายตาคมกวาดมองแขกตามโต๊ะต่างๆ ทุกคนส่วนใหญ่ต่างก็ค่อมศีรษะให้เพราะรู้ว่าเขาเป็นใคร
"สบายดีไหมชิน ดูหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะมึง"
"สบายดีครับเฮีย ขอบคุณครับ" คนอายุน้อยกว่าโค้งศีรษะขอบคุณเจ้านายเก่าเบาๆ
เจ้าของร้านมองเด็กหนุ่มที่เคยทำงานที่คลับแห่งนี้ ชินอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น เด็กหนุ่มคนนี้มีนิสัยถ่อมตน เป็นคนไม่ค่อยพูด ดูท่าทางนิ่งๆ แต่เป็นคนที่หนักเอาเบาสู้ทำงานทุกอย่างขอแค่ให้ได้เงินไปจุนเจือครอบครัว ชินหรือชินวุฒิเป็นคนหนุ่มที่ทำงานเก่งและฉลาดทันคน ชินเคยเข้าไปพัวพันกับแก๊งเงินกู้นอกระบบแต่เกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่ดีที่เมฆมาเห็นเหตุการณ์และช่วยไว้อย่างไม่ตั้งใจ สุดท้ายเลยได้เอาไปทำงานด้วยเพราะตนขอร้องไม่อยากให้ชินต้องเจอกับแก๊งพวกนั้นอีก พอพวกมันรู้ว่าชินทำงานกับเมฆก็จะรามือไม่กล้ามาทำอะไรเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของเมฆเช่นเดียวกัน
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านในคลับที่มีนักศึกษาสองโต๊ะที่กั้นกลางแค่ช่วงทางเดินเท่านั้น สายตาคู่คมหันไปมองเจ้าของคลับ แต่เบลห้ามการ์ดของร้านเพราะรู้ว่าด้านในเป็นโต๊ะของใคร
"มีอะไร"
เสียงเข้มเอ่ยถามสายตาคมจ้องไปยังตัวต้นเหตุที่ยืนเท้าสะเอวโมโหใครสักคนที่นั่งหันหลังให้ดูไม่สนใจหรือกลัวเลยสักนิด ทั้งที่อีกคนยืนจ้องแทบจะกินหัวได้อยู่แล้ว
"อ่อ แขกประจำของที่ร้าน ผมรู้จักมันดีชื่ออคิณ วนารมย์ เป็นนักแข่งรถด้วย ผมว่าเฮียก็น่าจะคุ้นชื่อ คนนี้มันร้ายไม่ใช่เล่นเอาหมดทุกอย่าง อีกกลุ่มเจ้าปัญหาก็เด็กของมันเอง คงหึงหวงกันตามประสาวัยรุ่น"
"ใช่เด็กที่เราเจอเมื่อวันก่อนหรือเปล่า" ชินที่ยืนประกบเจ้านายอยู่ทางด้านหลังได้ยินเจ้านายเปรยขึ้นก็หันไปตามเสียงที่โวยวาย ก่อนจะพยักหน้า
"ใช่ครับพี่...ไอ้คนที่ชักปืนขู่เรา"
"ไอ้นี่มันหน่วยก้านดี แต่กูชอบเด็กของมันมากกว่า"
ไม่พูดเปล่าแต่ท่าทางของเฮียที่มองเจ้าของใบหน้าหวานรูปร่างสูงโปร่ง ปากแดง แต่ทำหน้าหงิกงอนั่งอยู่โดยไม่สนใจคนที่ยืนโวยวายหน้าดำหน้าแดง ดูน่าสนใจ แต่ก็อย่างว่าเขาไม่ชอบเป็นมือที่สามโดยเฉพาะกับเด็กหนุ่มที่ชื่ออคิณ
"คนนี้ขอเถอะนะครับ มันหวงของมันมากแต่ดูท่าจะยังไม่รู้ตัว ว่าแต่วันนี้มีเด็กใหม่ไซด์ไลน์สวยๆจัดมาไว้ให้เฮียด้วย ยังไงเฮียเรียกผมนะครับ ผมขอตัวออกไปดูลูกค้าฝั่งโน้นก่อน”
เมฆพยักหน้าก่อนจะหันไปมองผู้หญิงสวยโต๊ะข้างๆที่มีแต่สาวสวยหมวยอึ่มกำลังชูแก้วให้เขาอย่างเชิญชวน เขาเพียงพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อยก่อน กระดกวิสกี้ขึ้นรวดเดียวหมดแก้ว เพียงแค่นี้พวกเจ้าหล่อนก็กระดี๊กระด๊าดีอกดีใจกันยกใหญ่ คิดว่าพียงไม่นานสาวๆเหล่านั้น ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องได้มาขึ้นเตียงกับเขาในคืนนี้แน่
"มานานหรือยังวะ"
เบสและริวเพื่อนสนิทที่เขามักจะไปไหนมาไหนด้วยเสมอยิ้มร่าเข้ามา ทั้งคู่หน้าตาหล่อเหลา คมคายไม่ต่างกัน แต่หุ่นไม่ล่ำเท่ากับเมฆ ก่อนจะหันไปตบบ่าชินคนสนิทของเพื่อนอย่างแรงเป็นเชิงทักทาย
ชินที่มีรูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่หนาเท่าสามหนุ่ม เขาไม่ทันระวังตัวตกใจเซเกือบจนโต๊ะข้างๆ แต่ดีที่มือหนาคว้าเอวบางเกี่ยวไว้ได้ทันไม่เช่นนั้นได้กองไปนอนกับพื้นอย่างแน่นอน
"ระวังหน่อยสิวะ ซุ่มซ่ามชะมัด!!" สายตาต่อว่าเมื่อเห็นว่าคนของตนมัวแต่เหม่อมองไปบนเวทีไม่สนใจแก้วเหล้าที่ตัวเองยื่นให้สักนิด
"มึงจะสนใจเวทีหรือจะชงเหล้าให้กู ถ้าไม่ชงกูจะได้เรียกเด็กมา รำคาญ!!"
น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดไม่พอใจเมื่อลูกน้องคนสนิทไม่สนใจที่จะทำหน้าที่ เพราะมัวแต่มองตรงไปยังเวที ประเมินจากหางตาแล้วมีสาวสวยหลายโต๊ะออกอาการอ่อยมายังคนของเขาอยู่ไม่น้อย ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด
"ผมทำเอง ทำไมพี่เมฆต้องโกรธด้วยละครับ" ชินถามเจ้านายที่นั่งหน้าเครียดอย่างไม่เข้าใจ
"ใครโกรธกูแค่รำคาญ!!" อีกฝ่ายลงเสียงหนักแต่ก็ยื่นแก้วให้อยู่ดี
"แก้วของกูกับไอ้ริวด้วย ออนเดอะร็อคนะโว้ย" เบสกับริวก็ยื่นแก้วไปตรงหน้าชินเช่นกัน ก่อนสายตาคมดุจะเหลือบมองไม่พอใจ
"อยากแดกก็ไปชงกินเองหรือไม่ก็เรียกเด็กในร้านมาชงให้"
"กูอยากให้มือขวาคนสนิทหน้าตาดีอย่างไอ้ชินชงเหล้าให้กูบ้าง อยากรู้ว่ามันจะหวานเหมือนหน้าตามันหรือเปล่า มึงว่าเหมือนกูไหมไอ้เบส" ริวแซวเพื่อนสนิทที่หวงแม้กระทั่งลูกน้อง ก่อนจะหันไปขอความเห็นจากเบส
"เอ่อ มึงจะหวงลูกน้องอะไรนักหนา กูขอใช้บริการแค่นี้ ทำไมมึงต้องดุด้วยวะ" เบสเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
"เอ่อ นั่นสิ กูก็อยากรู้"
"นี่มันลูกน้องของกู พวกมึงจะแดกไหมเหล้าถ้าไม่แดกกูจะได้กลับ" เมฆเริ่มโมโหกระแทกแก้ววางบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง เขาไม่ชอบให้ใครมาใช้คนของเขา กับเพื่อนสนิทก็ไม่มีข้อยกเว้น มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะออกคำสั่งกับมันได้
"ส่วนมึง มีหน้าที่แค่เสิร์ฟเหล้ากูคนเดียว แล้วอย่าเสือกไปเสิร์ฟให้คนอื่นล่ะถ้ากูรู้ มึงเจ็บแน่"
น้ำเสียงดุและสายตาขมขู่ลูกน้องคนสนิท ทำให้ชินและเพื่อนๆของเขาเงียบไปทันที ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังโมโหอะไรดูหงุดหงิดไปเสียหมด
"พวกพี่ทำให้ผมเดือดร้อนแล้วนะครับ" ชินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขบขันไม่ได้กลัวคำขู่ของเจ้านายเลยสักนิด
"เออ...กูเรียกเด็กของร้านก็ได้วะ ทำไมมึงต้องหงุดหงิดด้วยเนี่ย"
หลังจากนั่นเด็กสาวสวยหน้าตาดีสองคนก็มานั่งลงข้างๆเบสกับริวและบริการอย่างรู้หน้าที่ แต่สายตากลับชม้ายชายตามาให้คนร่างหนาเป็นระยะๆ แต่เมฆไม่สนใจ
"เดี๋ยวหนูชงให้เฮียเองนะคะ" หญิงสาวสวยใส่เสื้อเกาะอกที่ปิดแทบไม่มิดกับกระโปรงสั้นรัดรูด เอื้อมมาจะหยิบแก้วเหล้าของเมฆไปชงเหล้ามาให้ ตั้งใจจะอ่อยเต็มที่เพราะก้มลงมาแต่ละทีแทบจะทะลักออกมานอกอก เมฆแค่เหลือบตามองผ่านๆก่อนจะเอ่ยเสียงห้วน
"ไม่ต้อง!! แก้วนี้มีคนชงให้ฉันอยู่แล้ว เธอมีหน้าที่บริการเพื่อนของฉันก็ทำไปหรือจะไม่ทำแล้ว!!"
"แหม่..เฮียหนูก็แค่อยากจะชงให้เฮีย บริการเฮียบ้างเผื่อเฮียชอบรสชาติของหนู"
คำพูดสองแง่สามง่ามของเธอทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังต้องการอะไร ไม่ใช่แค่เขาที่เธอกำลังทอดสะพานให้แต่สายตาคู่สวยยังเหลือบขึ้นมองคนข้างหลังเขาอีกด้วย
"ฉันจะกินเฉพาะคนที่ฉันเลือกเท่านั้น หวังว่าจะเข้าใจ" สายตาเย็นชาจ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยเรียกคนข้างหลัง
" ไอ้ชิน มึงไปเลือกผู้หญิงให้กูได้แล้ว"
"ได้ครับ"
"แล้วมึงก็รออยู่หน้าห้องเลยไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวกูตามไป"
"ครับ"
ชินก้าวยาวขึ้นไปหาเจ้าของร้านที่รออยู่ด้านบน เพื่อเลือกผู้หญิงคืนนี้ให้กับนายด้วยตัวเอง เพราะเขารู้ดีว่าเมฆชอบผู้หญิงแบบไหน และทุกครั้งก็เลือกก็ถูกใจอีกคนได้เป็นอย่างดี แต่ถึงแม้ชินจะเลือกใครให้ เมฆก็ไม่บ่นหรือว่าลูกน้อง เพราะเขามอบหมายหน้าที่นี้ให้แล้ว ถ้าชินว่าดี เขาก็ไม่เกี่ยง
"ไอ้เชี้ยเมฆ ขนาดผู้หญิงที่มึงจะนอนด้วยเนี่ย มึงยังต้องให้มันเลือกให้อีกหรือไงวะ"
"อืม"
เมฆมองตามร่างสูงโปร่งที่เดินก้าวขึ้นบันไดไปชั้นบนด้วยท่าทางนิ่งเรียบ สายตาที่มองตามไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ แทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงที่เขากับชินต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน จนเป็นภาพชินตาของใครต่อใครหลายคน ชินเป็นคนเรียนรู้เร็ว รู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร จนกลายเป็นคนรู้ใจและทำให้เขาทุกอย่างโดยไม่ต้องบอกซ้ำ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใคร เพราะว่ามีคนในหัวใจอยู่แล้ว แม่มดตัวร้ายเข้า มาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเขาตั้งแต่เด็ก แล้วจะให้เขามองหาหญิงอื่นอีกทำไม เมื่อคนที่อยู่ในหัวใจกำลังหลงเข้ามาในอาณาจักรของเขา เพราะตั้งแต่โตมาจนป่านนี้แทนคุณยังไม่เคยเห็นว่าจะมีผู้ชายคนไหนเข้ามาเป็นเจ้าของหัวใจยัยแม่มดน้อยได้เลย เขาเองก็อยากจะลองดูสักครั้ง หากมีโอกาส สุดท้ายใครจะชนะเกมนี้ มารอลุ้นกัน
เพราะเด็กหนุ่มที่เขาช่วยไว้ในคืนนั้นได้สูญเสียความทรงจำหมอหนุ่มจำต้องรับไว้ดูแลความใกล้ชิดทำให้หัวใจแกร่งของเขาหวั่นไหวจนเกิดเป็นความรัก แต่เมื่อความทรงจำกลับคืนมา เจ้านายกลับจำเรื่องราวของเขาไม่ได้
"หนาว" ฉันเริ่มหนาวไปทั้งตัว แต่ข้างในก็ยังคงร้อนรุ่มจนอยากที่จะปลดปล่อยออกมา "อดทนไว้ ให้มันลดความร้อนรุ่มในกาย" เจ้าคุณเอ่ยบอกเสียงต่ำ คงเห็นว่าฉันสั่นสะท้านจนเขาเองแอบสงสาร “ไอ้เชี้ยชาร์ค” ฉันคำรามออกมา นึกโกรธตัวเองทีเสียทีหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้น แต่ยังดีที่ไม่ได้เสียความสาวให้กับมัน “มันเป็นใคร” เจ้าคุณมองฉันอย่างคาดคั้น แต่ฉันไม่บอกหรอกยังมีหลายอย่างที่ฉันยังปิดบังเขา ฉันยังคงประท้วงให้เขาปล่อยโดยการเตะ ถีบ ต่อย เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนตัวโต ยิ่งดิ้นแรงผ้าขนหนูที่พันอกไว้ก็ยิ่งหมิ่นแหม่ พอขยับเคลื่อนไหวแรงๆและถูกน้ำจากฝักบัวยิ่งพาลจะหลุดกองลงพื้น "ไม่ตอบใช่ไหม” เจ้าคุณเริ่มหงุดหงิดเมื่อฉันไม่ยอมตอบ แต่พอผ้าขนหนูหลุดไปกองลงพื้นการสนทนาของเราทั้งคู่ก็ตัดบทจบทันที (⊙_⊙;) "มึงอย่าท้ากูนะ..ลูกศร" ยิ่งเธอท้าทาย ยิ่งทำให้ผมอยากลอง!
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
เวินอี่ถงได้เห็นความรักอันลึกซึ้งของเจียงยวี่เหิง แต่ก็ได้สัมผัสกับการทรยศของเขาเช่นกัน เธอเผารูปแต่งงานของพวกเขาต่อหน้าเขา แต่เขากลับมัวแต่ง้อชู้ของเขา ทั้งๆ ที่เขาแค่มองดูแวบหนึ่งก็จะเห็น แต่เขากลับไม่สนใจเวินอี่ถงสุดจะทน ตบหน้าเขาอย่างแรง พร้อมอวยพรให้เขากับชู้ของรักกันยืนยาว แล้วเธอก็หันหลังสมัครเข้ากลุ่มวิจัยลับเฉพาะ ลบข้อมูลประจำตัวทั้งหมด รวมถึงความสัมพันธ์การแต่งงานกับเขาด้วย! ก่อนจากไป เธอยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้เขาอีกด้วยเมื่อถึงเวลาที่จะเข้ากลุ่ม เวินอี่ถงก็หายตัวไป บริษัทของเจียงยวี่เหิงประสบปัญหาล้มละลาย เขาจึงออกตามหาเธอด้วยทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นใบมรณบัตรที่ต้องสงสัยเขาสติแตก “ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่ยอมรับ!”เมื่อพบกันอีกครั้ง เจียงยวี่เหิงต้องตกใจที่พบว่าเวินอี่ถงเปลี่ยนตัวตนใหม่แล้ว โดยข้างกายมีผู้มีอำนาจที่เขาต้องยอมก้มหัวให้เขาอ้อนวอนอย่างสิ้นหวัง “ถงถง ผมผิดไปแล้ว คุณกลับมาเถอะ!”เวินอี่ถงเพียงยิ้มยักคิ้ว จับแขนของผู้มีอำนาจข้างๆ “น่าเสียดาย ตอนนี้ฉันอยู่ในระดับที่นายไม่อาจเอื้อมถึงแล้ว”
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เจียงหยวนชอบเสิ่นตู้มาเป็นเวลาสี่ปี แม้จะต้องเผชิญความรังเกียจจากตระกูลเจียง แต่เธอก็ยังเลือกยืนหยัดเคียงข้างเขา กระทั่งวันหนึ่ง เสิ่นตู้เพื่อพี่สาวของเขา ยอมยกให้เธอไปมีอะไรกับคนอื่น ในที่สุด เธอถึงได้เข้าใจว่าคนที่ไม่ใช่ยังไงก็คือไม่ใช่ ในเมื่อไม่ใช่คนที่ใช่ งั้นเธอยอมตัดทิ้งแล้วกัน เธอหันไปให้ความสำคัญกับการทำงานจนกลายเป็นนางแบบระดับโลก ทำให้คนทั้งโลกตะลึง ผู้ชายที่ทำร้ายเธอรู้สึกเสียใจ“หยวนหยวน โลกของฉันขาดเธอไม่ได้ กลับมานะ” ตลกสิ้นดี ผู้ชายมันจะเทียบกับอาชีพการงานได้ที่ไหน ! ** เจี่ยงเฉินโจว ผู้นำของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหรงเฉิง เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นเป็นคนแสนเย็นชา แต่อยู่ลับหลังกลับเป็นคนคลั่งรัก เขาชอบความงามของเจียงหยวน เห็นเธอเป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่น่ารักและเชื่อง ต่อมา บนพรมแดงท่ามกลางแสงสปอร์ตไลท์ ชายผู้ก้าวลงจากเวทีคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าสาธารณะ“ถึงแม้จะไม่มีฐานะอะไร ฉันก็ยินยอม”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY