"มึงเป็นขี้ข้า มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง"
"มึงเป็นขี้ข้า มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง"
ตอนที่ 1 เมฆ
ภายในผับกลางกรุงกลางดึก แสง สี เสียงเพลงของวงดนตรีสดกำลังเล่นจังหวะสนุกสนาน นักเที่ยวกลางคืนต่างออกมาโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสุดเหวี่ยง บ้างก็วาดลวดลายไม่เกรงเท้าใคร บ้างก็นัวเนียล้วงกันภายในร่มผ้าอย่างลืมอายตามแต่ใจชอบ เพราะในเวลานี้ต่างคนก็สนุกสนานไม่มีใครสนใจว่าใครจะทำอะไร
เมฆหรือเมฆา อายุ 27 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถหรูและมีสนามแข่งรถระดับประเทศอีกสองแห่ง รวมทั้งสถานบันเทิงอีกนับไม่ถ้วนที่เขาปล่อยให้ลูกน้องดูแล กำลังเดินเข้ามากลางฝูงชนที่ต่างก็ต้องหลีกทางให้เขา ด้วยเพราะความมีอิทธิพลที่ใครต่างก็รูว่าเฮียเมฆดุแค่ไหน หน้าตาหล่อเหลา และหุ่นสูงกำยำกราวใจสาวแก่แม่หม้ายนั่นอีก เมฆต่างก็เป็นที่หมายปองของบรรดาสาวสวยและหนุ่มหล่ออีกมากที่อยากจะลิ้มลองรสรักสักครั้ง เพราะคำร่ำลือที่ใครต่างก็กล่าวขานว่าเขาดุและเก่งแค่ไหนแต่ยังไม่เคยมีใครได้หัวใจผู้ชายคนนี้ไปครองเลยสักคน
เมฆเดินเข้ามาพร้อมบอดี้การ์ดร่างโตอีกนับสิบ แต่มีเพียงคนสนิทที่ชื่อชิน หรือชินวุฒิเท่านั้นที่จะได้เข้ามานั่งหรือยืนอยู่ข้างเฮียเมฆเสมอ จนใครๆก็รู้ว่าชินเป็นเด็กโปรดของเฮีย เห็นเมฆที่ไหนก็จะต้องมีชินที่นั่น บางครั้งไม่เว้นแม้กระทั่งยามออกรบกับข้าศึกบนเตียง
"เฮียเมฆ ทางนี้ครับที่ของเฮียผมเตรียมไว้แล้ว"
เบลเจ้าของคลับรีบกุลีกุจอออกไปต้อนรับแขกสำคัญ ผู้มีพระคุณคนหนึ่งที่ทำให้เขามีวันนี้ ทุกๆวันศุกร์เมฆจะออกมาที่เบลคลับ เพื่อออกมาเปิดหูเปิดตาและผ่อนคลายให้กับตัวเอง
"คนเยอะดีนี่ กิจการรุ่งเรืองละสิ" เจ้าของใบหน้าเฉี่ยว รูปหล่อคมสัน รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงอย่างคนออกกำลังกายอยู่เสมอเอ่ยถามเจ้าของคลับ
"เรื่อยๆครับแต่ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะเฮียเมตตา ผมขอบคุณเฮียมากจริงๆ"
"ไม่ต้องมาขอบคุณกู ถ้าผับไม่ดีจริง ลูกค้าก็คงไม่ติด" เมฆพูดเสียงเรียบสายตาคมกวาดมองแขกตามโต๊ะต่างๆ ทุกคนส่วนใหญ่ต่างก็ค่อมศีรษะให้เพราะรู้ว่าเขาเป็นใคร
"สบายดีไหมชิน ดูหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะมึง"
"สบายดีครับเฮีย ขอบคุณครับ" คนอายุน้อยกว่าโค้งศีรษะขอบคุณเจ้านายเก่าเบาๆ
เจ้าของร้านมองเด็กหนุ่มที่เคยทำงานที่คลับแห่งนี้ ชินอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น เด็กหนุ่มคนนี้มีนิสัยถ่อมตน เป็นคนไม่ค่อยพูด ดูท่าทางนิ่งๆ แต่เป็นคนที่หนักเอาเบาสู้ทำงานทุกอย่างขอแค่ให้ได้เงินไปจุนเจือครอบครัว ชินหรือชินวุฒิเป็นคนหนุ่มที่ทำงานเก่งและฉลาดทันคน ชินเคยเข้าไปพัวพันกับแก๊งเงินกู้นอกระบบแต่เกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่ดีที่เมฆมาเห็นเหตุการณ์และช่วยไว้อย่างไม่ตั้งใจ สุดท้ายเลยได้เอาไปทำงานด้วยเพราะตนขอร้องไม่อยากให้ชินต้องเจอกับแก๊งพวกนั้นอีก พอพวกมันรู้ว่าชินทำงานกับเมฆก็จะรามือไม่กล้ามาทำอะไรเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของเมฆเช่นเดียวกัน
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านในคลับที่มีนักศึกษาสองโต๊ะที่กั้นกลางแค่ช่วงทางเดินเท่านั้น สายตาคู่คมหันไปมองเจ้าของคลับ แต่เบลห้ามการ์ดของร้านเพราะรู้ว่าด้านในเป็นโต๊ะของใคร
"มีอะไร"
เสียงเข้มเอ่ยถามสายตาคมจ้องไปยังตัวต้นเหตุที่ยืนเท้าสะเอวโมโหใครสักคนที่นั่งหันหลังให้ดูไม่สนใจหรือกลัวเลยสักนิด ทั้งที่อีกคนยืนจ้องแทบจะกินหัวได้อยู่แล้ว
"อ่อ แขกประจำของที่ร้าน ผมรู้จักมันดีชื่ออคิณ วนารมย์ เป็นนักแข่งรถด้วย ผมว่าเฮียก็น่าจะคุ้นชื่อ คนนี้มันร้ายไม่ใช่เล่นเอาหมดทุกอย่าง อีกกลุ่มเจ้าปัญหาก็เด็กของมันเอง คงหึงหวงกันตามประสาวัยรุ่น"
"ใช่เด็กที่เราเจอเมื่อวันก่อนหรือเปล่า" ชินที่ยืนประกบเจ้านายอยู่ทางด้านหลังได้ยินเจ้านายเปรยขึ้นก็หันไปตามเสียงที่โวยวาย ก่อนจะพยักหน้า
"ใช่ครับพี่...ไอ้คนที่ชักปืนขู่เรา"
"ไอ้นี่มันหน่วยก้านดี แต่กูชอบเด็กของมันมากกว่า"
ไม่พูดเปล่าแต่ท่าทางของเฮียที่มองเจ้าของใบหน้าหวานรูปร่างสูงโปร่ง ปากแดง แต่ทำหน้าหงิกงอนั่งอยู่โดยไม่สนใจคนที่ยืนโวยวายหน้าดำหน้าแดง ดูน่าสนใจ แต่ก็อย่างว่าเขาไม่ชอบเป็นมือที่สามโดยเฉพาะกับเด็กหนุ่มที่ชื่ออคิณ
"คนนี้ขอเถอะนะครับ มันหวงของมันมากแต่ดูท่าจะยังไม่รู้ตัว ว่าแต่วันนี้มีเด็กใหม่ไซด์ไลน์สวยๆจัดมาไว้ให้เฮียด้วย ยังไงเฮียเรียกผมนะครับ ผมขอตัวออกไปดูลูกค้าฝั่งโน้นก่อน”
เมฆพยักหน้าก่อนจะหันไปมองผู้หญิงสวยโต๊ะข้างๆที่มีแต่สาวสวยหมวยอึ่มกำลังชูแก้วให้เขาอย่างเชิญชวน เขาเพียงพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อยก่อน กระดกวิสกี้ขึ้นรวดเดียวหมดแก้ว เพียงแค่นี้พวกเจ้าหล่อนก็กระดี๊กระด๊าดีอกดีใจกันยกใหญ่ คิดว่าพียงไม่นานสาวๆเหล่านั้น ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องได้มาขึ้นเตียงกับเขาในคืนนี้แน่
"มานานหรือยังวะ"
เบสและริวเพื่อนสนิทที่เขามักจะไปไหนมาไหนด้วยเสมอยิ้มร่าเข้ามา ทั้งคู่หน้าตาหล่อเหลา คมคายไม่ต่างกัน แต่หุ่นไม่ล่ำเท่ากับเมฆ ก่อนจะหันไปตบบ่าชินคนสนิทของเพื่อนอย่างแรงเป็นเชิงทักทาย
ชินที่มีรูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่หนาเท่าสามหนุ่ม เขาไม่ทันระวังตัวตกใจเซเกือบจนโต๊ะข้างๆ แต่ดีที่มือหนาคว้าเอวบางเกี่ยวไว้ได้ทันไม่เช่นนั้นได้กองไปนอนกับพื้นอย่างแน่นอน
"ระวังหน่อยสิวะ ซุ่มซ่ามชะมัด!!" สายตาต่อว่าเมื่อเห็นว่าคนของตนมัวแต่เหม่อมองไปบนเวทีไม่สนใจแก้วเหล้าที่ตัวเองยื่นให้สักนิด
"มึงจะสนใจเวทีหรือจะชงเหล้าให้กู ถ้าไม่ชงกูจะได้เรียกเด็กมา รำคาญ!!"
น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดไม่พอใจเมื่อลูกน้องคนสนิทไม่สนใจที่จะทำหน้าที่ เพราะมัวแต่มองตรงไปยังเวที ประเมินจากหางตาแล้วมีสาวสวยหลายโต๊ะออกอาการอ่อยมายังคนของเขาอยู่ไม่น้อย ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด
"ผมทำเอง ทำไมพี่เมฆต้องโกรธด้วยละครับ" ชินถามเจ้านายที่นั่งหน้าเครียดอย่างไม่เข้าใจ
"ใครโกรธกูแค่รำคาญ!!" อีกฝ่ายลงเสียงหนักแต่ก็ยื่นแก้วให้อยู่ดี
"แก้วของกูกับไอ้ริวด้วย ออนเดอะร็อคนะโว้ย" เบสกับริวก็ยื่นแก้วไปตรงหน้าชินเช่นกัน ก่อนสายตาคมดุจะเหลือบมองไม่พอใจ
"อยากแดกก็ไปชงกินเองหรือไม่ก็เรียกเด็กในร้านมาชงให้"
"กูอยากให้มือขวาคนสนิทหน้าตาดีอย่างไอ้ชินชงเหล้าให้กูบ้าง อยากรู้ว่ามันจะหวานเหมือนหน้าตามันหรือเปล่า มึงว่าเหมือนกูไหมไอ้เบส" ริวแซวเพื่อนสนิทที่หวงแม้กระทั่งลูกน้อง ก่อนจะหันไปขอความเห็นจากเบส
"เอ่อ มึงจะหวงลูกน้องอะไรนักหนา กูขอใช้บริการแค่นี้ ทำไมมึงต้องดุด้วยวะ" เบสเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
"เอ่อ นั่นสิ กูก็อยากรู้"
"นี่มันลูกน้องของกู พวกมึงจะแดกไหมเหล้าถ้าไม่แดกกูจะได้กลับ" เมฆเริ่มโมโหกระแทกแก้ววางบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง เขาไม่ชอบให้ใครมาใช้คนของเขา กับเพื่อนสนิทก็ไม่มีข้อยกเว้น มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะออกคำสั่งกับมันได้
"ส่วนมึง มีหน้าที่แค่เสิร์ฟเหล้ากูคนเดียว แล้วอย่าเสือกไปเสิร์ฟให้คนอื่นล่ะถ้ากูรู้ มึงเจ็บแน่"
น้ำเสียงดุและสายตาขมขู่ลูกน้องคนสนิท ทำให้ชินและเพื่อนๆของเขาเงียบไปทันที ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังโมโหอะไรดูหงุดหงิดไปเสียหมด
"พวกพี่ทำให้ผมเดือดร้อนแล้วนะครับ" ชินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขบขันไม่ได้กลัวคำขู่ของเจ้านายเลยสักนิด
"เออ...กูเรียกเด็กของร้านก็ได้วะ ทำไมมึงต้องหงุดหงิดด้วยเนี่ย"
หลังจากนั่นเด็กสาวสวยหน้าตาดีสองคนก็มานั่งลงข้างๆเบสกับริวและบริการอย่างรู้หน้าที่ แต่สายตากลับชม้ายชายตามาให้คนร่างหนาเป็นระยะๆ แต่เมฆไม่สนใจ
"เดี๋ยวหนูชงให้เฮียเองนะคะ" หญิงสาวสวยใส่เสื้อเกาะอกที่ปิดแทบไม่มิดกับกระโปรงสั้นรัดรูด เอื้อมมาจะหยิบแก้วเหล้าของเมฆไปชงเหล้ามาให้ ตั้งใจจะอ่อยเต็มที่เพราะก้มลงมาแต่ละทีแทบจะทะลักออกมานอกอก เมฆแค่เหลือบตามองผ่านๆก่อนจะเอ่ยเสียงห้วน
"ไม่ต้อง!! แก้วนี้มีคนชงให้ฉันอยู่แล้ว เธอมีหน้าที่บริการเพื่อนของฉันก็ทำไปหรือจะไม่ทำแล้ว!!"
"แหม่..เฮียหนูก็แค่อยากจะชงให้เฮีย บริการเฮียบ้างเผื่อเฮียชอบรสชาติของหนู"
คำพูดสองแง่สามง่ามของเธอทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังต้องการอะไร ไม่ใช่แค่เขาที่เธอกำลังทอดสะพานให้แต่สายตาคู่สวยยังเหลือบขึ้นมองคนข้างหลังเขาอีกด้วย
"ฉันจะกินเฉพาะคนที่ฉันเลือกเท่านั้น หวังว่าจะเข้าใจ" สายตาเย็นชาจ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยเรียกคนข้างหลัง
" ไอ้ชิน มึงไปเลือกผู้หญิงให้กูได้แล้ว"
"ได้ครับ"
"แล้วมึงก็รออยู่หน้าห้องเลยไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวกูตามไป"
"ครับ"
ชินก้าวยาวขึ้นไปหาเจ้าของร้านที่รออยู่ด้านบน เพื่อเลือกผู้หญิงคืนนี้ให้กับนายด้วยตัวเอง เพราะเขารู้ดีว่าเมฆชอบผู้หญิงแบบไหน และทุกครั้งก็เลือกก็ถูกใจอีกคนได้เป็นอย่างดี แต่ถึงแม้ชินจะเลือกใครให้ เมฆก็ไม่บ่นหรือว่าลูกน้อง เพราะเขามอบหมายหน้าที่นี้ให้แล้ว ถ้าชินว่าดี เขาก็ไม่เกี่ยง
"ไอ้เชี้ยเมฆ ขนาดผู้หญิงที่มึงจะนอนด้วยเนี่ย มึงยังต้องให้มันเลือกให้อีกหรือไงวะ"
"อืม"
เมฆมองตามร่างสูงโปร่งที่เดินก้าวขึ้นบันไดไปชั้นบนด้วยท่าทางนิ่งเรียบ สายตาที่มองตามไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ แทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงที่เขากับชินต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน จนเป็นภาพชินตาของใครต่อใครหลายคน ชินเป็นคนเรียนรู้เร็ว รู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร จนกลายเป็นคนรู้ใจและทำให้เขาทุกอย่างโดยไม่ต้องบอกซ้ำ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใคร เพราะว่ามีคนในหัวใจอยู่แล้ว แม่มดตัวร้ายเข้า มาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเขาตั้งแต่เด็ก แล้วจะให้เขามองหาหญิงอื่นอีกทำไม เมื่อคนที่อยู่ในหัวใจกำลังหลงเข้ามาในอาณาจักรของเขา เพราะตั้งแต่โตมาจนป่านนี้แทนคุณยังไม่เคยเห็นว่าจะมีผู้ชายคนไหนเข้ามาเป็นเจ้าของหัวใจยัยแม่มดน้อยได้เลย เขาเองก็อยากจะลองดูสักครั้ง หากมีโอกาส สุดท้ายใครจะชนะเกมนี้ มารอลุ้นกัน
เพราะเด็กหนุ่มที่เขาช่วยไว้ในคืนนั้นได้สูญเสียความทรงจำหมอหนุ่มจำต้องรับไว้ดูแลความใกล้ชิดทำให้หัวใจแกร่งของเขาหวั่นไหวจนเกิดเป็นความรัก แต่เมื่อความทรงจำกลับคืนมา เจ้านายกลับจำเรื่องราวของเขาไม่ได้
"หนาว" ฉันเริ่มหนาวไปทั้งตัว แต่ข้างในก็ยังคงร้อนรุ่มจนอยากที่จะปลดปล่อยออกมา "อดทนไว้ ให้มันลดความร้อนรุ่มในกาย" เจ้าคุณเอ่ยบอกเสียงต่ำ คงเห็นว่าฉันสั่นสะท้านจนเขาเองแอบสงสาร “ไอ้เชี้ยชาร์ค” ฉันคำรามออกมา นึกโกรธตัวเองทีเสียทีหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้น แต่ยังดีที่ไม่ได้เสียความสาวให้กับมัน “มันเป็นใคร” เจ้าคุณมองฉันอย่างคาดคั้น แต่ฉันไม่บอกหรอกยังมีหลายอย่างที่ฉันยังปิดบังเขา ฉันยังคงประท้วงให้เขาปล่อยโดยการเตะ ถีบ ต่อย เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนตัวโต ยิ่งดิ้นแรงผ้าขนหนูที่พันอกไว้ก็ยิ่งหมิ่นแหม่ พอขยับเคลื่อนไหวแรงๆและถูกน้ำจากฝักบัวยิ่งพาลจะหลุดกองลงพื้น "ไม่ตอบใช่ไหม” เจ้าคุณเริ่มหงุดหงิดเมื่อฉันไม่ยอมตอบ แต่พอผ้าขนหนูหลุดไปกองลงพื้นการสนทนาของเราทั้งคู่ก็ตัดบทจบทันที (⊙_⊙;) "มึงอย่าท้ากูนะ..ลูกศร" ยิ่งเธอท้าทาย ยิ่งทำให้ผมอยากลอง!
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด