เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
เขาเก็บ "เด็กหลง" มาจากกลางถนน เธอทั้งน่ารักแสนซนและโดนใจ จนหนุ่มใหญ่อย่างเขาอดใจไม่หวั่นไหวไม่ได้ แต่จะทำไงให้เธอรู้นี่สิ! หรือต้องรุกสักครั้งให้เธอพาเขาลงจากคานสักที แต่งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะพาใครลงก่อนกันน่ะสิ!
“ผมบอกว่าอย่ามายุ่งกับผมไงสิตา”
ชายหนุ่มร่างสูงกำยำส่งเสียงกราดเกรี้ยวขณะถูกหญิงสาวในชุดราตรีสีแดงเพลิงยื้อยุดฉุดกระชาก เขาเอือมระอาอย่างบอกไม่ถูกกับการกระทำของหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังเมาไวน์ได้จนเผลอทำอะไรตามใจตนเองไม่สนใจผู้ใด
อะไรไม่ว่า แต่นี่เธอถึงกับขาดสติจนแสดงกิริยาไม่งามต่อหน้าธารกำนัลและนักข่าวเป็นร้อยอีกด้วย
“วันนี้วันวาเลนไทน์ จบงานนี้เราไปต่อที่อื่นกันนะคะริค”
“ไม่ได้!”
“วันนี้วันพิเศษตาอยากอยู่กับคุณนะคะ ริค”
สิตาที่ออกอาการเมาแล้วรุ่มร่ามอย่างที่ไม่เคยเป็นส่งเสียงดังจนเป็นจุดสนใจคนเดินผ่านไปมาตามทางเดิน ทำให้ริครู้สึกอับอาย เขาเลิกกับสิตาไปนานแล้วแต่เธอยังคงไม่วายยุ่มย่ามกับเขา
“ไม่เอานะ สิตา หยุด!”
“ม่าย” หญิงสาวลากเสียงยาว
“ยืนดีๆ หน่อย คนมองหมดแล้ว” ริคเค้นเสียงดุไม่พอแต่มือแกะปลายนิ้วที่เกาะเกี่ยวต้นแขนของตนอย่างเอือมระอา
“มองก็มองสิคะ ตาไม่สน”
“แต่ผมสน”
“งั้นคุณก็พาตาไปจากที่นี่ทีสิคะ”
“พูดเป็นเล่นไปได้ นี่มันงานฉลองรายได้หนังของคุณนะ” ริคพูดพลางหันรีหันขวาง ดวงตาคมกริบสีเทาหม่นลึกล้ำจับจ้องไปทั่วด้วยความเกรงใจ ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ใส่ใจยังคงทำตามใจปรารถนาไม่สนสายตาใคร
“ถ้างั้นก็อย่าเพิ่งกลับเลยค่ะ ริค อยู่ดื่มเป็นเพื่อนสิตาก่อนนะคะ งานน่าเบื่อจะตาย ตาเบื่อ”
“คุณเบื่อก็เรื่องของคุณ ผมจะกลับ”
“ไม่นะ! หรือว่าคุณรังเกียจตาเพราะไอ้ข่าวบ้าๆ นั่น”
“ไม่เกี่ยวเลยสิตา”
“ตาไม่ได้เป็นกิ๊กกับผู้กำกับจริงๆ คุณอย่าเข้าใจผิดตานะ”
“แล้วคุณมาบอกผมทำไม เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันตั้งนานแล้วนะสิตา”
“แต่ตายังชอบคุณ” หญิงสาวอ้อนวอน
ริคก้มมองดวงหน้าแต้มเครื่องสำอางฉูดฉาดที่กำลังออดอ้อนราวกับคนไร้สติแล้วได้แต่ส่ายหน้าระอา ขณะนั้นแสงแฟลชสว่างวาบขึ้นวูบหนึ่ง
“เห็นนั่นไหม! หยุดได้แล้วสิตา”
“ตาไม่หยุด!”
“แต่มันจะเป็นข่าวแล้วคุณเองนั่นแหละที่จะเดือดร้อน”
“ไม่ค่ะ ตาไม่แคร์หากคนที่เป็นข่าวกับตาจะเป็นคุณไม่ใช่ไอ้แก่ตัณหากลับนั่น”
“อย่าพูดให้ตัวเองดูสวยเลย ผมรู้ว่าคุณแคร์” ริค ถึงกับสบถ
เขารู้ดีว่าสิตาเป็นคนทะเยอทะยานแค่ไหน หากพรุ่งนี้สร่างเมาแล้วเห็นข่าว ไม่แคล้วคำพูดของหญิงสาวจะกลับดำเป็นขาวอีกตามเคย
เขาเข็ด...
เข็ดที่ถูกหญิงสาวใช้เป็นบันไดไต่เต้าขึ้นสู่อาชีพที่ใฝ่ฝันแล้วถีบหัวส่งลงมาเช่นเคย
ริคแกะมือเหนียบหนึบราวกับกาวตราช้างของสิตาได้ก็รีบผลุนผลันออกไปไม่ฟังคำทักท้วง ใครจะอยากถูกลากเข้าไปเอี่ยวเป็นมือที่สามของคนอื่นให้ยุ่งอีรุงตุงนังกัน
แต่ไม่ทันที่ริคจะได้ก้าวออกไป ไอ้แก่ตัณหากลับที่สิตาพูดถึงก็พุ่งพรวดเข้ามาดึงแขนหญิงสาวกระชากทันที “ตา!”
“อุ๊ย! ที่รัก!”
แหวะ!
สาวหุ่นนางแบบสะดุ้งเฮือกที่ได้ยินเสียงไม่พึงประสงค์จากริคที่จ้องเธอราวกับสมเพชเสียเต็มประดา หญิงสาวรีบปล่อยมือแล้วหันไปหาที่มาของเสียงด้วยสีหน้าปั้นยิ้มแต่แววตาบ่งบอกว่าเอือมระอาสุดๆ
“ทำไมมาเงียบๆ ล่ะคะที่รัก”
“ผมบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับมัน”
“ตาก็แค่คุยกับเพื่อนเก่า ไม่ได้อะไรนะคะที่รักขา”
“แล้วที่ผมเห็นเมื่อกี้ล่ะ” ผู้กำกับหนุ่มไม่วายถามเคืองๆ ทั้งที่กิริยาฮึดฮัดเมื่อครู่อ่อนลงมากแล้วเพราะหญิงสาวเอาใจ
นางเอกสาวที่รู้นิสัยหนุ่มใหญ่ดีจึงผละจากริคไปเกาะแขนซบหน้าก่อนตอบ “ก็ตาเมา ริคก็เลยช่วยประคองแค่นั้นเอง อย่าคิดมากนะคะที่รัก”
“อย่าให้ผมรู้ก็แล้วกันว่าจะรีเทิร์นไปหามัน”
สิตาย่นจมูกทันทีที่ฟังจบ แต่หญิงสาวผู้ถนัดเอาใจหนุ่มใหญ่เป็นที่หนึ่งก็อาศัยร้อยกลมารยาหญิงออดอ้อน จนกระทั่งถูกผู้กำกับหนุ่มใหญ่คว้าเอวเดินโอบกลับเข้าไปในงานในที่สุด
ริคที่ออกอาการกรึ่มๆ เพราะกระดกไวน์ในงานไปสามแก้วถึงกับส่ายหน้ากระตุกยิ้มเยาะ
เหอะ...
นึกแล้วว่าต้องเข้าอีหรอบเดิม...
ชายหนุ่มได้แต่ครุ่นคิดขณะมองตามแผ่นหลังหญิงสาวในชุดเดรสแดงเพลิงเว้าหลังถึงบั้นเอวเดินเคียงคู่แบบสนิทสนมไปกับหนุ่มใหญ่ร่างหมีในชุดสูทไป
ที่รักของสิตาเป็นผู้กำกับหนุ่มใหญ่ร่างอวบ หน้าตาดีที่แม้หุ่นใหญ่ไม่สมาร์ทนักแต่ก็มิใช่ว่าจะดูไม่ได้ในสายตาคนนอก เท็ดดี้ หรือทองภูมิ เป็นผู้กำกับนามกระเดื่องที่ร่วมงานกับริคได้เป็นอย่างดีในละครและหนังหลายต่อหลายเรื่อง
อันที่จริงเขาก็ชื่นชมฝีมือคนคนนี้ไม่น้อย ถ้าไม่ติดว่าจะมีเรื่องขัดใจกันในหนังเรื่องล่าสุดเพราะสิตาเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดเปลี่ยนตัวคนเขียนบทกะทันหัน เป็นความรู้สึกเจ็บปวดในอาชีพของริคที่ประเมินค่ามิได้
หากเป็นเพราะฝีมืออ่อนด้อยเขาจะไม่ว่าเลยสักคำ แต่นี่คือการกลั่นแกล้งทางอาชีพที่คนอย่างเขารับไม่ได้อย่างแรง
ริคขับรถกลับคอนโดมิเนียมที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมด้วยอาการปกติ เขาแม้จะเริ่มมึนเล็กน้อยเพราะฤทธิ์ไวน์แต่ก็ไมได้หมายความว่าจะควบคุมสติไม่ได้
เพราะประมาทหรือขาดสติเขาก็ไม่อาจรู้ได้ เพราะทันทีที่รถพ้นทางโค้งถนนใหญ่เข้าสู่ถนนสายรองที่ไฟทางน้อยกว่าสายหลัก ระดับการมองเห็นเส้นทางก็ต่ำเตี้ย
ไม่นานเขาก็ต้องตกใจแทบสิ้นสติ!
“อีกหน่อยฉันจะพามินไปแต่งงานบนลอนดอนอาย” “หืม... นี่โอมกำลังฝันอยู่รึเปล่า” “ไม่ ๆ ฉันคิดอย่างนั้นจริง ๆ” “งั้นวันแต่งงาน โอมต้องเล่นเพลงโปรดของเราด้วยนะ มินจะรอฟัง” “ได้สิ... Kiss in the Rain เนอะ ฉันจะซ้อมตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง” ยังจำได้ว่าเขารับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าสักวันจะพาหล่อนมาที่นี่มายังสถานที่ที่เป็นเหมือนสัญญารักของเขากับหล่อน ความฝันของหล่อนอยู่ที่นี่... ความรักของเขาก็อยู่ที่นี่... ที่ ‘ลอนดอนอาย’ ดวงตาของ... ลอนดอน เมืองแห่งฝนผู้คนเหงาและเรื่องราวความรักที่มีความทรงจำของเขากับหล่อน ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นคนที่รักกันสุดหัวใจ แต่ตอนนี้หล่อนจากเขาไปนานแสนนานแล้วและไม่เคยได้พบกันอีกเลย... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เรื่องของอดีตคู่รักที่เคยคบหากันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย แต่มีอันต้องแยกจากไปเพราะเหตุการณ์บางอย่าง หลายปีต่อมา อธิปก หมดพันธะจึงกลับมาเพื่อทวงสัญญารักที่เขาเคยให้ไว้แต่กลับพบว่า สิมิลัน มีคนรักแล้ว เขาคนนั้นไม่ใช่ใครแต่คือ พฤกษ์ รุ่นพี่ที่นับถือและฝากให้ช่วยดูแล พฤกษ์เก็บจดหมายฉบับนั้นไว้และดูแลสิมิลันด้วยความรักทั้งหมดที่มีจนลืมนึกถึง รินลดา พี่สาวของสิมิลันที่เป็นเพื่อนสนิทและหลงรักเขาอยู่ สองคนกลับมาเจอกันในวันที่สิมิลันเข้าใจว่าเขาไม่โสด เธอจึงวิ่งหนีหัวใจตัวเอง แต่สุดท้ายทุกอย่างยิ่งเลวร้ายเพราะเมื่อพบแล้วว่าต่างก็ยังรักกันแต่มีเหตุให้อธิปกประสบอุบัติเหตุเป็นเจ้าชายนิทรา สิมิลันตัดสินใจไปลอนดอนโดยไม่รู้เลยว่ามีเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาติดไปด้วย วันนั้นเองอธิปกก็ฟื้นขึ้นมาโดยไม่มีเธอในชีวิตอีก เขาเก็บความเสียใจไว้จนกระทั่งสองปีต่อมาทั้งสองจึงได้พบกันอีกครั้ง...
ตั้งแต่เกิดกระทั่งจำความได้ จินซิงซิน รับรู้แค่ว่านางเป็นเพียงบุตรสาวกำพร้าของพ่อค้าตระกูลใหญ่ ชั่วชีวิตน้อยๆ มีเพียงท่านยาย พี่สาวต่างมารดาเท่านั้นที่คอยห่วงใย จนกระทั่งได้เจอกับ หลี่หลานหมิง ผู้มีสมญานามว่าอ๋องพยัคฆ์ที่ผู้คนโจษขานกันว่าโหดร้ายยิ่งนัก สังหารผู้คนเป็นผักปลา แสนเย็นชาดั่งน้ำค้างแข็งจนมิอาจมีผู้ใดใต้หล้าหาญกล้าต่อกร ทั้งสองต้องแต่งงานกันตามบัญชาของโอรสสวรรค์ท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลี่หลานหมิงจะทำเช่นใดในเมื่อสตรีที่ร่วมหัวจมท้ายด้วยอย่างชายากระต่ายน้อยกลับเติบโตเพียงแค่ร่างกาย ส่วนสภาพจิตใจนั้นอ่อนด้อยราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปาน... +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลี่หลานหมิงที่รู้สึกตัวและพลิกตัวจากอาการเมื่อยขบแต่พบว่าไม่สามารถทำได้ แค่บิดตัวเล็กน้อยก็รู้สึกร่างกายแข็งค้างราวกับไร้เรี่ยวแรง ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน... ที่แท้เพราะเมื่อคืนเขาถูกกระต่ายหลงทางกอดก่ายเอาเป็นสมบัติตนจนกระดิกไปไหนไม่ได้ นางคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! น่าโมโหนัก! อ๋องสี่หลี่หลานหมิงกระดิกตัวแทบไม่ได้คล้ายเป็นตะคริวเพราะกระต่ายหลงตัวโตไม่ยอมคลายกอด กว่าร่างจะกลับฟื้นกำลังวังชาก็นานพอควร กระทั่งมีเสียงฝีเท้าดังสวบสาบจากหน้ากระโจมดังเล็ดลอดเข้ามา หลี่หลานหมิงจึงรู้สึกตัวว่าอยู่ในสภาพไม่น่ามอง รีบผุดลุกนั่งเอื้อมคว้ากระบี่คู่ใจข้างกายกระชับมั่น แต่เพราะความเคลื่อนไหวของเขาทำให้เตียงไหวสั่นจนคนที่นอนเริ่มขยับตัวและวาดมือมาคว้าเอวเขาเอาไว้อีกครา “อย่าไปตุ้งตุ้ง...” “นี่เจ้า! ข้ามิใช่ตุ้งตุ้งของเจ้า ปล่อย!” หลี่หลานหมิงคำรามแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายไร้ซึ่งความรับรู้ใดๆ “ซิงซินยังไม่อยากตื่นเลย...ท่านยาย” ดี... ดีแท้! เมื่อครู่เปรียบเขาเป็นกระต่ายหูเทา คราวนี้กลับกลายเป็นท่านยายของนางอีก หลี่หลานหมิงปรายตามองดวงหน้าดรุณีน้อยที่ยังหลับพริ้มในห้วงนิทราแล้วถึงกับนิ่งงัน นางช่างงดงามปานเทพธิดามาจุติ ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อของนางที่กดลงบนซอกคอของเขาตามจังหวะหายใจทั้งยังแก้มหอมกรุ่นที่เผลอจูบลูบไล้และเรือนร่างนุ่มนิ่มที่คอยเบียดยามหนาวเหน็บตลอดคืน หึ! มารดาเจ้าเถอะ! กระต่ายน้อยเอ๋ย... เขาควรสั่งสอนนางไม่ควรปล่อยให้หลุดรอดจากกรงเล็บเพชฌฆาตไปได้จริงๆ อ๋องสี่หลี่หลานหมิงผู้ซึ่งมิได้อ่อนต่อโลกแต่ไม่เคยแสวงหาสตรีงามสักคนข้างกายถึงคราวหนาวยะเยือกในใจ เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนเลยสักครั้งในชีวิตที่นึกอยากได้สตรีมาครอบครองเป็นสมบัติของตัวบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ความรู้สึกนี้เมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายน้อยหลงทางตัวนี้ต้องรับผิดชอบ!
เพราะคนเคยรักกำลังจะแต่งงานกับเพื่อน เธอจึงพลาดพลั้งขึ้นห้องกับผู้ชายหล่อร้ายแถมอันตราย แต่ให้ตายเถอะ! สาบานได้ว่าเธอไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายขี้ตื๊อดื้อด้านน่ารำคาญคนนี้จริงๆ แล้วเขาต้องการอะไรจากเธอกันแน่นะ... ไม่มีใครเหมือนหญิงสาวเมื่อคืนสักคน... หล่อนทำยังไงให้เขายังคงไม่ลืมกันนะ หรือเพราะเรือนร่างหอมกรุ่นกลิ่นอะไรบางอย่างที่ไม่น่าใช่น้ำหอมราคาแพงแบบสาวสมัยใหม่นิยม ทำให้เขาเคลิ้มและหลงใหลจนอยากเชยชมหล่อนตามแรงยุ แต่... เขาไม่เคยฝืนใจใคร โดยเฉพาะกับคนที่แรกพบก็ตกหลุมรักอย่างหล่อนคนนั้น ตกหลุมรัก! สารินสะบัดหน้าพรืด ก่อนจะยอมรับกับตัวเองในใจ เออหนอ... อยู่มาสามสิบหกปี มีสาวน้อยคนนี้แหละที่ทำให้เขาอยากเลวทั้งที่รู้ตัว!
กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
แต่งงานซ่อนเงากับหลี่ เจวี๋เฉินมาได้สามปี เจียงวานเคยคิดว่าความรักของเธอจะทำให้หัวใจเขาอุ่นขึ้นได้ แต่สิ่งที่รอเธออยู่ กลับเป็นวันที่จู่ ๆ รักแรกของเขากลับมาจากต่างประเทศ แล้วเขาก็พูดเพียงประโยคเดียวว่า “พวกเราหย่ากันเถอะ” เจียงวานรู้ดีว่าคนที่หลี่ เจวี๋เฉินรักไม่ใช่เธอ เธอจึงกลบเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้ หยิบกระเป๋าแล้วเดินจากไปอย่างเด็ดขาด หลังหย่า ชีวิตของเจียงหว่านกลับพุ่งแรงราวติดปีก ทั้งงานทั้งโชคลาภหลั่งไหลไม่หยุด กลายเป็นสไตลิสต์ระดับท็อปของโลก ทั้งการงานและความรักล้วนรุ่งโรจน์ ส่วนอดีตสามีผู้มีตำแหน่ง บางคน นั้นวัน ๆ เอาแต่จ้องหน้าจอ คิดทุกวิถีทางว่าจะทำยังไงให้ได้แต่งงานกับเธออีกครั้ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตเจียงวานตอนยังเด็กกลับมาอีกครั้งหลี่ เจวี๋เฉินถึงกับอยู่เฉยไม่ไหวอีก “วานวาน แต่งงานกันอีกครั้งเถอะนะ ได้โปรด!” เจียงวานเพียงยิ้มบาง ๆ อย่างไม่ใส่ใจ“ไม่มีเวลาหรอก ไปหารักแรกของคุณเถอะ!” หลี่ เจวี๋เฉินควักแหวนออกมา คุกเข่าข้างเดียวแล้วเอ่ยว่า “ฉันไม่มีใครคนอื่นในใจ มีเพียงเธอเท่านั้น เธอคือคนที่ฉันรักมาตลอด ตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ก็ยังเป็นเธอ!” ตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันทั้งเช้าเย็น ทำให้ทั้งคู่ค่อย ๆ เกิดความรักและผูกพันต่อกัน เธอเข้าใจว่าเขายังรักแฟนเก่าอย่างสุดหัวใจ แต่เขากลับคิดว่าในใจเธอมีใครอีกคนอยู่แล้ว คนดื้อสองคนที่แอบรักกันอยู่ฝ่ายละมุม แต่กลับเข้าใจผิดเพราะมีคนอื่นเข้ามาอยู่รอบตัวจนคิดไปต่าง ๆ นานา ความรักครั้งนี้จะฝ่าหมอกแห่งความเข้าใจผิดไปจนถึงตอนจบที่งดงามได้หรือไม่?
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY