คุณหมอวงศกร ผสุชา เธอรักมั่น ปรารถนาเป็นเจ้าสาวของเขามาเนิ่นนาน แม้ตอนนี้เขาจะเกลียดชังรังแกกันเหตุเพราะโกรธแค้นแม่ของเธอ แต่นิทราก็อดทนทุกอย่าง หวังเอื้อมรักในวันวานให้หวนคืนดังเดิม คำสัญญามั่นที่มีให้กันเธอไม่เชื่อเขาจะลืมง่ายดาย ใครจะว่าเธอโง่ หน้าด้านหน้าทนเธอก็ยอม แต่เมื่อเขาพาน้องสาวต่างสายเลือดของเธอเข้ามาซ้ำเติมหัวใจที่รวดร้าว หัวใจแม้จะบอกว่ายังรักมั่นก็คงต้องไป คนใจร้าย เขาจะรู้มั้ย เขากำลังทำเธอเจ็บกว่าครั้งไหน สร้างครอบครัวที่อบอุ่นด้วยกันเธอเกินเอื้อมคว้ามันแล้ว จำจากไป แต่หนทางที่เลือกก็ไม่ง่ายนัก เมื่อได้รู้ว่าเธอกำลังอุ้มท้องลูกของผู้ชายที่ทั้งรักและทั้งเกลียด
นิทราพาร่างอวบอิ่มวิ่งลงจากบันไดบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ วันนี้คิดจริงจังอยากออกไปจากที่นี่ ให้ตนเองรับความจริง แต่หัวใจเจ้ากรรมก็ยังอยากลองดูสักตั้งกับเรื่องที่ตั้งใจ
เรื่องที่อยากเห็นหน้าเจ้าของบ้าน ตื้อเขาให้กลับมารัก ดูความหวังจะเริ่มเลือนลาง หลายเดือนแม้จะเจอเรื่องราวร้ายๆ สักเท่าไหร่เธอหวังให้ความรักกลับไปเป็นดั่งเดิมแต่ความเป็นจริงคือเขาทำตัวเหมือนอยู่คนละโลกกับเธอ
ไม่มาทำงานที่ไร่แห่งนี้ก็ได้แต่ก็ยังบากหน้าด้านมา ใครๆ ที่รู้เรื่องราวตั้งแต่ต้นก็ว่าเธอโง่ หน้าด้านแต่เธอไม่แคร์ ขอเวลาอีกสักนิด
ท่าทีเธออาจจะดูแกร่ง เข้มแข็งแต่ความจริงในใจอ่อนแอเหลือเกิน
นิทราหลับตา อยากให้เรื่องร้ายๆ ที่เกิดเป็นเพียงฝัน นั่งหลายนาทียังไม่อยากลุกไปไหนใครจะว่าเธออู้งานก็ช่างเพราะตอนนี้ภาพบาดตาบาดใจทำให้เธอไม่มีแรงก้าวเดิน
นายแพทย์วงศกร ผสุชา อายุ 29 ปี หมอหนุ่มแผนกศัลยกรรม รูปร่างสูง 183 เซนติเมตร นัยน์ตาสีรัตติกาลซึ่งเธอหลงใหลมาเนิ่นนาน ยามใดตรวจคนไข้ ญาติผู้ป่วยมัวแต่มองใบหน้าที่ส่องประกายออร่าจนลืมฟังเรื่องอาการคนป่วย ซึ่งเมื่อเธอหยอกเย้าเขาต่อว่าพูดเพ้อเจ้อทุกครั้ง
พี่หมอหนึ่งเมื่อก่อนเคยประจำที่โรงพยาบาลรัฐในกรุงเทพ ตอนนี้ย้ายกลับมาสระบุรีได้สามเดือนกว่า
หัวใจที่ใครต่อใครว่าเย็นชาดวงนั้นเธอเคยได้ครอบครองมา ช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ชายที่เคยอบอุ่นอ่อนหวานสำหรับเธอ ผู้ชายรูปหล่อ ดูอันตรายสำหรับคนอื่น วันนี้กำลังกลายเป็นคนอื่น แม้มาอยู่ในบ้านของเขา ทำงานให้ตามที่ได้รับคำสั่ง หวังคว้าหัวใจที่เริ่มจะปลิวหายกลับมา วันเวลากลับเริ่มบอกว่าเธอสุดคว้าเอื้อมหัวใจไร้ความปราณีนั้นแล้ว
วันนี้คนใจดำตั้งใจเปิดตัวคนรักใหม่ คนรักซึ่งคู่ควรที่เขาพร่ำบอกเธอให้เจ็บปวดใจ โดยพามาที่บ้าน คำพูดซึ่งเคยบอกจะมีเพียงเธอกำลังจะกลายเป็นอดีต
เป็นอย่างที่พี่ต้องการแล้ว รู้มั้ยนิเจ็บจังเลย
หญิงสาวหันมองบ้านไร่หลังใหญ่แห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ห่างไร่องุ่นกว้างขวางนับพันไร่ซึ่งเป็นกิจการที่ทำรายได้มากมายให้ครอบครัวผสุชามาตั้งแต่รุ่นทวดของเขา ป้าผานิตไม่ชอบชีวิตชาวไร่ชาวสวนตั้งแต่ไหนแต่ไร ที่นี่จึงมีเพียงคนงานหลายร้อยชีวิตซึ่งทำงานมานานและเป็นที่ไว้ใจของคนในครอบครัวผสุชาแทบทั้งนั้น
วาดหวังจะมาสร้างครอบครัวกับพี่หมอหนึ่ง แต่คำสัญญาทุกอย่างกำลังสลายปลิวหายไปกับความแค้น หรืออาจจะเป็นแค่คำลวงตั้งแต่แรกเริ่ม
นิทรานั่งบีบมือตนเองด้วยความไม่แน่ใจ สับสน
“นิแต่งงานกับพี่แล้ว เช้ามาก็ไปสอนเด็กที่โรงเรียน เสาร์อาทิตย์คงมีเวลาดูแลสวน ดูแลไร่บ้าง เราจะย้ายมาอยู่ที่นี่กันถาวรนะ รอพี่หน่อย”
เมื่อเรียนจบแพทย์และประจำในกรุงเทพหมอหนุ่มคนนั้นพูด นิทรายังจำทุกคำได้ หญิงสาววัย22 ปีแหงนหน้ามองพุ่มต้นไม้ น้ำตาจะไหลรินทำไมกันนัก เธอมันคนสู้ชีวิต หลังจากนั้นก้มหน้ามองนิ้วมือตนเอง มองแหวนวงเล็กที่ยังแอบสวมใส่แม้เคยโดนตะคอกใส่หน้าว่าให้ถอดทิ้ง อย่าให้เขาเห็นเธอใส่มันอีก หญิงสาวตัดสินใจดึงออกจากมือ แต่หัวใจเจ็บปวดเมื่อทำเช่นนั้นจึงใส่กลับไปที่นิ้วอีกครา
“ขอใส่ไว้ก่อนนะพี่หมอส่วนเรื่องไปจากที่นี่ นิขอเวลาอีกไม่นานค่ะ”
ลืมหมดสิ้นความรักที่เคยหวานชื่นเพียงเพราะรู้ว่าแม่เธอเป็นชู้กับพ่อของเขา จนทำให้แม่บังเกิดเกล้าเขาล้มป่วยและตรอมใจตาย มันเป็นเรื่องที่สาหัสสากรรจ์ ทว่าทำไมกลายเป็นความผิดเธอ ทั้งที่เธอเองก็เจอเรื่องเลวร้ายไม่ต่างกัน คนที่เธอรักจะรู้ไหมว่าตอนนี้เธอลำบากเพียงใดที่ต้องเผชิญกับเรื่องที่ไม่ได้ก่อ
“ฉันไม่อยากรู้เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นว่าจะเป็นจะตายอย่างไร ถ้าอยากมาทำงานใช้หนี้ก็ทำไป แต่ฉันว่าทำให้ตายก็คงใช้หนี้ไม่หมด แต่เอาเถอะอย่างน้อยฉันก็ได้ทำอะไรเพื่อคนที่ฉันรักบ้าง”
การได้เอาคืนเธอคงทำให้เขาสบายใจขึ้น อาจจะให้อภัยได้ในสักวันหนึ่ง
แต่ตอนนี้ไม่มีหวังเรื่องนี้ เธอต้องหาทางออกจากวงจรความรักที่กำลังฆ่าเธอไม่ต่างจากยาพิษที่ซึมเข้าในกระแสเลือดช้าๆ และจะทำให้ตายไปในที่สุด
หกเดือนก่อน
นิทราตอกย้ำให้ตนเองเจ็บเพื่อจะลืมคนรัก
“เพื่อนกันยังทำกันได้ แม่เธอมันน่ารังเกียจ เธอเองก็รู้เรื่องนี้ใช่ไหมเลยเข้ามาตีสนิทฉันอีกครั้ง ”
มือใหญ่บีบไหล่เธอแน่นเขย่าจนร่างกายสั่นคลอนในรถคันหรู
คนรักที่เธอบูชาว่าเขาคือฮีโร่ ผู้ชายที่แสนดีซึ่งโชคดีคว้าหัวใจมาได้ เขาคือผู้ชายอ่อนโยนคนนั้นจริงหรือแต่เขากลับไม่ยอมปล่อย จนกระทั่งมือถือของเขาเข้ามาขัดจังหวะ เธอจึงได้เป็นอิสระและคิดเรื่องราวต่างๆ
เธอรู้เรื่องนี้ก่อนเพียงอาทิตย์เดียว พยายามจะหาทางออก โดยขอร้องแม่ให้เลิกกับคุณลุงทศพลแต่แม่ก็ไม่รับฟัง บอกว่าทางนั้นดูแลครอบครัวเราได้ ป้าผานิตไม่ได้รักลุงทศพล แม่อ้างว่าทำเพื่อเธอจนทะเลาะกันใหญ่โต “หนูไม่เรียนแล้ว แม่เลิกเถอะนะ พี่หมอหนึ่งกับหนูจะมีปัญหากันแม่รู้มั้ย แม่ก็รู้หนูรักพี่หมอมากแค่ไหน ”
เธอรักการเรียนแต่แคร์คนรักมาก ยึดมั่นในความดีมากเช่นกัน แม่บอกว่ามีของดีๆ ใช้ไม่ชอบ มีเงินอะไรๆ ก็ดีไม่ชอบ แม่ไม่รับฟัง เธอกลายเป็นคนโง่ที่แม่เบื่อหน่ายและทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียวหลังจากนั้น
“นิจะหาทางออก จะกล่อมแม่ค่ะพี่หนึ่ง พี่อย่าโมโหนะคะ”
“จะมีประโยชน์อะไรแล้วรู้ไหมแม่ฉันเข้าโรงพยาบาลตอนนี้ รู้มั้ย!”
“คุณป้า !ขนาดนั้นเลยหรือคะ”
อยากเข้าไปกอดเพื่อปลอบโยนแต่เขาถอยหลังหนี แววตาอ้อนวอนเธอไม่มีความหมาย
“บ้านของยายพ่อยังอยากให้แม่เธอเข้าไปอยู่ อย่าหวังว่าจะได้ไปง่ายๆ ถึงพ่อจะโอนให้เป็นชื่อแม่เธอแต่ฉันจะเอามันคืนมาให้ได้”
บ้านเรือนไทยสีขาวหลังสวยที่แม่บอกว่าคือบ้านหลังใหม่ และคือความสุขของแม่คือบ้านคนรัก เธอไม่รู้ว่าสีหน้าตนเองเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าสายตาพี่หมอหนึ่งตอนนี้มีแค่ความเย็นชา
“นิไม่รู้เรื่องนี้เลย ไม่เกี่ยวกับนินะคะ”
“เหมือนแม่เธอหรือเปล่าที่ไม่รู้ว่าแม่ฉันเป็นโรคหัวใจ โกหกหน้าด้านๆ แม่เธอรู้เรื่องนี้นานแล้ว ก่อนหน้านี้ยังเคยพาแม่ฉันไปโรงพยาบาลเลยนี่ ฉันชักแน่ใจแม่เธอคงคิดเรื่องจับพ่อฉันมานานแล้ว แม่เองไม่ชอบอยู่ที่ไร่ พ่อเลยมีข้ออ้างไปที่นั่นเสมอ”
มันไม่เกี่ยวกันเลย เธออยู่ใกล้ไร่ผสุชามาเนิ่นนาน ใช้ชีวิตในบ้านเช่าราคาถูกกับแม่ แม่ขยันทำงานเพื่อส่งเธอไปเรียนมหาลัยในกรุงเทพ เธอบอกเขาไป ความทรงจำของเธอและเขาอยู่ที่นี่จึงไม่อยากย้ายไปไหน
แต่เขาไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้นอีก
“อย่าเอาเรื่องนั้นมาอ้าง ยิ่งพูดจะยิ่งเข้าตัวเอง เธอน่ะไม่ต่างจากแม่”
พี่หนึ่งที่ไม่เคยดื่มเหล้า วันนี้มีกลิ่นเหล้าหึ่ง เขากำลังบีบคอเธอ ปากก็สบถ ด่าทอ นิทราดิ้นรน
“อึก อึก พี่หมอ พิ…”
พี่ชายที่แสนดีกับเธอเสมอ แม้ตอนโตจะห่างกันเพราะเขาย้ายไปเรียนกรุงเทพก่อน ได้เจออีกครั้งเธอตามตื้อเขาอย่างที่หัวใจเรียกร้อง แต่กว่าจะได้เข้าใกล้และเป็นแฟนไม่ใช่เรื่องง่าย เธอต้องกลายเป็นผู้หญิงหน้าด้านให้เพื่อนๆ หลายคนหัวเราะเยาะ
ด้านทำไมในเมื่อเธอรักจริง รักมานาน
ไม่มีใครรู้ว่าเธอรู้จักรุ่นพี่สุดฮอตแห่งคณะแพทย์ศาสตร์คนนี้มาก่อน เธอหมายมั่นต้องทำให้ทุกคนแปลกใจ และดีใจเหลือเกินเมื่อความหลังครั้งเก่าทำให้เธอได้ใกล้พี่หนึ่ง และเอื้อมหัวใจเขามาครองสำเร็จ
ตื้อแบบหน้าด้านคือเธอ
หนีแบบไม่ตั้งใจหนีคือเขา
เพราะหัวใจเราตรงกันนิจึงคว้าหัวใจพี่ไปง่ายๆ อย่าทำมันหายเสียล่ะ
วันที่ตกลงเป็นแฟนเหมือนโลกทั้งใบเป็นของเธอ แม่เองยังยินดีและกอดเธอแน่น
“ลูกแม่น่ารักขนาดนี้เขาไม่ตกลงก็โง่แล้ว”
รู้ว่าแม่หวังจะได้ลูกเขยที่ดีพร้อม เธอเองไม่พูดอะไรกับแม่มัวแต่เขินอายและดีใจ
แต่เขากลับโยนความรักนั้นทิ้งเสียเอง ความรักกำลังจะจบลงเพราะเขาไม่รับฟังอะไร ในใจเขามีแต่ความแค้น ชิงชัง ทว่าแม้เธอเจียนบ้าก็สั่งใจให้ตื้อ เจ็บหัวใจ เจ็บตัวสารพัดก็ไม่คิดยอมแพ้ง่ายๆ
“พี่หมออย่าทำอย่างนี้นะคะ นิไม่รู้มาก่อน อย่าทิ้งความรักของเราเลย นิรักพี่มาก รักมากนะ ”
ดวงตาแดงก่ำ น้ำตาตกใจ แต่เหมือนเขาจะไม่สนใจ
รักมั่นเพียงไหนขอให้ใจเธอรับรู้
ห่างกันเสี้ยวนาทีหดหู่ ห่วงหา
รักมั่นตลอดไปขอเธออย่าร้างลา
คำมั่นเรามาสัญญาเพื่อรักยืนนาน…
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เขาแอบชอบเธอตั้งแต่เจอกันครั้งแรกแต่เธอกลับกลัวและพยายามอยู่ให้ห่างจากเขาแล้วเขาจะทำอย่างไรที่จะตามจีบเธอดีในเมื่อเธอเป็นน้องรหัสของเขา