/0/4978/coverbig.jpg?v=496dedfa994e2841590a6ffa69fe9efc)
เรื่องนี้อย่าไปหาสาระกับมันมากนัก เพราะมันไม่มี นิยายเรื่องนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ตามใจฉัน ฉะนั้นความเป็นจริงทั้งหมดโยนทิ่งไปได้เลย จุดประสงค์หลักก็คืออยากให้ทุกคนคลายเคลียดบ้าง ได้หัวเราะ หรือเคลียดกว่าเดิมวะ
วันหนึ่งในเดือนตุลาคม ฝนกำลังตกหนักอย่างบ้าคลั่ง ชายหนุ่มออฟฟิศธรรมดากำลังวิ่งผ่าฝนอยู๋นั้นก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
"ว้า วันนี้ฝนตกหนักชะมัด ตากผ้าไว้ซะด้วยต้องรีบเเล้ว"
"นั่งรออะไรอยู่เหรอพ่อหนุ่ม" ชายหนุ่มสะดุ้งขึ้นอย่างไม่ตกใจนัก คุณตาท่านหนึ่งที่นั่งอยู่เเล้วกลับทักเขาอย่างเลือดเย็น
"รอรถกลับบ้านครับ"
"ไอ้หนูเอ็งเคยได้ยินเรื่องเล่านักสู้ไอติมรึเปล่า"
"นักสู้ไอติม? เรื่องไรอ่ะผมไม่เคยดู"
"มันไม่ใช่หนังเเต่มันคือตำนาน~"
คุณตาพูดคำว่าตำนานพร้อมๆกับลุกขึ้นยืนอย่างสรรเสริญ ขณะเดียวกันรถประจำทางก็มาถึง
"โอ้ รถมาเเล้วผมไปเเล้วนะ"
"ช้าก่อน"
คุณตาตะโกนห้ามชายหนุ่มเอาไว้ ก่อนที่จะปาไอติมรสมิ้นท์ใส่หน้าเขาอย่างเลือดเย็น
"โอ๊ย ทำอะไรเนี่ย!!"
"Magic~"
"Magic พ่**มึงอ่ะ"
"อ้าวพูดงี้ก็สวยดิ" คุณตาไม่รอช้าปาไอติมใส่หน้าชายหนุ่มอีกรอบ พร้อมกับวิ่งไปฉกกระเป๋าของเขามาเเบบเลือดเย็น ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งไล่ตามคุณตาทันที
เเต่เนื่องด้วยตอนนี้ฝนกำลังตกหนักจนมองอะไรไม่เห็นขณะนั้นเองปาฏิหาริย์ก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้นเเล้ว
ปิ๊ว ปัง ตูม เปรี้ยง
"นั้นมัน!?"
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่บินผ่านศรีษะของทั้งคู่ไป จึงทำให้เกิดลมมหาศาลที่ขนาดทำให้รถคันเล็กปลิวไปได้ คุณตาหยุดนิ่งวิ่งสนิทกำลังจ้องมองสิ่งนั้นที่อาจจะเป็นมังกรในตำนานโคโดโม เเละตัวเขาคนเองในฐานะ"นักสู้ไอติม"ก็ย่อมรู้ดีว่าสิ่งนี้อันตรายขนาดไหนดังนั้นเเล้วคุณตาจึงต้องหยุดเอาไว้ให้ได้
"ในที่สุดเจ้าก็มาสินะ โคโดโม"
"เเว~ เเว้~ เเว๊~"
"เสียงร้องช่างไพเราะเหมือนดังตำนานไม่มีผิด เเต่วันนี้เจ้าไม่รอดเเน่" ซิ้ง!!คุณตาประกบมือทั้งสองเข้าด้วยกันก่อนจะเกิดเป็นไอติมเเตงโมขนาดยักษ์เท่าตึกสิบชั้นก็มิปาน เเล้วทุ่มด้วยเเรงด้วยหมาศาลเท่าช้างพระองค์ดำ มังกรโคโดโมเห็นดังนั้นก็ได้เเต่อึ้งกับพลังของตุณตาสตั้นไปมาห้าร้อยสี่สิบห้าจุดห้าห้าวินาที
"เอ๊อะ!" (ภาษาอีสาน)
"เอ้า เจ้าไม่หลบเเน่เบาะ"
"โอ๊ย อันใหญ่ปราณนั้นไผสิหลบทัน"
"เอ้า คนอีสารบ่"
"ข่อยคนอีสาน เจ้ากะคนอีสารติ"
"เออ ไปกินลาบบ่เฮา"
"ไปตั๋ว เป็นหยังคือสิบ่ไป"
หลังจากนั้นทั้งคู่จึงได้เป็นเพื่อนสนิทต่อกัน กินนอนด้วยกัน เล่นเกมส์ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน จนในที่สุดความสัมพันธ์ได้กลายเป็นเฟื่อนกลายเป็นเเฟนกลายเป็นสามีภรรยา เเละทั้งสองก็มีลูกด้วยกัน
"ไม่นะอย่าทิ้งข้าไป" เเต่เเล้วชีวิตเเสนสุขก็ต้องจบลงเมื่อโคโดล้มป่วยกระทันหัน
"ชีวิตเราช่างสั้นนัก ได้โปรดดูเเลลูกด้วย"
"ไม่! เจ้าต้องอยู่กับข้าสิ"
"เอื้อออ"
"ม่ายยยยยยยยยยยย"
คุณตาเสียโคโดโมไปภายในอ้อมกอด เเต่ทว่าจู่ๆลูกของเขาก็ยื่นบางอย่างออกมาให้
"อะไรลูก"
"เเว~ เเว้~"
"อะไรเนี่ย กุญเเจเหรอ"
จบ!!
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"