หากคุณคิดว่า ‘รักแท้’ มีได้แค่ ‘มนุษย์กับมนุษย์’ เท่านั้น... “คุณคิดผิด!!!” ดวงตาสวยหวานที่ปรือขึ้นมองดูเขา พร้อมกับใบหน้าที่สะบัดพลิ้วไปมาบนหมอนนุ่ม และริมฝีปากที่เผยอครวญครางร่ำร้องเรียกชื่อเขาเพราะความต้องการของเธอถูกเขาจุดให้ติดเสียจนไม่ต้องใช้ไม้ขีดไฟหรือไฟแช็กอะไรทั้งนั้น แค่ปากและปลายลิ้นก็ทำให้บัวร้อนรนจนทิ้งความอ่อนหวานกลับกลายเป็นหญิงสาวซ่านสวาทที่กำลังบิดกายรอคอยให้เขาลงไปคลุกเคล้าชอนชิมเธอไปทั่วทั้งร่างอย่างไร้สติและความยับยั้ง ‘เรากำลังทำอะไรอยู่ หากเรารักบัวจริง เราก็ไม่ควรช่วงชิงเอาสิ่งนี้จากเธอ’ กฤษณ์ตัดสินใจท่ามกลางความเจ็บหนึบที่กึ่งกลางหว่างขา ความยิ่งใหญ่ที่ขยายตัวจนสุดร่ำร้องให้เขาทำตามใจที่ปรารถนา ทว่าความผิดชอบชั่วดีก็ร่ำร้องบอกว่าสิ่งที่ทำนั้น ‘ผิด’ และความผิดที่ก่อเกิดอาจทำให้ไม่ได้หัวใจของบัว เขาอยากได้หัวใจเธอก่อนที่จะได้ร่างกายนี้มาปรนเปรอความใคร่ เขาอยากให้เธอเต็มใจในภาวะที่สติสตังครบถ้วน ไม่ใช่ต้องยอมเพราะอารมณ์ใคร่นำพา “บัว... ใส่เสื้อผ้าซะนะ พี่จะไปรอข้างนอก”
สองเท้าที่กรำงานหนักมาทั้งวันพาร่างอ่อนล้ามุ่งตรงเข้าไปในตรอกเล็กๆ แยกมาจากถนนเส้นหลักของเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยรถรามากมายวิ่งกันคับคั่ง แม้จะเป็นยามดึกแต่เสียงยวดยานที่ดังอยู่ไม่ขาดสายก็ทำให้รู้ว่าคนที่นี่คงแทบจะไม่หลับไม่นอนกัน เพราะมีทั้งคนที่ทำอาชีพในเวลาแดดออก หรือคนที่ทำอาชีพในเวลาแดดหุบ และก็มีคนอย่างเขา ที่ทำงานตั้งแต่ยามแดดออกจนแดดหุบไปนานแล้วจึงเพิ่งเลิกงาน
เพราะต้องเก็บงานให้ทันตามที่รับปากกับผู้รับเหมาก่อสร้างเอาไว้ ทำให้วันนี้เขาต้องอยู่ทำงานจนถึง 4 ทุ่มครึ่ง แม้อาจจะเรียกได้ว่าไม่ดึกสำหรับคนกรุง แต่สำหรับคนบ้านนอกคอกนา เวลานี้ก็ทำลูกได้หลายยกแล้ว แค่คิดไอ้ตัวน้อยของเขาก็พลางตื่นตัวกระตุ้นเตือนอย่างเสียไม่ได้
ด้วยต้องจากบ้านมาทำงานในเมืองไกล ไอ้ตัวน้อยเลยไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนโพรงฉ่ำน้ำของเมียรักมาเป็นแรมเดือน และจะให้หาซื้อความสุขชั่วครั้งชั่วคราวเอาที่เมืองกรุงนี้ ลำพังเงินเดือนอย่างเขาคงไม่มีหน้าไปเที่ยวซื้อบริการใครได้ จำต้องอาศัยแม่นางทั้ง 5 บริหารไปก่อน และวันนี้ก็คงจะไม้พ้นอีกตามเคย
ยามดึกคืนเดือนหงายทำให้เส้นทางในตรอกนี้ไม่ได้มืดทึบอย่างที่เกรงเอาไว้ ด้วยแสงสว่างจากดวงจันทร์ครึ่งเสี้ยวด้านบนทำให้มองเห็นเส้นทางได้โดยง่าย แม้จะเป็นเส้นทางที่แยกออกมาจากถนนใหญ่ไม่มาก แต่เส้นทางเรียบตลิ่งริมคลองที่มีขนาดไม่กว้าง เพียงพอสำหรับแค่คนเดินหรือไม่ก็รถมอเตอร์ไซค์สัญจรผ่านไปได้เท่านั้น
เส้นทางนี้จึงไม่ค่อยมีคนผ่านไปมาพลุกพล่านเท่าไร เพราะรถใหญ่ไม่สามารถเข้าได้ ยิ่งในยามค่ำคืนเยี่ยงนี้ด้วยแล้ว จะหาคนผ่านไปมาก็ยากเต็มทน ในตรอกนี้จึงเต็มไปด้วยบ้านเช่าราคาถูกของเหล่าคนหาเช้ากินค่ำอย่างเขา หรือไม่ก็พวกพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยจะมาอาศัยอยู่กันเสียมากกว่า ตามประสาคนเงินน้อยที่ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก
เขาพาตัวเองเดินลัดเลาะมาตามริมตลิ่ง แม้จะเดินสะดวกแต่สายตาของเขาก็สอดส่ายระแวดระวังความปลอดภัย เพราะริมน้ำอย่างนี้ งูเงี้ยวก็จำเป็นต้องดูให้ดี ทว่าอะไรบางอย่างที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ริมน้ำก็ทำให้เขาต้องชะงักฝีเท้า พลางขยี้สายตาเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่มองเห็นนั้นใช่อย่างที่คิดไว้จริงๆ ใช่หรือไม่
เรือนร่างขาวโพลนท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องลงมากระทบได้อย่างพอดิบพอดี กำลังดำผุดดำว่ายอยู่กลางสายน้ำที่แยกตัวมาจากแม่น้ำสายหลักของคนกรุง และลัดเลี้ยวคดเคี้ยวมาเป็นลำคลองเล็กๆ และจำเพาะสถานที่ที่สาวงามกำลังแหวกว่ายอยู่นี้ก็เป็นเวิ้งเล็กๆ ที่สามารถมองออกไปเห็นปากคลองด้านนอก
เขาแทบหยุดหายใจ เพราะหากไม่ได้ตาฝาดไปจริง สิ่งที่เห็นนั้นคือ สาวสวยไม่น่าจะนุ่งห่มอะไรเลยสักชิ้น เพราะไม่มีแม้แต่ขอบผ้าถุงที่กระโจมอยู่เหนืออก และความอวบอิ่มนูนเด่นที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนถนัดตา ดูราวจะยิ่งใหญ่มากมายเสียจนทำให้เขาอยากไปเห็นไปสัมผัสให้ใกล้กว่านี้
ดวงตาหื่นกระหายจ้องมองอกอวบอิ่มที่มองเห็นปริ่มน้ำอยู่ด้านหน้า เพราะทรวงอกนั้นไม่ต่างไปจากดอกบัวคู่งามที่โผล่พ้นผิวน้ำขึ้นมา เพราะมันทั้งอูมใหญ่ ทั้งขาวผ่องกระจ่างชัดอยู่ในค่ำคืน และเมื่อเจ้าของดอกบัวหันมาเห็นเขา เธอก็ทำท่าเอียงอาย แต่ชม้ายตาให้เขาราวกับเย้ายั่ว
ริมฝีปากอวบอิ่มแย้มยิ้ม พร้อมกับส่ายทรวงอกสะท้านผิวน้ำไปมาราวกับว่าหากขืนเขายังทำช้ากว่านี้ บัวคู่งามก็อาจจะหลบลี้หนีจากไปได้
ไม่มีอะไรอยู่ในหัวของเขาอีกแล้วในเวลานี้ สิ่งที่มองเห็นตรงหน้าสั่งการให้ฝ่ามือหยาบใหญ่จากการกรำงานหนักมาทั้งวันและตลอดชั่วชีวิตนี้ไม่รอช้า เร่งรั้งถอดเอาเสื้อยืดชุ่มเหงื่อออกจากร่างแต่โดยเร็ว ตามด้วยกางเกงยีนส์ตัวเก่าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบปูนและคราบสนิมออกจากตัว ทั่วทั้งร่างสีน้ำตาลแดงจึงมีเพียงกางเกงในตัวเก่าบางเฉียบเพราะถูกซักมานับครั้งไม่ถ้วน
ฝ่าเท้าพาก้าวลงสู่ริมตลิ่งทั้งที่ดวงตากระหายยังคงจับจ้องใบหน้างดงามที่มองมาอย่างเรียกร้องเชิญชวน ก่อนที่เขาจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงก้าวขึ้นไปบนตลิ่งอีกครั้ง ทั้งที่ปลายลิ้นแลบออกมาเลียไล้ที่ริมฝีปากหนา ด้วยกระสันอยากจะโลดแล่นลงไปในน้ำให้เร็วที่สุด ติดอยู่แค่หากกางเกงในตัวนี้เปียกน้ำก็เห็นทีว่าวันพรุ่งคงไม่มีใส่
ฝ่ามือจึงรูดเจ้ากางเกงตัวน้อยที่ใส่ติดกายเป็นด่านสุดท้ายให้หลุดออกจากข้อเท้า ก่อนจะหันหน้ากลับไปเผชิญกับใบหน้างดงามที่ดวงตาสวยหวานนั้นจ้องเขม็งมาที่ไอ้ตัวเล็กที่กลายเป็นความยิ่งใหญ่ของเขาไม่กะพริบ และคนสวยที่มีเพียงร่างกายช่วงบนโผล่พ้นน้ำขึ้นมาก็ยังทำท่าเผยอริมฝีปากซู้ดซี้ดพร้อมกับแลบลิ้นสอดส่ายเรียกหา ราวกับว่าอยากจะลองลิ้มชิมรสไอ้ตัวใหญ่ของเขาดูสักครั้ง
ขาสั่นพับๆ เพราะเกิดอาการซ่านเสียวไปทุกอณูเนื้อ ความกระสันอยากมากมายเสียจนทำให้เขาต้องรีบผวาลงไปในน้ำแต่โดยเร็ว แต่ยังไม่ทันจะถึงตัว สาวสวยก็ว่ายน้ำหนีพร้อมกับหันมายิ้มเชิญชวนให้เขาว่ายตาม
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"