เมื่อไฟสวาทลุกพึ่บพั่บก็รวดเร็วไม่ต่างจากเปิดสัญญาณความเสียวเมื่อความเสียวที่กระจายออกไปสัญญาณความร้อนแรงก็เชื่อมกันและกันในทันที เร่าร้อนรุนแรงเพราะความอยากไม่เคยปรานีใคร
ผมชื่อ ‘วิท’ ครับ ส่วนเมียผมเธอชื่อ ‘แตงกวา’ ผมกับแตงกวาแต่งงานมาแล้วร่วม 2 ปีแล้วครับ ผมเป็นพนักงานติดตั้งสายเคเบิ้ลให้กับบริษัทผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคมรายหนึ่ง งานลำบากหน่อยครับเพราะการแข่งขันสูง
ผมซึ่งอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าทีม ก็ต้องพยายามทำยอดขายให้ได้เยอะๆ ล่ะครับ ก็หวังโบนัสนั่นแหละจะหวังอะไรล่ะชีวิตนี้ ผมจึงต้องพาลูกน้องออกไปหาลูกค้าตามที่ต่างๆ และเป้าหมายของผมก็คือ กลุ่มโรงงานในย่านนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ นั่นแหละครับ
เพราะถ้าได้ติดตั้งบริษัทที่ 1 บริษัทที่ 2 และ 3 ก็จะตามมาโดยง่าย ที่สำคัญคืองานติดตั้งในโรงงานไม่ได้ทำแค่จุดเดียวนี่ครับ ถ้าโรงงานต้องการเอกสารการว่าจ้างอย่างถูกต้อง ผมก็นำเข้าระบบบริษัทให้ทางโรงงานติดต่อกับฝ่ายขายโดยตรง
ซึ่งแน่นอนครับว่าราคาต้องคิดทุกจุดที่ติดตั้ง ก็คูณไปครับ จุดละเท่าไหร่ เข้าโปรแกรมออกใบเสนอราคาปุ๊บ ราคาก็เด้งออกมาให้พิจารณากันได้เลย
แต่หากโรงงานไหนต้องการประหยัด ผมก็รับเองสิครับ หรือไม่ก็แบ่งกันกินกับบริษัทบ้าง เช่น แจ้งฝ่ายขายลง 10 จุด แต่ผมกับลูกน้องทำเองอีก 10 จุด
โรงงานผู้ว่าจ้างประหยัดเงิน บริษัทของผมได้เงินส่วนหนึ่ง และผมกับลูกน้องก็ได้เงินอีกส่วนหนึ่ง แบ่งๆ กันไปแบบนี้ล่ะครับให้ผมกับลูกน้องมีเงินใช้จ่ายในระหว่างเดือนบ้าง ไม่ต้องรอให้ถึงวันเงินเดือนออก เพราะคิดดูสิครับ ทำทั้งเดือนได้เงินวันเดียว จะไปพอใช้อะไรกันล่ะ
งานที่ผมทำก็จัดว่า ‘งานดีเงินดี’ ล่ะครับ เพราะผมน่ะมีเงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่างตามที่แตงกวาต้องการ เรียกได้ว่า เงินเดือนพนักงานบัญชีที่แตงกวาได้รับอยู่ทุกเดือนนั้น เธอไม่ต้องถอนออกมาใช้เลยครับ
ก็ผัวแสนดีอย่างผม ดูแลเมียที่แสนจะน่ารักได้อย่างดีเยี่ยม แตงกวาเธอก็เลยเอาอกเอาใจผมสารพัด จนเพื่อนๆ ต่างอิจฉาผมกันทั้งนั้น
ที่สำคัญ หุ่น ‘เนื้อ นม ไข่’ แบบเมียผม ใครเห็นก็น้ำลายไหลกันทั้งนั้นแหละครับ
ไม่ใช่ว่าผมไม่หึงนะ ผมน่ะหึงมากเลย แต่ยิ่งเห็นคนอื่นมองเมีย ผมก็ยิ่งเกิดอารมณ์อย่างว่ามากขึ้น และแตงกวาเธอก็รู้ครับว่าผมต้องการอะไร เธอจึงขยันหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ให้ผมเกิดอารมณ์ ‘หึง’ ปน ‘หื่น’ ได้บ่อยครั้ง
เพราะวันไหนที่ผมหึงมาก วันนั้นแตงกวาจะถูกจัดหนักจนแทบจะคลานไปทำงานเลยล่ะครับ แต่จะโทษผมก็ไม่ได้ เพราะเธอชอบร่ำร้องว่า
‘พี่วิทขา! แรงอีก! แรงอีก! กระแทกแรงๆ ค่ะ กระแทกให้แหกไปเลย กรี๊ดดดดด... พี่วิท! แรงอีก! กรี๊ดดดดด... แรงอีก!’
นั่นแหละครับ แรงผมมีเท่าไหร่ผมก็กระเด้าเข้าไปไม่ยั้งน่ะสิ และก็ได้รับเสียงกรีดร้องของแตงกวาเป็นรางวัล ตามมาด้วยครั้งต่อไปที่เธอจะเป็นฝ่ายขึ้นคร่อมขย่มผมซะเอง
ใช่ครับ... แตงกวาเธอชอบความรุนแรง
ยามเผชิญศึกกับผมบนเตียง แตงกวาเธอฉีกทุกกฎของความสวยใสไร้เดียงสาเลยครับ
ผมกับแตงกวาเรามีเซ็กซ์กันบ่อยครับ เอ่อ... เรียกได้บ่อยได้ไหม ถ้าบอกว่า ‘ทุกวัน’ บางวันคึกหน่อยก็ 2-3 รอบ
นั่นแหละครับผมถึงไม่อยากไปไหนที่ห่างจากเมียเลย เพราะความอยากจนใจจะขาด ผมไม่อยากสัมผัสมันเลย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้นี่ครับ
ครั้งไหนต้องไปติดตั้งที่ต่างจังหวัด แบบที่วิ่งรถไป-กลับไม่ได้ วันนั้นผมงี้แทบลงแดงเลยครับ ทำงานเสร็จ กลับถึงบ้านปุ๊บ ผมนี่จับแตงกวาหันก้นแล้วซอยไม่ยั้ง แน่นอนว่าแตงกวาก็อยากจนเป็นฝ่ายรูดกางเกงในลงไปกองกับพื้นและหันก้นให้ผมเด้าด้วยตัวเอง
แตงกวาเธอเร็วกับเรื่องนี้มากครับ หัวไว สอนง่าย ท่าไหนก็ตามเถอะ สอนครั้งเดียว แตงกวาก็จดจำได้หมดครับ แถมยังเปิดปุ๊บติดปั๊บ แค่เลิกเสื้อแล้วแลบลิ้นเลียยอดอก แตงกวาก็ดิ้นพล่านจนฉ่ำเยิ้มไปหมดแล้วครับ
จนผมมีชื่อเล่นให้เธอยามเย่อกันอย่างเมามันว่า ‘เมีย Wi-fi’ เพราะแตงกวาน่ะเธอต่อติดง่ายจริงๆ ครับ แค่สัญญาณความเสียวของผมส่งออกไป เธอก็พร้อมอ้าต้นขาออกเพื่อเชื่อมต่อสัญญาณความเสียวในทันที
แต่วันนี้สิครับ ผมต้องมาติดตั้งสายเคเบิ้ลที่ระยองหลายจุดซะด้วย กว่าจะเสร็จก็คงจะดึกมาก ดีไม่ดีขับรถไม่ไหวต้องหานอนที่แถวระยองนี่อีก เพราะนี่ปาเข้าไป 6 โมงเย็นแล้วก็ยังไม่ถึงครึ่ง ป่านนี้แตงกวาจะไม่อยากเต็มที่แล้วเหรอ
“พี่วิท โทรหาเมียหรือยัง”
ไอ้น้อยลูกน้องผมมันถามครับ ก็เรื่องเย่อกับเมียทุกวันของผมน่ะ กระจายไปในหมู่ลูกน้อง ก็คนมันมีดีก็อยากจะโชว์นี่ครับ ผมก็คุยซะหน่อยว่าเย่อเมียทุกวัน เพราะเมียผมน่าเย่อที่สุด
“ยังเลยว่ะ เดี๋ยวติดตัวนี้เสร็จก็ว่าจะโทรหาซะหน่อย ป่านนี้ชะเง้อรอแล้ว” ผมตอบพลางขันสกรูให้ตรงล็อค
“พี่ไปโทรหาเมียเถอะ ทางนี้ผมดูเอง สงสารเจ๊แตงกวา ป่านนี้คงอยาก เอ่อ... คงคิดถึงพี่แย่แล้ว”
ผมยิ้มครับไม่ตอบว่าอะไรแต่พอขันสกรูตัวนั้นเสร็จผมก็รีบแยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์ทันทีเลยครับ พนักงานติดตั้งเคเบิ้ลอย่างผมก็ต้องลองความไวของอุปกรณ์กันสักหน่อย
ห้องน้ำพนักงานชั้น 2 ก็คือจุดหมายของผมครับ เพราะเลิกงานแล้ว ชั้น 2 นั่นไม่มีคนอยู่ เงียบ สงบ แบบนั้นผมก็ต้องลองความเร็วทั้งภาพและเสียง
ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด... ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด..
เสียงสัญญาณจากโทรศัพท์ดังขึ้น และเพียงอึดใจ เสียงใสๆ แสนจะน่ารักของเมียผมก็ส่งออกมาตามสาย
“พี่วิท... จะกลับหรือยังคะ แตงกวารอตั้งนานแล้วนะ เนี่ยรอจนเหงื่อเหนียวไปทั้งง่าม”
“เก็บไว้รอพี่นะ”
“ไม่เอาอ่ะ ใครจะอยู่รอ เน่ากันพอดี ร้อนทนไม่ไหวแล้วอ่ะ แตงกวาอาบน้ำก่อนนะ”
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"