ซีรีส์แซ่บ ประกอบด้วย 1. สาวใข้วัยละอ่อน 2. เจ้าหญิงแมวเหมียว 3. เพื่อนสวาท 4. คืนนั้น 5. พิศวาส 6. คุณหมอซ่านรัก 7. สวยมากๆ ท่ายากหนูก็เยอะ 8. ความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้
ซีรีส์แซ่บ ประกอบด้วย 1. สาวใข้วัยละอ่อน 2. เจ้าหญิงแมวเหมียว 3. เพื่อนสวาท 4. คืนนั้น 5. พิศวาส 6. คุณหมอซ่านรัก 7. สวยมากๆ ท่ายากหนูก็เยอะ 8. ความรักไม่ใช่แค่เรื่องบนเตียง ไปที่ระเบียงบ้างก็ได้
ซีรีส์แซ่บ
เล่ม 1 สาวใช้วัยละอ่อน
มะลิมองสภาพเจ้านายหนุ่มแล้วต้องเบือนหน้าหนี เธอเป็นหลานสาวป้าทองแท้ ซึ่งเป็นแม่บ้านเก่าแก่ของคุณหญิงขจิต ซึ่งเป็นมารดาของขจร
ขจรเป็นลูกชายคนเล็กของคุณหญิงขจิต เขาแยกบ้านออกมาอยู่ต่างหาก เพราะมีโปรแกรมว่าจะแต่งงานกับแฟนสาวที่คบหาดูใจกันมานาน แต่ฤดีกลับสลัดรักไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ทำให้ขจรเสียใจเป็นอันมาก เขาเมามายมาหลายวันแล้ว และไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง นอนหลับไม่ได้สติอยู่ที่เรือนหอร้างรักแห่งนี้
คุณหญิงขจิตกับป้าของเธอจึงส่งเธอมาช่วยดูแลเขา
มะลิ เธอเป็นหญิงสาววัย 20 ปี ซึ่งเพิ่งเรียนจบการบัญชีจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งในระดับ ปวส. เธอเป็นเด็กกำพร้า ป้าทองแท้รับมาเลี้ยงดูในบ้านของคุณหญิงขจิตตั้งแต่เด็ก
เธอเดินไปเก็บขวดเหล้ามากมายที่กองเกลื่อนอยู่กับพื้น เห็นใจเขาอยู่ ไม่น้อยที่ต้องโดนสลัดรัก ทั้งๆ ที่เขากับแฟนสาวอย่างฤดีรักกันมาก ใครๆ ก็รู้ เธอเองยังงุนงงว่าเหตุใดฤดีถึงหนีไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น
พอเก็บกวาดเรียบร้อยก็รีบจัดการนำผ้าขนหนูใส่กะละมังใส่น้ำ ก่อนจะบิดหมาดๆ แล้วเช็ดหน้าเช็ดตาให้เขา
เธอต้องเบือนหน้าหนีจากกลิ่นเหล้าคละคลุ้งที่อยู่บนตัวเขา
“ตกลงกินหรืออาบกันแน่นี่” มะลิบ่นอุบ จัดการเช็ดหน้าเช็ดตาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้อีกฝ่าย เขาค่อยๆ ปรือตาขึ้นเพราะความเย็นของผ้าที่ลากไปตามใบหน้าและเนื้อตัว
“ใคร” เขาปัดมือของอีกฝ่ายออก ก่อนตื่นเต็มตา
“ออกไป อย่ามายุ่ง” พอเห็นว่าเป็นใครเขาก็ตวาดลั่น ยายเด็กมะลิหลานของป้าทองแท้นั่นเอง ที่บ้านคงส่งยายเด็กนี่มาดูแลเขา เขาไม่อยากให้ใครมาคอยสมเพชเวทนา
ร่างสูงโงนเงนยืนขึ้นก่อนจะเซ มะลิรีบเข้าไปประคองเอาไว้ แต่เขาปัดมือของเธอออกห่าง
“บอกว่าอย่ามายุ่งไง”
“อุ๊ย! ว้าย!” เขาผลักจนเธอเซ ก่อนจะพาร่างสูงเดินขึ้นชั้นบนของตัวบ้าน
มะลิเม้มปากเข้าหากันแน่น ถ้าไม่เพราะผู้ใหญ่ไหว้วานให้เธอมาคอยดูแลล่ะก็ เธอไม่มาให้เสียเวลาหรอก แต่อีกใจเพราะแอบชอบเขามานาน ยังไงก็ต้องถ่อสังขารมาอยู่ดีนั่นแหละ
ในเมื่อเขารำคาญ เธอก็ควรจะถอยมาตั้งหลักก่อน มะลิจัดการทำความสะอาดบ้านของเขาอีกครั้ง เธอปาดเหงื่อไปมา ก่อนจะจัดการเก็บเสื้อผ้าของเขาไปซัก พอเอาเสื้อผ้าลงเครื่องซักหมดแล้ว ก็เข้าครัวทำอาหาร พอทุกอย่างเสร็จสิ้นเธอจึงไปอาบน้ำ ร่างน้อยทิ้งตัวลงบนโซฟาด้วยความเหนื่อยอ่อน ก่อนจะหลับไปในเวลาต่อมา
สะดุ้งตื่นอีกทีเพราะได้ยินเสียงฟ้าคำราม มะลิดีดตัวขึ้นจากโซฟาวิ่งไปเก็บผ้าด้วยอาการกระหืดกระหอบ พอเธอเข้าบ้านมาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ ฝนก็เทลงมาห่าใหญ่ เด็กสาวผ่อนลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เสียงฝนและฟ้าทำให้เธอหน้ายุ่งเล็กน้อย เด็กสาวเงยหน้ามองบันไดบ้าน คนที่หนีเธอไปเมื่อครู่จะเป็นยังไงบ้างนะ เม้มปากเล็กน้อย
ขึ้นไปดูเขาเสียหน่อยก็คงดี...
เปิดประตูเข้าไปเห็นเขานอนคว่ำอยู่บนที่นอน สภาพยังอยู่ในชุดเก่า เธอเห็นแล้วส่ายหน้าไปมา ก่อนจะไปจัดการหาชุดมาเปลี่ยนให้เขา
คงไม่เป็นไรมั้ง เขาหลับ...
เปลี่ยนชุดคือต้องจับเขาแก้ผ้านี่แหละ ปัญหาใหญ่ แต่จะให้เขานอนสภาพนี้ก็ไม่ได้ มันดูเวทนายังไงไม่รู้
เธอจัดการพลิกร่างสูงของเขาให้นอนหงาย เขาปัดมือเธอออก ทำท่ารำคาญ มะลิจัดการถอดเสื้อผ้าของเขาออก ในขณะที่เขาลืมตามองอย่างรำคาญสุดๆ
“อุ๊ย! ว้าย!” ร้องอย่างตกใจเมื่อจู่ๆ ร่างของเขาพลิกขึ้นคร่อมทับร่าง ของเธอ หลังจากกระตุกร่างเธอให้ล้มลงไปบนเตียงกว้าง
“จะทำอะไร”เขาถามเสียงดุดวงตาของเขาแดงก่ำเพราะผ่านการดื่มมาเยอะ
“จะปลดเสื้อผ้าของคุณค่ะ”
“ปลดเสื้อผ้า เธอคิดจะทำอะไร ฉันเป็นผู้ชายนะ”
“คุณจอนปล่อยก่อนค่ะ หนูแค่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณก็เท่านั้นเอง”
“ฉันไม่เชื่อ” เขากดร่างเธอทับเอาไว้กับที่นอน มะลิดิ้นหนี แต่เขายิ่งกดทับร่างของเธอหนักขึ้นไปอีก
“เธอคิดจะทำอะไร บอกมา...”
“มะลิเปล่าคิดอะไร”
“ลอกคราบฉันแล้วจะเรียกร้องให้ฉันรับผิดชอบ อยากถีบตัวเองขึ้นมาจากคนใช้เป็นคุณนายหรือไง”
“คุณจอน” มะลิตกใจเมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น
“ตกใจที่ฉันรู้ทันผู้หญิงอย่างเธอใช่ไหมล่ะ”
“มะลิเปล่าคิดแบบนั้นนะคะ”
“เธอน่ะเหรอไม่คิด เวลาฉันอยู่บ้านเธอมองฉันตาเป็นมัน”
“คุณจอน!” เธออุทานอย่างตกใจอีกครั้ง
“หรือฉันจะสงเคราะห์ให้เธอดี” เขาเหยียดปากใส่คนใต้ร่าง ตอนนี้นึกพาลไปหมด จริงๆ เขาเคยเอ็นดูมะลิมาก แต่ตอนนี้ผู้หญิงทุกคนดูขวางหูขวางตาไปหมด
“ปล่อยนะคะ”
“ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด” เขาเยาะเย้ยเหยียดปากน่าเกลียด
“คุณจอนปล่อยมะลินะคะ มะลิเจ็บ” เธอดิ้นเพราะเขายิ่งกดมือเธอทับกับพื้นเตียงจนแทบหัก
“อื้อ... คุณจอน” มะลิตกใจเมื่อเขาซุกใบหน้าลงมาหา ก่อนจะขบเม้มซอกคอของเธอแล้วดูดแรงๆ
“คุณจอน ปล่อยมะลินะคะ” ยิ่งเธอดิ้นเขายิ่งกอดรัดแน่นขึ้น ลมหายใจฟืดฟาดของเขารุนแรง เรือนร่างแข็งแกร่งรัดเธอเหมือนงูเหลือมตัวใหญ่ ท่าทีของเขาเหมือนโกรธ
“คุณโกรธคุณฤดีก็อย่ามาระบายอารมณ์ใส่มะลิสิคะ” เด็กสาวโพล่งออกไปอย่างเหลืออด เขาชะงักก่อนดวงตาจะลุกเป็นไฟ แล้วไม่มีคำพูดอะไรจากเขาอีก เขาบดจูบริมฝีปากของเธอหนักหน่วงรุนแรง เธอถึงกับหอบเมื่อเขาปล่อยริมฝีปากเป็นอิสระ
“คุณจอน” เธอส่ายหน้าไปมาเมื่อเขาเริ่มปลดเสื้อผ้าของเธอ
“ฉันอยากได้เธอ ตอนนี้เลย ได้ไหม” เขาคลุกเคล้าร่างสาว ในเวลานี้เขาต้องการใครสักคน เธอมองเขานิ่ง สายตาเว้าวอนทำให้เธอใจอ่อนอย่างไม่น่าให้อภัย เพียงแค่เธอพยักหน้าให้เขา ริมฝีปากร้อนรุ่มก็ทาบทับลงมาหนักหน่วง ดูดกลืนเรียกร้องเร่าร้อน ลิ้นของเธอถูกเขาดูดเม้มจนมึนงง
เธอผวาเมื่อร่างหนาหนักเปลือยเปล่าแนบชิดเสียดสีกับนวลเนื้อของเธอ ไม่รู้ว่าเขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกไปตอนไหน รู้ตัวอีกที เขาก็เสียดสีท่อนเนื้อที่ส่วนปลายฉ่ำเยิ้มเข้ามากับร่องรักของเธอเสียแล้ว
“คุณจอน... อย่าค่ะ”
“เธอบอกว่าจะให้ฉัน” เขาเสียดสีร่องรักของเธอด้วยส่วนปลายของความเป็นชาย เธอซี้ดปาก หลับตาครางด้วยความเสียว ในจังหวะที่เธอกำลังเคลิ้มเขาก็ค่อยๆ กดมันเข้ามาอย่างเชื่องช้า
“คุณจอน... เจ็บค่ะ!” เธอสะดุ้งอุทาน ถอนสะโพกหนี เขากอดรัดเอาไว้แน่น ก่อนจะกดกายเข้าไปจนสุดโคน
ร่างน้อยกระตุกกรีดร้องอย่างรุนแรง เขารัดเธอแน่นขึ้นฝังกายเข้าไป รุกล้ำในร่องเยิ้มจนหมดสิ้น ปากหนาร้องครางสุดเสียงด้วยความเสียวซ่านสุดใจ
“อา... แน่นเหลือเกินมะลิ” ขจรครางหนักๆ เขาแช่กายเอาไว้ในร่างของเธอ เพื่อให้เธอปรับตัว เธอสะอื้นน้อยๆ เจ็บแปลบในสัดส่วนที่เขาฝังเข้ามาหา
“ให้ฉันขยับนะ เธอพร้อมแล้วใช่ไหม” เขาเอ่ยถามสีหน้าเหมือนเจ็บปวด ใบหน้าของเขากระตุกน้อยๆ ขณะยกสะโพกสอบให้แก่นกายเสียดสีกับร่องเยิ้ม
เธอครางซี้ด นิ่วหน้าด้วยความเสียวซ่าน ในจังหวะที่ผ่อนคลายเขาก็กดกระแทกเข้ามาจนมิดเม้น
“อา...” เธอร้องครางเด้งสะโพกรับด้วยความเจ็บเสียว เขาเริ่มซอยกายเข้าออกเร็วขึ้นเมื่อหยาดน้ำรักเริ่มฉ่ำเยิ้ม
กายสาวของเธอเริ่มตอบรับและผลิตน้ำหวานออกมาต้อนรับการขยับกายของเขา ร่างสูงใหญ่กระแทกกระทั้นเข้าหากายสาวหนักหน่วงขึ้นตามแรงอารมณ์ ท่อนกายของเขาสอดเสียบแนบชิดสนิทในร่องเนื้อแสนคับแคบ คนใต้ร่างกัดฟันด้วยความเสียดเสียวปนเปกับความอึดอัดเจ็บแปลบ
เธอรู้สึกกระสันซ่านจากแรงเสียดสีของเนื้อกายชายหนุ่ม เขาโหมกายเข้าใส่ไม่ออมแรง คนใต้ร่างสั่นคลอนไปตามแรงโยก มือหนาเลื่อนมากอบกุมเต้านมเคร่งครัดพอดีมือ นวดเฟ้นแล้วก้มลงดูดจนหัวนมแข็งเป็นไต ลำกาย โหมกระหน่ำ สาวน้อยไม่เคยพานพบบทรักมาก่อนถึงกับทำตัวไม่ถูก ได้แต่ร้องครางอยู่ใต้ร่างหนุ่ม เสียงกระแทกของเนื้อกาย ตับ ตับ ตับ
“แต่งเพราะหนี้ อยู่ต่อเพราะหัวใจ” ภควัตแต่งงานตามใจมารดา หวังบีบให้ปิ่นมุกขอหย่า แต่ยิ่งเมินยิ่งเห็นว่าเธออยู่ได้อย่างมีความสุข และทำให้ “บ้าน” อบอุ่นขึ้น จนดึงดูดเขาอย่างประหลาด
เธอรักเขาคือเรื่องจริง แต่เขาโกรธเกลียดเธอคือเรื่องจริงเช่นกัน ในเมื่อความรักมันเหนื่อยนัก เธอก็ขอพักใจ ถอยห่างออกมา รอวันหย่าขาดจากพ่อของลูกที่ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน
“เขาคือเจ้าพ่อที่ใครต่างหวาดกลัว แต่กลับยอมสยบให้หญิงสาวที่ทั้งโลกเคยมองว่าไร้ค่า...” เมื่อเธอถูกตราหน้าว่าเป็นเพียงหมากในเกมหมั้นหมาย เขากลับเห็นแสงในตัวเธอ และเลือกจะปกป้องด้วยทั้งชีวิตและหัวใจ ท่ามกลางไฟแค้น อำนาจ และความลับของตระกูล หัวใจของคนสองคนค่อย ๆ สานพันธะรักที่ไม่มีใครลบล้างได้ “เธอคือของฉัน ต่อให้โลกทั้งใบต่อต้าน...ฉันก็จะไม่มีวันปล่อยเธอไป”
เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY