คุณเชื่อมั้ยว่า ‘ร่าน’ ได้ แต่ถ้าอายจะ ‘อด’ สุภาษิตไทยกล่าวไว้ ‘ด้านได้ อายอด’ แต่สำหรับรัชนก เธอคิดว่า ‘ร่านได้ อายอด’ นะจ๊ะ
คุณเชื่อมั้ยว่า ‘ร่าน’ ได้ แต่ถ้าอายจะ ‘อด’ สุภาษิตไทยกล่าวไว้ ‘ด้านได้ อายอด’ แต่สำหรับรัชนก เธอคิดว่า ‘ร่านได้ อายอด’ นะจ๊ะ
เอี๊ยดดดดด... โครม!
รถญี่ปุ่นไซส์มินิเบรกเอี๊ยดก่อนจะกระดอนเข้าไปจูบกับท้ายรถยุโรปคันหรูอย่างไม่ได้ตั้งใจ และเมื่อทุกอย่างหยุดนิ่ง คนขับหน้าหวานก็ถึงกับทำหน้าเบ้ อยากจะร้องไห้ออกมาซะเดี๋ยวนี้ ทั้งที่เมื่อกี้เธอเพิ่งกรีดร้องด้วยความดีใจที่พี่สาวได้ดีมีผัวได้สำเร็จ จากแผนการ ‘แรด! เท่านั้นที่ครองโลก’ แต่ตอนนี้เธอจะทำยังไงล่ะ
แค่เห็นยี่ห้อรถยนต์คันหน้า ขนหัวเธอก็ลุกจนตั้งไปหมดแล้ว จะเอาปัญญาที่ไหนไปซ่อมให้เขาล่ะ ประกันจะจ่ายได้หมดหรือเปล่า เพราะไอ้คันที่เห็นนี่ราคาหลักสิบล้าน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก...
‘รัชนก’ หันขวับมองด้านข้างเมื่อได้ยินเสียงเคาะเรียก ทว่าภาพที่เห็นกลับทำให้ใบหน้าที่เบะออกอยากจะร้องไห้ ต้องเปลี่ยนเป็นเหวอน้อยๆ ในทันที เพราะเทพบุตรหรือไรที่มาเคาะกระจกรถเธอ
มนุษย์ผู้ชาย ใบหน้าหล่อจัดเต็ม เริ่มจากคิ้วเข้ม ตาคม จมูกโด่ง ปากสีแดงระเรื่อ ทว่าน้ำเสียงกราดเกรี้ยวที่เปล่งออกมานั้นมันทำให้ฝันของเธอกระเจิง
“นี่คุณ! ลงมาเคลียร์ซะดีๆ คุณ! ลงมาเดี๋ยวนี้ คุณ!”
“รู้แล้วๆ คุณก็หนีไปก่อนสิ ฉันจะเปิดประตู” รัชนกตอบ อาการตื่นตะลึงเพราะคนหล่อหายวับไม่เหลือ เพราะเขาต้องเป็นเจ้าของรถคันหน้าแน่
“คุณขับรถประสาอะไรของคุณ ไม่ดูรึไงว่าไฟแดงอ่ะ ถามจริงนี่ซื้อใบขับขี่มาหรือเปล่า แค่พื้นฐานไฟเขียวไฟแดงคุณไม่รู้รึไง หรือว่าฝ่าไฟแดงบ่อยจนชินแล้ว”
รัชนกอ้าปากค้าง เพราะคนหล่อที่พ่นคำพูดมาเป็นชุดนั้นไม่เว้นจังหวะให้เธอได้พูดได้อธิบายเลยสักคำ โดยเฉพาะคำว่า ‘ฝ่าไฟแดง’ ของเขา สีหน้าและแววตาคมเข้มนั้นไม่ได้หมายถึงไฟแดงสัญญาณจราจรแน่
“แล้วนี่คุณโทรเรียกประกันหรือยัง อย่าบอกนะว่าคุณยังไม่ได้ทำอะไรเลย คุณนี่มันใช้ไม่ได้ คุณเป็นคนไม่รับผิดชอบภาระสังคม คนอย่างคุณนี่ เข้าไปที่ไหนคงจะวายวอดที่นั่น คุณนี่มัน...”
“นี่คุณ! ผีเจาะปากมาพูดรึไง หรือว่าทำอาชีพที่ใช้ปากเก่ง จนไม่คิดจะให้ใครใช้ปากมั่งน่ะ ก็แค่รถชนตูด คุณจะอะไรนักหนา และที่ว่าฉันยังไม่เรียกประกันน่ะ คุณให้โอกาสฉันเรียกมั้ย ได้แต่พ่นปาวๆๆ เคยรออะไรเป็นบ้างมั้ย แล้วรถชนตูดเนี่ยมันเกี่ยวอะไรกับรับผิดชอบสังคม ไม่ต้องกลัว ฉันรับใช้ให้แน่ กะอีแค่ตูดยุบจะกี่ตังค์กัน ตูดรถนะไม่ใช่ตูดคุณ อ๋อ... คุณไม่ชอบให้ใครมาชนตูดคุณนี่เอง แต่ถ้าไปชนตูดคนอื่น คุณคงชอบสินะ”
“คุณ! นี่คุณพูดดีๆ นะ คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง คุณหาว่าผมเป็นเกย์เหรอ”
“ก็แล้วแต่จะคิด ฉันยังไม่ได้พูดสักคำ”
“คุณ! คุณนี่มัน... ถ้าตบคุณได้ผมตบไปแล้ว...”
“อ้อเหรอคะ ตบสิคะ จะได้ยืนยันว่าคุณเป็นจริง”
“คุณ... อึ๊ย...”
รัชนกยิ้มยั่วคนหล่อที่ยืนสั่นราวกับเจ้าเข้า เธอไม่ใช่คนที่ไร้ความรับผิด และที่ทำผิดไปก็เพราะเธอประมาทจริงๆ แต่จะให้ใครก็ไม่รู้มายืนด่ากันแบบนี้ เธอก็ไม่ยอมเหมือนกัน และ ‘คนหล่อติดลบ’ ที่ออกอาการแต๋วแตกแหกชิมิแบบนี้ เธอก็ไม่เก็บไว้ทำพ่อหรอก
‘ชาวี’ กำมือแน่นพยายามข่มความโกรธไว้ให้ลึกที่สุด แม้อยากตะปันหน้าสาวทอมปากเก่งนี้มากเท่าไร แต่เพราะเธอเป็นผู้หญิงเขาจึงต้องระงับเอาไว้ และเพราะสายตาของผู้คนสัญจรไปมาที่มองตรงมาที่เขาและสาวทอมคนนี้อย่างสนใจด้วย คนระดับเขา ถ้าเป็นข่าวขึ้นมาคงยุ่งแน่
“เอานามบัตรคุณมา ผมจะส่งบิลไปเก็บค่าซ่อม”
“อะไร ฉันจะเรียกประกัน รถฉันก็เสียหายเหมือนกัน ไม่เห็นรึไง เรื่องอะไรจะให้คุณส่งบิลมาเก็บ”
ชาวีเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ถ้าไม่ติดว่าเขารีบเขาคงยอมรอประกันแล้วไปเคลียร์ต่อบนโรงพักแน่ ข้อหาตบทอม
“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยทอม ถ้าฉันไม่รีบเธอได้เจอดีแน่”
คนหล่อชี้หน้าคาดโทษก่อนจะเดินไปขึ้นรถหรูแล้วขับออกไป ปล่อยให้รัชนกยืนเอ๋อก่อนจะได้สติเพราะรถคันหลังบีบแตรไล่ และเมื่อขึ้นมานั่งรถบนเรียบร้อยแล้ว รัชนกก็ต้องขับรถไปอย่างใจลอย จนต้องเบนรถจอดชิดข้างทาง พลางหยิบกระจกขึ้นมาส่องหน้า
‘ยัยทอม’ เสียงห้วนๆ ไม่พอใจนั้นยังดังชัด จนรัชนกต้องสำรวจใบหน้าตัวเองทีละส่วนๆ โดยละเอียด และสรุปกับตัวเองว่า หน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยอย่างนี้เป็นทอมได้ไง ก็แค่ตัดผมซอยสั้น และใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืดเท่านั้น อย่างนี้เรียกว่าทอมได้ไง
“ทอมเหรอ... นก... แกเหมือนทอมเหรอ หึ! ไม่จริงอ่ะ ไอ้บ้านั่นตาถั่ว แกไม่ใช่ทอม ฮือ... ฉันไม่ใช่ทอม ฉันไม่เชื่อ ฉันสวย ฮือ... ไอ้เกย์บ้า มาว่าฉันเป็นทอม ฮือ...”
ในขณะที่รัชนกคร่ำครวญกับรูปลักษณ์ตนเอง ชาวีที่รีบขับรถเข้าบริษัทก็ยังคงโมโหไม่หาย นึกเสียดายใบหน้าจิ้มลิ้มนั่น ไม่น่าเป็นทอมเลยสักนิด สาบานได้ถ้าไม่รีบ จะทำให้ทอมกลับใจเลยทีเดียว
“ยัยทอมเอ๊ย! ถ้าเจอกันอีกคราวหน้า จะทำให้ทอมแบเลย คอยดูสิ ถ้าไม่แบให้ ก็อย่ามาเรียกว่า ชาวี”
‘ชีคมาลิก บิน ชารีฟ อัล นามีรุน’ ผู้ได้รับฉายา "เสือดำแห่งนามีรุน" เมื่อ ‘เสือดำ’ หนุ่ม อยากขย้ำแม่กวางน้อย จนร้อนรุ่ม กลัดกลุ้ม นอนไม่ได้ การเจรจาซื้อขายให้เธอมาอยู่ในฮาเร็มของเขาคงเป็นทางออก แต่ผู้หญิงอย่าง 'เนตรดารา' กลับซื้อไม่ได้ด้วยเงิน ‘ถ้าไม่มากพอ’ เขาถูกมองว่าเป็น 'แกะดำ' ของราชวงศ์ และนั่นคือสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ ‘ลูกของเสือดำ อาจเป็นเสือดาว และลูกของเสือดาวก็อาจกลายเป็นเสือดำได้ แต่ที่สำคัญก็คือ เสือจะไม่กลายเป็นอย่างอื่นนอกจาก “เสือ” เท่านั้น’
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
สิ่งแรกที่เธอทำหลังจากการหย่าร้าง เธอไปหมั้นกับศัตรูของเขา ไปมีความรักกับชายหนุ่มน้อย เล่นงานมือที่สาม แก้แค้นอดีตสามี ตัวตนที่แท้จริงของเธอค่อยๆ ถูกเปิดเผย นักเปียโนอันดับหนึ่งของโลก? ดีไซเนอร์ Elan ที่หาตัวยาก? นักลงทุนลึกลับ? หลังจากการหย่าร้างหลี้จิงถิงถึงค้นพบว่าอดีตภรรยาของเขามีความลับมากมายอย่างนี้ เขาอยากตามตื้ออดีตภรรยาของเขากลับมาคบกัน แต่ยังเป็นไปได้ไหมล่ะ มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อปริศนาแห่งประสบการณ์ชีวิตของเธอถูกเปิดเผยจริงๆ หัวใจของเขาแตกสลายอย่างสิ้นเชิง...
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
“ปล่อยหยกนะคุณโตก คุณทำบ้าอะไรคะ” หญิงเรียบร้อยโวยวายทุบตีเขาและดิ้นรนให้เขาปล่อยแต่ก็ดิ้นเสียแรงเปล่าเมื่อเขากอดรัดเธอแน่นกว่าเดิม พร้อมกับฟาดตีก้นของเธอแรงๆ หลายครั้งติดต่อกันจนเจ็บน้ำตาเล็ด “อยากก็บอกผัวสิ ไปอ่อยไอ้หมอคมนั่นทำไม” ปัง! เท้าใหญ่ยกถีบประตูห้องทำงานตัวเองให้เปิดออก และเมื่อเปิดออกแล้วก็ถีบปิดแรงๆ กลับ ปัง! “พูดบ้าอะไรของคุณคุณโตก มันเรื่องส่วนตัวของหยก หยกจะอ่อยใครก็ได้ จะคุยกับใครก็ได้”
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด