ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
“ฉันยอมเป็นของคุณแล้ว แต่ทำไมคุณยังไม่เลิกกับชูจี้อีกล่ะคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ ขณะที่นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มด้วยร่างที่เปือยเปล่าครึ่งท่อน
“เวลาอยู่บนเตียงอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก” ชายหนุ่มกำลังอารมณ์พลุ่งพล่าน เขาเอื้อมมือไปเค้นคลึงอกที่อวบอิ่มของหญิงสาวอย่างเบามือ
หญิงสาวไม่พอใจนัก เมื่อไม่ได้รับคำตอบตามที่ต้องการ “ฉันจะพูด! ก็แค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยง แม้แต่หมาของฉันยังมีค่ากว่าหล่อนเลย หล่อนมีอะไรดีนักหนาคะ? ”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เขาประคองเอวบาง แล้วเร่งจังหวะขยับเข้าออกแรงขึ้น ทำให้เธอถึงกับร้องครวญครางออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หลินชูจี้ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เธอได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันทั้งหมด นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
เธอเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล
ยายซุนผู้ซึ่งเลี้ยงดูชูจี้มาตั้งแต่เด็ก ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคตับแข็งระยะสุดท้าย คุณยายจำเป็นจะต้องได้รับการปลูกถ่ายตับอย่างรวดเร็ว และชูจี้จำต้องหาเงินมาเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล
แต่แล้วเรื่องแย่ ๆ ในชีวิตเธอยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น ทันทีที่เธอกลับมาถึงบ้านเธอก็ได้รู้ว่าน้องสาวของเธอกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนหนุ่มของเธออยู่ ชูจี้รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบได้พังทลายลงตรงหน้าเธอ
“ฉันไม่สน? คืนนี้คุณต้องจัดการให้เรียบร้อย คุณจะเลือกใคร ระหว่างเธอกับฉัน?” หลินชูเสวขมวดคิ้วแน่น พลางเอากำปั้นทุบลงไปที่หน้าอกของจือหยวนเบา ๆ เพื่อต้องการคำตอบ
ชูจี้เอาเท้าเตะไปที่ประตูให้เปิดออก แล้วจ้องมองชายชั่ว และหญิงสารเลวที่อยู่ตรงหน้าเธอ “ไม่ต้องเสียเวลาหรอก ก็แค่ผู้ชายคนเดียว ถ้าเธออยากได้ ฉันยกให้”
แม้สีหน้าท่าทางของเธอจะดูเฉยเมยเหมือนไม่แคร์ มีแต่เธอเองเท่านั้นที่รู้ว่าภายในใจของเธอนั้นเจ็บปวดมากมายเพียงใด
จือหยวนเป็นเพื่อนที่เรียนวิทยาลัยมาด้วยกันกับเธอ เขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ และมีฐานะดี เขาตามจีบชูจี้มากว่าสามปีแล้ว
ก่อนเรียนจบ เขาได้สารภาพรักกับเธออีกครั้ง
ที่สนามกีฬาของวิทยาลัย วันนั้นมีผู้คนมากมายมาลุมล้อม และส่งเสียงเชียร์ สุดท้ายชูจี้ก็ตกลงยอมที่จะคบกับเขา
ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังกัดกินหัวใจเธออย่างโหดร้าย เธอมองไปยังชายหญิงคู่หนึ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ พลางกำมัดแน่น จนเล็บจิกลงไปที่ฝ่ามือของเธอ
จือหยวนผลักชูเสวออกไปทันที ก่อนจะหยิบกางเกงขึ้นมาใส่ แล้วลุกออกจากเตียงอย่างเร็ว
ชูเสวเกือบจะล้มลงไปกองกับพื้นเพราะแรงผลัก คำพูดของชูจี้จุดชนวนความโกรธของเธอให้ลุกโชน
เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะจับผู้ชายหล่อ และรวยอย่างจือหยวนได้
ในขณะที่ชูจี้ได้ใจเขาไปง่าย ๆ โดยไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ นั่นเป็นต้นเหตุให้ชูเสวไม่พอใจ
‘แกมันก็แค่เศษสวะที่ถูกเก็บมาเลี้ยง’
“เหอะ ยกให้ฉันงั้นเหรอ? ทำอย่างกับแกเป็นคนทิ้งจือหยวน เขาต่างหากที่ไม่เอาแก นังเศษสวะ!“ ชูเสวเย้ยหยันเธอ พลางดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่าง ก่อนจะหันไปทางจือหยวน แล้วพูดขึ้นว่า “จือหยวน เมื่อกี้คุณพูดว่ายังไง บอกชูจี้ไปสิ!”
การที่จือหยวนมีอะไรกันกับชูเสวเป็นเพราะเธออ่อยเขา เขาแค่หน้ามืดตามัว ควบคุมตัวเองไม่ได้จึงพลั้งเผลอมีอะไรกับเธอเข้า
ชายหนุ่มนั่งคุกเข่าต่อหน้าชูจี้ ก่อนจะคว้ามือของชูจี้ขึ้นมากุมไว้ “ชูจี้ยกโทษให้ผมเถอะนะ ผมผิดไปแล้ว”
แม้น้ำตาของเธอจะไหลเอ่อ แต่ชูจี้ก็เลือบไปมองเขาอย่างรังเกลียด หากเธอได้ตัดสินใจทำอะไรแล้ว เธอไม่มีทางเปลี่ยนใจเป็นอันขาด
เธอสะบัดมือของจือหยวนออก ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ขอโทษด้วยจือหยวน ฉันไม่ต้องการของเหลือจากชูเสว พวกคุณสองคนดูเหมาะสมกันดีออก เราเลิกกันเถอะ”
ชูเสวได้ยินดังนั้นถึงกับตะลึง จือหยวนถึงกับดิ้นพล่าน ในทางกลับกันสีหน้าของชูจี้กลับไม่มีร่องรอยความเสียใจใด ๆ เลย ความโกรธของชูเสวค่อย ๆ เพิ่มพูนขึ้น เพราะสิ่งที่เธอต้องการจะเห็นมันกลับไม่ได้เกิดขึ้น
ชูจี้ไม่ต้องการจะเสวนากับทั้งคู่อีก ชูเสวชอบแย่งของ ๆ เธอมาตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนชูเสวแค่แย่งของเล่นของเธอ แต่ตอนนี้ชูเสวก็มาแย่งแฟนหนุ่มของเธอ
และตอนนี้ชูจี้ชินชากับมันเสียแล้ว สิ่งที่เธอกังวลตอนนี้มีเพียงเรื่องค่ารักษาพยาบาลของคุณยายซุนเท่านั้น
ในขณะที่เธอกำลังจะก้าวขาออกจากห้อง เธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาที่ทางเดิน
“ดึกดื่นป่านนี้แล้ว เอะอะโวยวายอะไรกัน”
หลินปินและรั่วเฟย พ่อแม่บุญธรรมของชูจี้ เมื่อได้ยินเสียงเอะอะโวยวายก็พากันเดินเข้ามาดู
หลินปินที่เดินเข้ามาในห้องก่อน เมื่อเห็นลูกสาวแท้ ๆ นั่งอยู่บนเตียงด้วยร่างกายที่เปือยเปล่า ก็ถึงกับตาถลน ก่อนจะตะโกนเสียงดังออกมาว่า “แกทำบ้าอะไรเนี่ย? แกกำลังจะแต่งงานอยู่แล้ว ไปยุ่งกับผู้ชายคนอื่นอย่างนี้ได้ยังไง?” เขาตะโกนออกมาอย่างดุดัน
ชูเสวกอดตัวเองเอาไว้ พลางหันไปมองหลินปินด้วยดวงตาแดงก่ำ เธอกัดฟันแน่นเพื่อระงับความโกรธที่กำลังประทุ
ตระกูลลู่ และตระกูลหลินมีข้อตกลงที่จะให้ลูก ๆ ของพวกเขาแต่งงานกัน เมื่อพวกเขาโตขึ้น และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว คู่หมั้นของเธอเป็นลูกนอกกฎหมาย ที่ตระกูลลู่ขับไล่เขาออกจากบ้านไปตั้งนานแล้ว เขายากจนแถมยังตกงาน เป็นแค่คนเกียจคร้านที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปวัน ๆ โดยไม่ทำอะไร ชูเสวไม่ต้องการแต่งงานกับเขา
เธอคิดว่าเธอคู่ควรกับคนที่ดี และเพียบพร้อมมากกว่าเขา
“หนูท้อง!” ชูเสวตะโกนขึ้นพลางชี้ไปยังจือหยวน “หนูกำลังท้องลูกของจือหยวนอยู่ หนูจะไปแต่งงานกับคนอื่นได้ยังไง? คุณพ่อยกเลิกงานแต่งไปเถอะค่ะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น จือหยวนถึงกับตะลึงที่ชูเสวพูดมาอย่างนั้น เขาเคยมีอะไรกับเธอแค่ไม่กี่ครั้งเอง เธอจะท้องได้อย่างไร?
“แกพูดบ้าอะไร! ยังไงแกก็ต้องแต่งกับลูกชายของตระกูลลู่!” หลินปินโกรธจนควันออกหู เขาอยากจะตบชูเสวที่ทำตัวโง่เง่าเสียเต็มประดา
งานแต่งงานครั้งนี้ถือเป็นหน้าเป็นตากับเขามาก หากตระกูลลู่ถามถึงสาเหตุที่ต้องยกเลิกงานแต่งงาน เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
รั่วเฟยยืนประจันหน้ากับสามีเพื่อปกป้องลูกสาว เธอคอยปกป้อง และแทบไม่เคยดุด่าว่ากล่าวชูเสวเลยด้วยซ้ำ สามีของเธอกำลังโกรธแทบขาดสติ และเธอทนไม่ได้ที่เห็นเขาตะคอกใส่ลูกสาวสุดที่รักของเธอ
“หลินปิน คุณจะโกรธชูเสวทำไมคะ?” รั่วเฟยร้องไห้ออกมา “ชูจี้ก็เป็นลูกสาวตระกูลหลินเหมือนกันนี่คะ ให้เธอแต่งงานกับลูกชายของตระกูลลู่แทนก็ได้”
หลินปินและรั่วเฟยแต่งงานกันมานานหลายปี แต่เขาทั้งคู่ก็ยังไม่มีทายาท เนื่องจากแรงกดดันของผู้ใหญ่ในตระกูลหลินที่ต้องการทายาทสืบสกุล พวกเขาจึงจำต้องรับชูจี้มาเลี้ยง ในปีต่อมา ในที่สุดรั่วเฟยก็ตั้งครรภ์และให้กำเนิดชูเสว
และนั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเกลียดชูจี้ การได้เห็นหน้าชูจี้ ทุก ๆ วันเหมือนเป็นการตอกย้ำว่าเธอไม่มีน้ำยา พอที่จะให้กำเนินลูกได้ ทุกครั้งที่ลูกสาวบุญธรรมมองมาที่เธอ เธอก็มีแต่รู้สึกหงุดหงิด
หลังจากที่ชูเสวเกิด รั่วเฟยก็คอยเอาอกเอาใจ และเข้าข้างแต่ชูเสว ไปพร้อม ๆ กับรังเกียจชูจี้
เวลาผ่านไป เมื่อชูจี้โตขึ้นเธอกลับมีดีกว่าลูกสาวแท้ ๆ ของรั่วเฟยในทุก ๆ ด้าน นั่นยิ่งทำให้ความเกลียดชังที่เธอมีต่อชูจี้เพิ่มพูนมากขึ้น
คำพูดของรั่วเฟยทำให้ชูจี้โกรธ “คนที่คุณพ่อคุณแม่ตกลงว่าจะให้แต่งงานกับคนตระกูลลู่ คือชูเสว ไม่ใช่หนู” เธอเอ่ยออกมาอย่างขุ่นเคืองใจ “อยู่ดี ๆ คุณแม่ก็จะให้หนูแต่งงานแทน เพราะลูกสาวคนดีของคุณแม่ ไปมีอะไรกับคนอื่นงั้นเหรอคะ?”
“เราเลี้ยงดูแกมาตั้งหลายปี ถึงเวลาที่แกต้องตอบแทนบุญคุณเราบ้างแล้วชูจี้” รั่วเฟยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นัยน์ตาของเธอเหมือนมีอะไรแฝงอยู่ “แกไม่อยากให้ยายแก่นั่นได้ผ่าตัดเหรอ? ถ้าแกยอมแต่งงานแทนชูเสว ฉันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ยายแก่นั่นเอง”
ชูเสวยิ้มออกมาอย่างพอใจ เธอคิดว่ากาฝากแบบชูจี้ ก็เหมาะแล้วกับหมาหัวเน่าอย่างลูกชายนอกสมรส ของตระกูลลู่
เมื่อได้ยินคำพูดของรั่วเฟย ชูจี้ก็กัดฟันแน่นเพื่อข่มอารมณ์ที่กำลังเดือดดาล ทันใดนั้น คำพูดของคุณหมอก็แวบเข้ามาในหัวของเธอ ยายซุนมีเวลาเหลือไม่มากแล้ว
ชูจี้เพิ่งจะเรียนจบ เธอไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ทันเวลาแน่
แม้หลินปินและรั่วเฟยจะรับเลี้ยงเธอ แต่พวกเขาก็ไม่เคยมาดูดำดูดีเธอเลย คนที่เลี้ยงดูเธอคือยายซุน ที่เป็นคนใช้ของตระกูลหลิน ยายซุนเป็นเหมือนยายแท้ ๆ ของเธอ เธอไม่สามารถทอดทิ้งยายซุนได้
เมื่อสังเกตเห็นความลังเลที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของชูจี้ รั่วเฟยก็ค่อย ๆ เดินเข้าไปหาเธอ “ถึงยังไงสักวันแกก็ต้องแต่งงานกับใครสักคนอยู่แล้ว ทำไมแกไม่ช่วยเราด้วยการแต่งงานกับลูกชายของตระกูลลู่ล่ะ? ฉันจะจ่ายเงินให้แกทันทีที่แกแต่งงานกับเขา”
ขาของเธอสั่นรัว เมื่อทุกคนในห้องกำลังจ้องมองมาที่เธออย่างรอคอยคำตอบ เธอต้องการเงินเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ยายซุนจริง ๆ
ในที่สุดน้ำตาอุ่น ๆ ก็ไหลลงมาอาบแก้มนวล ๆ ของเธอ ชูจี้ก้มหน้าลง แล้วตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า “ค่ะ หนูจะแต่งงานกับเขา”
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
เรื่องย่อ วังวนร้อนรักจวนแม่ทัพใหญ่ แนว 4P ซุนหลีนถูกจับมาเป็นเชลยสงครามพร้อมพี่ชายบุญธรรมที่นางแอบมีใจให้เขาและมารดา แต่ด้วยความงามของนางจึงทำให้ฮูหยินใหญ่ที่ไร้ทายาทต้องการให้นางอุ้มท้องแทนตน เรียนท่านผู้อ่านทุกท่าน หนังสือนิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเหมาะกับสายแซ่บไม่พูดเยอะ เจ็บคอ จะมีฉาก NC นำเนื้อหาแทบทั้งเรื่อง และพล็อตเบาคลายเครียด แทบไม่มีพล็อตค่ะ ดังนั้นท่านผู้อ่านควรพิจารณาโหลดตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ขอบคุณค่ะ
เมื่อชีคเถื่อนถูกแบล็คเมลให้แต่งงานกับเมียเก็บของน้าชายผู้ล่วงลับ... หล่อนยืนอยู่ข้างกับหน้าต่าง แสงแดดยามสายส่องกระทบเข้ามาทางด้านหลังของหญิงสาว มันทำให้เขาเห็นสัดส่วนสมบูรณ์แบบได้ชัดเจนเต็มสองตา เลือดหนุ่มในกายเดือดพล่าน ความต้องการทางเพศระเบิดขึ้นภายในช่องท้องอย่างรุนแรง เขาต้องการหล่อน... ต้องการผู้หญิงที่ยืนจีบปากจีบคอโต้เถียงเขาคอเป็นเอ็นตรงหน้าแทบขาดใจ แต่หล่อนคือเมียเก็บของน้าชาย...! ผู้หญิงต้องห้ามที่เขาต้องเก็บไม้เก็บมือให้ไกลที่สุด “ฉันต้องการทำแบบนี้ตั้งแต่เห็นเธอครั้งแรกที่เมืองไทยแล้ว จัสมิน... อืมมมม” เซรีมสาธิตความต้องการของตัวเองด้วยการชำแรกแทรกลึกเข้ามาในความคับแน่นไร้ราคีของหล่อนอย่างดุดัน ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยความเถื่อนถ่อย เสียงคำรามด้วยความกระสันรัญจวนแผดก้องห้องบรรทม “อื้อ... ฉัน... เจ็บ...” “มันจะดีขึ้น... อืมมมมม...” มันจะดีขึ้นได้ยังไงกัน ในเมื่อเซรีมยังไม่ยอมหยุดเคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
ชาติภพก่อนนางต้องสูญเสียลูกและสามีเพราะคนร้ายกราดยิงในห้าง จนนางเลือกจบชีวิตโดยการฆ่าตัวตายตาม พอเกิดชาติใหม่ก็มาอาศัยร่างที่ใบหน้าเหมือนตัวเองแถมมีลูกสาวที่หน้าเหมือนลูกสาวภพก่อนแต่กลับถูกสามีทิ้งให้มาอยู่ลำพังบนเขาจนอดข้าวตาย นางที่ได้มาอาศัยร้าง สัญญาว่าจะดูแลบุตรสาวคนนี้ให้ดีที่สุด และหวังว่าจะเจอสามีนางในภพเช่นกัน หญิงหม้ายเช่นนางจะดูแลบุตรสาวด้วยตัวเอง... "ท่านแม่กอดเอวของท่านพ่อเอาไว้แบบนี้ห้ามปล่อยนะเจ้าคะ ถ้าท่านแม่กอดเอวท่านพ่อก็จะได้กอดถิงถิงไปด้วย" เสียงเล็กของสาวน้อยที่นั่งตรงกลางระหว่างเจินเป่าและเหนียงไป๋กล่าวบอกผู้เป็นมารดาด้วยน้ำเสียงแจ่มใส เหนียงไป๋จึงไม่มีทางเลือกต้องพยักหน้ารับและทำตามที่บุตรสาวบอกแต่โดยดี ******************* นิยายสนุก น่ารัก อบอุ่นหัวใจ ดีต่อสุขภาพ แวะมาอ่านกันเยอะๆ นะคะ
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”