“คุณธี คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะคะ!” ประณาลีถามเสียงตื่น พยายามดิ้นรนขัดขืนตุบตีและผลักไสร่างใหญ่ให้ออกห่าง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้าน “ไม่มีทางที่รัก ผมปล่อยคุณมานานเกินไปแล้ว” เอ่ยจบนิธิภัทรก็เปลี่ยนจากกอดรัดมาตวัดร่างบางขึ้นอุ้ม แล้วเดินดุ่มๆ ตรงไปที่เตียงกว้าง ท่ามกลางเสียงวี้ดร้องและกระเสือกกระสนของหญิงสาว “ไม่นะคุณธี คุณจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันเป็นพี่เลี้ยงไม่ได้เป็นนางบำเรอของคุณ” “ก็ใครบอกว่าจะให้คุณเป็นนางบำเรอล่ะทูนหัว” นิธิภัทรวางร่างบางลงบนเตียงกว้างแล้วโถมร่างใหญ่ตามลงไปแบบติดๆ จากนั้นเขาก็ทำการปิดปากพี่เลี้ยงสาวที่มักจะปฏิเสธเขาตลอดเวลาด้วยจูบอ่อนหวาน ขณะเดียวกันกำปั้นน้อยๆ ของหญิงสาวก็ยังทุบเข้าที่ไหล่กว้าง แต่ไม่นานมือนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนมาเป็นลูบไล้อย่างเคลิ้มไปกับจูบที่เริ่มเร่าร้อนขึ้นเรื่อยๆ สติที่คอยย้ำเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาแตกกระเจิงไม่มีชิ้นดี เหลือเพียงความรู้สึกลึกๆ ที่เก็บงำเอาไว้ภายในใจ ที่เริ่มจะแสดงออกมา และเมื่อเป็นอย่างนั้นทำให้ประณาลีกล้าพอที่จะจูบตอบกลับไปอย่างไม่ประสีประสามากนัก หากแต่จูบนั้นแฝงไปด้วยความเร่าร้อนอ่อนหวาน มันจึงสามารถเรียกเสียงครางจากชายหนุ่มได้เป็นระยะๆ สร้างความร้อนรุ่มไปทุกอณูขุมขน เปลวไฟพิศวาสคุกรุ่นพร้อมจะมอดไหม้ นิธิภัทรไม่รอช้าจัดการปราการที่ขวางกั้นทั้งของตัวเองและประณาลีที่นอนอ่อนระทวยใต้ร่างออกอย่างชำนาญ “คืนนี้คุณจะต้องชดเชยเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานะที่รัก”
1
พ่อม่ายอกหักกับแม่สาวคานทอง
ภายในผับชื่อดังย่านรัชดา ไฟแสงสีและเสียงเพลงที่ดังอึกทึกครึกโครมคับพื้นที่ ไม่ได้สร้างความบันเทิงเริงใจให้กับ นิโคไล นิธิภัทร คันธารัตน์ หนุ่มหล่อลูกครึ่งไทย-อิตาลี เจ้าของธนาคารอยู่ในระดับเศรษฐีอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่เพิ่งถูกคนรักอย่างทรรศน์กมลสาวสังคมแสนสวยสุดเซ็กซี่บอกเลิก อย่างหมดเยื่อใยไม่แม้แต่จะนึกถึงวันเวลาที่เคยรักกันมาเนิ่นนานหลายปี เพราะไปถูกใจหนุ่มอาหรับมหาเศรษฐีเจ้าของบ่อน้ำมันประเทศแถบตะวันออก
‘วันนี้มลมาลาคุณค่ะ’
‘มาลา! มลจะลาไปไหนครับ แล้วทำไมต้องลาด้วย’ ชายหนุ่มถามคนรักเสียงกลั้วหัวเราะ แต่ทรรศน์กมลกลับทำหน้าตาเคร่งเครียด ทำให้รอยยิ้มที่เปื้อนบนใบหน้าของนิธิภัทรค่อยๆ เลือนไป
‘ต้องลาค่ะ เพราะมลตัดสินใจแล้วว่า จะไปใช้ชีวิตอยู่กับคาร์ดาลและอีกไม่นานเราคงจะแต่งงานกัน ตอนแรกมลคิดว่าจะไปโดยไม่ลาคุณนะคะ แต่พอคิดๆ ดูแล้ว มลอยากไปแบบไร้กังวลค่ะ’
‘แต่งงาน...’ นิธิภัทรคราง ความตกใจมีน้อยกว่าความเจ็บปวด หัวใจของเขาตอนที่ได้ยินว่าผู้หญิงที่รักกำลังจะหนีไปแต่งงานกับคนอื่น ราวกับมีคนเอามีดทื่อๆ มาแล่ เขามองหน้าคนรักด้วยแววตาเจ็บปวด พลางส่ายศีรษะช้าๆ อย่างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
เขาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแฟนของทรรศน์กมลมาโดยตลอด ในวงสังคมเองก็รู้กันดี แต่ ณ เวลานี้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟนของเขากลับประกาศออกมาว่าจะไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ความสัมพันธ์ระหว่างทรรศน์กมลกับนักธุรกิจชาวอาหรับคนนั้น มันเกิดขึ้นตอนไหน ทำไมเขาไม่เคยรู้ ไม่เคยระแคะระคายใจมาก่อน ชายหนุ่มคิดอย่างสับสน ใจอยากจะพูดจะถามออกไป แต่มันเจ็บจนพูดไม่ออก
‘ค่ะ เราจะแต่งงานกันในไม่ช้านี้ เขาขอเวลาเคลียร์ทุกอย่างให้ลงตัวก่อน ซึ่งทางครอบครัวของมลก็ไม่มีปัญหา พวกท่านเคารพในการตัดสินใจของมล’ ทรรศน์กมลกลื้นก้อนสะอื้นแข็งๆ ที่วิ่งขึ้นมาจุกคอลงอย่างยากเย็น แล้วเชิดหน้าตอบราวกับไม่สะทกสะท้านอะไร ทั้งที่จริงแล้วการตัดสินใจของเธอในครั้งนี้ค่อนข้างลำบาก เพราะรู้สึกสงสารคนเคยรักอย่างนิธิภัทรอยู่ไม่น้อย แต่เพื่อความสุขของตัวเองในอนาคต เธอจึงขอเลือกสิ่งที่คิดว่าดีที่สุด ถึงแม้นิธิภัทรจะรวยแต่สิ่งที่เขาไม่ค่อยจะมีให้เธอเลยก็คือเวลาและความเอาใจใส่ ในขณะที่ผู้ชายอีกคนมีให้เธอครบทุกอย่าง
‘ทำไมมล ทำไมคุณทำกับผมอย่างนี้ เรารักกันมาตั้งนาน จู่ๆ คุณก็เปลี่ยนใจจะไปแต่งงานกับไอ้นักธุรกิจแขกนั้น ทั้งๆ ที่มีผมอยู่’ นิธภัทรถามเสียงสั่น เขาพาคนรักอย่างทรรศน์กมลออกงานสังคมด้วยบ่อยครั้ง และมีงานหนึ่งที่เขากับทรรศน์กมลได้เจอและรู้จักกับผู้ชายที่ชื่อคาร์ดาลผ่านการแนะนำจากเพื่อนที่เป็นนักธุรกิจด้วยกัน แต่เขาไม่คิดว่าการพบกันในครั้งนั้นจะทำให้เขาเสียคนรักไป
‘ค่ะ คุณกับมลคบกันมาตั้งนาน แต่คุณรู้ไหมคะว่า คุณไม่ค่อยจะมีเวลาให้มลเลย และความเอาใจใส่ในฐานะคนรักก็คงไม่ต้องพูดถึง เราแทบจะไม่ต่างกับแค่คนรู้จักกันธรรมดาทั่วไป เอ่ยขึ้นคำไหนก็มีแต่งานแล้วก็งาน หรือไม่ก็ลูกๆ ตัวแสบของคุณ มลทนไม่ไหวและไม่อยากจะทนมันอีกต่อไปแล้ว มลมีคาร์ดาล เวลามลทุกข์ใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ เขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจ และคอยดูแลเอาใจใส่ เฝ้าเทคแคร์มลตลอด ซึ่งมันต่างกับคุณที่เป็นคนรักอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเขาสารภาพว่ารักมลตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว มลไม่ลังเลเลยที่จะตอบรับเขา เพราะเขาเป็นคนที่ให้มลได้ทุกอย่าง’
‘คุณจับปลาสองมือ’ นิธิภัทรเค้นเสียงพูดออกมาอย่างเจ็บปวด
‘เพราะคุณทำให้มลต้องเป็นแบบนี้’
‘ผมนึกว่าคุณเป็นผู้หญิงที่เข้าใจผมมากที่สุดนะมล’
‘มันแค่ช่วงที่มลยังไม่เจอคาร์มาลเท่านั้น แต่หลังจากที่มลได้เจอคาร์มาล มลถึงได้รู้จักความสุขที่แท้จริง หวังว่าคุณคงจะเข้าใจมลนะคะ ลาก่อนค่ะ’
นิธิภัทรสะบัดศีรษะแรงๆ ไล่เหตุการณ์อันแสนเจ็บปวดที่ผุดขึ้นมาในห้วงความคิดเป็นฉากๆ ก่อนจะกระดกเหล้าในแก้วขึ้นดื่ม
“มาคนเดียวเหรอคะ” เสียงหวานมาพร้อมกับการเบียดหน้าอกอวบอิ่มเข้าที่สีข้างของชายหนุ่ม ทำให้นิธิภัทรเหลือบตามองเจ้าของหน้าอกนั้นเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปสนใจเหล้าในแก้วอย่างเดิม ไม่นานเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ได้ให้ความสนใจเจ้าหล่อนจึงเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป พร้อมกับสบถด่าทิ้งท้าย
“ผู้ชายอะไรวะ หล่อแต่โง่ชิบหาย”
ใช่! เขามันโง่ ขนาดแฟนนอกใจไปกับผู้ชายคนอื่นตั้งนานยังไม่รู้สึกตัว นิธิภัทรคร่ำครวญในใจ มือหนายกขึ้นลูบหน้าตัวเองแรงๆ เพื่อเรียกสติ เขายังมีงานมีลูกอีกสองคนที่จะต้องดูแล จะมัวมานั่งจมอยู่กับความทุกข์อย่างนี้ไม่ได้หรอก ดังนั้นคืนนี้เขาจะดื่มให้มันสุดๆ ดื่มเพื่อลืมผู้หญิงใจง่ายคนหนึ่งที่เขาเคยรักมาก ใช่ เขาใช้คำว่า ‘เคยรัก’ถูกต้องที่สุด เพราะหลังจากคืนนี้ไปเขาจะลบผู้หญิงที่ชื่อทรรศน์กมลออกไปจากหัวใจดวงนี้ให้หมด
“จะไปไหน เรามีเรื่องต้องคุยกัน” “แต่มิ้นไม่มี ปล่อยค่ะ มิ้นจะกลับไปทำงาน” หญิงสาวพยายามบิดข้อมือให้หลุดพ้นจากการบีบรัดของมือใหญ่ แต่ก็ไม่สำเร็จยิ่งเธอขัดขืนมือนั้นก็ยิ่งรัดแน่นจนรู้สึกเจ็บ “อย่าหวังว่าจะได้กลับ ถ้าวันนี้เรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง” บอกแล้วก็เหวี่ยงร่างบางให้กลับไปนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม “เรามีเรื่องต้องคุยกันด้วยเหรอคะ” มินรญาถามแล้วยิ้มเยาะ คำพูดเมื่อวันนั้นยังทิ่งแทงใจจนวันนี้ แม้จะบอกตัวเองว่าอย่าใส่ใจ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ จนกลายเป็นประชดด้วยการยอมคบกับภูมิน “คบกับไอ้หมอนั่นเมื่อไหร่” คูเปอร์ที่ยืนอยู่หันมาถามเสียงเข้ม และเมื่อหญิงสาวยังเงียบ ชายหนุ่มเลยตะคอกใส่อีกครั้ง “ตอบ!" “สามวันที่แล้ว” มินรญาที่เริ่มจะกลัวใจของคนตรงหน้ารีบตอบทันที บอกตรงๆ สมัยก่อนตั้งแต่คบกันมาเธอไม่เคยเห็นชายหนุ่มในโหมดนี้เลยสักครั้ง ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงดูน่ากลัวจนน่าวิ่งหนี “คบกันแค่สามวันแต่มันกล้าขอแต่งงานมันหมายความว่าไง” คูเปอร์ถามเสียงลอดไรฟัน พร้อมกับโน้มตัวเอาแขนทั้งสองข้างไปค้ำที่พนักโซฟา เลยกลายเป็นว่าตอนนี้มินรญาได้โดยกักตัวเอาไว้แล้ว “แล้วพี่คู้ปจะสนใจไปทำไมคะ ในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน” มินรญาเน้นเสียงหนักในท้ายประโยคอย่างต้องการย้ำสถานะของตัวเอง “เวลาเปลี่ยนคนเราก็เปลี่ยน” คูเปอร์มองหญิงสาวตรงหน้าด้วยสายตาหยามเหยียด ไม่เท่านั้นมันยังตามมาด้วยคำพูดที่เสียดแทงใจ “แม้แต่คนที่นอนด้วยกันกี่ครั้งต่อกี่ครั้งมาแล้วยังพูดออกมาได้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน” “มิ้นไม่เคยเปลี่ยน มีแต่พี่นั่นแหละที่เปลี่ยน มิ้นผิดเหรอที่พยายามจะไม่สนใจคนที่ไม่เคยคิดอะไรกับตัวเองมากกว่าคนรู้จัก แม้จะนอนด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง” มินรญาตะโกนใส่หน้ารัวเป็นพร้อมกับผลักอกอีกฝ่ายอย่างฉุนเฉียว “แล้วทำไมต้องแต่งงานกับมันด้วย” “มิ้นจะได้ออกไปจากชีวิตคนใจร้ายอย่างพี่ไงคะ ลืมให้หมดลืมทุกสิ่งทุกอย่าง ลืมแม้กระทั่งว่ารักผู้ชายใจร้ายอย่างพี่...อุ๊บ...” เสียงตะคอกเมื่อครู่ถึงกลืนหายลงไปในลำคอ เมื่อชายหนุ่มฉกวูบเปิดปากด้วยปาก และมันก็เป็นวิธีที่ได้ผลมากเลยทีเดียว เมื่อทั้งสองคนต่างรู้สึกว่าอาการฉุนเฉียวรุนแรงเมื่อครู่ค่อยๆ จากหายและมันก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความวาบหวามทราบซ่านรัญจวนใจ “อย่าคิดแม้แต่จะออกไปจากชีวิตพี่” คูเปอร์บอกเสียงนุ่มทุ้มกว่าเดิมพลางประคองใบหน้านวลที่แดงปลั่ง ก่อนจะเอียงหน้าก้มลงไปบดจูบกัดเม้มริมฝีปากอิ่มนั้นอีกครั้ง คราวนี้อารมณ์กรุ่นโกรธได้มลายหายไปจนสิ้น ความหอมหวานที่ห่างหายไปไม่กี่วันกลับทำให้คูเปอร์ที่คะนึงหาอยากจะสูบจะกลืนกินเก็บผู้หญิงคนนี้เอาไว้ไม่ให้ใครหน้าไหนเห็นหรือชื่นชมมันนอกจากตัวเขา
จู่ๆ ก็มีเงินห้าหมื่นมานอนอยู่ในบัญชีของ'กัญชรส'สาวห้าวบ้านิยายที่ตกงานแถมยังถังแตก แน่นอนเธอกดมันมาปลดหนี้ให้ตัวเองแต่ปัญหาก็ดันมาเกิดเมื่อหนุ่มหล่อเจ้าของเงินอย่าง'อิงครัต'มาทวงเงินที่โอนผิดนั้นคืน +++++++++ “แต่ว่า...ตอนนี้ฉันยังตกงานอยู่เลย เรื่องเงินสามหมื่นที่ว่าจะคืน...ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ” ชายหนุ่มเริ่มชักสีหน้า แววจะไม่ได้เงินส่วนนี้คืนเห็นอยู่รำไร จะยกให้เลยก็ใช่ที่ เพราะเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยมากจากไหน เงินสามหมื่นกว่าจะได้มามันก็ไม่ใช่ง่ายๆ “นานแค่ไหน” “ก็จนกว่าฉันจะได้งานน่ะค่ะ” และในชั่วขณะนั้นเอง หางตาของกัญชรสก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานติดอยู่ตรงหน้าอู่ ซึ่งมันก็ทำให้นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายขึ้นมาทันที “หรือไม่อย่างนั้นคุณก็รับฉันเข้าทำงานที่นี่เลยสิคะ อู่ของคุณเปิดรับอยู่ไม่ใช่เหรอนั่นฉันเห็น” นิ้วเรียวชี้ไปที่กระดาษปิดประกาศ ที่เพิ่งจะถูกนำมาติดเมื่อเช้านี้เอง ด้านอิงครัตรีบหันขวับไปมองตามแล้วก็ต้องร้องเสียงหลง “เฮ๊ย! ไม่ได้ คุณเดินเข้าไปอ่านตำแหน่งที่ผมเปิดรับชัดๆ หรือยัง อู่ผมไม่ได้เปิดรับพนักงานบัญชี พนักงานทำเอกสาร หรือว่าแม่บ้านนะ” “มันไม่ได้ไกลมาก ตัวหนังสือก็ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มซะขนาดนั้น และที่สำคัญสายตาฉันดีพอ นั่งอยู่ตรงนี้ฉันก็อ่านออกว่าคุณรับสมัครผู้ช่วยช่าง” “นั่นไง คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า คุณเป็นผู้หญิงสมัครไม่ได้หรอก ไปหางานอย่างอื่นทำดีกว่า เรื่องเงินผมรอได้” อิงครัตแนะนำอย่างใจกว้าง ตอนนี้รู้สึกเห็นใจผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้าไม่น้อย ที่คงจะอยากได้งานเพื่อเอาเงินมาคืนเขามาก จนต้องออกปากขอทำงานผู้ช่วยช่าง ที่เป็นงานของคนที่ต้องเรียนด้านนี้มาหรือไม่ก็ชื่นชอบอยากหาประสบการณ์ ซึ่งก็เป็นผู้ชาย ดังนั้นเพื่อลดความกดดัน เขาจึงไม่อยากเร่งรัดเรื่องเงินที่หญิงสาวเอาไปใช้ แต่ดูเหมือนความหวังดีของเขาจะถูกปฏิเสธ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น อิงครัตแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้กับความดื้อดึงของหญิงสาวมาดทอมบอยคนนี้ ให้รู้แล้วรู้รอดไป “ไม่ค่ะ! ฉันยังยืนยันที่จะสมัครเป็นผู้ช่วยช่างที่อู่ของคุณ”
ณิชานันท์คือครูอนุบาลที่โสดและโสดมานาน นานจนเธอเองก็งงว่าทำไมถึงโสดมาจนทุกวันนี้ ทั้งที่ก็สวยและรวยมากอยู่นะ แต่จู่ๆ โชคชะตาก็เล่นตลก ส่งลูกศิษย์ตัวน้อยมาทาบทามว่า "ครูมาเป็นแฟนกับพ่อหนูไหมคะ" +++++++ "อะไร ตัวแค่นี้คิดจะเป็นแม่สื่อเหรอเรา" "แม่สื่อ?" เด็กน้อยเอียงหน้ามองพ่อ "คิวปิด" พอบอกแบบนี้เด็กน้อยก็ตาเป็นประกายพยักหน้าหงึกหงัก เพราะเคยเห็นในการ์ตูนและรู้ว่ามันถือลูกศรยิงให้คนรักกัน "อ้อ ก็หนูชอบครูณิชานี่คะ" "แล้วครูคนอื่นล่ะ" "ก็ชอบ แต่น้อยกว่าครูณิชาค่ะ" "ทำไมกันนะ" ตุลาชวนลูกสาวคุยไปเรื่อยอย่างที่ชอบทำเป็นปกติอยู่แล้ว จริงๆ เรื่องครูณิชาก็บ่นให้เขาฟังตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ไปแล้วหนึ่งรอบ "เพราะครูณิชาตลก สวย ใจดี เหมือนนางฟ้าเลยค่ะ" "ขนาดนั้นเลย" "ค่ะขนาดนั้นเลย หนูอยากได้" หนูน้อยกอดอกเอียงหน้ามองพ่อพร้อมกับทำแก้มป่องๆ "อยากได้อะไรครับ" "อยากได้คุณครูณิชามาเป็นแม่ค่ะ"
ร้อยรัก ผู้เชื่อมั่นในรัก แต่ไฉนเลยกลับถูกโชคชะตากลั่นแกล้งอยู่ร่ำไป คนที่คิดว่าใช่ กลับไม่ใช่ สุดท้ายยังต้องเข้าพิธีวิวาห์กับน้องชายของเจ้าบ่าว! +++++++++ ‘นี่คุณมานอนบนนี้ตั้งแต่เมื่อไร’ ร้อยรัก ถามเสียงห้วนแล้วก้มสำรวจตัวเองตามสัญชาตญาณ ‘ก็ตั้งแต่เมื่อคืนนั่นแหละครับ’ ‘ฉะ...ฉันนึกว่าคุณจะนอนข้างล่างเสียอีก’ คีรินทร์ หัวเราะขำ แล้วตอบกลับตรงๆ ‘ฝันไปเถอะ เหนื่อยจะตายมีที่นอนนุ่มๆ จะไปนอนที่พื้นเพื่อ...’ ‘ก็...เราไม่ได้เป็นอะไรกัน และคิดว่าคุณจะเป็นสุภาพบุรุษกว่านี้เสียอีก’ ‘ตื่นจากมโนได้แล้วคุณ คนที่แต่งงานกับคุณไม่ใช่ผู้ชายอ่อนโยน แสนดี และเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่ต้องการหรอกนะ มีแต่ผม...ผู้ชายที่สันดานไม่ดีคนนี้แหละ’
“อย่ามาทำเป็นเล่นตัว ได้เวลาทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว” ไมก้าห์ตามไปนั่งคร่อมร่างบางที่ตอนนี้มือทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกเขาตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือข้างเดียวแล้ว “นะ…หน้าที่บ้าบออะไรจะมาทำกันตอนนี้ คุณต้องการกาแฟเพิ่ม ปล่อยฉันสิเดี๋ยวจะไปชงให้ค่ะ” ไออุ่นพยายามพูดคุยอย่างใจเย็น ทั้งที่มาอีหรอบนี้หรือจะต้องการดื่มกาแฟ “ไม่ได้จะกินกาแฟ” “งั้นคุณจะเอาอะไร นี่มันดึกแล้ว จะใช้อะไรฉันก็รอพรุ่งนี้เซ่!” เธอตะโกนสุดเสียงดิ้นสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกจากการควบคุมของมือใหญ่ของไมก้าห์ได้ “หน้าที่กลางคืนก็ต้องทำกลางคืนสิ” ไม่พูดเปล่าไมก้าห์ยังก้มลงไปสูดกลิ่นสาวจากซอกคอหอมกรุ่นอย่างพอใจ แม้รูปร่างจะห่างไกลจากสเปกของเขาแต่กลิ่นเนื้อสาวนี้ถูกใจเขาอย่างประหลาด ดูท่ากลิ่นหอมอ่อนๆ ดูจะถูกจริตเขามากกว่ากลิ่นฉุนๆ ของน้ำหอมยี่ห้อดัง “ไม่ ไม่ มันไม่ใช่แบบนี้” ไออุ่นที่ขนลุกซู่บอกเสียงสะอื้น แต่ไมก้าห์ไม่คิดจะสน ผู้หญิงที่ชอบทำตัวอ่อนประสบการณ์เรียกร้องความใจแบบนี้เขาเจอมาเยอะแล้ว ร้อยทั้งร้อยเครื่องร้อนเต็มที่พวกเธอเหล่านั้นก็กลายร่างเป็นแม่เสือสาวพราวสวาททั้งนั้น “แบบนี้แหละถูกต้องที่สุดแล้ว” ตอบเสียงอู้อี้ ก่อนจะลากไล้ปลายจมูกและริมฝีปากไปทั่วลำคอขาวผ่อง ก่อนจะไล้ขึ้นมายังแก้มใสที่…เปียกชื่นน้ำตา และนั่นทำให้ไมก้าห์ที่กำลังเมากับกลิ่นกายสาวถึงนิ่ง แล้วค่อยๆ ยันตัวขึ้น “อย่ามาเรียกร้องความสนใจด้วยน้ำตา” เขาคำรามอย่างไม่สบอารมณ์ ให้ตาย เขาเกลียดที่สุดคือน้ำตาของผู้หญิง “ก็คุณกำลังจะข่มขื่นฉัน ฉันต้องดีใจหรือไง” ตะคอกกลับเสียงสะอื้น “ข่มขื่นเหรอ พูดให้ถูกมันคือหน้าที่ของเธอต่างหาก”
“ไปเสม็ด” เกวิลนทวนคำเสียงตื่นแล้วรีบถามต่อ “ไปกลับหรือค้างคืน” “ค้างคืน” ชมพูนุชตอบอย่างไม่คิดจะปิดบัง นั่นทำให้เกวลินตาโต เดินเข้าไปจับต้นแขนของชมพูนุชเพื่อให้อีกฝ่ายมองหน้าของเธอ “นี่อย่าบอกนะว่าเธอกับแทน...” “แล้วถ้าใช้เธอจะทำไม” ชมพูนุชถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แต่คนฟังกลับนิ่งไม่ได้ “เธอก็รู้ว่าแทนคือผู้ชายที่ฉันรัก แล้วเธอจะยัง...” พูดยังไม่ทันจบชมพูนุชก็พูดแทรกขึ้นทันควัน “ยังกล้าพูดเหรอว่าแทนคือผู้ชายที่เธอรัก ทั้งๆ ที่เพิ่งกลับมาจากหาผู้ชายอีกคน และอีกอย่างเธอเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอว่าถ้าสงสารเขาก็เอาไว้เอง ตอนนี้ฉันเอาเขาไว้แล้วเธอจะมาทวงคืนอีกทำไม”
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ในช่วงสามปีที่หลูเฉียนหนิงอยู่ข้างๆ เขา โจวเป่ยจิ้งคิดอยู่เสมอว่าเธอเป็นเพียงผู้ช่วยพิเศษ เธอต้องการเงินเพื่อรักษาอาการป่วยของแม่ และจะไม่มีวันจากตนเองไป ครั้งแล้วครั้งเล่า ให้เงินแลกกับความต้องการอย่างชัดเจน ในที่สุด เมื่อเขาเกือบจะหลงใหลนั้น หลูเฉียนหนิงก็ไม่อดทนอีกต่อไป "มีคนรักในใจแล้ว ยังนอนกับฉันทุกวัน คุณชั่วชัดๆ" เมื่อข้อตกลงการหย่าถูกโยนต่อหน้าต่อตา โจวเป่ยจิ้งก็ตระหนักว่าภรรยาลึกลับที่เขาแต่งงานเมื่อหกปีที่แล้วกลับคือเธอ? จากนั้นเป็นต้นมา เขาก็ขึ้นชื่อเป็นชายเจ้าชู้อละตามจีบภรรยาทั้งยังเอาเปรียบเธอ! เขาอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนด้วยทัศนคติที่เผด็จการและเอาใจเธออย่างเต็มที่ เมื่อทุกคนรังเกียจที่เธอมีภูมิหลังที่ต่ำต้อย เขาก็มอบทรัพย์สินและหุ้นของตระกูลทั้งหมดอย่างตรงๆ และเข้าไปอยู่บ้านของตระกูลหลู จู่ๆ เธอก็กลายเป็นประธานหลู ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพย์สินนับไม่ถ้วน และทุกคนอิจฉา แต่โจวเป่ยจิ้งกลับตกลงไปในวังวนที่ใหญ่กว่านั้น...