‘คริส’ นักร้องหนุ่มลูกครึ่ง หล่อ ล่ำกระแทกใจ จนสาวๆ อยากให้คริสมากระแทกใส่แรงๆ แต่มันติดที่ว่าคริสมีเมียแล้วน่ะสิ แล้ว ‘ผึ้ง’ ก็ไม่นิยมใช้ของร่วมกับใครซะด้วย คริสเลยต้องอยู่กับความช้ำเพราะผึ้งหนีไป แต่เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้ง คริสก็พร้อมจะทำทุกทางให้ ‘เมียเก่า’ กลับมาเป็น ‘เมีย (ไม่) เก่า’ ของเขาให้ได้ เพราะรู้แล้วว่าการร่วมรักจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อได้ร่วมกับคนที่รักเท่านั้น
“อือ... อา... ซี้ด... โอว... ซี้ด... อา... ซี้ด... โอว...”
เสียงหนึ่งที่ดังแทรกเสียงดนตรีสดดังกระหึ่มอยู่ด้านนอก ทำให้คนที่กำลังก้าวเท้าเข้าสู่ด้านในของห้องพักนักดนตรีถึงกับชะงักเท้า หัวคิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันพยายามเงี่ยหูฟังเสียงนั้นให้ชัดๆ อีกสักครั้ง เพราะเสียงแปลกปลอมดังที่เข้าใจ ไม่น่าจะมาเกิดในที่แห่งนี้ ในขณะที่ผู้คนด้านนอกพลุกพล่านเพราะมันก็เป็นช่วงเวลาทำเงินทำทองของผับแห่งนี้
แต่เสียงที่ได้ยินก็ยังคงดังชัดอย่างสม่ำเสมอ สอดประสานเสียงหญิง-ชายสลับกัน ดั่งจะบ่งบอกว่าคนก่อกำเนิดเสียงนั้น ไม่ได้กังวลสักนิดว่าความดังจะไปกระทบหรือรบกวนใครหรือเปล่า เพราะต่อให้ดังกว่านี้ ก็ไม่มีทางที่เสียงจะเล็ดลอดไปถึงด้านนอกได้ หากจะไม่มีใครเดินเข้ามาได้ยินอย่างที่เธอกำลังยืนตะลึงอยู่นี้
สองเท้าสั่นพอๆ กับหัวใจ แต่ก็ต้องเข้าไปให้ถึง เข้าไปดูให้รู้ว่าต้นกำเนิดของเสียงนั้นเป็นใครกัน ภาวนาขอแค่ไม่ใช่คนของเธอก็พอ เพราะเสียงดนตรีที่ดังในจังหวะเร่งเร้านั้นอาจทำให้หูเธอเพี้ยนไป และเสียงผู้ชายครวญครางด้วยความเสียวซ่านมันก็คงจะไม่ต่างกันเท่าไร
“อูย... โอว... เสียว... โอว... สุดยอด...”
แต่เสียงแหบพร่าด้วยแรงอารมณ์ของเขาคนนั้น ยิ่งฟังก็ยิ่งคุ้นจนพานให้ใจเธอสั่น สมองวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมเสียให้ได้ ฝ่ามือวางเท้าที่ขอบประตูเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ฟุบพับลงไปเสียก่อน มาถึงตอนนี้มีหนทางเดียวคือต้องเข้าไปดูให้เห็นกับตา ให้มันรู้ไปว่าความไว้ใจมันจะยังคงอยู่หรือจางหายไปกับเสียงครวญครางเหล่านั้นแล้ว
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก กลืนน้ำลายลงคอเพื่อไม่ให้ตัวเองอัดอั้นตายเสียก่อน พยายามก้าวอย่างมั่นคงไปยังจุดที่เสียงดังลอดออกมา ทว่าเสียงรองเท้าส้นสูงสีแดงสดที่กระทบพื้นในทุกจังหวะการก้าวเดินก็ทำให้เธอชะงัก
“โอว... จิ๋มจ๋า... โอว... มันสุดๆ ไปเลย โอว... จิ๋มจ๋า... พี่เสียว... โอว... โอว... อา... เสียว... โอว...”
ใบหน้าหล่อจัดสไตล์หนุ่มลูกครึ่งแหงนขึ้นสูงพร้อมกับซู้ดซี้ดริมฝีปากไปมาไม่หยุด ก่อนจะก้มมองศีรษะที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ระหว่างขาของตัวเอง
หญิงสาวใบหน้าสวยจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางแบบจัดเต็มช้อนดวงตาที่มีขนตาปลอมติดหนาเป็นแพขึ้นมองดูเขาอย่างท้าทาย แต่นั่นไม่ใช่จุดที่น่าสนใจมากไปกว่า ริมฝีปากที่เคลือบไปด้วยลิปสติกสีแดงสดนั้นกำลังครอบครองความยิ่งใหญ่ของเขาจนมิด พร้อมกับรูดขึ้นรูดลงเป็นจังหวะ สร้างความเสียวสยิวจนเขาเกร็งไปทั้งตัว
“อูย... จิ๋มจ๋า... อูย... เสียว... จิ๋มเก่งที่สุด โอว... สุดยอด”
เธอยิ้มทั้งดวงตาและริมฝีปากที่ยังครอบครองเขาอยู่ ก่อนหลุบดวงตาลงคล้ายกำลังตั้งอกตั้งใจทำอย่างเต็มที่ ทุกครั้งที่ริมฝีปากรูดลง ปลายลิ้นของเธอก็จะแนบขนาบไปกับลำท่อนแข็ง และทุกครั้งที่ริมฝีปากรูดขึ้นปลายลิ้นก็จะตวัดมาหยอกเย้าอยู่ที่ส่วนหัว
และเมื่อเขาครางดังๆ ปลายลิ้นนั้นก็ตวัดเซาะไปตามรอยหยักของหัวที่บานเป็นเห็ด สลับกับใช้ปลายแหลมสุดแซะเข้าไปยังร่องที่ไม่ต่างจากปลาตาเดียวของเขา ที่มันกำลังพ่นน้ำเหนียวๆ ออกจากรอยแยกนั้น
“โอย... จิ๋มจ๋า... พี่ไม่ไหวแล้ว หยุดก่อน... อูย... ไม่งั้นพี่จะพุ่ง จิ๋ม... โอว... สุดยอด ลิ้นจิ๋มเยี่ยมจริงๆ อูย...”
สาวทรงโตที่มีชื่อว่า ‘จิ๋ม’ รูดริมฝีปากออกจากไส้กรอกอีสานสไตล์อเมริกันดุ้นใหญ่ ใบหน้าสวยแสดงความเสียดายอย่างสุดๆ ที่ไม่ได้กินของอร่อยอย่างคาดหวังไว้ แต่ก็ต้องยอมหยุดตามที่เขาบอก เพราะเวลามีจำกัด เธอต้องเป็นฝ่ายที่ถูกเขากินบ้าง เพราะจากประสบการณ์หลายครั้งที่ผ่านมา ลิ้นนักร้องน่ะเยี่ยมทุกคน ดูอย่างลิ้นเธอสิ ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น
“ไม่ใช่แค่ลิ้นจิ๋มเท่านั้นนะที่เยี่ยม จิ๋ม... ก็เยี่ยม”
จิ๋มพูดเสียงกระเส่าเพราะต้องการให้มันเซ็กซี่ที่สุด พร้อมดวงตากลมโตที่มีนัยน์ตาสีฟ้าจากบิ๊กอายแฟชั่นมองลงไปยังตำแหน่งนั้นของตัวเอง ขณะที่เธอขึ้นไปนั่งอยู่บนตู้เหล็กขนาดเตี้ยแทนที่เขาซึ่งลงมายืนอยู่กับพื้นแทนที่เธอ
จิ๋มยิ้มหวานก่อนจะส่งปลายลิ้นออกมาเลียไล้ที่ริมฝีปากตัวเอง เพราะรสชาติความอร่อยของเขายังคงติดอยู่ และเธอก็มั่นใจว่าเขาต้องอร่อยกับของเธอแน่ เพราะไม่เคยมีใครบอกว่าไม่อร่อยสักคน ร้อยคนที่ผ่านมาก็ซี้ดซ้าดซู้ดปากกันทั้งนั้น แถมยังบอกว่าติดใจจนอยากจะมากินซ้ำ มีแต่เธอนี่แหละที่ไม่ชอบให้ใครกินซ้ำ น้ำเดียวก็เกินพอ
แต่สำหรับเขาคนนี้ หนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อที่เป็นนักร้องสุดเร้าใจประจำผับแห่งนี้ก็เร้าอารมณ์เธออย่างแรง เพราะเขาน่ะเล่นตัวที่สุด ถือว่าหล่อ ถือว่า ‘ใหญ่’ กว่าใคร กว่าจะได้ลิ้มรสน้ำอร่อยของเขาในวันนี้ เธอก็ต้องเสียน้ำกับพวกนักดนตรีด้านนอกนั่นมาหลายคนและหลายหนด้วยกัน
หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย
‘หากหัวใจปราศจากความแค้น คงไร้แล้วซึ่งลมหายใจ’ สำหรับหล่อน เขาคือชายชุดดำ บอดี้การ์ดหน้านิ่งของพ่อ เคร่งขรึม เก๊กหล่อ หมางเมินใส่ราวหล่อนไม่สำคัญ ก็แน่ล่ะ เพราะพี่สาวเขากำลังจะมาเป็นเมียใหม่ของพ่อ แต่มีเหรอที่หล่อนจะยอม นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด หล่อนก็พร้อมจะลงทุนเพื่อสิ่งที่ได้มา ภายใต้แว่นดำนั้น หล่อนต้องรู้ให้ได้ว่า ‘หัวใจ’ หรือเปล่าที่ซุกซ่อนอยู่ แต่สำหรับเขา... หล่อนคือ เหยื่อ! ที่ความแค้นจะได้เอาคืน
ความรักหรือเพียงความปรารถนาแค่ข้ามคืน พบกับนิยายสุดเร่าร้อน 3 เรื่อง 1.คืนเคาท์ดาวน์ 2.คืนฝนฉ่ำรัก 3.คืนเหงาสาวข้างบ้าน
#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา
พี่หนึ่งจะทำยังไงถ้าต้องเจอหน้า ‘พี่ชมพู่’ อยู่ทุกวัน รุ่นพี่สาวสวยที่เขาเคยไปสารภาพรัก แต่เธอกลับปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยด้วยข้อหา ‘เด็กไป’ ครั้งนี้ พี่หนึ่งตั้งใจจะลบคำสบประมาทให้ได้ พี่ชมพู่จะได้รู้ว่า ‘รุ่นน้อง’ ก็ทำอะไรได้หลายๆ อย่างไม่แพ้รุ่นพี่ โดยเฉพาะพี่หนึ่งน่ะจบด็อกเตอร์สาขา ‘เซ็กซ์ศาสตร์’ มาซะด้วย ‘เด็กกว่าแล้วไง’ รุ่นพี่ถ้ามาเจอ ‘รุ่นน้อง... สายดาร์ก’ จะทนได้เหรอ พี่หนึ่งจะพิสูจน์เอง
เพราะเป็นคนสวน 'เมฆ' จึงต้องรดน้ำดอกไม้ของ 'คุณนายชวนชม' ทั้งวัน...ทั้งคืน ‘คุณนายครับ’ เป็นเรื่องราวความเร่าร้อนของ ‘เมฆ’ คนสวนหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวกายดำแดง ตามแบบฉบับคนท้องไร่ท้องนาเต็มขั้น เมื่อเมฆต้องมาทำสวนที่บ้านของ ‘คุณนายชวนชม’ เมฆก็เลยต้องเป็นคนสวนที่ดีที่สุด ดังนั้นดอกไม้ในบ้านของคุณนายไม่ว่าจะมีกี่ดอก เมฆก็ต้องทำหน้าที่รดน้ำดอกไม้เหล่านั้นให้ชุ่มฉ่ำ ทั้งวันและทั้งคืน
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
"ทำไม นอนกับผมมันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคุณถึงได้กลัวว่าผมจะทำอะไรคุณอีก ผมรุนแรงกับคุณหรือยังไง งั้นผมคงต้องรีบทำใหม่เพื่อแก้ตัว" "คุณหมอ!" เมรีญาหันไปจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับตำหนิเขาในใจที่กล้าพูดเรื่องแบบนั้นออกมาอย่างหน้าไม่อาย "ว่าไง ตอบมาสิว่าผมทำให้คุณไม่ประทับใจหรอถึงต้องตั้งเงื่อนไขบ้าๆ นี้ขึ้นมา" เวทัสถามด้วยค วามโมโห ถ้าเป็นสองข้อแรกเขาพอเข้าใจและรับได้ แต่สำหรับข้อสามต่อให้เขารับปากเธอตอนนี้ในอนาคตเขารู้ตัวดีว่าคนอย่างเขาต้องผิดสัญญาแน่นอน เขาไม่มีทางห้ามใจตัวเองไม่ให้ยุ่งกับเธอได้! "ทำไมคุณมันเข้าใจอะไรยากแบบนี้ ฉันบอกแล้วไงคะว่าฉันไม่อยากนึกถึงเรื่องพวกนั้นอีก" หญิงสาวพยายามอธิบายกับชายหนุ่มด้วยเหตุผล แม้จะรู้ดีว่าคนข้างๆ เริ่มไม่มีเหตุผลกับเธอแล้ว "ผมไม่สัญญา" เวทัสตอบกลับทันทีพร้อมกับสต๊าทรถออกจากโรงแรมด้วยความไม่พอใจ
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
สำหรับเขาผู้หญิงก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่ เขาไม่เคยมีความรักไม่เคยรักใคร แต่พอได้มาเจอเธอ เพื่อนของน้องสาวเขา ใจที่ด้านชากลับเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง…
เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"