น้องสาวข้างบ้านสุดเผ็ดร้อนกำลังยืนเปลื้องผ้าอยู่ปลายเตียงนอนในห้องของเขา มีหรือเขาจะไม่รีบดึงเธอมาร่วมเตียง แม้ใจจะไม่คิดเอาน้องสาวเพื่อนแต่เธอร้อนแรงจนความเป็นชายแข็งขื่อเพียงเธอสัมผัสโดนตัวเขา!
น้องสาวข้างบ้านสุดเผ็ดร้อนกำลังยืนเปลื้องผ้าอยู่ปลายเตียงนอนในห้องของเขา มีหรือเขาจะไม่รีบดึงเธอมาร่วมเตียง แม้ใจจะไม่คิดเอาน้องสาวเพื่อนแต่เธอร้อนแรงจนความเป็นชายแข็งขื่อเพียงเธอสัมผัสโดนตัวเขา!
1
พี่ชายข้างบ้าน
"แพรว ยายแพรว นี่ๆ ฉันมีกรุ๊ปไลน์คลิปเด็ด ฉันจะดึงแกเข้านะ รับรองตอบสนองความต้องการขอแกแน่"
เสียงเรียกจากเพื่อนสนิทที่วิ่งหน้าตั้งมาหาแพรวนลินที่นั่งกรอกข้อมูลลงระบบของมหาวิทยาลัยจำต้องหยุดลงและหันไปมองเพื่อนที่วิ่งมานั่งลงข้างๆ พร้อมยื่นโทรศัพท์ซึ่งปรากฏหน้าจอแอปพลิเคชันไลน์ก่อนจะกดเข้าไปในกรุ๊ปทันที
"กรุ๊ปอะไรของแก ไม่กรอกข้อมูลลงระบบที่จะไปฝึกงานเดือนหน้าเหรอ"
แพรวนลินกล่าวถาม แต่สายตาก็ยังคงให้ความสนใจสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า
"ยังอ่ะ รอแกกรอกเสร็จก่อน นี่ไง!"
ศิขรินกล่าวตอบพลางเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์มือถือจนเจอสิ่งที่ต้องการให้แพรวนลินเห็นก่อนจะยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าของแพรวนลิน
"กรุ๊ปอะไรของแกเนี่ย!"
แพรวนลินร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อสิ่งที่เห็นเป็นคลิปมากมายที่เห็นเรือนร่างเปลือยเปล่าของผู้ชายและผู้หญิง
"หยุด หยุด หยุดทำท่าเป็นผู้หญิงใสซื่อเลย แกควรมีผัวได้แล้วนะยะ ทั้งกลุ่มมีแค่แกคนเดียวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเป็นยองใยอยู่แบบนี้"
ศิขรินทำสีหน้าหวาดกลัวเมื่อเห็นกิริยาของแพรวนลินก่อนจะหันมาดึงไลน์ของแพรวนลินเข้ากลุ่มพร้อมกับดึงโทรศัพท์มือถือของหญิงสาวมากดเข้าร่วมทันที
"แฟนก็พอ" แพรวนลินแย้งอย่างไม่จริงจัง
"ก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ เออใช่ ถ้าแกไม่ถูกใจหนุ่มที่มอก็คว้าเพื่อนพี่ชายที่อยู่ข้างบ้านมาทำผัวเลยสิ สนิทกันไม่ใช่เหรอ"
ศิขรินบอกปัดก่อนจะอุทานออกมาเมื่อนึกไปถึงเพื่อนพี่ชายของแพรวนลินที่อยู่ข้างบ้าน แม้อายุจะเข้าเลขสาวแต่ยังดูเหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งเรียนจบไปมาดๆ แถมยังฮอตในหมู่สาวๆ เสียด้วย
"จะบ้าเหรอและฉันก็ไม่ได้สนิทด้วย แค่มักถูกพี่พสุทิ้งให้อยู่ในโอวาทเขาก็เท่านั้นเวลาบินไปต่างประเทศ"
แพรวนลินแก้ความเข้าใจของศิขรินใหม่
"ก็ตีสนิทสิ ออกจะหล่อล่ำขวัญใจสาวๆ ไม่ใช่เหรอ ลองไปกินพี่เขาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจและน้องสาวที่มีใยแมงมุมเต็มไปหมด ควรให้พี่เขาช่วยทำความสะอาดให้ได้แล้วนะ"
"ฉันไม่..."
"อย่ามาปฏิเสธ ถามหน่อย แกก็อยากใช่ไหมล่ะ พูดความจริงนะ"
"เออ ก็อยาก"
แพรวนลินตอบออกไปด้วยความเขินอาย แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะของเพื่อนได้เป็นอย่างดี
"ฮ่าๆ เพื่อนฉันจะได้มีผัวสักที ฉันช่วยเอามั้ย พรุ่งนี้พี่พสุก็บินไปจีนไม่ใช่เหรอ ใช้โอกาสนี้รวบหัวรวบหางเลย"
"บ้าสิ ไม่เอาด้วยหรอก ต่อให้ฉันคิดอยากลองก็ตาม" แพรวนลินปฏิเสธทันควัน
"งั้นแกก็ดูคลิปเด็ดช่วยตัวเองไปก็แล้วกัน อุตส่าห์จะช่วย ไหน แกลงที่ฝึกงานที่ไหนไป ฉันว่าจะไปที่เดียวกับแก"
ศิขรินบอกปัดพลางดึงโน้ตบุ๊กของแพรวนลินให้อยู่ในระดับสายตาพลางเลื่อนมองข้อมูลที่ถูกกรอกไปแล้วเกือบเสร็จ
แพรวนลินมองเพื่อนก่อนจะหันมาหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองเข้าไปที่กรุ๊ปไลน์คลิปเด็ดพลางนึกไปถึงพี่ชายข้างบ้านพวงตำแหน่งเพื่อนพี่ชายอย่างใช้ความคิดกับสิ่งที่เพื่อนพูดออกมา
แพรวนลินไม่ใช่ผู้หญิงที่บริสุทธิ์แล้วต้องใสซื่อเหมือนผู้หญิงที่อยู่ในกรอบจนไม่เข้าใจในสิ่งที่ศิขรินพูดออกมา แต่เธอเองก็รู้สึกและมีความต้องการสูงเพียงแต่เธอยังไม่เจอคนที่พร้อมจะมอบความสาวให้ก็เท่านั้น จะเว้นก็แต่เพื่อนพี่ชายที่เธอรู้สึกอยากลองพลีกายให้
แต่เพราะคำว่าเพื่อนพี่ชายทำให้เธอต้องรักษาระยะห่างเอาไว้แม้จะแอบไปฝันถึงอยู่บ่อยครั้งที่ได้เห็นเพื่อนพี่ชายเดินถอดเสื้อมาหาพี่ชายถึงที่บ้านและบ่อยครั้งที่เธอจินตนาการถึงพี่ชายข้างบ้านอย่างดนัย สถาปนิกหนุ่มหล่อล่ำเพื่อช่วยตัวเองในทุกครั้ง หากให้ลองคิดทบทวนก็พบว่าตัวเธอคิดอกุศลกับดนัยตั้งแต่ขึ้นมัธยมปลายจนถึงตอนนี้ จนรู้สึกอยากลองสัมผัสแทนการจินตนาการอย่างที่ศิขรินแนะนำเสียแล้วสิ
เธอเองก็เริ่มอยากทำตามที่ศิขรินบอกขึ้นมาทันที ใช้โอกาสที่พี่ชายไม่อยู่รวบหัวรวบหางพี่ชายข้างบ้านเสียเลย
อ่อยเล็กน้อยมารยาหน่อยก็คงไม่ยาก
ยิ่งรู้มาว่าพี่ชายบินไปจีนนานเป็นเดือนแถมยังฝากเธอให้อยู่ในโอวาทเหมือนเดิม ถึงเวลาแล้วที่เธอจะพลีกายให้ผู้ชายที่เธอจินตนาการมานานหลายปี
แพรวนลินเดินผ่านหน้าบ้านของดนัยพลางแอบชำเลืองดูก็พบว่าชายหนุ่มอยู่บ้าน วันนี้เธอตัดสินใจเดินเข้าซอยบ้านแทนการเรียกวินมอเตอร์ไซต์เพื่อที่จะได้มองบ้านของชายหนุ่มพลางนึกไปถึงเมื่อตอนกลางวันที่คุยกับศิขรินก่อนจะเบนสายตาไปทางเสียงทุ้มของพี่ชายที่เดินออกมาเห็นเธอเขาพอดี
"แพรว ทำไมวันนี้เดินกลับ"
"อยากเดินบ้าง"
เธอกล่าวตอบพลางเดินเข้าบ้านเมื่อพี่ชายเปิดประตูให้กับเธอ
"พรุ่งนี้พี่บินแต่เช้า อย่าออกไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนละ ไอ้นัยมีงานให้ร่างแบบตึกคงไม่มีเวลามาคุมเธอหรอก"
"รู้แล้วน่า มีแต่จะออกไปหาข้าวกลางวันกินกับเพื่อนเท่านั้นแหละ"
"ก็ดี ไปเข้าบ้าน เย็นมาแล้ว ดูสิ กระโปรงก็สั้น เสื้อก็รัด เปลี่ยนได้แล้วนะ"
พสุธรบ่นน้องสาวพลางเดินตามหลังเข้าบ้านไป เสียงโวยวายที่ได้ยินไม่ชัดทำให้ดนัยที่กำลังนั่งร่างแบบตึกต้องลุกขึ้นมามองสองพี่น้องที่กำลังเดินเข้าบ้านไปโดยไม่ทันสังเกต ดนัยมองน้องสาวเพื่อนอย่างสำรวจก็พบว่าเธอสวมใส่เสื้อนักศึกษาพอดีตัวจนออกจะรัดรูปเสียมากกว่า อีกทั้งกระโปรงทรงเอที่สั้นเหนือเข่าขึ้นมาคืบเดียวจนเผยให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งอย่างชัดเจนก่อนจะเดินกลับมานั่งทำงานของตัวเองต่อทันที
เมื่อเข้ามาในบ้านก็ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปชวนเพื่อนมาทานข้าวเย็นทันที ก่อนจะเดินไปยืนอยู่ตรงหน้าน้องสาวที่เดินไปล้มตัวลงนอนบนโซฟาพร้อมกับเปิดโทรทัศน์ดูแทนที่จะขึ้นไปเก็บกระเป๋าอาบน้ำเปลี่ยนชุด
"วันนี้ไอ้นัยจะมากินข้าวด้วย ขึ้นไปเก็บกระเป๋าแล้วอาบน้ำเปลี่ยนชุดซะ อายไอ้นัยบ้าง"
"ไม่อายอ่ะ เห็นกันอยู่ตั้งหลายปี พี่นัยก็เหมือนพี่ชายแพรวอีกคนนั่นแหละ"
หญิงสาวแย้ง สายตาจับจ้องรายการยามเย็นโดยไม่หันมามองพสุธร
"ให้ตายสิ น้องสาวฉันเมื่อไหร่จะสำรวมกิริยามารยาทบ้าง"
"ก็ต่อเมื่อพี่แต่งงานมีครอบครัวนั่นแหละ"
แพรวนลินกล่าวสวนไปทันควัน แต่สายตาไม่ได้กลับไปมองพี่ชายที่มองมาด้วยสายตาหาเรื่องที่ถูกเธอเร่งให้เขารีบมีครอบครัว
"พี่คงต้องรออีกนาน พี่จะไปทำกับข้าวก่อน เสร็จแล้วจะเรียก"
"รับทราบค่ะ"
"เฮ่อ...อ้าว ทำไมมาเร็ววันนี้ งานเสร็จแล้วเหรอ"
พสุธรถอนหายใจก่อนจะหมุนตัวเตรียมเดินไปห้องครัวก็ต้องเอ่ยขึ้นมาด้วยความแปลกใจที่เห็นดนัยเดินเปิดประตูเข้าบ้านมา
"ใกล้แล้ว"
ดนัยกล่าวตอบพลางแอบเหลือบสายตาไปมอง แพรวนลินที่นอนตะแคงข้างดูรายงานโทรทัศน์โดยไม่รู้ตัวว่ากระโปรงทรงเอที่เธอใส่ร่นขึ้นไปเกือบเห็นแก้มก้นแต่ก็เผยให้เห็นต้นขาเรียวเล็กขาวใสก่อนจะเบนสายตามาที่พสุธร ซึ่งเดินไปทางห้องครัวพลางบ่นน้องสาวที่ไม่รู้สึกรู้สา
เมื่อดนัยก้าวเดินตามพสุธรไป แพรวนลินจึงหันมามองแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มพลางแอบยิ้มกรุ้มกริ่ม
แพรวนลินนั่งมองพี่ชายทั้งสองพลางตักข้าวเข้าปากหลังจากถูกเรียกให้เดินมาทานมื้อเย็นหลังจากกับข้าวทำเสร็จจนครบ เธอมองทั้งสองชายหนุ่มอย่างเงียบๆ ก่อนจะกล่าวหยอกเย้าพี่ชายทั้งสอง
"ถ้าแพรวไม่ใช้น้องพวกพี่ ก็คิดว่าพวกพี่เป็นแฟนกันนะ เรียกกินข้าวทุกวัน"
"คิดได้ไง ฉันมีสาวๆ ตรึม" พสุธรหันมาเขกศีรษะน้องสาวทันที
"น้องแกก็คิดอยู่ออกบ่อย ชินได้แล้วมั้ง" ดนัยเอ่ยขึ้นบ้าง
"ไม่ปฏิเสธ หรือพี่นัยชอบพี่พสุ!"
"คิดไปได้ มันมีแฟนแล้ว เหมือนคืนนี้จะมาค้างที่บ้านด้วยใช่มั้ย"
พสุธรเขกศีรษะแพรวนลินอีกครั้ง หญิงสาวยู่หน้าพลางยกมือลูกศีรษะเบาๆ แอบมองดนัยเพื่อรอคำตอบจากปากชายหนุ่ม
"เลิกกันแล้วเมื่อเช้า" ดนัยตอบ "แม่พี่ส่งคุกกี้มาให้ เธออยากกินหรือเปล่า" ก่อนจะหันมาถามแพรวนลิน
"เหงาหงอยอีกละสิ" พสุธรเย้าเพื่อน
"อยากกินสิคะ แพรวเข้าไปเอาได้เลยมั้ย" หญิงสาวรีบตักข้าวเข้าปากคำสุดท้ายพลางลุกขึ้น
"เข้าบ้านคนอื่นโดยไม่มีเจ้าบ้านได้ไง รอให้นัยกินอิ่มก่อนสิ" พสุธรปรามน้องสาว
"กินคาวไม่กินหวาน สันดานไพร่นะพี่พสุ" หญิงสาวกล่าวเย้าพี่ชายก่อนจะหันมามองดนัย "พี่นัยกินอิ่มก็เรียกแพรวนะ เดี๋ยวแพรวขึ้นไปเก็บของก่อน"
แพรวนลินพูดจบก็ลุกไปวางจานที่อ่างล้างก่อนจะเดินตรงไปหยิบกระเป๋าเดินขึ้นบ้านไปทันที ทิ้งให้พี่ชายนั่งคุยงานกันต่อ แพรวนลินวางกระเป๋าลงบนโต๊ะริมหน้าต่างซึ่งอยู่ฝั่งที่เห็นห้องของดนัยก่อนจะเดินมาล้มตัวลงนอนบนเตียงเล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเป็นพอดีที่แชทกรูปไลน์เด้งขึ้นมา แพรวนลินจึงลองเปิดเข้าไปดูก็พบข้อความของคนในกรุปที่กำลังพูดถึงคลิปเด็ด หนึ่งในนั้นก็มีศิขลินและมาวิน เพื่อนร่วมสาขากำลังเร่งเร้าคนที่กำลังจะลงคลิป
แพรวนลินเลื่อนอ่านข้อความของคนอื่นๆ จนกระทั่งวิดีโอคลิปโหลดสำเร็จ ภายในเวลารวดเร็วมีคนอ่านเป็นยี่สิบคน เธอจึงเอื้อมมือไปหยิบหูฟังซึ่งอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาเสียบฟังทันที
แพรวนลินเปิดเข้าไปดูก็เริ่มต้นด้วยผู้ชายผู้หญิงนัวเนียกันอยู่บนโต๊ะอาหารในบ้าน ทำให้เธอนึกไปถึงโต๊ะอาหารบ้านของตัวเองที่เพิ่งจากออกมา เพียงเธอดูไปได้สิบนาทีความใคร่ในกายก็ปะทุขึ้น
หญิงสาวถกกระโปรงขึ้นมาถึงเอว ชันขาขึ้นและอ้าออกจนเป็นรูปตัวเอ็มก่อนจะวางมือนุ่มของตัวเล็กลูบไล้ผ่านกางเกงในเนื้อบ้างซึ่งเริ่มเปียกแฉะด้วยน้ำหวานที่ไหลออกมาตามอารมณ์ที่ปะทุขึ้น มือเล็กสอดเข้าไปภายใต้กางเกงใน ลูบไล้กลีบเนื้อนุ่มที่แฉะชื้นได้ที่และแหวะออกก่อนจะสอดนิ้วกลางและนิ้วนางเข้าโพรงคับแคบที่กำลังตอดรัดเมื่อนิ้วสอดเข้าไป หญิงสาวชักนิ้วเข้าออกไปตามท่วงทำนองอารมณ์ใคร่ ใช้นิ้วโป้งบดขยี้เม็ดเสียวของตัวเองอยู่สองสามทีเสียงครางแผ่วก็หลุดออกมา นานอยู่หลายนาทีที่แพรวนลินชักนิ้วเข้าออกรูสวาทของตนเอง
"อ่า..."
เรียวขาเล็กแนบเข้าหากันเมื่อเริ่มรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่างกาย นิ้วเล็กเร่งรูดเข้าออกถี่จนน้ำหวานไหลเยิ้มไปถึงร่องก้น เพียงชั่วอึดใจหญิงสาวก็ถึงจุดสุดยอดหลังจากช่วยตัวเองตอบสนองความใคร่ ขาที่ตั้งชันราบไปกับที่นอนนุ่มอย่างอ่อนแรง มือเล็กที่อยู่ภายใต้กางเกงในดึงออกวางลงบนโหนกเนินของตัวเองก่อนจะรีบลุกขึ้นวิ่งไปเข้าห้องน้ำเมื่อได้ยินเสียงเรียกของพสุธร
"ไอ้นัยจะกลับแล้วแพรว จะไปเอาคุกกี้มั้ย"
"ไปค่ะไป"
หลังจากเข้าไปทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นและถอนกางเกงในทิ้งลงตะกร้า แพรวนลินก็จัดเสื้อนักศึกษาและกระโปรงให้เรียบร้อยโดยไม่ลืมที่จะหวีผมที่ยุ่งเหยิงเล็กน้อยรีบเดินออกจากห้องวิ่งลงบันไดลงไปชั้นล่างทันที แม้จะรู้สึกเย็นวาบที่ไม่ได้ใส่กางเกงใน เมื่อลงมาก็พบดนัยและพสุธรยืนรออยู่
"พี่ไม่ไปด้วยนะ จะรีบเก็บของ รีบไปก็รีบกลับละ" พสุธรกล่าวสั่ง
แพรวนลินพยักหน้ารับก่อนจะเดินตัวเกร็งตามดนัยมาที่บ้านของชายหนุ่มทันที เมื่อเข้ามาในบ้านชายหนุ่ม แพรวนลินก็สำรวจไปทั่วบ้านพลางเดินตามดนัยไปที่ห้องครัวก่อนจะสะดุดสายตาที่กรอบรูปสีขาว วางอยู่บนชั้นวางของซึ่งเป็นฉากกันระหว่างทางเดินและห้องครัว
"แฟนพี่นัยสวยมากเลย ไม่น่าจะเลิกกันนะคะ"
แพรวนลินเอ่ยพลางยืนจ้องรูปถ่ายคู่ดนัยและแฟนสาว
"ทำไม มันเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ"
ดนัยเดินมาช้อนด้านหลังหญิงพลางกล่าวถาม
ด้วยความตกใจจึงเผลอถอยหลังออกห่างจากชั้นวางของไปชนเข้ากับดนัยที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพื่อไม่ให้ล้มลงไปก้นจ้ำเบ้าด้วยกันทั้งคู่ ดนัยจึงรีบคว้าเอวหญิงสาวอีกมือคว้าจับชั้นวางของ ทว่าก้นกลมกลึงของเธอกลับกำลังสัมผัสโดนกายแกร่งที่อยู่ภายใต้กางเกงผ้าขายาวสีดำ
ยิ่งเธอขยับกายเล็กน้อยก็ยิ่งบดเบียดจนดนัยกำมือที่จับชั้นวางของแน่น ขบกรามข่มอารมณ์ที่พลุกพล่านเพียงหญิงสาวสัมผัสโดนร่างกายจนรู้สึกได้ว่ากายแกร่งของตัวเองเริ่มแข็งขึ้น ดนัยแอบสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดและพ่นออกมาเบาๆ ก่อนจะผละออกจากแพรวนลินที่เริ่มยืนทรงตัวได้
"แพรวขอโทษนะคะ คุกกี้อยู่ไหนเหรอคะ แพรวจะรีบไปเอาค่ะ พี่นัยจะได้ทำงานต่อ"
แพรวนลินขอโทษขอโพยดนัยพลางขยับออกห่าง สายตาสอดส่ายหาขนม
"อยู่ในครัว ตามมาสิ"
ดนัยควบคุมอารมณ์จนมั่นคงเดินนำมาที่ห้องครัว แพรวนลินแอบพ่นลมหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินตามเข้าห้องครัวไป ซึ่งพอดีกับที่ดนัยกำลังแบ่งคุกกี้ใส่ขวดโหลอีกขวด เธอจึงเดินเข้ามาไปยืนอยู่ข้างๆ ดนัย
"แม่พี่นัยทำเหรอคะ" แพรวนลินถาม
"อืม ลองกินสิ"
ดนัยตอบกลับเสียงนุ่มพลางหยิบคุกกี้มาหนึ่งชิ้นจ่อไปที่ปากของแพรวนลิน สายตาจับจ้องไปที่เรียวปากบางกระจับสีชมพูเป็นธรรมชาติของแพรวนลิน เธอไม่รีรออ้าปากกัดคุกกี้พลางช้อนสายตามองดนัยคล้ายจะขอบคุณแต่ลึกๆ เธอกำลังแอบอ่อยอีกฝ่ายเงียบๆ ไม่ให้โจ่งแจ้งจนเกินไป
"อร่อยมากค่ะ ขอบคุณสำหรับคุกกี้"
แพรวนลินกลืนคุกกี้ลงคอก่อนจะพูดออกไปและหันมาสนใจหยิบคุกกี้แบ่งใส่ขวดโหล
ดนัยรู้สึกว่าตัวเองเริ่มหายใจติดขัดเมื่อสบสายตาหวานของแพรวนลิน อีกทั้งริมฝีปากนุ่มที่สัมผัสโดนนิ้วทำให้กายแกร่งที่เพิ่งสงบลงเริ่มแข็งขึ้นมาอีกครั้ง สายตาสำรวจเรียวหน้าสวยหวานที่กำลังสนใจคุกกี้โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกจ้องมองด้วยสายตาสำรวจ สายตาเลื่อนต่ำมาที่ลำคอขาวระหงจนอยากลองขบเม้มชิมความหอมหวานก่อนจะเลื่อนลงต่ำมาที่สองเต้าอกอวบที่มองก็รู้แล้วว่าคัพซี เอวคอดซึ่งดูออกได้ง่ายเมื่อเสื้อนักศึกษารัดจนเห็นได้ชัด สะโพกผาย ก้นกลมกลึงอย่างชัดเจนยิ่งได้กระโปรงทรงเอรัดรูปเป็นตัวช่วย เรียวขายาวจนอยากใช้ริมฝีปากสัมผัสไปตามผิวเนื้อยิ่งได้กลิ่นกายหอมละมุนจากตัวแพรวนลินก็ยิ่งเพิ่มอารมณ์ราคะให้ดนัยมากขึ้น
แม้จะเห็นหญิงสาวอยู่ทุกวันแต่ไม่ได้ใช้สายตามองสำรวจให้ชัดเจนเท่าวันนี้ ยิ่งสำรวจรูปร่างก็ยิ่งชัดเจนเมื่อเธอเป็นผู้หญิงที่ถูกใจเขาเสียเหลือเกิน หากแต่เขาไม่นิยมน้องสาวเพื่อนให้ต้องมาวุ่นวายทีหลัง โดยเฉพาะเพื่อนสนิทอย่างพสุธรที่หวงน้องสาวยิ่งกว่าไข่ในหิน ด้วยเพราะเขายังไม่พร้อมที่จะผูกมัดกับใคร ยังอยากสนุกไปก่อนที่จะต้องใช้เวลาทั้งหมดให้กับผู้หญิงที่จะมาเป็นภรรยา แต่คำว่าครอบครัวสำหรับเขาก็ยังคงเป็นเรื่องที่ห่างไกลแม้จะอายุเข้าเลขสามแล้วก็ตาม
"แพรวแบ่งเต็มโหลเลยนะคะพี่นัย"
แพรวนลินหันมาเงยหน้ามองดนัยด้วยรอยยิ้ม ทว่าก็ต้องตกใจผงะถอยหลังเมื่อพบว่าใบหน้าของดนัยอยู่ใกล้เพียงคืบเดียว แขนแกร่งรีบคว้าเอวหญิงสาวไม่ให้หงายหลังเอาไว้ สบสายตากันด้วยความบังเอิญแต่ทำให้หัวใจสั่นไหว เธอไม่รู้ว่าเขายื่นใบหน้ามาเมื่อไหร่และทำไม
แต่การหันมาเจอใบหน้าของดนัยอยู่ใกล้จนน่าตกใจความรู้สึกอย่าสัมผัสใบหน้าด้วยมือเล็ก เรียวปากน่าจูบ เมื่อยิ่งถูกชายหนุ่มโอบกอดเอวไว้ยังไม่ยอมปล่อย ร่างกายตอบสนองความรู้สึกเป็นอย่างดี
ใบหน้ารูปไข่ของแพรวนลินเคลื่อนไปใกล้ใบหน้าหล่อคมของดนัยที่กำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้เช่นกัน เพียงเสี้ยวนาทีริมฝีปากบางทั้งสองก็ประกบจูบกันอย่างหวานละมุนก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นร้อนแรง มือเล็กที่ถือขวดโหลกำเอาไว้แน่นอยู่ระหว่างหน้าอกของเธอและเขา มือแกร่งรั้งสะโพกหญิงสาวชิดใกล้พลางลูบคลึงสะโพกเลื่อนลงต่ำไปที่ก้นกลมกลึงซึ่งทำให้ดนัยรู้สึกได้ทันทีว่าหญิงสาวไม่ได้สวมใส่กางเกงในยิ่งเพิ่มอารมณ์ดิบเถื่อนให้ชายหนุ่มมากขึ้น ยิ่งเรียวปากบางของแพรวนลินตอบรับจูบแม้มีท่าทางเงอะงะแต่สุดท้ายก็เผยอริมฝีปากออกให้ลิ้นอุ่นของดนัยสอดเข้าไปเกี่ยวกระหวัด ลิ้นเล็กไม่ปล่อยให้โดนเอาเปรียบเกี่ยวกระหวัดตอบ
กายสาวร้อนเป็นไฟกับรสจูบเร่าร้อนของชายหนุ่มทวีคูณเมื่อมือแกร่งบีบคลึงก้นกลมกลึงของตัวเองพลางดันคนตัวเล็กให้ยืนชิดเคาน์เตอร์ ใช้แขนแกร่งเพียงข้างเดียวยกตัวหญิงสาวขึ้นนั่งบนขอบอย่างหมิ่นเหม่ทั้งที่ไม่ยอมปล่อยจูบ มืออีกข้างลูบไล้ไปตามต้นขาอ่อนด้วยอารมณ์ความต้องการที่จะสัมผัสให้มากกว่าแค่ลูบ สอดมือเข้าไปใต้กระโปรงทรงเองที่ร่นขึ้นจนเกือบเผยให้เห็นเนื้อหนังความสาวของแพรวนลิน
ทว่า ก่อนที่มือของดนัยจะสัมผัสโดนเนื้อสาวที่เปียกชุ่มเสียงตะโกนเรียกของพสุธรก็ดังขึ้นมาจากทางหน้าบ้าน จึงทำให้ดนัยและแพรวนลินรีบผละออกจากกันในทันที หญิงสาวรีบวางขวดโหลลงบนเคาน์เตอร์และจัดการชุดนักศึกษาตัวเองให้เรียบร้อยเมื่อพบว่ากระดุมถูกปลดออกตอนไหนก็ไม่รู้ตัว ดนัยเห็นหญิงสาวกำลังจัดการตัวเองให้เรียบร้อยจึงเดินไปดักพสุธรที่กำลังเปิดประตูเข้ามา
แต่ไม่ทันที่ดนัยจะถึงประตู พี่ชายของหญิงสาวก็เปิดเข้ามาซึ่งเป็นโชคดีของแพรวนลินที่เธอจัดการกระดุมจนเสร็จและเดินออกมาจากห้องครัวพร้อมขวดโหลใส่คุกกี้
"เอาคุกกี้แค่นี้ทำไมนานจังยายแพรว"
พสุธรที่เห็นน้องสาวเดินออกมากล่าวถามเสียงห้วน
"พี่นัยหาขวดโหลที่จะแบ่งใส่ไม่เจอ เลยเสียเวลาหา มีพสุมีอะไรหรือเปล่า"
แพรวนลินแก้ตัวออกไปโดยไม่ได้มองดนัยที่มองมาด้วยความอึ้งที่เธอทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งที่เพิ่งจูบกันจนเกือบเลยเถิดถ้าพสุธรไม่มาตาม
"พี่หาเสื้อตัวโปรดไม่เจอนะสิ ถึงได้มาตามให้ไปช่วยหา ได้แล้วใช่มั้ย"
พสุธรบ่นอุบก่อนจะถามเมื่อเห็นขวดโหลในมือแพรวนลิน
"ได้แล้ว ขอบคุณนะคะพี่นัย"
แพรวนลินชูขวดโหลขึ้นให้พสุธรดูก่อนจะหันไปช้อนตามองดนัยพลางเอ่ยขอบคุณพร้อมรอยยิ้มหวานอย่างยั่วยวนเบาๆ และหันหลังกลับออกจากบ้านของชายหนุ่มไปพร้อมพี่ชาย ทิ้งให้คนที่อารมณ์ดิบเถื่อนยังค้างคาอยู่ขบกรามแน่น ปวดร้าวที่กายแกร่ง ทันทีที่สองพี่น้องเดินออกจากบ้านไปดนัยจึงรับกดล็อกประตูบ้านพาตัวเองวิ่งขึ้นไปยังห้องนอนเพื่อจัดการอารมณ์ของตัวเองที่ปะทุขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่เพียงเพราะรสจูบและผิวเนื้อเนียนนุ่มของแพรวนลิน
ดนัยรีบถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะเข้าห้องน้ำไปทันทีเมื่อเดินเข้ามาถึงในห้องนอน ดนัยเปิดน้ำจากฝักบัวทิ้งไว้เพื่อชำระความร้อนจากกาย ทว่าไม่เป็นผลเมื่อท่อนเอ็นที่แข็งขึ้นอย่างหักห้ามไม่ได้ ชายหนุ่มเท้าแขนกับกำแพงห้องน้ำทันที อีกมือกำท่อเอ็นของตัวเองพลางลูกขึ้นลงอย่างเชื่องช้าขัดกับอารมณ์ที่มันพุ่งสูง
เพียงครู่เดียวที่ชักมือขึ้นลงก็แปรเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นตามาอารมณ์ เสียงครางหลุดออกมาเป็นระยะตามความรู้สึกเสียวซ่าน มือแกร่งที่ชักท่อนเอ็นขึ้นลงด้วยความเร็วและเกร็งมือจนเห็นเส้นเลือดขึ้นบูดอย่างเห็นได้ชัด
"อือ...แพรว...อ่า"
ดนัยครางออกมาเมื่อความเสียวที่ท่อนเอ็นทวีคูณขึ้นพร้อมกับใบหน้าและเรือนร่างเปลือยเปล่าของแพรวนลินลอยเข้ามาในหัวเมื่อเขาเผลอจินตนาการไป ทั้งที่บอกตัวเองเสมอว่าเธอเป็นเพียงน้องสาว แต่การสัมผัสและได้ใกล้ชิดก็ห้ามตัวเองไม่อยู่อย่างไม่เข้าใจ
แพรวนลินมีแรงดึงดูดจนเขาเองยังตกใจเพียงแค่สัมผัสภายนอกเท่านั้น ชายหนุ่มเร่งมือที่ชักขึ้นลงอีกสองสามครั้ง น้ำสีขาวขุ่นก็พุ่งออกมาเป็นสายพร้อมกับเสียงครางกระเส่าของชายหนุ่ม
"อ่า..."
แม้การช่วยตัวเองเพื่อบรรเทาความปวดร้าวแต่ก็ไม่ได้ช่วยเขามากเท่าไร เพราะอารมณ์และความรู้สึกต้องการเข้าไปในตัวหญิงสาวมีมากกว่า ชายหนุ่มจึงเริ่มชักมืออีกครั้งเพื่อให้กายแกร่งของเขาสงบลง ราวยี่สิบนาทีกว่ากายชายหนุ่มจะสงบลงและเขาได้อาบน้ำชำระร่างกาย ร่างแกร่งเปลือยท่อนบนเดินออกมาจากห้องน้ำตรงไปยังตู้เสื้อผ้า ทว่าสายตาดันเหลือบไปเห็นแพรวนลินที่เดินเข้ามาในห้องของตัวเอง ซึ่งห้องของเธอตรงกับห้องของเขาโดยไม่ได้ปิดผ้าม่านต่างจากเขาที่เปิดผ้าม่านเพียงกระจกบานเดียว
ดนัยเดินไปยืนหลังผ้าม่านที่ปิดไว้พลางมองแพรวนลินที่เดินไปทั่วห้องเหมือนกำลังหาของบางอย่างพลางเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกก่อนจะโยนทิ้งไปทางอื่น ซึ่งเผยให้เห็นหน้าอกอวบกลมขาวที่อยู่ภายใต้บราเซียร์ลายลูกไม้สีเนื้อ เพียงแค่เธอถอดเสื้อออกกายของชายหนุ่มก็ร้อนฉ่าขึ้นมาอีกครั้ง ท่อนเอ็นที่เพิ่งสงบไปเริ่มดุนดันผ้าขนหนูจนดนัยขบกรามแน่นรีบผละออกจากหน้าต่างโดยไม่ลืมปิดผ้าม่าน รีบสาวเท้าตรงไปที่เตียงโน้มตัวเท้ามือกับขอบเตียงละเริ่มออกแรงดันตัวขึ้นลงในการออกกำลังเพื่อระงับอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง
หนี้ที่ไม่ได้ก่อ เธอ ต้องใช้แทนเพื่อตอบแทนบุญคุณพ่อเลี้ยงที่เลี้ยงเธอมาจนโต ทว่า ความเป็นจริงกลับทำร้ายเธอ เมื่อพ่อเลี้ยงได้สร้างรอยแค้นให้ เขา มาเฟียหนุ่มฮ่องกง ไม่ใช่แค่เพียงหนี้ก้อนโต เขา...มาเฟียไร้หัวใจ อดีตเขาเคยมีหัวใจ ทว่า เมื่อเขาสูญเสียคนรักไปด้วยฝีมือลูกหนี้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของความแค้น ที่ทำให้เขากลายเป็นคนไร้หัวใจ ไร้ความปรานี และปิดกั้นความรักตั้งแต่นั้นมา เธอ...หญิงสาวสู้ชีวิต ตั้งแต่มอปลาย เธอทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนมาตลอด เมื่อผู้เป็นแม่เสียชีวิต เธอก็ใช้ชีวิตกับพ่อเลี้ยง มาตลอดจนเรียนจบด้วยความยากลำบาก เธอมีหัวใจที่เข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เพื่อตอบแทนบุญคุณ
เธอมีแฟนมาแล้วหลายคนก็จริง แต่ไม่เคยมีสักคนที่จะได้แอ้มเธอ แต่ไหงกลับกลายเป็นพี่ชายของเพื่อนกันที่ทำลายความบริสุทธิ์ของเธอไปได้เล่า! ไม่ใช่เธอไม่อยากมีแฟนเสียหน่อย แต่มีแล้วก็ไม่ได้อยากปล่อยเนื้อปล่อยตัวนะ! --------------------------------- คุณเชื่อเรื่อง 'ตกหลุมรัก' ตั้งแต่แรกพบหรือไม่ มันมีอยู่จริงหรือ กับรักแรกพบที่มาพร้อมกับสัมพันธ์ที่เร่าร้อน! เซนนิก้า นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเกิดอาการแปลกๆ เมื่อได้เห็นวงหน้าของเธอ คุณหนูเชอเอม แต่เขาแค่เพียงหวังจะเครมเธอเท่านั้น เพราะเหยื่อยังไงก็คือเหยื่อ ทว่าไม่รู้ว่าใครลิขิตหรือกลั่นแกล้งกันแน่ ลิขิตให้คนทั้งสองคือรักแรกพบ! เรือนร่างที่เสียให้กับเขาเป็นคนแรกที่ได้แอ้มเธอคือกำไร หวั่นไหวคือโบนัส ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งอย่างเร่าร้อนที่เริ่มง่ายก้จบงาน แต่เชอเอมไม่จบ! ทว่า เขาก็ไม่จบเช่นกันเมื่อก้อนเนื้อในอกยังคงเรียกร้องหาเธอไม่ต่างกันกับเธอ
สัญญา มีเงื่อนไขของมันเสมอ แต่ทว่า สัญญา ที่เต็มไปโดยความแค้นและความรัก...จุดจบของสัญญาครั้งนี้จะลงเอยเช่นไร และเธอกับเขาจะเลือกอะไรระหว่งความแค้น กับ ความรัก
เธอลุ่มหลงไปกับรสสวาทในตัวเขา พลันเปลี่ยนเป็นความรักอย่างไม่รู้ตัว ทว่าช้ากว่าเขาที่ตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น!
เธอตายจากโลกที่เต็มไปด้วยซอมบี้ จู่ ๆ ดันได้กลับมาเกิดใหม่เป็นสาวน้อยวัยห้าขวบ ฐานะยากจนที่ถูกญาติมิตรรังแก ถึงเวลาแล้วที่ฉินหลิวซีจะถกแขนเสื้อรื้อฟื้นโชคชะตา “ข้าจะพาครอบครัวร่ำรวยมั่งคั่งให้ได้”
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
ทั้งเมืองรู้กันดีว่า หลังจากที่ลู่ซิงหลานถูกเปิดเผยว่าเป็นลูกสาวปลอม เธอก็ถูกสามีขับไล่ออกจากชีวิต พ่อแม่ก็ทอดทิ้ง พี่ชายก็รังเกียจ ครอบครัวของสามีตัดสินใจไล่เธอออกจากบ้านอย่างเด็ดขาด แต่ใครจะคิดว่าเธอกลับไปพึ่งพา ลี่จิ่งเหยียน ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแทนในทันที ขณะที่ทุกคนรอให้ลี่จิ่งเหยียนถีบลู่ซิงหลานออกไปนั้น ลู่ซิงหลานก็เริ่มเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงอย่างใจเย็น มันมีแต่เรื่องที่ทำให้ประหลาดใจเท่านั้น แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดคือบรรดาผู้ทรงอิทธิพลต้องคุกเข่าต่อหน้าเธอเป็นแถว สามีเก่าที่เป็นคนไม่ดีอยากกลับมาง้อขอคืนดี ลู่ซิงหลานก็จัดการเขาทิ้งทันที และกลับยิ้มให้สามีใหม่แล้วพูดว่า "ที่รัก คุณสามารถพึ่งพาฉันได้นะ" ใครจะคิดว่าลี่จิ่งเหยียนเองก็เป็น ผู้ทรงอิทธิพลไม่เบา พร้อมยิ้มแย้ม "แต่ที่รัก ผมอยากครองใจคุณมากกว่า" องค์กรระหว่างประเทศเพิ่งเผชิญกับสามเหตุการณ์สำคัญ หนึ่งคือการที่ลู่ซิงหลานหย่าร้าง สองคือการที่ลี่จิ่งเหยียนแต่งงาน และสามคือคู่รักที่มีตัวตนลับมากมายที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อหลอกลวง ทั้งสองสมคบคิด ทำอะไรไม่ดี
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
รวมเรื่องสั้น_เรื่องราวความรัก อ่านเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ -- เมื่อเขาต้องการ -- มายผู้ที่ไม่เคยปฎิเสธยามเมื่อคุณอาหนุ่มต้องการ ซึ่งเธอไม่ปฎิเสธเขาอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม เสแสร้งแกล้งเล่นตัวทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เหลือความสดใหม่ให้ค้นหาอีกต่อไปแล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกับเขาอย่างเร้าร้อนในทุกที่ทุกเวลา ‘เมื่อเขาต้องการ’ -- ชนท้องน้องสาว -- หากน้องสาวที่ผมหวังจะท้องชนกัน กำลังจะมีความรักกับผู้ชายคนอื่น...คุณจะทำอย่างไร? -- ค่าคุ้มครองมาเฟีย -- กานต์ จะว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มก็ได้ ชายหนุ่มวัยขบเผาะก็ไม่ผิด เมื่อเขากลายเป็นค่าตอบแทนชดเชยการล้างแค้น อันแสนเร้าใจ ให้กับ คุณเชอร์รี่ พี่สาวที่มักจะปรากฎตัวในชุดรัดรูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้ง ต่อหน้าเขา... เอือก!...เสียงลูกกระเดือกขยับเมื่อกานต์พยายามกลืนน้ำลายไม่ให้ไหลออกมา -- ผู้ชายแพร่พันธุ์ -- “หากภรรยาที่แต่งงานกันมาได้ 5 ปี บอกกับคุณว่า จะให้คุณทำกับผู้หญิงอื่น เพื่อมีลูกให้กับเธอ...คุณจะทำอย่างไร?
‘คทา’ มาเฟียหนุ่มวัย 32 ปีที่ต้องมาเป็นคุณอาแบบกะทันหัน เมื่อพี่ชายต่างมารดาได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมกับภรรยา แต่ก่อนจะสิ้นใจเขาได้ฝากให้มาเฟียหนุ่มช่วยอุปการะบุตรสาวบุญธรรมวัยเพียง17ปีของเขา ‘มัสลิน’ เด็กสาวจำต้องกลายมาเป็นหลานสาวมาเฟียแบบไม่ทันตั้งตัว ทว่าเพียงแค่เห็นหน้าลูกสาวบุญธรรมของพี่ชาย มาเฟียหนุ่มก็คิดจะกินหลานสาวนอกไส้ของตัวเองเสียอย่างงั้น คทา แสงไท วัย 32 ปี มาเฟียหนุ่มโสดรูปหล่อ เจ้าของธุรกิจครบวงจร รวมทั้งผับและบ่อนคาสิโนมากมาย มัสลิน แสงไท หรือ อ้อน บุตรบุญธรรมของดนัย พี่ชายมาเฟียหนุ่ม สาวน้อยวัย 17 ปี ที่ร่างกายกำลังเข้าสู่วัยสาว หน้าตาดี ผิวพรรณขาวใสหมดจด กับรูปร่างที่โตเกินวัยเด็ก ส่วนเว้าโค้งเอวคอดกิ่ว หน้าอกหน้าใจล้นทะลักเกินตัว #สปอย “ เหอะ! แล้วใครบอกคุณ ว่าหนูจะไปอยู่ด้วยไม่ทราบ? ” ใบหน้าสวยดวงตาใสไร้เดียงสาเชิดขึ้นสบกับดวงตาคมพร้อมกับน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ก่อนดวงตาคู่สวยจะเบนสายตาไปทางอื่นเพื่อหลบนัยน์ตาสีเข้มของมาเฟียหนุ่มที่จ้องมองมาไม่กระพริบ “ หึ...ดื้อ ” คทาหัวเราะเสียงต่ำในลำคอก่อนจะเอ่ยสั้นๆ “ หนูจะกลับบ้านของหนู ” “ ไม่ได้!! หนูจะต้องกลับไปกับอา ” “ คุณไม่ใช่อาของหนูจริงๆซักหน่อย.. ” “.....” คทานิ่งไปชั่วขณะ ไม่คิดว่าเด็กสาวจะกล้าเถียงเขาก่อนจะเอ่ยอย่างใจเย็น “ จะใช่หรือไม่ อาก็ได้สิทธิ์เลี้ยงดูหนูอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ” “ หนูดูแลตัวเองได้ค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องให้ใครมาเลี้ยงดู..” “ อวดเก่ง..” “ เก่งอยู่แล้วค่ะ ไม่ได้อวด ” เด็กสาวตอบกลับอย่างไม่ลดละด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง สถานการณ์เริ่มตึงเครียด เมื่อสองอาหลานถกเถียงกันอยู่กลางฟลอร์อย่างไม่มีใครยอมใคร ต่อหน้าพนักงานทั้งผับ ____
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY