คุณหนูเสิ่นใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแสนร้ายกาจอยู่ดี ๆ ก็หลุดเข้ามาในการ์ตูนที่เปิดอ่านผ่าน ๆ ซะอย่างนั้น (อ่านฟรีวันละ 1 ตอนจนกว่าจะจบ)
คุณหนูเสิ่นใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้ร่ำรวยแสนร้ายกาจอยู่ดี ๆ ก็หลุดเข้ามาในการ์ตูนที่เปิดอ่านผ่าน ๆ ซะอย่างนั้น (อ่านฟรีวันละ 1 ตอนจนกว่าจะจบ)
1
แคร้ง!!!
เสียงแก้วกระเบื้องเคลือบชั้นดีถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี เศษกระเบื้องบางส่วนกระเด็นโดนข้างแก้มของชายสูงวัยที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง
หญิงสาวหน้าตาสะสวย แต่ใบหน้ากำลังบูดเบี้ยวเกรี้ยวกราดด้วยความโกรธ การที่ผู้หญิงคนนั้นมีตัวจนได้กลับเข้ามาเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลเสิ่น เป็นความผิดของเขา ถ้าหากเขาไม่ไปเที่ยวที่เมืองนั้น ก็คงไม่ได้เจอหล่อนที่นั่น
ตั้งแต่ที่ทุกคนรับรู้ถึงการมีตัวตนของหล่อน หลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไป คนในครอบครัวทุกคนต่างก็เอาอกเอาใจหล่อนทุกอย่าง เธอควรเป็นจุดศูนย์กลางของความรักเพียงคนเดียวสิ ไม่ใช่แม่นั่น
“เพราะลุงฮั่วคนเดียว ทำให้เรื่องทุกอย่างเป็นแบบนี้” เสิ่นอ้ายฉิงโวยวายใส่ชายสูงวัย
“ผม ขอโทษครับ แต่คุณหนูใหญ่อ้ายเหรินก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลนี้ ผมจึงต้องพิสูจน์ตัวตนของเธอ เธออยู่ข้างนอกลำบากมามากแล้ว” ฮั่วเฉินตอบ
คำตอบของชายสูงวัยยิ่งทำให้เธอโมโห ตอนที่ยังเด็กอ้ายฉิงมีส่วนที่ทำให้พี่สาวต่างมารดาพลัดหลงกับครอบครัว เธอไม่ต้องการให้บ้านนี้มีคุณหนูสองคน เธอต้องเป็นคนเดียวที่ได้รับความรัก
“เสียแรงที่ฉันรักลุงฮั่วเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ไม่คิดเลยว่าลุงฮั่วจะทำร้ายฉันแบบนี้”
ชายสูงวัยที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องล่าง เงยหน้ามองใบหน้างดงามแสนร้ายกาจของหล่อน
“ตอนที่คุณหนูยังเด็กผมไม่น่าหลงเชื่อแววตาใสซื่อของคุณเลย ผมน่าจะบอกทุกคนไปว่าคุณรู้ว่าพี่สาวคุณไปไหน และคุณเองนั่นแหละที่เป็นคนโกหกทุกคน” ฮั่วเฉินพูดอย่างเจ็บแค้น ตอนนี้เขาถูกอันธพาลที่เสิ่นอ้ายฉิงจ้างมาทำร้าย จุกจนแทบพูดอะไรไม่ออก
“ฮั่วเฉิน จะมากไปแล้วนะ ลุงมีสิทธิ์อะไรไม่ทราบ ลุงมันก็แค่เลขาแก่ ๆ ของคุณพ่อ ลองดูแล้วกันว่าถ้าลุงหายไปคุณพ่อจะตามหาลุงไหม”
เสิ่นอ้ายฉิงมองเหยียดชายสูงวัยด้วยแววตามาดร้าย ชายคนนี้พูดมากเกินไปแล้ว ระหว่างที่เธอกำลังตัดสินใจเรื่องความเป็นความตายของเขา แสงไฟจากรถลีมูซีนคันใหญ่ก็สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
ที่นี่เป็นบ้านพักตากอากาศที่เธอแอบซื้อเอาไว้ คุณพ่อเธอรู้ได้ยังไง
ชายสูงวัยอีกคนท่าทางภูมิฐานแต่งกายด้วยเสื้อผ้าชั้นดีราคาแพง ก้าวลงจากรถด้วยสีหน้าถมึงทึง เขาเดินเข้าไปในตัวบ้านเพื่อระงับเหตุการณ์ไม่ดี
“อ้ายฉิงหยุดได้แล้ว” เสิ่นเหยาซิ่วนายใหญ่แห่งอาณาจักรเสิ่นก้าวลงจากรถเพื่อห้ามปรามบุตรสาวของตนไม่ให้ถลําลึกไปมากกว่านี้
“คุณพ่อ” เสิ่นอ้ายฉิงยืนนิ่งด้วยความตกใจ เธอไม่คิดว่าบิดาของตนจะตามเจอ
บอดี้การ์ดฝีมือดีหลายคนของนายใหญ่เสิ่นลงจากรถตู้มาพร้อมกัน เป็นการรับรองว่าเสิ่นเหยาซิ่วผู้นี้จะปลอดภัย
อันธพาลที่เสิ่นอ้ายฉิงจ้างมาเมื่อเห็นคนท่าทางภูมิฐานดูมีฝีมือพวกนั้น ก็ใจฝ่อวิ่งหนีกันหัวหดทิ้งให้คุณหนูเสิ่นยืนตัวสั่นอยู่ผู้เดียว
เสิ่นอ้ายฉิงยืนนิ่งราวกับเวลาหยุดหมุน เธอไม่คิดว่าบิดาของตนจะเจอเธอในภาพลักษณ์แบบนี้ เธอยังอยากเป็นคุณหนูเสิ่นผู้ใสซื่อในสายตาของบิดาและทุกคน
“ฮั่วเฉินลำบากนายแล้ว” เสิ่นเหยาซิ่วเดินมาประคองเลขาคนสนิทของตนด้วยตัวเอง
เขาและฮั่วเฉินรู้จักกันมาหลายสิบปี ผ่านความยากลำบากมาด้วยกันมาก็มาก บางเรื่องเขาก็ติดค้างฮั่วเฉิน ในใจคิดแต่จะตอบแทนบุญคุณอยู่เสมอ แต่ไม่คิดเลยว่าบุตรสาวของตนจะทำเรื่องร้ายกาจได้แบบนี้
“แค่ก แค่ก” ฮั่วเฉินไม่พูดอะไร ร่างกายที่ถูกทำร้ายมาอย่างหนักกำลังไอออกมาเป็นสีเลือด
“คุณพ่อ หนูไม่ได้ทำ” เสิ่นอ้ายฉิงพยายามปฏิเสธ เธอพยายามบีบน้ำตา แผนนี้มันสำเร็จทุกครั้ง
นายใหญ่แห่งอาณาจักรเสิ่นมองหน้าบุตรสาวที่ตนเองรักอย่างผิดหวัง เขามอบความรักให้บุตรสาวเลี้ยงดูอย่างดี ไม่เคยทำสิ่งใดขาดตกบกพร่อง ทุกคนก็รักเธอแต่ทำไมเรื่องราวมันถึงดำเนินมาจนจุดนี้ได้
เพี๊ยะ!!
ฝ่ามือใหญ่ของเสิ่นเหยาซิ่วฟาดลงไปที่ใบหน้าสวยงามของลูกสาวหนึ่งครั้ง
คนตัวเล็กเอนตัวไปตามแรงตบ จากที่เคยคิดว่าจะบีบน้ำตาเรียกร้องความสงสารจากคนที่เธอเรียกว่าพ่อ ตอนนี้หยาดน้ำตานั่นมันเป็นของจริง
“เสิ่นอ้ายฉิง หยุดได้แล้ว ทุกคนรักลูกและทะนุถนอมลูกมาเป็นอย่างดี ลุงฮั่วก็ถือว่าเป็นญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งของพวกเรา พ่อไม่เคยสอนให้ลูกเป็นแบบนี้ ทำไมถึงได้มีนิสัยร้ายกาจกัน”
ชายสูงวัยที่ร่างกายสะบักสะบอมมองเธอด้วยสายตาไร้อารมณ์ แต่ก่อนเขาคิดว่าถ้าเธอโตขึ้นคงจะทิ้งนิสัยร้ายกาจนั่นไปได้ แต่ตอนนี้เขาต้องคิดใหม่ เพราะเธอยิ่งโตยิ่งร้ายหากเธอมีส่วนร่วมในอาณาจักรเสิ่นเมื่อไหร่ อำนาจและความมั่งคั่งคงทำให้เธอยิ่งร้ายกาจมากกว่าเดิม
“คุณชายพอเถอะครับ” เขาเข้าห้ามนายของตน ฮั่วเฉินยังคงเรียกนายใหญ่เสิ่นว่าคุณชายตามความเคยชินแม้จะอายุมากขึ้น
เสิ่นเหยาซิ่วหมุนตัวกลับ เขาไม่อยากเห็นน้ำตาของบุตรสาว แต่เธอต้องได้รับบทเรียน ต่อไปนี้เขาจะไม่ใจดีกับเธออีกแล้ว จากนั้นบอดี้การ์ดของตระกูลเซิ่นจึงก้าวอาด ๆ มาควบคุมตัวเธอเอาไว้ก่อนจะพาขึ้นรถกลับไปด้วยกัน
ช่วงแรกเธอก็ต่อสู้ดิ้นรนให้พ้นจากมือบอดี้การ์ดตระกูลเสิ่น แต่เมื่อทำอย่างไรพวกเขาก็ไม่ปล่อย เธอจึงกลับมานิ่งเงียบยอมให้พวกเขาควบคุมตัวแต่โดยดี
รถลีมูซีนและรถตู้ เคลื่อนตัวออกจากบ้านพักตากอากาศนอกเมือง เสิ่นอ้ายฉิงถูกสั่งให้ไปนั่งในรถอีกคัน ส่วนนายใหญ่และเลขานั่งไปกับรถลีมูซีน ขบวนรถกำลังเดินทางกลับเข้าไปในเมือง รอบข้างจากที่มืดสนิทเริ่มมีความสว่างจากแสงไฟยามค่ำคืน เสิ่นเหยาซิ่วจึงเปิดปากพูดกับเลขาคนสนิทของตน
“อาเฉิน เรื่องนี้นายอย่าเอาความไหม”
ฮั่วเฉินนั่งนิ่งฟัง
“ถือว่าฉันขอนะอาเฉิน อย่าให้อ้ายฉิงต้องมีคดีติดตัวไปเลย เธอยังเด็กยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก”
“.....” ฮั่วเฉินสายตานิ่งสนิท ในสมองกำลังประมวลผลเรื่องราว เขาเกือบตายจากน้ำมือลูกสาวของเสิ่นเหยาซิ่วเชียวนะ
“ฉันจะชดเชยให้นายและครอบครัวอย่างถึงที่สุด”
“อายุ 25 ไม่เด็กแล้วนะคุณชาย ตอนที่เธอยังเป็นเพียงเด็กผู้หญิง ผมก็รู้สึกรักและเอ็นดูเธอเหมือนหลานสาวของตัวเอง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอทำเรื่องเลวร้ายเอาไว้ให้คุณชายคอยเช็ดล้าง” ฮั่วเฉินมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างครุ่นคิด
“คราวนี้ฉันจะจัดการเธออย่างจริงจัง ฉันรู้ว่าฉันตามใจเธอมากเกินไป ต่อไปนี้จะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น”
“คุณชาย ถ้าคนนั้น ๆ ที่ถูกทำร้ายไม่ใช่ผม คุณจะทำอย่างไร ถ้าเธอพลั้งมือฆ่าใครสักคนตายล่ะ” น้ำเสียงของฮั่วเฉินเริ่มเจือความโกรธ
“ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” เสิ่นเหยาซิ่วรู้สึกผิดกับฮั่วเฉินจึงได้แต่เอ่ยคำขอโทษอย่างจริงใจโดยหวังว่าฮั่วเฉินจะละเว้นลูกสาวเขาสักครั้ง
ฮั่วเฉินนั่งคิดอยู่นาน กว่าจะยอมเอ่ยปากพูดอะไร
“ได้ ครั้งนี้ผมจะยอมสักครั้ง ผมเองก็ไม่ใช่ไม่รักไม่เอ็นดูเธอ หวังว่าเธอจะเรียนรู้ความผิดครั้งนี้”
เสิ่นเหยาซิ่วได้แต่พูดขอบคุณและขอโทษเมื่อฮั่วเฉินยอมให้อภัย
ในใจของฮั่วเฉินตอนนี้ทั้งโกรธและเคียดแค้น ไม่รู้ว่าต่อจากนี้ไปเด็กคนนั้นจะเป็นเช่นไร หากมีอีกครั้ง ให้เธอไปอ้อนวอนกับยมบาลเถอะ
เพราะคืนนี้ทำให้ด้ายแดงเริ่มทำงานผูกพันธ์หัวใจของทุกคนไว้ด้วยกัน มาดูกันสิะว่าพวกเขาจะแก้เรื่องราวยุ่งเหยิงนี้ได้หรือไม่ นัทธนิษฐ์ นักธุรกิจสาวชาวไทยวัย 30 ปี ที่กำลังสร้างแบรนด์เครื่องสำอางให้ติดตลาดเอเชีย กลับต้องกลายเป็นคู่นอนข้ามคืนของซู่เหลียงฉีนักธุรกิจคู่แข่งคนสำคัญของเธอ กลายเป็นว่าพอรู้ตัวอีกที เธอก็ลืมคืนนั้นไม่ได้ ส่วนเขาล่ะยังจำคืนนั้นได้หรือเปล่า
เพราะความแค้นและจมไม่ลงของณิชา ทำให้เธอต้องลงสนามเข้าสู่วังวนของความสัมพันธ์ต้องห้ามของเธอกับพ่อของอดีตแฟน ครั้งแรกของเธอถูกมอบให้กับชยนต์เพื่อแลกกับการได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ "มาเถอะฉันจะสอนเธอเอง" เธอต้องการทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำให้ณิชาตัดสินใจยอมเดินเข้าไปหาพ่อของผู้ชายที่ทิ้งเธอไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น เขาถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะยอมทำข้อตกลงกับเขาใช่ไหม และเธอก็ตอบตกลงรับข้อเสนอของเขาอย่างไม่ลังเล
พราะเข้าไปช่วยชีวิตผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน ทำให้ชีวิตดั่งเจ้าหญิงของเฮเซลเปลี่ยนไปตลอดกาล
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด